การเดินทางมายัง Tomita Farm
นั่งรถไฟสาย Lilac-Kamui มาลงที่ Asahikawa แล้วนั่งรถสาย Furano Line มาลงที่ Naka-Furano Station
หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเดินทาง Click
Tomita Farm
ทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ อีกหนึ่งไฮไลท์จุดชมดอกไม้ที่สวยที่สุดในฮอกไกโด เบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ท่ามกลางธรรมชาติภูเขา ซึ่งที่นี่มีประวัติมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี ภายในฟาร์มนั้นมีสถานที่ท่องให้เราแวะเที่ยวชม ชิมลิ้มลองอาหารหรือขนมที่ทำจากฟาร์ม รวมไปถึงพิธภัณฑ์ต่างๆ อีกด้วย ถ้ายังไม่เห็นภาพเราจะอธิบายเป็นตัวเลขแทน คือที่นี่มีสวนดอกไม้ทั้งหมด 13 สวน และยังมีสถานที่ให้เที่ยวชม ทำกิจกรรม หรือรับประทานอาหารถึง 14 ที่ด้วยกัน จะเป็นอย่างไรบ้างน้า ไปดูกันเลย
ทุ่งดอกไม้ต่างๆ
Hanabito Field
ทุ่งดอกไม้ที่อยู่บริเวณด้านหน้าสุดของฟาร์ม ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นจุดรับแขก มีดอกไม้หลากหลายชนิดหลากหลายสีสันให้ชม โดยด้านข้างก็จะมีคาเฟ่ให้เราซื้อขนรับประทานพร้อมชมวิวทุ่งดอกไม้ด้วยล่ะ
ช่วงเวลาดอกไม้บาน กลางเดือนเมษายน ถึง ต้นเดือนตุลาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด ต้นเดือนกรกฎาคม ถึง ปลายเดือนกันยายน
Sakiwai Field
ตั้งอยู่ใจกลางของ Tomita Farm โดยสวนนี้จะประกอบไปด้วย ดอกลาเวนเดอร์หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งมีถึง 4 สายพันธุ์คือ Okamurasaki, Hanamoiwa และ Noshi Hayazaki ทำให้สวนแห่งเต็มไปด้วยสีม่วงของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ นอกจากนี้สวนนี้ยังได้รับชื่อว่า สวนแห่งความสุขอีกด้วย
ช่วงเวลาดอกไม้บาน ปลายเดือนมิถุนายน ถึง ต้นเดือนสิงหาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด ต้นเดือนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
Irodori Field
เป็นส่วนที่โด่งดังที่สุดของ Tomita Farm นั่นก็คือทุ่งดอกไม้สีรุ้ง จะประกอบไปด้วยดอกไม้ต่างๆ ดังนี้ purple lavender, white baby’s breath, red poppies, pink garden catchflies และ orange California poppies. เป็นทุ่งดอกไม้สีรุ้งขนาดใหญ่ที่พาดผ่านไปบนเนินเขาอย่างสวยงาม
ช่วงเวลาดอกไม้บาน ต้นเดือนไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด กลางเดือนกรกฎาคม ถึง ปลายเดือนกรกฎาคม
Traditional Lavender Field
จุดเริ่มต้นของ Tomita Farm อยู่ตรงนี้ ที่แห่งนี้เป็นจุดที่ Tomita Farm เริ่มทำการปลูกดอกลาเวนเดอร์ครั้งแรกและยังเป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เมื่อตรงนี้เราจะเห็นดอกลาเวนเดอร์ที่ถูกปลูกไปตามเนินเขาราวกับเป็นพรมสีม่วงขนาดใหญ่รับกับวิวที่สวยงาม
ช่วงเวลาดอกไม้บาน ปลายเดือนมิถุนายน ถึง ต้นเดือนสิงหาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด ต้นเดือนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
Spring Field
ทุ่งดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิ โดยที่ทุ่งนี้จะประกอบไปด้วยดอกไม้ดังนี้ Iceland poppies, oriental poppies, chives และ perennials โดยทุ่งแห่งนี้จะเบ่งตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงต้นฤดูร้อนเลย ข้อดีของสวนนี้ก็คือเราสามารถชมทุ่งดอกไม้ไปพร้อมกับหิมะที่ยังหลงเหลืออยู่บนยอดเขา Tokachi อีกด้วย
ช่วงเวลาดอกไม้บาน กลางเดือนพฤษภาคม ถึง ปลายเดือนมิถุนายน
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด ต้นเดือนไปจนถึงกลางเดือนมิถุนายน
Autumn Field
ทุ่งดอกไม้ฤดูใบไม้ร่วง เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึงท้องฟ้าจะดูโปร่งใส สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูร้อน ที่ทุ่งนี้จะได้กลิ่นโชยตามลงของดอกกุหลาบญี่ปุ่นที่อยู่ในสวนด้านข้างอีกด้วยล่ะ โรแมนติดสุดๆ
ช่วงเวลาดอกไม้บาน ต้นเดือนมิถุนายน ถึง ต้นเดือนตุลาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด ต้นเดือนมิถุนายน ถึง ปลายเดือนกันยายน
Forest Field
ทุ่งดอกป๊อปปี้ ด้านข้างวิวป่าสวยงาม ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสีสนที่น่าไปอย่างมาก เพราะหากเรามีที่ทุ่งนี้เราจะได้เข้าถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง เสมือนเดินเข้าไปในป่าแล้วเจอกับทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่สีสันสดสวย บริเวณด้านข้างของทุ่งดอกไม้เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีเรียงรายราวกับป่าเลยล่ะ
ช่วงเวลาดอกไม้บาน ต้นเดือนไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด กลางเดือนกรกฎาคม ถึง ปลายเดือนกรกฎาคม
Hanabito Garden
สวนนี้จะตั้งอยู่บริเวณหน้า Hanabito House โดยจะมีพืชพรรณดอกไม้ปลูกไว้ถึง 120ชนิด ให้บรรยากาศแบบบ้านยุโรป อบอวลไปด้วยกินหอมของดอกไม้นานาพรรณ
ช่วงเวลาดอกไม้บาน กลางเดือนพฤษภาคม ถึง ต้นเดือนตุลาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด ต้นเดือนมิถุนายน ถึง ปลายเดือนสิงหาคม
Greenhouse
เรือนกระจก อีกหนึ่งสถานี่ชมดอกลาเวนเดอร์ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะไม่ตรงฤดูเพราะมีให้ดูเกือบจะตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วงฤดูร้อนเท่านั้น โดยจะเป็นลาเวนเดอร์สายพันธุ์ Noshi Hayazaki lavender และเมื่อเรามองไปด้านนอกของเรือนกระจก เราก็จะเห็นกับทุ่งดอกไม้สวยงามที่อยู่ด้านนอกเรือนกระจกด้วย
เวลาทำการเรือนกระจก
ช่วงเวลา: ปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม 8:30 – 18:00
ช่วงเวลา: พฤษภาคม ถึงกลางเดือนมิถุนายน และ ปลายเดือนสิงหาคม ถึง กันยายน 9:00 – 17:00
ช่วงเวลา: ธันวาคม ถึง ต้นเดือนเมษายน 10:00 – 16:30
ช่วงเวลา: กลางเดือนเมษายน ถึง ปลายเดือนเมษายน และ ตุลาคม ถึง พฤศจิกายน 9:30 – 16:30
Mother’s Garden
สวนคุณแม่ สวนนี้เป็นสวนที่คุณยายเจ้าของ Tomita ทำเอาไว้ โดยในทุกๆ วัน คุณยายจะออกมาดูแลสวนด้วยตัวเอง ปัจจุบันคุณยายเสียไปได้ 10 ปีแล้ว แต่พืชพรรณของสวนนี้ยังคงเบ่งบานสวยสดอยู่ตลอด
ช่วงเวลาดอกไม้บาน กลางเดือนเมษายน ถึง ต้นเดือนตุลาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด กลางเดือนมิถุนายน
Lavender Forest Field
อย่างที่เรารู้ๆกันว่าที่นี่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับทุ่งลาเวนเดอร์อย่างมาก เพราะงั้นที่นี่เลยมีทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่อยู่หลายที่ รวมถึงที่นี่ด้วย โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น สายพันธุ์ Okamurasaki จะอยู่ทางขวามือ และ Noshi Hayazaki จะอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณตีนเขา และยังมีวิวของป่าอยู่ด้านหลังอีกด้วย
ช่วงเวลาดอกไม้บาน ปลายเดือนมิถุนายน ถึง ต้นเดือนสิงหาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด ต้นเดือนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
Hilltop Field
ทุ่งนี้พึ่งเปิดใหม่ในปี 2017 โดยประกอบไปด้วยดอกป๊อปปี้สีขาว แดง ชมพู และสีอื่นๆ ซึ่งทุ่งนี้จะตั้งอยู่ที่เนินเขาเช่นกัน
ช่วงเวลาดอกไม้บาน ต้นเดือนไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม
ช่วงเวลาที่ดอกไม้สวยที่สุด กลางเดือนไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม
White Birch Forest
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด ตรงนี้เป็นเสมือนป่าที่มีต้นไม้ถึง 200 ต้น แต่ความสวยงามจะอยู่ที่ใบไม้สีทองตัดกับลำต้นสีขาวอย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งจุดที่สวยงามราวกับภาพศิลปะเลยทีเดียว
ช่วงเวลาชมสวยที่สุด ปลายพฤษภาคม จนถึง ปลายกันยายน
อาคารต่างๆ ใน Tomita Farm
Hanabito House
ตรงจุดนี้เป็นเสมือนห้องรับแขกของ Tomita Farm โดยด้านหน้าของอาคารจะเป็นสวน Hanabito และด้านหลังเป็น ทุ่ง Hanabito ที่นี่เราสามารถแวะซื้อชากาแฟ หรือจะซื้อไอศครีมลาเวนเดอร์ ซื้อของฝากได้ นอกจานี้ที่อาคารนี้ก็ยังมี Tadao Tomita Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เรื่องราวของเจ้าของทุ่งลาเวนเดอร์แห่งนี้นั่นเอง
เวลาทำการ และ Facility
Dried Flower House
บ้านดอกไม้แห้ง ถูกทำขึ้นมาโดยนักจัดดอกไม้ชาวดัชถูกประดับตกแต่งออกมาสวยราวกับนิยาย ด้วยสีสันสดใสของดอกไม้ที่ถูกประดับจนทั่วรับกับแสงสีส้มออกมาบรรยากาศโรแมนติก ราวกับงานศิลปะในภาพวาด ที่เราต้องมาชมผลงานให้ได้สักครั้ง
เวลาทำการ และ Facility
Gallery Fleur
ห้องแสดงภาพดอกไม้ หากคุณชอบถ่ายภาพ หรือชมภาพถ่ายสวยๆ ควรมาที่นี่ เพราะเขารวมภาพดอกไม้ภายในฟาร์มโทมิตะนั่นเอง โดยสามารถเข้าชมได้ทั้งปี ใครที่ชอบเสพย์งานศิลป์สามารถมานั่งชิลๆ ได้ที่นี่เลย
เวลาทำการ และ Facility
Perfume Workshop
จุดนี้เป็นจุดที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเราสามารถซื้อของฝากหอมๆ ได้จากที่นี่ สำหรับใครที่ชอบเครื่องหอมแนะนำจุดนี้น่าสนใจมากๆ โดยวัตถุดิบที่นำมาทำก็ได้จากฟาร์มโทมิตะแห่งนี้
เวลาทำการ และ Facility
Proche House
ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ จากดอกไม้ โดยร้านนี้จะตั้งอยู่บริเวณโรงกลั้นน้ำหอม และด้านหน้าเป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์
เวลาทำการ และ Facility
Potpourri House
หากเที่ยวกันจนหิวแล้วแวะมาทานอาหารที่นี่ โดยที่นี่ถูกล้อมรอบไปด้วยวิวสวยๆ ของทุ่ง Sakiwai มีเทือกเขา Tokachi เป็นฉากหลัง ซึ่งที่นี่จะมีทั้งอาหารคาวให้เลือกทานและยังมาคาเฟ่ให้จิบกาแฟพร้อมกับทานไอศครีมลาเวนเดอร์รสนุ่ม
เวลาทำการ และ Facility
Sakiwai Trail
จุดพักแห่งนี้เราสามารถเดินเล่น และชมวิวของทุ่ง Sakiwai โดยสามารถพักทานไอศครีม จิปกาแฟ หรือจะกินเมล่อน แล้วซื้อของฝากก็ได้เช่นกัน
เวลาทำการ และ Facility
Flower House
ด้านหน้าของร้านนี้จะเป็นทุ่งสีรุ้งขนาดใหญ่ เราามารถแวะทานเครื่องดื่มพร้อมเมล่อนอร่อยๆ หรือจะทานเมล่อนปังที่ก็มีเช่นกัน
เวลาทำการ และ Facility
Poppy House
ตรงจุดนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ซื้อของฝาก และทานไอศครีมลาเวนเดอร์ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย แต่อีกหนึ่งความพิเศษที่เราควรเดินทางตรงนี้เลยก็คือมีดอกลาเวอร์เดอร์ขายอยู่ตรงนี้ด้วยล่ะ กำละ 150 เยนเท่านั้น
เวลาทำการ และ Facility
Forest House
Cr: Tomita Farm
ร้านขายของฝากวิวป่า หากเราเดินผ่าน Poppy House ไปทางด้านหลังก็จะเจอกับร้านนี้ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าและทุ่งลาเวนเดอร์ โดยจุดนี้เราสามารถใช้เวลาในการเดินเล่น ทานอาหารแบบสงบๆ ทานเครื่องดื่มหรือจะทานของหวานก็ได้เช่นกัน
เวลาทำการ และ Facility
Distillery Workshop
Cr: Tomita Farm
ที่นี่เราสามารถเรียนรู้การผลิตน้ำมันหอมจากดอกลาเวนเดอร์ได้ สำหรับใครที่ชื่นชอบเครื่องหอมต่างๆ จุดนี้เป็นจุดที่น่าสนใจ และเรายังสามารถซื้อของฝากกลับบ้านได้อีกด้วย
เวลาทำการ และ Facility
Rapport House
สำหรับใครที่กำลังอยากได้ของฝากข้องคนท้องถิ่นฟุราโน่อยู่ล่ะก็ที่นี่ก็มีของฝากที่หาได้เฉพาะที่จากคนท้องถิ่นเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีของฝากของฟาร์มโทมิตะขายด้วย และเราสามารถทานไอศครีมลาเวนเดอร์สูตรดั้งเดิมได้ที่นี่อีกด้วย
เวลาทำการ และ Facility
Sakiwai House
เป็นอีกจุดที่เราสามารถมารับพลังธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ฟังเสียงลมที่ไหลผ่านไปท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่ หอมหวนกลิ่นลาเวอเดอร์
Arbre House
ที่สุดท้ายนี้ก็ยังเป็นร้านขายของที่ระลึก และเรายังสามารถทานไอศครีมลาเวนเดอร์ที่นี่อีกด้วย
เวลาทำการ และ Facility
เอาใจสายหวานกันสักหน่อย โดยที่นี่มีคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณถึง 3 ที่ด้วยกัน
Cafe
Potpourri House
ตรงคาเฟ่นี้นอกจากของหวานแล้วยังมีวิวภูเขาใหญ่โตอยู่เบื้องหน้า กว้างใหญ่สวยงามมากๆ
เวลาทำการ
Café René
มองหาร้านทานอาหารก็แวะมาที่นี่เลย บรรยากาศสบายๆ ของร้านทำให้เราสามารถเพลินเพลิดกับอาหารได้อย่างเต็มที่ โดยร้านนี้ตั้งอยู่ข้างๆ Hanabito House
เวลาทำการ
Hanabito House René
ที่นี่ก็เป็นอีกร้านบรรยากาศสบายๆ สำหรับใครที่กลัวว่าคนจะแน่นร้านก็เลือกร้านที่อยากไปนั่งได้เลยล่ะ มีครบที่รสที่ต้องการกันเลย
เวลาทำการ
สำหรับสายหวานอยากรู้ว่ามีขอหวานอะไรบ้าง ดูที่นี่เลย ดูที่นี่เลย
Lavender Bus
สำหรับใครที่ไม่อยากเดิน ฟาร์มโทมิตะมันกว๊างกว้าง ก็มานี่เลยนั่งรถบัสลาเวนเดอร์ทัวร์กันเถอะ
ค่าใช้จ่ายและเวลาการบริการ
Tomita Farm
ที่อยู่ | Kisen Kita 15, Nakafurano, Sorachi, Hokkaido 071-0704 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจาก Sapporo สาย Lilac-Kamui มาลงที่ Asahikawa แล้วนั่งรถสาย Furano Line มาลงที่ Naka-Furano Station |
Website | Tomita Farm |
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างก้บ Tomita Farm ฟาร์มลาเวนเดอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่ชื่นชอบดอกไม้ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาที่นี่ และหากใครที่คิดว่าที่นี่เล็กหรือกลัวไปไม่คุ้มเวลา เราขอบอกเลยว่าฟาร์มนี้กว้างมากๆ เราอาจจะใช้เวลาหมดไปเป็นวันๆ ที่นี่เลยก็ว่าได้ และหากไปที่นี่ก็อย่าลืมชิมไอศครีมลาเวนเดอร์ของเด็ดแห่ง Tomita Farm กันด้วยล่ะ
สำหรับใครที่ยังอยากหาที่เที่ยวอื่นๆ ในฮอกไกโด ไปดูกันเลย
บทความท่องเที่ยวฮอกไกโดที่เกี่ยวข้อง
10 ที่เที่ยวฮอกไกโด สุดฟินอินหน้าหนาว เที่ยวเพลินหนีร้อนจากเมืองไทย ไปซบฮอกไกโด
ที่เที่ยวฮอกไกโด 10 แลนด์มาร์ก สวยตะลึง น่าตะลุย
ถ้าพูดถึงฮอกไกโดหลายๆ คนคงนึกถึงสภาพอากาศที่เย็นจนสุดขั้วหัวใจแน่นอน แถมยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและสถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนจะธรรมชาติ ทั้งภูเขา น้ำพุร้อน หรือกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่าง การเล่นสกี ก็มีให้เลือกหลายระดับ และไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายกายและสบายใจ เพราะอากาศดีสุดๆ