มารู้จัก “หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani)” กันสักนิด
หุบเขาโอวาคุดานิเป็นแหล่งภูเขาไฟที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเนะเมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว ที่นี่มีลักษณะเป็นพื้นที่เต็มไปด้วยน้ำพุร้อนและกำมะถันที่ลอยขึ้นมาเป็นหมอกขาวๆ ทั่วทั้งหุบเขา ภูมิภาคนี้ถูกเรียกว่า “หุบเขานรก” เนื่องจากกลิ่นกำมะถันที่แรงมาก แต่ในทางกลับกัน มันยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
หุบเขาแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาภูเขาไฟฮาโกเนะ (Mount Hakone) จังหวัดคานางาวะ (Kanagawa) ห่างจากโตเกียวประมาณ 85 กิโลเมตร เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ในช่วงยุคเอโดะ บริเวณนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะทางผ่านของนักเดินทางที่ต้องการไปสักการะภูเขาฟูจิ รวมถึงเป็นที่แวะพักของผู้แสวงบุญ โดยที่หุบเขาโอวาคุดานิแห่งนี้ ได้กลายเป็นแหล่งสำคัญที่มีการทำน้ำพุร้อนเพื่อรักษาโรคต่างๆ มาอย่างยาวนาน จึงมีความเกี่ยวข้องกับการบำบัดแบบธรรมชาติของชาวญี่ปุ่น นั่นเอง
แน่นอนว่าหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของการมาเยือนที่หุบเขาแห่งนี้ ก็คงไม่พ้นการมาชิมไข่ดำอายุวัฒนะ
สำหรับไฮไลท์ที่น่าสนใจ
ชวนชมภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น
บรรยากาศโดยรอบของหุบเขาแห่งนี้ คงจะไม่พ้นวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยควันและกลิ่นของกำมะถันที่เหม็นจนชินไปเลย ส่วนตัวเราคิดว่า อาจเป็นเพราะกลิ่นไม่ได้แรงขนาดนั้นด้วย เหมือนกับที่เราไปเที่ยวภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่ไอซ์แลนด์
เจ้าตัวควันที่พุ่งขึ้นมาจากผืนเขาแห่งนี้มันก็มีความร้อนอยู่นะ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าจุดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เขาจะเปิดให้ชมแต่ส่วนที่ปลอดภัย หรือไม่มีการปะทุพุ่งขึ้นนั่นเองคร้าบ
มาลองชิมไข่ดำ (Kurotamago) กันสักหน่อย !
หนึ่งในไฮไลท์ที่หากใครมาเยี่ยมชมที่หุบเขาแห่งนี้ ก็คงจะไม่พลาดกันอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่ามันจะต้องเดินขึ้นไปจากสถานี Owakudani สักประมาณ 15-20 นาที ก็ตามที แต่ถ้ามาถึงบริเวณที่ชิมไข่ดำตรงนี้แล้ว ก็ถือว่าเพื่อน ๆ ได้มาเยือนหุบเขาโอวาคุดานิของจริงคร้าบ
ไข่ดำกำมะถันหรือไข่ดำโอวาคุดานิ ก็คือเป็นไข่สีดำไหม้แบบนี้เลย เป็นไข่ไก่ที่ถูกต้มในน้ำพุร้อนที่มีส่วนผสมของกำมะถันทำให้เปลือกไข่กลายเป็นสีดำสนิท มีความเชื่อกันว่าถ้าทานไข่ดำนี้จะทำให้อายุยืนขึ้นอีก 7 ปี
เห็นน้องดำแบบนี้ แถมมีกลิ่นไม่ชวนดม หากแต่ว่าข้างในน้องเป็นไข่ต้มสีขาวสวยเชียวนะ เหยาะแม้กกี้ซะหน่อยก็ฟินสบายๆ
หรือจะซื้อเป็นของฝากกลับไปให้เพื่อน ๆ ที่ไทยลองชิม เขาก็มีให้เลือกชมนะ
ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji)
แน่นอนว่าหุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกเน่ นั่นก็หมายความว่าเราจะได้มีโอกาสเห็นวิวแม่นางฟูจิซังหรือภูเขาไฟฟูจิจอมขี้อายของเรากันได้นั่นเอง สารภาพว่า เราไปชมที่ไร มักจะตรงกับช่วงที่คุณแม่นางไม่ค่อยโผล่หน้ามาให้เห็นชัด ๆ สักที
หากชิมไข่ดำจนอิ่มแล้ว ลองแวะมาดินเส้นทางเดินธรรมชาติบ้าง
หากเพื่อน ๆ เป็นสายเที่ยวแบบเดินป่า ก็สามารถสำรวจเส้นทางเดินป่ารอบๆ หุบเขาโอวาคุดานิ ได้เหมือนกันนะ
หากเพื่อน ๆ เดินตามป้ายมาถึงจุดเดินป่า ก็จะเจอป้ายแนะนำแบบนี้ ก็เดินลุยกันได้เลย ! โดยเส้นทางนี้จะพาเราเดินรอบภูเขาฮาโกเนะและสามารถลงไปยังทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi) เส้นทางนี้จะพาทุกท่านไปสู่จุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของฮาโกเนะ แต่ก็ต้องแลกมากับหยาดเหงื่อนะคร้าบ เพราะระยะทางที่เราเดินลง มันก็จะประมาณระยะทางที่เรานั่งกระเข้าขึ้นมา ประมาณนั้น
นั่ง Hakone Ropeway ชมวิวภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา
หนึ่งในเส้นทางการขึ้นมายังหุบเขาแห่งนี้ “Hagone Ropeway” ที่หากไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะวิวระหว่างที่นั่งกระเช้าชมวิวนั้น สวยจับใจ
กระเช้าไฟฟ้าฮาโกเนะเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 1959 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางท่องเที่ยวฮาโกเนะ ซึ่งเชื่อมต่อจากทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi) ไปจนถึงสถานีโอวาคุดานิ
กระเช้ามีความยาวทั้งหมดประมาณ 4 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยจุดแรกจะเริ่มจากสถานี โทเง็นได (Togendai Station) ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบอะชิ และขึ้นไปยังสถานีโอวาคุดานิ (Owakudani Station) ส่วนที่สองจะพาไปถึงสถานี โซอุนซัน (Sounzan Station) ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังระบบเคเบิลคาร์ฮาโกเนะได้ โดยจะใช้เวลานั่งขึ้นหุบเขาโอวาคุดานิ ประมาณ 30 นาที
สำหรับเราแล้ว อาจเรียกได้ว่าเป็น 10 นาทีที่เราจะได้ชมวิวที่เห็นแม่นางฟูจิซังจากในกระเช้าแห่งนี้ที่สวยที่สุดแล้วละนะ
หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani)
ที่อยู่ | 1251 Sengokuhara, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0631 |
วิธีเดินทาง | เดินทางด้้วยกระเช้า Hakone Ropeway ขึ้นมาที่สถานี Owakudani |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 09:00 – 16:30 |
ราคา | ตัวหุบเขาไม่มีค่าเข้าชม แต่จะเป็นตามราคาของ Hakone Ropeway |
Website | หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) |
วิธีการเดินทาง
วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดเราขอแนะนำให้มาขึ้นกระเช้า Hakone Ropeway โดยเราสามารถมาได้จาก สถานีโซอุนซัน (Sounzan Station) และ สถานีโทเง็นได (Togendai Station) ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi)
หรือถ้าเพื่อน ๆ ที่มาเที่ยว Day trip จากโตเกียว เราจะขอแนะนำให้ซื้อ Hakone Pass โดยสามารถขึ้นรถบัส Hakone Highway Bus จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) ตรงไปยัง สถานีโทเง็นได (Togendai Station) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระเช้าไฟฟ้าฮาโกเนะ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ราคาตั๋วกระเช้าไฟฟ้าฮาโกเนะ (Hakone Ropeway)
ถ้าถามว่าหุบเขาโอวาคุดานิแห่งนี้มีค่าเข้าชมไหม ?
คงต้องตอบว่า ไม่มี แต่ว่าจะขึ้นอยู่กับค่าตั๋วจากกระเช้าไฟฟ้านั่นเองครับ
โดยตั๋วเที่ยวเดียว (One-way ticket):
– จากสถานี Togendai ไปยังสถานี Owakudani: ประมาณ 1,000 เยนต่อคน
ตั๋วไปกลับ (Round-trip ticket):
– จากสถานี Togendai ไป-กลับ Owakudani: ประมาณ 1,800 เยนต่อคน
– จากสถานี Togendai ไป-กลับ Sounzan: ประมาณ 2,500 เยนต่อคน
ตั๋วพิเศษ: Hakone Free Pass
เป็นตั๋วแบบเหมาจ่าย สามารถใช้บริการกระเช้าไฟฟ้าฮาโกเนะได้โดยไม่ต้องเสียค่าตั๋วเพิ่มเติม โดย Hakone Free Pass จะครอบคลุมการเดินทางทุกแบบในพื้นที่ฮาโกเนะ เช่น รถบัส รถไฟ เรือ และกระเช้าไฟฟ้า ราคาตั๋วนี้เริ่มต้นที่ประมาณ 6,100 เยนสำหรับ 2 วัน
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
1. Hakone Sightseeing Cruise ล่องเรือโจรสลัดท่องทะเลสาบอะชิ
เรือโจรสลัดจะพาเราผ่านศาลเจ้าและประตูโทริอิริมน้ำอีกด้วยนะ โดยจะมีเรือที่จะพาเราไปทัศนาจรนั้นจะมีทั้งหมด 3 ลำด้วยกัน คือ เรือ Royal II, เรือ Victory และเรือ Vasa ซึ่งเรือแต่ละลำก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันก็คือ ไม่ว่าจะเป็นลำไหนเราก็จะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอยู่เป็นฉากหลัง
Hakone Sightseeing Cruise
ที่อยู่ | 164 Motohakone, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0522 |
วิธีเดินทาง | สามารถมาขึ้นได้ที่ท่าเรือ Togendai ซึ่งเป็นสถานีที่เราไปขึ้นกระเช้า |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | ตามราคาของผู้ให้บริการแต่ละเจ้า |
Website | Hakone Sightseeing Cruise |
2. ศาลเจ้า Hakone (Hakone Shrine)
ศาลเจ้าชินโตที่มีความงดงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบอาชิ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 757 ในสมัยนารา โดยพระภิกษุชื่อมังกันโชนิน (Mangan Shonin) ซึ่งเชื่อว่าได้รับการดลใจจากเทพเจ้าที่สถิตอยู่บนภูเขาฮาโกเนะ มีไอไลท์คือ ประตูโทริอิสีแดงนี้ตั้งอยู่ในทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi) ซึ่งทำให้ดูเหมือนลอยอยู่บนน้ำ
ศาลเจ้า Hakone
ที่อยู่ | 80-1 Motohakone, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0522 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu Line) จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) มาลงที่ Odawara Station แล้วต่อด้วยรถบัสมาลงที่สถานี Odawara Station |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 08:15 – 17:00 |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | ศาลเจ้า Hakone |
3. Gotemba Premium Outlets
ช้อปปิ้งที่เอาท์เล็ต Gotemba Premium Outlets กันเถอะ ที่นี่ไม่ใช่แค่แหล่งช้อป ฯ หรอกนะ แต่ยังเป็นจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามมาก ๆ แห่งหนึ่งอีกด้วย ภายในเอาท์เล็ตก็มีร้านแบรนด์ดังระดับไฮเอนด์ตั้งอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น GUCCI, COACH, FURLA, PRADA, miu miu หรือแบรนด์ยอดฮิตในราคาเอื้อมถึงอย่าง BANANA REPUBLIC, NIKE, Rayban, Levi’s และแบรนด์ที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย
Gotemba Premium Outlets
ที่อยู่ | 1312, Fukasawa Gotemba-Shi, Shizuoka, Japan 412-0023 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Gotemba Line มาลงสถานี Gotemba แล้วนั่งรถ Shuttle Bus ฟรีต่อมาอีก 15 นาที |
เวลาทำการ | มีนาคม-พฤศจิกายน : 10.00-20.00 น. ธันวาคม-กุมภาพันธ์ : 10.00-19.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Gotemba Premium Outlets |
สรุป
หากเพื่อน ๆ มาเที่ยวที่เมืองฮาโกเน่แล้ว ก็ต้องห้ามพลาดขึ้น Hakone Ropeway มาที่หุบเขาโอวาคุดานิแห่งนี้ ซึ่งนอกจากจะได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิแบบเต็ม ๆ ตาระหว่างนั่งกระเช้าแล้ว ยังได้มาชิมไข่ดำอายุวฒนะที่มีชื่อเสียงที่สุดส่งตรงจากแหล่งบ่อน้ำพุร้อนของเมืองฮาโกเน่อีกด้วยนะ เรียกได้ว่าหากเพื่อน ๆ ต้องการเริ่มทริปญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ต้องห้ามพลาดที่นี่เลย เดินทางมาจากโตเกียวเพียงแค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ สะดวกสุด ๆ