ทะเลสาบชิโคะทสึ : ชมปราสาทน้ำแข็งตระการตา
เทศกาลน้ำแข็งทะเลสาบชิโคะทสึ แห่งเมืองจิโตะเซะ (Chitose – Lake Shikotsu Ice Festival) จะจัดช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่บริเวณทะเลสาบชิโคะทสึ (Shikotsu) ถือเป็นเทศการเฉลิมฉลองฤดูหนาวหนึ่งที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโด โดยพื้นที่รายรอบกลายเป็นดั่งเมืองหิมะอันมีปราสาทหิมะตั้งเรียงรายโดยรอบ พร้อมทะเลสาปสีฟ้าอันงดงามเป็นฉากหลัง เรียกได้ว่าเห็นเป็นต้องตะลึง
มาเที่ยวตอนกลางวันว่าเด็ดดวง ตั้งแต่ประมาณห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ปราสาทหิมะจะมีไฟหลากสีตกแต่งให้ได้ความงดงามอีกรูปแบบท่ามกลางหมู่ดาว บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกทีเดียว
ตื่นตาตื่นใจกับการจัดแสดงอาคาร และประติมากรรมแกะสลักจากน้ำแข็งหลากหลายขนาด นอกจากนั้นภายในแต่ละที่ก็มีลูกเล่นที่แตกต่าง เช่นปลาที่ถูกหยุดเวลาไว้ในก้อนน้ำแข็ง หรือปราสาทน้ำแข็งมรกต และถ้าโชคดีอาจได้เห็น การแต่งงานในปราสาทน้ำแข็ง (Ice Weddings) ทั้งยังมี การแข่งขันการตัดน้ำแข็ง การแสดงดอกไม้ไฟและการเฉลิมฉลองต่าง ๆ อีกมากมาย
อีกสิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับที่นี่คือการแช่น้ำร้อนจากบ่อคุณภาพที่ ใช้บริการได้หลายที่ ทั้งโรงแรมที่รายล้อม และบ่อน้ำแร่ที่ให้บริการ รับรองว่าฟินสุด เทศกาลนี้จัดเป็นที่ เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ควรมาซักครั้งในชีวิต
เทศกาลน้ำแข็งทะเลสาบชิโคะทสึ
ที่อยู่ | Chitose station plaza second floor 1789-3 , 7-, Chiyoda, Chitose Hokkaido |
---|---|
ระยะเวลาจัดงาน | 27 มกราคม 2017 (ศุกร์) ถึง 19 กุมภาพันธ์ 2017 (วันอาทิตย์) |
วิธีเดินทาง | โดยรถประจำทาง จากสนามบิน New-Chitose Airport มีรถประจำทาง 4-6 เที่ยวต่อวัน (1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 1030 เยน/เที่ยวเดียว) ไปถึง Shikotsuko Kohan หรือ โดยรถแท็กซี่จากสนามบิน New Chitose ประมาณ 40 นาที (ค่าธรรมเนียมประมาณ 7,000 เยน) |
เวลาทำการ | เวลาเปิดทำการ 9: 00 – 22: 00 น. เวลาเปิดไฟ เริ่ม 16:30-22:00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | เทศกาลน้ำแข็งที่ทะเลสาบชิโคะทสึ |
โกดังอิฐแดงคะเนะโมริ : ผสานวัฒนธรรมสุดโรแมนติก
เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ต้องไม่พลาด โกดังอิฐแดงคะเนะโมริ (金森赤レンガ倉庫/kanemori red brick warehouse) แห่งเมืองฮาโกดาเตะ ด้วยความที่เมืองท่าแห่งนี้เป็นเมืองที่ผสานระหว่างความเป็นตะวันตก และวัฒนธรรมญี่ปุ่นสมัยเมจิ โกดังแห่งนี้จึงดูเหมือนตั้งอยู่ในยุโรป ยิ่งมีปุยขาวๆ ของหิมะอยู่รายรอบ ยิ่งขับบรรยากาศให้งดงามขึ้นอีก
ซึ่งในเวลากลางคืนจะมีการเปิดไฟทำให้ยิ่งได้บรรยากาศ นอกจากจะได้พบบรรยากาศสุดโรแมนติก ได้เดินเล่น ถ่ายรูปกับโกดังสองฝั่งคลอง มีภูเขาสวยเป็นแบล็คกราวน์แล้ว เจ้าโกดังสีแดงนี่เองที่เป็นที่ตั้งพิพิธภันฑ์ และร้านรวงมากมายให้ท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม แป๊ปๆ ก็หมดวันไม่รู้ตัว
หรือจะนั่งเรือ blue moon ชมความงามก็ตราตรึงกันเลยล่ะ
โกดังอิฐแดงคะเนะโมริ
ที่อยู่ | 14-12 Suehiro-cho Hakodate Hokkaido |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Hakodate Line, Hokuto หรือ South Hokkaido Railway มาลงสถานี Hakodateแล้วนั่งรถรางมาลงสถานี Jujigaiเดินอีก 5 นาที |
เวลาทำการ | 9.30-19.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | โกดังอิฐแดงคะเนะโมริ |
คลองโอตารุ : มนตร์เสน่ห์ดั่งภาพฝัน
เป็นสถานที่สุดโรแมนติกในทุกฤดูกาลสำหรับคลองโอตารุ ซึ่งคลองแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1923 เดิมเป็นคลองที่ใช้เทียบเรือ และขนส่งสินค้า จนมาถึงปัจจุบันได้รับการดัดแปลงเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภันฑ์ โดยรอบซึ่งตกแต่งจากโกดังเก็บสินค้าเก่านั่นเอง
เมื่อมา เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ที่คลองโอตารุจะพบว่าหิมะได้ขับบรรยากาศให้งดงามราวกับอยู่ที่ยุโรป ยิ่งมีโกดัง และสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปผสมผสานไว้อย่างลงตัว จึงเกิดภาพประทับใจขึ้น นอกจากนี้ ในฤดูหนาวยังมีเทศกาล Otaru Snow Light Path Festival โดยบริเวณริมคลองจะประดับประดาไปด้วยเหล่า งานปั้นหิมะเป็นประติมากรรมงดงามพร้อมจุดไฟประดับ และทั่วทั้งเมืองจะประดับไฟสวยงาม ให้กลางคืนสว่างไสวทีเดียว
https://www.flickr.com/photos/stephen-oung/6081149617/
Cr: SteFou!
นับเป็นที่เที่ยวฤดูหนาวที่ไม่ควรพลาดทีเดียว สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูที่บทความนี้ได้เลย
เทศกาลฤดูหนาวสุดโรแมนติกแห่งเมือง โอตารุ
ประเทศญี่ปุ่นช่วงหน้าหนาวนั้นมีงานเทศกาลที่น่าสนใจอยู่หลายที่ วันนี้ขอพาทุกคนไปเดินชม เทศกาลฤดูหนาว ข้างคลองสายเล็ก ๆ ในเมืองท่าเรือที่มีร้านรวงสวยงามและบรรยากาศโรแมนติกกว่าใคร กุมมือคนข้าง ๆ เอาไว้แล้วตามเรามายังงานเทศกาลฤดูหนาวแห่ง โอตารุ (Otaru) เมืองที่โรแมนติกที่สุดในเกาะฮอกไกโด
คลองโอตารุ
ที่อยู่ | Otaru, Hokkaido Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Hakodate Line หรือสาย Rapid Airport มาลงสถานี Otaru ข้ามถนนแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 700 เมตร จะถึงคลองโดยมีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอยู่ซ้ายมือที่หัวมุมถนน |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | คลองโอตารุ |
พิพิธภัณฑ์หิมะและน้ำแข็งคามิคาวะ : เปิดประสบการณ์สุดสนุก
พิพิธภัณฑ์หิมะและน้ำแข็งคามิคาวะ หรือ Hokkaido Ice pavilion คือพิพิธภัณฑ์น้ำแข็งคริสตัลขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองคามิคาวะ
คุณจะได้สัมผัสโลกของน้ำแข็งท่ามกลางอุณหภูมิต่ำถึง-20 ถึง -41 องศาเซลเซียส เนรมิตบรรยากาศดินแดนน้ำแข็ง เช่น ถ้ำสุดอลังการ พร้อมแสงสี รวมทั้งการจัดแสดงแกลลอรี่ใต้ดินจัดแสดงงานจากน้ำแข็ง อุโมงค์ประดับไฟ บาร์โต๊ะเก้าอี้ที่ทำจากน้ำแข็ง
พร้อมร่วมเล่นกิจกรรมสนุกๆ เกี่ยวกับหิมะได้เสมือนจริง จนลืมแดนหิมะที่ไทยไปเลย
นอกจากบรรยากาศเก๋ๆ น่าถ่ายภาพแล้วยังจัดแสดงคลิโอเนะ หรือผีเสื้อทะเล ที่หาชมยากด้วย ด้านหน้าเป็นโซนจำหน่ายของที่ระลึก สามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปีโดยทางพิพิธภัณฑ์มีบริการเสื้อกันหนาวให้เช่า แต่ถ้ามาเที่ยวฤดูหนาว ก็จะมีอีเว้นท์สนุกๆ ด้านนอก เช่น ให้เที่ยวพร้อมสาระดีๆ ด้วย
พิพิธภัณฑ์หิมะและน้ำแข็งคามิคาวะ
ที่อยู่ | 40 Sakae Kamikawa, Kamikawa, Hokkaido |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย JR Okhotsk หรือ JR Sekihoku Line ลงสถานี Kamikawa นั่งแท็กซี่อีกประมาณ 5 นาที(ค่าใช้จ่ายประมาณ 600 เยน) |
เวลาทำการ | 8:30-17:30 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1080 เยน, เด็ก 650 เยน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
Website | พิพิธภัณฑ์หิมะและน้ำแข็งคามิคาวะ |
ธารน้ำแข็งอะบาชิริ : นั่งเรือ Aurora II ตัดน้ำแข็งชมทิวทัศน์
เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ตื่นตา ด้วยการนั่งเรืือ Aurora II ชมธารน้ำแข็งอะบาชิริ (Abashiri Drift Ice) โดยการทำงานของเรือตัดน้ำแข็งผ่านทะเล ให้เห็นทิวทัศน์ทะเลน้ำแข็งสุดตระการตา
น้ำแข็งที่ปลุดคลุมเดินทางมาไกลจากขั้วโลกเหนือ นอกจากทิวทัศน์แล้วอาจจะได้เจอสัตว์ที่ดำรงชีวิตในระบบนิเวศนี้อีกด้วย
เวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวชมคือครึ่งเดือนหลังของกุมภาพันธ์ ธารน้ำแข็งแห่งนี้มีลักษณะทางภูมิศาสตร์คล้ายกันกับที่พอร์ตแลนด์(ออริกอน) และเวนิซ (อิตาลี) นอกจากทิวทัศน์สี่สวยจับตา บนเรือยังมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ ดูวิวไปจิบอะไรร้อนๆ นี่ฟินสุด โดยเรือจะออกวันละ 4-5 รอบ
ท่าเรือ Aurora II (Abashiri Port)
ที่อยู่ | Minami 3, Higashi 4-5-1, Abashiri , Hokkaido Roadside station (Ryuhyo Highway) |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟJR สาย Okhotsk, Sekihoku Line หรือ Semmo Line มาลงสถานี Abashiri นั่งรถบัส ต่อประมาณ 10 นาที ลงที่ป้าย Ryuhyo saihosen noriba (200 เยน) |
เวลาทำการ | 9.00-18.00 น. |
ราคา | คนละ 3,300 เยน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
โทรศัพท์ | 81-152-43-6000 |
Website | ท่าเรือ Aurora II |
ทะเลสาบมาชู : ทะเลสาบน้ำใสในตำนาน
ทะเลสาบมะชูตั้งอยู่ที่เมืองเทชิคางะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมรดกแห่งฮอกไกโด อันมีน้ำใสที่สุดในญี่ปุ่น โดยชาวพื้นเมืองฮอกไกโดเรียกชื่อทะเลสาบแห่งนี้อีกอย่างว่า บ่อน้ำแห่งเทพเจ้า (神の池) เป็นทะเลสาบที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก
ไคลแม็กสำหรับการไปเยือนสถานที่นี้ในฤดูหนาวนั่นคือภูมิทัศน์ที่ปรกคลุมด้วยหิมะ ยิ่งถ้าน้ำในทะเลสาปเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งด้วยแล้ว ถือเป็นการรังสรรความงดงามเสมือนอยู่ในเทพนิยายทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างโดยธรรมชาติ คือการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางธรรมชาติรับความหนาวเย็น ทั้งจากสัตว์ประจำถิ่น และสภาวะแวดล้อม นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ฤดูหนาอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
ทะเลสาปมะชู
ที่อยู่ | Teshikagagenya, Teshikaga, Kawakami Hokkaido |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR Semmo Line ลงสถานี ลงสถานี Mashu นั่งแท็กซี่อีก 15 นาที |
ราคา | เข้าชมฟรี
Kushiro Shitsugen National Park : กระเรียนมงกุฏแดงเริงระบำ
อุทยาน Kushiro Shitsugen แห่งนี้เป็น อุทยานแห่งชาติของเกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Kushiro และอุทยานแห่งชาติ Akan ตั้งขึ้นเพื่อรักษาที่ชุ่มน้ำในญี่ปุ่น
ผืนป่าของอุทยานแห่งนี้มีความสวยงามมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะมีหิมะตกไม่มากจึงเหมาะสำหรับการชมนกและธรรมชาติ และยังมีพื้นที่อนุรักษ์นกกระเรียนญี่ปุ่นที่ใกล้จะสูญพันธุ์อีกด้วย
ภายในอุทยานมีบริเวณที่ให้ความรู้เกี่ยวกับนกกระเรียนญี่ปุ่นด้วย ทั้งยังมีจุดชมวิวที่งดงาม แต่ที่เด็ดสุด ๆ คือมีพื้นที่ชมวิวที่สามารถเห็นนกกระเรียนเต้นระบำ !
บริเวณอุทยานมีอากาศอบอุ่นกำลังดีจึงมีนกกระเรียนอพยพหนีหนาวมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากฤดูหนาวเป็นช่วงผสมพันธุ์ของพวกมัน การมาชมวิวในพื้นที่ของอุทยานในช่วงนี้ทำให้เราได้เห็นการเต้นรำเกี้ยวกันเพื่อผสมพันธุ์ของนกกระเรียน
Kushiro Shitsugen National Park : อุทยานนกกระเรียนเต้นระบำ
ที่อยู่ | Yubinbango Akan, tsurui Nakasetsuri south 085-1205 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Kushiro ไปยังจุดชมวิวของอุทยานโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-16.30 น. เปิดเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคม และปิดในวันอังคารและวันพฤหัสบดีของทุกเดือน |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
โทรศัพท์ | 01-5464-2620 |
Website | city.hokkai.or.jp |
จุดชมวิวฮาโกดาเตะ : ชมเมืองมุมกว้าง
จุดชมวิวฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่บนยอดเขา ฮาโกดาเตะ สูงประมาณ 334 เมตร เป็นจุดที่ทำให้เห็นทิวทัศน์ทั้งเมืองแบบทั่วถึงและสวยงาม ทั้งส่วนที่เป็นบก และทะเล สูดอากาศบริสุทธิ์ที่ยอดเขาแบบเต็มอิ่ม เป็นไฮไลท์อีกที่ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนฮอกไกโด
โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่คุณจะได้ชมบ้านเมืองที่ปกคลุมด้วยหิมะ พร้อมทัศนียภาพสุดตระการตาโดยรอบ ขึ้นเขาสะดวกด้วยกระเช้าที่มีให้บริการ ทำให้เห็นวิวสวยระหว่างทาง ดีต่อใจจริงๆ รอจนถึงกลางคืนได้ดูไปก็สวยไปอีกแบบเลยนะ
จุดชมวิวฮาโกดาเตะ
ที่อยู่ | 19-7, Motomachi, Hakodate, Hokkaido 040-0054 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถราง จากสถานี Hakodate ลงที่สถานี Jujigai เดินต่ออีกประมาณ 10 นาที ถึงสถานีรถกระเช้า Sanroku ขึ้นกระเช้า Hakodateyama Ropeway เดินอีก 4 นาทีจะถึงยอดเขา |
เวลาทำการ | 10:00-22:00 น. ช่วงกลาง ต.ค – ปลายเม.ย. 10:00-21:00 น. |
ราคา | รถกระเช้า ไปกลับ 1,280 เยน (เที่ยวเดียว 780 เยน) *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
โทรศัพท์ | (0138) 23-3105 |
Website | Mt. HAKODATE ROPEWAY |
บ่อน้ำสีฟ้า : โทนสีฟ้าแสนงามท่ามกลางหิมะ
เราขาพาท่านไปที่เมือง Biei เพื่อชมสีฟ้าที่สวยงามของน้ำในบ่อน้ำอันเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ จนกลายเป็นความมหัศจรรย์อันงดงาม
สีฟ้าของน้ำเกิดจากการสร้างเขื่อนขึ้นทำให้น้ำทั้งหมดถูกกักไว้ไม่ให้ออกจากจะได้ป้องกันการเกิดโคลนถล่มจากภูเขาไฟ จึงเกิดอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟขึ้นทำให้สีของน้ำเป็นสีฟ้าสวยเป็นเอกลักษณ์
สีฟ้าที่เรามองเห็นจากบ่อน้ำนั้นจะสวยสดแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับจุดที่เรายืนมองและปริมาณแสงแดดที่ส่องกระทบผิวน้ำในแต่ละวัน สีของน้ำในบ่อจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ถ้าอยากเห็นบ่อน้ำเป็นสีฟ้าสดสวยที่สุดละก็แนะนำว่าให้มาชมกันในช่วงฤดูหนาว เพราะนอกจากสีฟ้าของบ่อน้ำจะสวยแล้ว ตอไม้สูงใหญ่ภายในบ่อที่ถูกหิมะโปรยจนเป็นสีขาวก็ช่วยทำให้ทิวทัศน์บริเวณบ่อน้ำแห่งนี้สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก
Blue Pond
ที่อยู่ | Shirogane, Kamikawa-gun, Biei-cho 071-0235, Hokkaido |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี Biei Station ประมาณ 23 นาที จะถึงบริเวณบ่อน้ำ |
หุบเขานรกจิโกคุดานิ : ชมแหล่งธารน้ำร้อนกลางหิมะ
จิโกคุดานิเป็นชื่อภูเขาไฟอันเป็นแหล่งกำเนิดธารน้ำร้อนที่ไหลไปทั่วเมือง Noboribetsu จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อเมืองที่มีออนเซ็นเป็นตัวขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ที่หุบเขาแห่งนี้มีธารน้ำร้อนซึ่งมีการระอุของไอน้ำซึ่งจะไหลตามแนวเขา พร้อมกลิ่นกำมะถันอันเป็นเอกลักษณ์ ใครอยากเห็นตาน้ำพุลองเดินขึ้นไปดูได้รับรองว่าตื่นตาตื่นใจ
ในช่วงฤดูหนาวก็ที่มีหิมะมาช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนหลุดมาจากเทพนิยาย น่าเที่ยวมาก ที่สำคัญรีสอร์ท และบ่อน้ำร้อนแถวนี้ มีน้ำคุณภาพดีสรรพคุณเยี่ยมที่ควรลองแช่ดูด้วย
หุบเขานรกจิโกคุดานิ (Jigokudani/Hell Valley)
ที่อยู่ | Noboribetsuonsenchō, Noboribetsu-cho,Noboribetsu-shi, 059-0551 Hokkaidō |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถๆฟ JR จากสถานี JR Sapporo มายังสถานี JR Noboribetsu จากนั้น นั่งรถบัสสาย Noboribetsu-onsen ต่อไปอีก 15 นาที เดินอีก ประมาณ 5 นาทีก็จะถึงทางเข้า Hell Valley ข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม |
เวลาทำการ | ช่วงกลางวัน |
ราคา | ฟรีค่าทำเนียม |
Website | Jigokudani |
ข้อสรุป
หิมะขาวบริสุทธิ์ยังคงรอให้คุณไปสัมผัส ยิ่งเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ล่ะก็ยิ่งฟินเลยล่ะ อย่างไรก็ตามฮอกไกโดก็ยังมีอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือน เรียกได้ว่าที่นี่สวยทุกฤดูกาล
เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว 10 ที่เที่ยวจุใจ แล้ว แต่ยังอยากไปเที่ยวเล่นหิมะ ในฮอกไกโด อย่าลืมอ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ที่เที่ยวหิมะเพิ่มเติม ในฮอกไกโด
เที่ยวแดนหิมะ ญี่ปุ่นในฮอกไกโด ฟินสุดใจ
เที่ยวฮอกไกโด เล่นหิมะญี่ปุ่น สัมผัสอากาศหนาวสุดใจตลอดปี
อ่านบทความท่องเที่ยวฮอกไกโดอื่นๆ