Ouchi Juku หมู่บ้านโบราณที่ได้บรรยากาศธรรมชาติมากที่สุดของฟุกุชิมะ

Ouchi Juku หมู่บ้านโบราณที่ได้บรรยากาศธรรมชาติมากที่สุดของฟุกุชิมะ ภายในหมู่บ้านมีทั้งร้านที่จำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย หอนิทรรศกาลซึ่งเป็นสำนักงานจัดแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆของหมู่บ้าน ศาลเจ้าทาคาคุระซึ่งเป็นศาลเจ้าประจำหมู่บ้าน

Cr: ouchi-juku

การเดินทาง

ออกจากสถานี Aizu-Wakamatsu โดยรถไฟ JR Tadami Line มาลงที่สถานี Yunokami onsen จากนั้นขึ้นรถบัสจากสถานี Yunokami onsen Ekimae ลงที่สถานี Ouchishimo เดินเท้าต่ออีกประมาณ 150 เมตร ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 8 นาที

Cr: ouchi-juku

เวลาให้บริการ

9.00 น. ถึง 16.00 น.

Cr: ouchi-juku

ค่าเข้าชม

Ouchi Juku

หมู่บ้านแห่งนี้สร้างขึ้นสมัยเอโดะ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ โดยมีลักษณะเป็นหมู่บ้านโบราณ ยาวประมาณ 500 เมตร หรือ 40 – 50 หลังคาเรือน อาคารบ้านเรือนในหมู่บ้านมีการมุงหลังคาด้วยหญ้าคาหนาและบูรณะเป็นร้านจำหน่ายสิ่งของที่ระลึกและร้านอาหารมากมาย

ความเป็นมาของหมู่บ้าน Ouchi Juku

หมู่บ้านโบราณแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นริมถนน เส้นทางระหว่างเมือง Aizuwakamatsu และเมือง Nikko Imaichi ในสมัยเอโดะ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ที่สำคัญในกลุ่มอาคารดั้งเดิม นั่นหมายความว่าทุกหลังคาเรือนในเขตนี้ ห้ามเช่าและห้ามซื้อขาย เพื่อรักษาภูมิทัศน์อันสวยงามแห่งนี้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหมู่บ้านแห่งนี้

Cr: ouchi-juku

ร้านค้าและจุดชมวิว

หมู่บ้านแห่งนี้ได้เปลี่ยนจากที่อยู่อาศัย เป็นร้านค้าต่างๆ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมชม ซึ่งแต่ละร้านค้าก็จะแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเมนูโซบะที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ขนมพื้นเมืองอย่าง ชินโกโร ลักษณะคล้ายขนมดังโงะ แต่จะมีรสชาตเฉพาะ และปรุงรสด้วย มิโสะ โชยุและเมล็ดงา หรือจะเป็นสินค้ากลุ่มของฝากและที่ระลึก ของฝากหลากลายที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย ซึ่งมีทั้งอาหารกึ่งสำเร็จรูป เนื้อแห้ง เครื่องปรุง หรือจะเป็นงานฝีมืออยากผ้าเช็ดหน้า ก็มีให้เลือกสรรกันอย่างหลากหลายเลยทีเดียว

เทศกาลประจำปี

เทศกาลกลางฤดูร้อน Ouchi Juku ซึ่งจะมีขบวนพาเหรดของผู้คนที่แต่งกายแบบ Bon Odori ในช่วงเดือนกรกฏาคม

Cr: ouchi-juku

เทศกาลหิมะ Ouchi Juku การประดับไฟท่ามกลางหมู่บ้านที่ปกคลุมไปด้วยสีขาวโพลนของหิมะ และจะมีการจุดดอกไม้ไฟในตอนกลางคืนอีกด้วย

เนื่องจากหลักคามุงแบบโบราณนี้ มีอายุการใช้งานที่จำกัดเป็นอย่างมากและง่ายต่อการติดไฟ หมู่บ้านจึงมีและเทศกาลซ่อมบำรุงหลังคาในช่วงเดือนกันยายน และกิจกรรมซ้อมรับมือและป้องกันอัคคีภัยในวันที่ 1 กันยายน ของแต่ละปี

Ouchi Juku

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจาก หมู่บ้านโบราณ Ouchi Juku มากนัก และยังสวยงามไม่แพ้กัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเอง มีเวลาแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆได้ตามใจต้องการ ลองอ่านต่อกันเลย ว่าจะมีที่ไหนแนะนำและน่าสนใจขนาดไหนบ้าง

1. Ouchi Dam

Ouchi Dam หากมีเวลาเหลือแวะปั่นจักรยานได้ที่เขื่อนเก็บน้ำที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านโออูจิ จูกุ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นๆเพลิดเพลินได้เต็มที่ หรือนักท่องเที่ยวอาจจะเลือกที่จะปิคนิคหลังจบทริปเดินเล่นที่หมู่บ้านโบราณ แล้วเดินมานั่งเล่นชมวิวที่สวนสาธารณะบริเวณเขื่อนก็ได้ เหมือน Music video ที่สนามหญ้าโล่งๆ ได้พักผ่อนเงียบๆสงบได้เต็มที่

เปิดให้บริการ วันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 16.30 น. งดให้บริการวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันที่1 พฤษภาคม และปิดช่วงฤดูหนาว ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม – 31 มีนาคม

Ouchi Dam

2. To No Hetsuri

To No Hetsuri หน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะ ที่ถูกกัดเซาะกร่อนเป็นเวลานานหลายล้านปี จนกลายเป็นรูปร่างเจดีย์หน้าผาหินหน้าตาสวยงามอย่างปัจจุบัน ทิวทัศของที่นี่ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี มีสะพานให้เดินไปยังฝั่งตรงข้ามด้วย เมื่อเวลาแสงแดดส่องลงบนพื้นน้ำสะท้อนความสวยงามของธรรมชาติโดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ซึ่งเจดีย์หน้าผาแต่ละที่ได้มีการตั้งชื่ออีกด้วย โดยเริ่มจากหินคู่รักที่อยู่บริเวณสะพาน และส่วนเจดีย์หน้าผามีชื่อดังนี้

ผานกอินทรีย์, ผาเหยี่ยว, ผาสิงโต, เจดีย์บ้าน, เจดีย์ป้อมปราการ, เจดีย์เก้าวงแหวน, ผาช้าง, เจดีย์โกมะ (พิธีกรรม) ,ผาอีโบชิ (ลักษณะหมวกทรงสูงของคุณนางในสัมยเฮย์อัน), ผาด้านหน้า, เจดีย์เวทีซูโม่ ซึ่งชื่อเหล่านี้มาจากรูปร่างลักษณะของหน้าผาแต่ละที่ เพราะฉะนั้นเมื่อไปถึง To No Hetsuri อย่าลืมสังเกตลักษณะของหน้าผาด้วยนะ

To No Hetsuri

3. Aizuwakamatsu Castle

Tsuruga Castle ปราสาทซึรุกะ หรือชื่อเรียกที่เป็นที่รู้จักคือ ปราสาทไร้พ่าย ซึ่งเป็นปราสาทประจำตระกูลไอสึ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมของแนวรบในสมัยสงคราม ที่สามารถต้านศัตรูไว้ได้เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม และยังเป็นทำเลที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเมืองเลยก็ว่าได้ ความโดดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือหลังคาสีแดงเด่นเป็นสง่า ซึ่งเดิมทีเป็นหลังคาสีควันดำ ที่ได้รับการพัฒนาในญี่ปุ่นตะวันตก แต่ด้วยสภาพอากาศของญี่ปุ่นเหนือนั้น อุณหภูมิต่ำ หิมะค่อนข้างมาก จึงทำให้ธาตุเหล็กที่เป็นวัสดุของกระเบื้องได้เป็นสีเป็นสีแดงอย่างที่เป็นกันในปัจจุบัน

เวลาให้บริการ 8.30 น. ถึง 17.00 น.

ค่าเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่ 410 เยน สำหรับเด็ก 150 เยน

สำหรับน้ำชาและเข้าชม (หอคอยปราสาท, ร้านน้ำชา Rinkaku, Oyakuen) 730 เยน

Tsuruga Castle

4. Yunokami Onsen

Yunokami Onsen สถานีรถไฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านโบราณ Ouchi Juku ซึ่งสถานีรถไฟแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงชานชลาที่ให้นักเดินทางนั่งรอแบบสถานีอื่นๆ เพราะชานชลารถไฟ สถานี Yunokami Onsen นั้นเป็นจุดเชคอินที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าคุณจะมาช่วงฤดูกาลใดของปีก็ตาม สถานีรถไปแห่งนี้มีให้บริการแช่ออนเซ็น มุมสำหรับเลือกซื้อสินค้าและของฝาก คาเฟ่สำหรับนั่งจิบกาแฟ หรือจะเป็นชาที่นักท่องเที่ยวสามารถบริการตัวเองได้ด้วย

Yunokami Onsen

5. Inawashiro Lake

Inawashiro Lake ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สี่ของประเทศญี่ปุ่น ทะเลสาบอินาวาชิโระ หรือที่รู้จักในชื่อทะเลสาบเทนเคียว หรือฉายาว่ากระจกของสวรรค์ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นนิยมในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากหิมะที่ปกคลุมตลอดชายฝั่งและฝูงหงส์ มากกว่า 2,000 ตัว ที่เดินเส่นอยู่ทั่วชายฝั่ง กิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวได้แก่ การนั่งเรือสำราญชมทะเลสาบ และทิวทัศน์อันสวยงามรอบทะเลสาบ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาเดินเรือ ประมาณ 35 นาที

View this post on Instagram

A post shared by 猪苗代観光船?【福島】 (@ikankousen)

การให้บริการของ Inawashiro Sightseeing Boat Co., Ltd.

เวลาให้บริการ ตั้งแต่เวลา ออกเรือตามรอบดังนี้ เวลา 10:00 น., 13:00 น., 15:00 น.

**บริการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย

ในฤดูหนาวจะเปิดเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ราคา ผู้ใหญ่ 1,500 เยน นักเรียนประถม 750 เยน

บริการเรือนำเที่ยว Inawashiro Lake

นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามเพิ่มเติมหรือจองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่นี่

Inawashiro Lake

สรุป

หมู่บ้านโบราณ Ouchi Juku หมู่บ้านโบราณที่มีอายุกว่า 400 ปี ที่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง รวมร้านค้าที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 40 ร้านค้า ทั้งโซบะและขนมพื้นเมืองที่รอนักท่องเที่ยวมาชิม-ช็อป-เชคอิน ด้วยความยินดี ซึ่งความน่าสนใจไม่ได้มีเพียงความเก่าแก่ แต่ยังเป็นธรรมชาติในบริเวณโดยรอบ จากสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงแนะนำทั้ง 5 แห่ง หวังว่าแอดจะป้ายยาแฟนเพจได้บ้างแหละนะ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ใครที่อยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ Fukushima ต้องอ่านบทความนี้

11 ที่เที่ยว ฟุกุชิมะ (Fukushima) เมืองฮีลใจ แดนธรรมชาติที่ต้องไปสักครั้ง

ฟุกุชิมะ เมืองเสน่ห์ฤดูหนาว จุใจไปด้วยที่เที่ยวที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต สำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวอยู่อ่านที่นี่เลยรับรองว่าถูกใจ แล้วปักหมุดพร้อมเดินทาง ไม่หลงแน่นอน สำหรับเมืองธรรมชาติ ผลไม้อร่อย อาหารอร่อยนี้ ต้องไปสักครั้งนะ