มีหลายคนที่น่าจะรู้จักภูมิภาคคิวชูของประเทศญี่ปุ่น แต่อาจจะยังไม่เคยไปยิ่งถ้าเป็นโซนคิวชูใต้ หรือมินามิคิวชูยิ่งอาจจะไม่เคยได้ไปเยือน เราจึงขอพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นในจังหวัดใหม่ ๆ ไม่ซ้ำเดิม ทัวร์คิวชูใต้ 5 วันเต็มกับสองเมืองดังอย่าง Miyazaki (มิยาซากิ) และ Kagoshima (คาโกชิมะ) มาพร้อมแพลนเที่ยวให้ตามไปกันได้แบบอีซี่ ๆ
ก่อนอื่นเลยก็คือการเดินทางจากประเทศไทยบ้านเราไปยังมินามิคิวชูที่จังหวัดมิยาซากิหรือคาโกะชิมะอันเป็นพิกัดเที่ยวของเรา และเนื่องจากภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาคที่ยังไม่มีสายการบินตรงจากประเทศไทยมาเยือน การเดินทางมาที่นี่จึงจะต้องทำการต่อเครื่องครั้งหนึ่งที่สนามบินภายในประเทศญี่ปุ่นเสียก่อน
ในการเลือกสายการบินมาที่นี่ต้องเลือกสายการบินที่มีไฟลท์บินไปจังหวัดคาโกชิมะหรือมิยาซากิ โดยทำการเปลี่ยนเครื่องบินของสายการบินหรือสายการบินอื่นที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่น อย่างเช่น โตเกียว โอซาก้าหรือนาโกย่า หรือฟุกุโอกะ ตามแต่ละท่านสะดวกได้เลย
ซึ่งสำหรับแพลนเที่ยว 5วันในมินามิคิวชูของเรานั้นจะบินจากสุวรรณภูมิมายังสนามบินฮาเนดะที่โตเกียว จากนั้นต่อเครื่องมาลงยังสนามบินประจำจังหวัดมิยาซากิ ส่วนขากลับจะกลับจากสนามบินคาโกะชิมะแล้วบินไปต่อเครื่องที่สนามบินฮาเนดะก่อนตรงกลับไทยแลนด์นั่นเอง
ในส่วนของวิธีการเดินทางมาอย่างละเอียดนั้นอ่านเพิ่มเติมกันได้ที่บทความด้านล่างนี้
How to เดินทางจากไทยบินไป South Kyushu ลองไปดูแล้วจะรู้ว่าน่ารัก
รีวิวการเดินทางด้วยตัวเองจากไทยบินไปลง South Kyushu ท่องเที่ยวพื้นที่ทางใต้ของญี่ปุ่น ด้วยเที่ยวบินสุดสบายจากสายการบิน ANA ต่อเครื่อง Solaseed Air อีกหนึ่งสายการบินดี ๆ ของญี่ปุ่น
เมื่อมาถึงสนามบินมิยาซากิแล้วแพลนเที่ยวของเราก็เริ่มต้นขึ้น โดยวันแรกเราจะเที่ยวกันที่จังหวัดมิยาซากิก่อน สำหรับการท่องเที่ยวในจังหวัดนี้เราแนะนำให้เช่ารถขับจะสะดวกที่สุด แต่หนทางอื่น ๆ ในการเดินทางก็มีรถไฟ รถบัสและแท็กซี่อยู่ด้วยเหมือนกัน แต่อาจจะไม่สะดวกและสบายเท่าการขับรถเที่ยวเอง
สถานที่เที่ยวแห่งแรกที่เราจะไปกันคือ Udo Shrine เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของมิยาซากิ มีพิกัดตั้งอยู่ริมทะเล ทำให้บรรยากาศแตกต่างจากศาลเจ้าทั่วไป โดยเราสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ จากศาลเจ้าแห่งนี้ได้แทบทุกทิศทาง
นอกจากนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของการขอบุตรและการให้กำเนิดบุตรอย่างราบรื่น ทั้งยังมีหินให้โยนเสี่ยงทายขอพรว่าเรื่องที่เรากำลังอยากได้หรืออยากทำจะสำเร็จหรือเปล่าด้วยนะ เป็นศาลเจ้าที่มีบรรยากาศสวย ๆ และไม่ควรพลาด
พักจากศาลเจ้าไปยัง Sun Messe Nichinan สถานที่ที่มีรูปปั้นโมอายจากเกาะอีสเตอร์ตั้งอยู่ และมีเรียงกันถึง 7 ตัวด้วยกันเลยนะ !
แถมทั้ง 7 ตัวนี้คนที่นี่เขายังมีความเชื่อว่าแต่ละตัวให้พรไม่เหมือนกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน สุขภาพ ความรัก เรื่องเงินหรือบรรยากาศของที่นี่นั่นดีมาก ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มองเห็นวิวสวย ๆ ได้ตลอดเวลาที่มาเที่ยวเป็นหนึ่งในสถานที่แนะนำของที่นี่เลย
อีกหนึ่งศาลเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์และตั้งอยู่ในทำเลสุดเฉพาะเจาะจงไม่แพ้กันก็คือศาลเจ้า Aoshima แห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ Aoshima เป็นศาลเจ้าแห่งเดียวของเกาะนี้
ระหว่างเดินทางไปเคารพศาลเจ้า เราจะได้เดินผ่านชายทะเลที่เมื่อน้ำลดระดับลงจะได้ชมทิวทัศน์ แผ่นหิน หรือ Oni no Sentakuita (กระดานซักผ้าของยักษ์) ที่มีลักษณะเหมือนเกลียวคลื่นโผล่ขึ้นมาแทนที่จะเป็นหาดทราย ซึ่งแผ่นหินนี้เรียงติดกันเป็นขนาดใหญ่ถือเป็นลักษณะเฉพาะและเป็นไฮไลท์ของที่นี่
สำหรับศาลเจ้านี้ก็มีชื่อเสียงในเรื่องการแต่งงาน การคลอดที่ปลอดภัยและการเดินทางอย่างปลอดภัย คู่รักคู่ไหนอยากจะมาขอพรเรื่องความรักของตัวเองก็เชิญได้เลย
เที่ยวกันมา 3 ที่แล้ว พิกัดสุดท้ายของวันแรกที่เราจะเดินทางไปก็คือโรงแรม Aoshima Grande Hotel ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าให้ได้พักผ่อนกันสบาย ๆ ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าหลังจากเที่ยวมาทั้งวัน
ทางโรงแรมมีห้องพักให้เลือกทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและสไตล์ยุโรป มีบริการออนเซ็นทั้งในร่มและกลางแจ้งพร้อมอาหารชุดไคเซกิแบบจัดเต็มสุดอร่อย นอนหลับอิ่มสบายพร้อมเที่ยวต่อพรุ่งนี้แน่นอน
สำหรับแพลนของวันนี้จะเป็นการเที่ยวชมความสวยงามทางธรรมชาติของมิยาซากิ ซึ่งที่นี่มีพิกัดสุด UNSEEN ที่มาถึงมิยาซากิแล้วไม่ไปไม่ได้อยู่แห่งหนึ่ง นั่นก็คือ ช่องเขา Takachiho แห่งนี้
ทิวทัศน์ในช่องเขาแห่งนี้สวยงามมาก แถมมาแล้วเรายังได้พายเรือชมวิวน้ำตกพร้อมสูดอากาศสดชื่นกันได้อีกด้วย บอกเลยว่าบรรยากาศของที่นี่ดีมาก ๆ อากาศก็เย็นสบาย ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแล้วจะยิ่งฟินกับสีเหลืองทองของใบไม้ที่เปลี่ยนไปอย่างสวยงาม
ในบริเวณเดียวกันยังมีพื้นที่ที่มีร้านค้า ร้านขายของฝากและสวนให้เราได้เดินเล่นชิลล์ ๆ ชมความสวยงามของธรรมชาติกันแบบเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ ใครรักการถ่ายรูปมาที่นี่ได้รูปสวย ๆ กลับไปเพียบเลยจ้า
ภายในเมือง Takachiho นอกจากช่องเขาที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามแล้วยังมีศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องไม่พลาดแวะไปเยือน ซึ่งก็ตั้งอยู่ในพิกัดไม่ไกลกันซะด้วย
ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่กว่า 1,800 ปีก่อน และที่นี่ก็เป็นศาลเจ้าอีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรให้คู่รักของรักกันยืนยาว บรรยายกาศภายในศาลเจ้าแห่งนี้ก็ร่มเย็นเนื่องจากมีต้นไม้สูงปลูกอยู่ทั่วบริเวณเลยทีเดียว
หลังจากดูวิวธรรมชาติของน้ำตกกับต้นไม้เขียวชอุ่มแล้ว ขอพาไปชมสีสันสดใสจากดอกไม้หลากชนิดกันที่ Florante Miyazaki กันต่อ
ที่นี่เป็นสวนดอกไม้ที่มีดอกไม้จัดแสดงให้เราชมหลากหลายชนิด แต่ละชนิดจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ภายในจัดเป็นสวนดอกไม้ มีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อน กินลมชมวิวสวย ๆ และยังมีการจัดสวนแบ่งโซนเป็นธีมต่าง ๆให้ได้เดินดูเพลิน ๆ ใครชอบฟิลลิ่งแบบนี้ละก็ต้องไม่พลาด
ต่อกันที่พิกัดสุดท้ายโรงแรมที่เราจะไปพักผ่อนนั่นเอง โรงแรมแห่งนี้ก็มีพิกัดติดกับทะเลเช่นเดียวกัน เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างของห้องพักเราก็จะได้เห็นวิวทะเลสวย ๆ ทันที
ห้องพักของที่นี่มีทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและยุโรป มีบริการออนเซ็นและบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า เป็นหนึ่งในที่พักที่แสนสะดวกสบาย เหมาะกับการมาพักผ่อน
วันนี้เราเริ่มต้นแพลนด้วยการเดินทางจากมิยาซากิไปคาโกชิมะ โดยเราจะเดินทางไปด้วยรถไฟจากสถานี Minami Miyazaki ของมิยาซากิ ไปยังสถานี Nishi-Oyama ในเมือง Ibuzuki (อิบุสึกิ) ของจังหวัดคาโกชิมะ ด้วยรถไฟ JR ในราคา 5,420 เยน โดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อไปเที่ยวสวนดอกไม้ในเมือง Ibuzuki กันต่อ
แต่สำหรับใครที่เช่ารถขับก็สามารถขับรถยิงยาวมายัง Kagoshima ได้เลยใช้เวลาราว 2.30-3 ชั่วโมง
เดินทางมาถึงคาโกชิมะกันแล้ว เราขอพาทุกคนไปเที่ยวยังเมือง Ibuzuki อันเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการท่องเที่ยวของจังหวัดนี้โดยเฉพาะดอกไม้สวย ๆ ที่เราจะมาดูกันภายในสวนดอกไม้แห่งนี้ ที่มีชื่อว่า Kagoshima Flower Park
ที่นี่จัดสวนออกเป็นโซนต่าง ๆ มีพืชพันธุ์รวมอยู่ด้วยกันกว่า 400,000 แสนต้นรวมกว่า 2,400 ชนิด ให้เราเดินชมได้เพลิน ๆ ในพื้นที่ขนาดใหญ่
และอีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่ก็คือคือโรงเพาะผีเสื้อขนาดใหญ่สายพันธุ์ Oogomadara จำนวนมากภายในเรืองกระจก ถ้าอยากดูผีเสื้อใกล้ ๆ ละก็มาที่นี่จะได้ถ่ายรูปกันแบบใกล้ชิดเลยทีเดียว
อีกหนึ่งจุดพีคของเมืองอิบุสึกิคือ ออนเซ็นทราย หรือ อบทรายร้อน (Sand Bath) นั่นเอง เนื่องจากทรายของเมืองนี้มีอุณหภูมิร้อนกว่าปกตินั่นเอง ซึ่งเมืองนี้ถือว่าเป็นต้นตำรับของการอบทรายร้อนแห่งแรกในโลกเลยก็ว่าได้
สำหรับการอบทรายร้อนนั้นจะช่วยในเรื่องการรักษาโรคและผิวพรรณได้ดี ที่เห็นผลเร็วที่สุดคือเมื่อแช่แล้วจะรู้สึกผ่อนคลาย โดยจะใช้เวลาอบเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น
วิธีการคือเจ้าหน้าที่จะขุดทรายเป็นหลุม ให้เรานอนลงในหลุมและตักทรายลงบนตัวเราราว ๆ 40-50 กิโลกรัม จึงจะรู้สึกค่อนข้างหนักและขยับเขยือนไม่ได้ อุณหภูมิของทรายจะไม่ร้อนมากเท่ากับการแช่ออนเซ็นน้ำแร่นะ
หลังจากอบทรายเสร็จยังสามารถผ่อนคลายร่างกายด้วยการออนเซ็นน้ำร้อน แช่กันให้ฟินได้อีก ถ้ามาถึงอิบุสึกิละก็ต้องห้ามพลาดประสบการณ์แปลกใหม่อย่างการออนเซ็นทรายแบบนี้นะ !
หากมาเที่ยวเมืองอิบุสึกิแล้วขอแนะนำให้ทุกคนจองโรงแรมข้างในเมืองนี้กันสักหนึ่งคืน เพื่อให้การท่องเที่ยวของเราไม่เร่งรีบจนเกินไป ซึ่งโรงแรม Ibusuki Kaijo Hotel แห่งนี้เป็นโรงแรมที่อยู่ติดริมทะล ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ได้จากห้องพัก
นอกจากนั้นยังอยู่ไม่ไกลกับสถานที่ออนเซ็นทราย เดินเพียงแค่ 10 นาทีก็ถึงจึงสะดวกมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการมาออนเซ็นทรายแล้วค้างคืนที่เมืองนี้
สไตล์ห้องพักของที่นี่จะเป็นแบบเรียวกังญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่มีพื้นเป็นเสื่อตาตามิและได้นอนบนฟูกนุ่ม ๆ แบบญี่ปุ่น พร้อมทั้งยังมีออนเซ็นเปิดให้บริการด้วย
ทั้งนี้ภายในโรงแรมยังมีร้านขายของฝาก และอาหารอร่อย ๆ สไตล์ไคเซกิเสิร์ฟให้ทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็น บริการเป็นเลิศและครบครันขนาดนี้ น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ
สำหรับวันนี้เราขอพาทุกคนกลับมาเที่ยวกันในตัวเมืองของจังหวัดคาโกชิมะ แต่จะก่อนจะเข้าตัวเมืองจริง ๆ ขอพาไปเที่ยวยังแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนี่กันก่อน โดยวันนี้เราจะพาไปเที่ยวที่ภูเขาไฟ Sakurajima (ซากุระจิมะ) กัน
สำหรับวิธีการเดินทางไปนั้นเราจะนั่งเรือไปยังเกาะซากุระจิมะที่ภูเขาไฟนี้ตั้งอยู่ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟก็สามารถจ่ายเงินขึ้นเรือได้ตามปกติ ส่วนใครขับรถเที่ยวเอง เรือ Ferry นี้ก็สามารถนำรถขึ้นเรือข้ามไปกับเราได้ด้วย
ที่ภูเขาไฟซากุระจิมะมีสถานที่เที่ยวมามายหลายแห่งให้แวะเวียนกันไป สำหรับสถานที่แรกที่ควรแวะไปก่อนเลยคือ พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟซากุระจิมะ Sakurajima visitor center ที่ช่วยให้เราได้รู้จักภูเขาไฟแห่งนี้มากขึ้นก่อนไปเที่ยว
ที่นี่จะมีการเล่าเรื่องราวของภูเขาไฟซากุระจิมะที่ยังคงประทุอยู่ทุกวัน แต่ก็ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่เนื่องจากมีการเตือนภัยและระแวดระวังที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง
นอกจากจะเล่าเรื่องของภูเขาไฟแล้ว ที่นี่ยังมีเรื่องของราวชาวเมืองที่อาศัยอยู่และข้อมูลการท่องเที่ยวที่ภูเขาไฟแห่งนี้แนะนำให้เราด้วย ยังไงก็แวะมากันก่อนจะไปเที่ยวที่โซนอื่นนะจ๊ะ
ต่อจากนั้นก็จะไปกันที่จุดชมวิวของภูเขาไฟซากุระจิมะ ที่ Yunohiro Observatory และยังถือเป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะที่เราสามารถมาเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ที่จุดนี้จึงมีความสูงกว่า 373 เมตรและตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟมากที่สุด จนถึงขนาดสามารถมองเห็นปล่องภูเขาไฟได้เลย
ขึ้นมาแล้วจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร ทิวทัศน์ที่สวยงามและเต็มไปด้วยธรรมแบบนี้หาชมได้ยากนะ
อีกพิกัดแนะนำก็คือการแช่ออนเซ็นเท้าชมวิวสวย ๆ จากเกาะซากุระจิมะ กันที่ Sakurajima Lava Nagisa Park ผ่อนคลายเท้าจากการเดินเที่ยวเล่น
พิกัดแช่ออนเซ็นเท้าแห่งนี้เราสามารถแช่ได้ฟรี ๆ ไม่ต้องเสียสักเยนเดียว เพียงแค่ถอดรองเท้าก็หย่อนขาลงไปแช่พร้อมกับชมวิวสวย ๆ ได้เลย มาที่นี่แล้วอย่าพลาดจุดแช่ออนเซ็นเท้าแห่งนี้กันนะ
ที่ซากุระจิมะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายหลายแห่ง มาถึงคาโกชิมะแล้วอย่าลืมแวะมาที่ภูเขาไฟดังโด่งดังแห่งนี้กัน
เดินทางออกจากซากุระจิมะมาต่อกันที่ถนนสายช้อปปิ้งแห่งคาโกชิมะ Tenmonkan ที่นี่ถือเป็นแหล่งช้อปที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของคาโกชิมะเลย
บนถนนสายนี้มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก ขนมของฝาก ร้านขายยา ร้านขายเสื้อผ้า รองเท้าและอีกมากมาย ได้เดินจนเพลินและช้อปจนฟินแน่นอน
และหากได้มาที่ถนนเส้นนี้แล้วอย่าลืมแวะไปลองอร่อยกับเมนูเนื้อคุโรเกะวากิวสุดฟินที่ร้าน Beefar’s
และอร่อยกับของหวานเย็นช่ำชื่นใจอย่างน้ำแข็งไส ชิโรคุมะ ที่เป็นขนมขึ้นชื่อของที่นี่ด้วยนะ
วันนี้ยังไม่จบ ขอเที่ยวรัว ๆ ไปต่อกันอีกที่ เนื่องจากเมื่อเช้าเราไปเที่ยวที่ภูเขาไฟซากุระจิมะกันไปแล้ววันนี้ขอพาไปชมหน้าตาของภูเขาไฟลูกนี้กันในอีกมุมมองซะหน่อย
ซึ่งเราจะไปกันที่ Shiroyama Park Observation Deck ที่นี่เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟซากุระจิมะพร้อมกับทิวทัศน์ในตัวเมืองของคาโกชิมะที่สวยงาม
ยิ่งในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แสงของพระอาทิตย์จะสาดส่องเปลี่ยนสีภูเขาไฟเป็นสีม่วงสวย ที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟลูกนี้ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลย ที่สำคัญมาดูได้ฟรีด้วยจ้า
ชมวิวและเที่ยวกันมาจนเต็มอิ่มคราวนี้ขอพาไปอิ่มท้องกันต่อที่ Kagomma Furusato Yataimura ที่นี่ถือเป็นศูนย์รวมอิซากะยะร้านอร่อยในคาโกชิมะเอาไว้ด้วยกันกว่า 20 ร้าน มีอาหารหลากหลายประเภทให้ได้มาอร่อยกัน
ที่นี่ยังเป็นย่านที่เหมาะจะมากินข้าวอร่อย ๆ ดื่มเครื่องดื่มให้ชื่นใจ โดยจะเปิดทำการในช่วงกลางวันตั้งแต่ 12.00-14.00 น. และช่วงเย็นคือ 17.00-เที่ยงคืนกันเลย ใครอยากกินของอร่อยละก็แวะมาที่นี่ได้
พิกัดสุดท้ายของวันนี้คือโรงแรมที่เราจะไปพักผ่อนกันนั่นเอง Hotel urbic Kagoshima แห่งนี้ตั้งอยู่ในพิกัดที่แสนจะสะดวกสบาย ใกล้กับสถานีรถไฟไปเที่ยวในคาโกชิมะได้สบาย ๆ และยังตั้งอยู่ใกล้กับห้างและร้านค้าต่าง ๆ อีกด้วย
ตัวห้องพักจะไม่กว้างใหญ่นักเพราะอยู่ในตัวเมือง แต่ไม่ถึงกับคับแคบสไตล์ Bussiness Hotel แถมด้วยบริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ให้ฝากท้องกันก่อนออกเดินทาง
วันสุดท้ายของการไปเที่ยวในคาโกชิมะ เราขอพาไปชมความดั้งเดิมกันที่ Amanimo sato ที่นี่จะแนะนำเกาะอามามิซึ่งเป็นเกาะที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นให้เราได้รู้จัก เกาะนี้มีชื่อเสียงไม่แพ้โอกินาว่า ตั้งอยู่ตอนใต้ของจังหวัดคาโกชิมะนี่เอง
โดยที่นี่ได้จำลองลักษณะและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะอามามิไว้ให้เราได้ชม ไม่ว่าจะบ้านเรือน การแต่งกายของชาวเมือง รวมไปถึงสภาพภูมิทัศน์ของเกาะอามามิ โดยมีต้นไม้เขตร้อนจัดเป็นสวนให้เราได้เดินชม
ทั้งยังมี Workshop ให้เราได้ลองทำผ้ามัดย้อม และชมการทอผ้าสไตล์ดั้งเดิม แถมด้วยการไปชมชุดกิโมโนสวย ๆ อีกด้วย
ไปชมความดั้งเดิมที่แปลกตาแล้ว คราวนี้ถึงเวลาของขาช้อปกันบ้างกับห้าง Amu Plaza Kagoshima แหล่งช้อปประจำถิ่นอีกแห่งหนึ่ง โดยห้างนี้ถือเป็นห้างใหญ่ใกล้สถานีของที่นี่ มีด้วยกันถึง 7 ชั้น
โดยมีร้านค้ามากมายให้เราได้เลือกไปช้อป ไม่ว่าจะร้านค้าปลอดภาษีหรือไม่ปลอดภาษี ข้าวของก็มีตั้งแต่เสื้อผ้า ของเล่น ของฝาก
และที่ชั้น 5 ก็มีโซนร้านอาหารมากมายให้เราได้เลือกไปอร่อยกัน บอกเลยว่าของอร่อยเพียบ เป็นพิกัดที่เหมาะสำหรับช้อปก่อนกลับซะจริง ๆ
ตัดอารมณ์กลับมาเที่ยวกันต่อก่อนกลับกับสถานที่เที่ยวสุดท้ายของแพลนนี้ คือสวย Sengen en อันเป็นสวยสาธารณะขนาดใหญ่ที่แต่ก่อนเลยเป็นบ้านพักของเจ้าเมืองคาโกชิมะในอดีต
สวนแห่งนี้มีบริเวณกว้างขวางมาก จะมีสิ่งก่อสร้างในสมัยโบราณให้เราได้เดินดูเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะโซนบ้านหรือที่อยู่อาศัยเก่าของท่านเจ้าเมือง เราจะได้เห็นภายในบ้านเลยว่าแต่ละห้องมีหน้าตาเป็นอย่างไร รวมไปถึงเครื่องเรือนเครื่องใช้ในสมัยก่อนด้วย
และอีกหนึ่งความพีคของที่นี่คือเราสามารถชมวิวภูเขาไฟซากุระจิมะได้แบบเต็ม ๆ ตา ทั้งยังเป็นวิวที่เจ้าเมืองในอดีตสามารถดูได้เพียงคนเดียวด้วยนะ
มาที่นี่แล้วก็อย่าลืมแวะกินของอร่อยของคาโกชิมะอย่าง ขนมจัมโบ้โมจิ ที่นำโมจิชิ้นใหญ่ไปย่างแล้วราดซอสอร่อย ๆ โดยจะมีสองรสชาติคือซอสมิโสะและซอสถั่วเหลือง แนะนำว่าให้ลองมันทั้งสองรสไปเลย
มาซึมซับบรรยากาศของคาโกชิมะก่อนกลับกันได้ที่นี่ ชมวิวซากุระจิมะกันให้หายคิดถึงและกินขนมอร่อยรสชาติเด็ดของเมืองนี้กันด้วยนะ
สถานที่สุดท้ายและท้ายสุดของเราให้แพลนนี้ก็คือสนามบินคาโกชิมะที่ต้องเดินทางมาขึ้นเครื่องจากที่นี่ไปต่อเครื่อง ณ สนามบินฮาเนดะของโตเกียว
ระหว่างรอเวลาขึ้นเครื่อง แม้สนามบินแห่งนี้จะไม่ได้กว้างขวางมาก แต่ก็มีร้านขายของฝากให้ช้อปเพียบ ใครยังอยากช้อปของฝากต่อก็มาช้อปกันได้ แถมยังมีร้านอาหารให้ฝากท้องกันหลายร้านด้วยนะ
แพลนของเราก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ ใครจะไปเที่ยวคาโกชิมะก็ลองไปตามแพลนของเราดูได้ จะไปหรือไม่ไปไหนสถานที่เที่ยวไหนตามกันก็ไม่ว่ากัน แต่อยากลองให้ลองมาเที่ยวที่มินามิคิวชูกันดูสักครั้ง รับรองว่าจะต้องหลงรักจนอยากมาอีก
สำหรับใครที่อยากรู้จักจังหวัดมิยาซากิและคาโกชิมะกันให้มากขึ้น สามารถอ่านรีวิวเต็ม ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของสองเมืองนี้ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย
Go Kagoshima ตะลุยคิวชูใต้ เปิดพิกัดดังน่าเที่ยว ที่ไปทีเดียวก็ไม่พอ !
บทความแนะนำจังหวัดมิยาซากิ (ฉบับเต็ม)
Go Kagoshima ตะลุยคิวชูใต้ เปิดพิกัดดังน่าเที่ยว ที่ไปทีเดียวก็ไม่พอ !
บทความแนะนำจังหวัดคาโกะชิมะ (ฉบับเต็ม)
Blogger : HWA ハワ
? บล็อกเกอร์ชื่อประหลาด ติดโยเกิร์ต ตระเวนกินไอศกรีม ชอบดูหนัง รักการเดินทาง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ประเทศที่ไปกี่ครั้งควาามรู้สึกก็แตกต่างกัน จึงอยากซอกแซกไปให้ทั่ว เพราะชอบความสุขและบรรยากาศสนุก ๆ ระหว่างการเดินทาง ??
317 Posts
วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยั...
ไป โตเกียวพักย่านไหนดี แนะนำ 15 ย่าน เลือกพักตามสไตล์ที่ใช่
ตอบคำถามให้หายสงสัย ไปโตเกียว พักย่านไหนดี ! แนะนำ 15 ย่านในโตเกียวที่คู่ควรแก...
เที่ยวญี่ปุ่น 2022 เปิดเงื่อนไข วิธีการขอวีซ่า ไกด์ไลน์เที่ยวจัดเต็ม
เปิดข้อมูลการ เที่ยวญี่ปุ่น 2022 / 2565 เปิดทุกเกณฑ์การท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม กา...
นั่งชินคันเซ็นคุ้มๆ จากโตเกียวไปโอซาก้า เดินทางง่ายแค่ใช้ JR PASS
เที่ยวให้ทั่วโตเกียวแล้วไปต่อโอซาก้า เพราะเรามีแผนการเดินทางสุดคุ้มจากโตเกียวไ...
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น เช็คได้ทั่วประเทศ ใช้สะดวก ไม่มีหลง
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น สุดสะดวก จัดให้แบบเต็มๆ ทุกแอเรีย หาสาย เช็คเวลากันแบบชิล...
เที่ยวโอซาก้า เดือนไหนดี อากาศเป็นไง ครบข้อมูลเตรียมเที่ยวเลย
10/03/2021 | Japan
รีวิว ตึกม่วง ทาเคยะ ปิดกี่โมง มีกี่สาขา ซื้ออะไรดี คำตอบครบจบในที่เดียว
08/04/2020 | Tokyo
ตลาดคุโรมง เที่ยวตลาดปลาโอซาก้า กับ 9 ร้านเด็ด กิน ช้อป ฟินสุดใจ
11/11/2021 | Japan
ร้านอาหาร ชินจูกุ 10 พิกัดอร่อยในย่านเด็ดที่ต้องลอง
07/01/2019 | Japan
เหล้าบ๊วยญี่ปุ่น 7 อันดับ รสเยี่ยม ที่ต้องห้ามพลาด
23/02/2017 | Japan
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-5285-8088
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
03-5789-2449
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
06-6262-9226-7
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
092-686-8775
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุ๊กกี้ของเราผ่านทาง นโยบายความเป็นส่วนตัว