ประวัติ Tenmangu Shrine
ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกุ (Kitano Tenmangu Shrine) หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากในชื่อ ศาลเจ้าเท็นมังกุ เกียวโตนั้นมีประวัติศาสนตร์ที่ยาวนาน กว่า 1000 ปี สร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 947 เพื่อเป็นเกียรติแก่ Sugawara no Michizane นักวิชาการและนักการเมืองแห่งยุคเฮอันตอลกลาง (ค.ศ. 794 – ค.ศ. 1185) นอกจากนี้ยังสร้างเพื่อให้เกิดสันติภาพในญี่ปุ่น
ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกุเป็นศาลเจ้าแห่งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มีการบูชาบุคคลจริงในฐานะเทพ โดย Sugawara no Michizane นั้นเป็นที่รู้จักในนามเทพเจ้าหลากหลาย แต่ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักก็คือ “เทพเจ้าแห่งวิชาการ” เพราะตามประวัติศาสตร์เขาคือผู้มีความปราดเปรื่องคนหนึ่ง ซึ่งทั่วญี่ปุ่นมีศาลเจ้าหลายแห่งที่สร้างอุทิศเพื่อเขา แต่ Kitano Tenmangu Shrine แห่งนี้เป็นสถานที่ต้นกำเนิด และเพราะเป็นเทพเจ้าแห่งวิชาการ นักเรียนมักอธิษฐานขอให้สอบผ่าน และผู้ที่ต้องการพัฒนาความสามารถก็มาที่นี่เพื่อขอพร เรียกได้ว่าโด่งดังเรื่องวิชาการ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นมักแวะเวียนมาสักการะตั้งแต่โบราณ
นอกจากนี้ศาลเจ้าเทนมังกุยังโด่งดังในฐานะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีและจุดชมดอกบ๊วยอีกด้วย อีกทั้งความงามของสวนภายในศาลเจ้านั้นก็เป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเกียวโตที่ไม่ควรพลาด สำหรับใครที่สนใจเที่ยวที่นี่ วันนี้ Chill Chill Japan ได้รวบรวมข้อมูลเที่ยว ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกุ แบบจัดเต็ม เที่ยวยังไง เดินทางแบบไหน ไปเมื่อไหร่ดี มาดูกัน
พิกัด Tenmangu Shrine
ที่อยู่ | Bakurocho, Kamigyo, Kyoto, 602-8386 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสเมืองเกียวโตสาย 50 35 นาที จากสถานีเจอาร์เกียวโต เดิน 7 นาที จากสถานี Kitanohakubaicho Station |
เวลาทำการ | 07:00น.–17:00 น. |
ราคา | เข้าศาลเจ้าฟรี (มีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นเช่น สวน) |
Website | kitanotenmangu.or.jp |
Odoi historic landmark ชมใบไม้เปลี่ยนสี ในอุทยานประวัติศาสตร์
นอกจากมนต์ขลังของศาลเจ้า แลนด์มาร์คที่สำคัญของศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกุก็คืออุทยานประวัติศาสตร์ โอโดอิ ที่มีส่วนที่หลงเหลือของ “โอโดอิ” ป้อมปราการดินเผาที่สร้างโดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ซึ่งเป็นจุดชมใบไม้แดงอันตับต้นๆ ของเกียวโต เพราะในอุทยานแห่งนี้มีต้นเมเปิ้ลกว่า 300 ต้นที่จะเปลี่ยนสีแสดงความงดงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ชมความงดงามของเมเปิ้ลที่บานสะพรั่งได้ทั้งกลางวัน และตื่นตากับงานประดับไฟช่วงกลางคืน ขับให้บรรยากาศเปี่ยมมนต์ขลังงดงามเกินคำบรรยาย นอกจากนี้บริเวณโดยรอบศาลเจ้าก็ยังมีเมเปิ้ลที่พร้อมอวดโฉม เข้ากับสถาปัตยกรรมเก่าแก่อย่างลงตัว
การเข้าชมส่วนอุทยานนั้นต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งนอกจากจะได้ชมความงามของใบไม้แดงแล้ว ยังมีขนมและชาให้นั่งจิบชมเพลินๆ ด้วย
ช่วงเวลาชมใบไม้แดง ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
เปิดทำการ 9.00 น. – 20.00 น. (แผนกต้อนรับปิดทำการเวลา 19.30 น.)
ประดับไฟตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึง 20.00 น.
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,200 เยน เด็ก 600 เยน *มีขนมและชาเสิร์ฟค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมนอกฤดูใบไม่ร่วง ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน
ไฮไลท์อื่นๆ ของศาลเจ้า
นอกจากการชมใบไม้แดง ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เรียกได้สามารถท่องเที่ยว เยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี ซึ่งแต่ละปีก็มีความงดงาม น่าสนใจแตกต่างกัน มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีศาลเจ้าย่อยๆ รายล้อมศาลเจ้าหลักอลังการมากๆ
กรีนเมเปิ้ล
หรือหากมาเที่ยวช่วงเวลาอื่น กรีนเมเปิ้ลตัดกับสีแดงของสะพานก็เป็นซิกเนเจอร์ที่โดดเด่นของที่นี่เช่นเดียวกัน ชมความงามได้ ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนมิถุนายน
ค่าเข้าชม Odoi historic landmark ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน
ขอพรเรื่องการเรียน การสอบ
สำหรับสายมู ล้อมวงเข้ามา ขอบอกว่าที่นี่มีทีเด็ดสำหรับใครที่กำลังจะสอบเข้า สมัครเรียน สอบเข้าทำงานใดๆ ศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อมากๆ เพราะ เทพประจำศาลเจ้าเป็นสายวิชาการ ดังนั้นเครื่องรางที่นี่ว่ากันมาเด็ด มีให้เลือกหลายแบบ ส่วนใครที่ต้องทำข้อสอบ ซื้อดินสอลงอาคมไปฝนเพื่อสร้างกำลังใจกัน
หรือถ้าใครอยากเขียนอธิฐานใส่แผ่นไม้ หรือเสี่ยงเซียมซีก็มีให้เลือกนะ ถ้ามีแพลนจะสอบใดๆ มาถึงที่แล้วก็อย่าพลาดการมู
รายการเครื่องราง (ภาษาญี่ปุ่น)
ชมดอกบ๊วยชมพูสดใส
นอกจากใบเมเปิ้ลสีแดงสด Tenmangu Shrine ยังขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมดอกบ๊วยที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของเกียวโต เพราะมีต้นบ๊วยผลิบานอยู่รอบๆ ศาลเจ้า สดใจตัดกับความเคร่งขรึมของสถานที่ ให้ความรู้สึกโรแมนติก
ในบริเวณสวนที่จัดอย่างงดงามมีต้นบ๊วยกว่าพันต้นจาก 50 สายพันธุ์อวดความงดงามให้คุณชมพร้อมกินขนมจิบชาสุขใจ หากตรงช่วงเทศกาลปลายเดือนกุมภาพันธ์จะมีพิธีชงชาโดยไมโกะให้ชมด้วย
ช่วงเวลาแนะนำ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนมีนาคม
เวลาเข้าชม 9:00-16:00 น. (รับรอบสุดท้าย 15:40 น.)
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,200 เยน เด็ก 600 เยน *มีขนมและชาเสิร์ฟ
ตลาดนัด
25 ของทุกเดือน มีตลาดริมถนนที่เรียกว่า “เทศกาลเท็นจินซัง” ซึ่งจัดขึ้นภายในบริเวณศาลเจ้าและด้านนอก พื้นที่ คุณสามารถซื้ออาหาร จิปาถะ เสื้อผ้ามือสอง และเครื่องมือใช้แล้วได้ที่แผงขายของที่นี่ ตลาดจะคึกคักตั้งแต่เช้าตรู่เวลา 6.00 น. ถึงพระอาทิตย์ตก โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
Houmotsuden (พิพิธภัณฑ์ศาลเจ้า)
นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อพันปีก่อน ราชวงศ์ ตลอดจนขุนนาง ซามูไร และพ่อค้าต่างมาสักการะที่นี่
มีสมบัติมากมายที่ได้รับการเสนอและเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์
มีเอกสารทางประวัติศาสตร์ ดาบ เครื่องเคลือบทอง ฉากพับ อุปกรณ์ในพิธีชงชา และงานหัตถกรรมอื่นๆ ที่มีคุณค่าทางศิลปะสูงอีกมากมายให้ได้ชม
เวลาทำการ 9:00-16:00 น. วันที่ 25 ของทุกเดือน
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,000 เยน
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ศาลเจ้าฮิระโนะ (Hirano Shrine)
ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano Shrine,平野神社) อันโด่งดังของเกียวโตก็เป็นอีกที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะนอกจากมีความงดงามพร้อมประวัติศาสตร์อีกพันปี ที่นี่ยังเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมแห่งเกียวโต
ความโดดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความงดงาม คือเซียมซีสุดน่ารักรูปกระรอกเพราะที่นี่มีความเชื่อว่ากระรอกคือผู้ส่งสาส์นจากเทพเจ้ามาสู่มนุษย์
ดังนั้นการเสี่ยงทายเจ้ากระรอกที่เราถูกใจ จึงเท่ากับเป็นการเลือกสาส์นที่ส่งถึงเรา โดยมาในรูปม้วนกระดาษในหางพวงสุดน่ารัก เป็นอีกเซียมซีน่ารักที่ไม่ควรพลาด
พิกัด Hirano Shrine
ที่อยู่ | Hiranomiyamotocho, Kita, Kyoto |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Keifuku Dentetsu-Kitano Line ลงสถานี Kitanohakubaichoเดินอีก 10 นาที หรือนั่ง JR ลงสถานีรถไฟเกียวโต นั่งรถบัสเบอร์ 205 ลงหน้าศาลเจ้า |
เวลาทำการ | 6:00-17:00 น. (ช่วงดอกไม้บานปิด 22:00 น.) |
ราคา | 500 เยน |
Website | Hirano Shrine |
วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji)
วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) จังหวัดเกียวโต ในปัจจุบันเป็นอาคารไม้ที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่เนื่องจากหลังเดิมถูกไฟไหม้ โดยรักษาเอกลักษณ์ รูปแบบโครงสร้างดั้งเดิมเอาไว้ เปลี่ยนรูปแบบของหน้าต่าง เป็นอาคารไม้สามชั้น มีความสูง 12.5 เมตร ใช้เป็น shariden (舎利殿) หรือที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุ รูปแบบสถาปัตยกรรมนี้ถูกนำไปใช้กับ วัด Ginkaku-ji และ Shōkoku-ji ความโดดเด่นคือสีทองอร่ามของตัวตำหนักทองคำที่ใช้แผ่นทองคำค่อยๆ รังสรรค์เป็นความสวยงามที่ดึงดูดให้คนมาชมความงามตลอดปี
วัดคินคะคุจิ ชม วัดทองเกียวโต มรดกโลกที่คุณต้องไปเยือนสักครั้ง
วัดคินคะคุจิ หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม วัดทองเกียวโต ที่มีความโดดเด่นทั่งในด้านสถาปัตยกรรม ศิลปะของ Golden Pavilion ที่งดงามจนทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ที่นี่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน บรรยากาศรายล้อมที่สงบและภูมิทัศน์สุดแสนประทับใจ พร้อมข้อมูลการท่องเที่ยวที่ครบครัน
พิกัด วัดคินคะคุจิ
ที่อยู่ | 1 Kinkakuji-cho, Kita-ku, Kyoto 603-8361 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Arashiyama (Randen) ลงสถานี Kitanohakubaicho Station หรือ นั่งรถบัสหมายเลข 205 เป็นเวลา 9 นาที หรือเดิน 20 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 300 เยน |
Website | shokoku-ji.jp |
สรุป
ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่น เป็นจุดชมวิว และมีเรื่องราวสายมูเรียกได้ว่า Tenmangu Shrine ตอบโจทย์มากๆ เป็นหนึงในมรดกโลกของเกียวโตที่ไม่ควรพลาด
15 ที่เที่ยว เกียวโต (Kyoto) มนต์เสน่ห์แห่งญี่ปุ่น ที่ไม่ควรพลาดการเช็คอิน !
EXPLANATION วันนี้เลยถือโอกาสมาบอกพิกัดเช็คอินที่เมื่อได้ไปเกียวโตแล้วต้องไปให้ได้ มีอะไรบ้างก็ตามไปดูเลยจ้า (แอบมากระซิบว่าส่วนมากเป็นที่เที่ยว เกียวโต ที่ได้รับมรดกโลกด้วยน้า)