จากสถานีรถไฟซัปโปโร เราสามารถเดินมาถึงสถานีรถบัส Chuo Bus Sapporo Terminal ได้โดยขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Toho ตรงชานชลาที่ 1แล้วนั่งมาแค่สถานีเดียวมาลงที่ สถานี Odori ขึ้นมาทางออก North exit เดินมาไม่ไกลเลย แค่ราว 5 นาทีก็เจอบริษัทรถบัสแล้ว
ด้านในเทอร์มินอล มีเก้าอี้ให้นั่งรอ มีห้องน้ำ ร้านสะดวกซื้อเล็กๆ ตู้กดน้ำดื่ม และมีห้องเจ้าหน้าที่ที่รอให้บริการลูกค้าอยู่ เราก็รอดูตารางรถที่จะค่อยๆไล่เรียงลำดับเวลาไปเรื่อยๆ แม้จะเป็นภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ต้องกังวลเพราะเราจองตั๋วมาจากทางเน็ทเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นก็รอแค่เวลาเรียกขึ้นรถเท่านั้น ( เนื่องจากเป็นทริปเดินทางไกล ดังนั้นการขายตั๋วจึงทำล่วงหน้าเวลารถออก ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง หากใครมารอบเช้าสุด ต้องจองทางเน็ทล่วงหน้ามาเท่านั้น )
ถ้าใครมีเวลา อยากจะไปเดินเล่นสำรวจแถวนี้รอก็ได้นะ เพราะใกล้ๆสถานีรถบัส Chuo Bus Sapporo Terminal นั้น ยังมีตลาดสดแบบมีเมนูปิ้งย่าง และอาหารทะเลให้ชิมเล่นๆก่อนเวลารถออกด้วย เรียกว่ามาที่นี่แล้ว ได้อิ่มอร่อยตั้งแต่ต้นทริปเลย
ที่นี่คือ Nijo market
วันนี้ เราจะไป เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง กันที่เมือง Abashiri กัน ทันทีที่ได้เวลาขึ้นรถ เราก็นำมือถือมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู ว่าเราจองมาจากเน็ทเรียบร้อยแล้ว แบบนี้ * เพื่อความแน่นอน แนะนำให้จองล่วงหน้ามาก่อนเดินทาง
หากใครมาซื้อตั๋วด้วยตัวเองที่เจ้าหน้าที่ ก็จะได้ตั๋วกระดาษ ตอนขึ้นรถก็ต้องแสดงตั๋วให้ดูแบบนี้เช่นกัน การซื้อตั๋วรถที่เจ้าหน้าที่นั้น สามารถทำล่วงหน้าได้ 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทางจริง
เจ้าหน้าที่จะช่วยนำสัมภาระที่ใหญ่ลงเก็บใต้ท้องรถให้ หากมีสัมภาระที่เสียหายง่าย กรุณานำออกมาถือเอง เก็บรักษาหลักฐานหมายเลขที่เค้าให้มา เพื่อตอนลงรถจะได้ยื่นคืนเพื่อขอรับสัมภาระเมื่อถึงปลายทาง ขนาดสัมภาระที่รับฝากคือ
1. น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม
2. วัดขนาด ก*ย*ส รวมแล้วไม่เกิน 2 เมตร
ส่วนที่ถือขึ้นไปบนรถได้ ก็ทั่วไปคือ น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม
ภายในรถบัส ก็ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก ที่นั่งแยกใครแยกมัน มีปรับเบาะหลัง เบาะขา มีที่ชาร์จมือถือ มีที่เสียบหูฟังไว้ฟังหนังที่เค้าเปิดตอนรถออกเดินทาง
มีฟรีไวไฟ เราก็ใช้ได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและมือถือเลยนะ ทำให้การทำงานสามารถทำได้ทุกที่เลย สะดวกสบายมากๆ เราเลยใช้เวลาว่างที่มีเน็ทฟรีนี้ มาสำรวจข้อมูลที่เที่ยวฮอกไกโดตะวันออกกัน ได้ลิสต์มาตามนี้เลย
>>Explore The Wonderland -Eastern Hokkaido
สำรวจกันเยอะหน่อยเพราะว่าตื่นเต้นในการเดินทางด้วยบัสทางด่วนในครั้งนี้มาก คือการเดินทางไกลๆนั้น ในรถบัสทางด่วนญี่ปุ่นมักจะมีสลิปเปอร์เตรียมไว้ให้เสมอ เพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนเท้า มีหูฟังไว้บริการเพื่อไว้ใช้ฟังตอนที่เค้าเปิดหนังให้ชมตลอดทริป ตอนที่เรานั่งไป ได้ดูหนังฝรั่งด้วยนะ
สำรวจไปมาๆ เจอวิวข้างทางสีขาวโพลน สวยมากๆเลย และเราจะเห็นวิวแบบนี้ได้ตลอดทางเป็นระยะเวลายาวนานเลยนะ ด้วยความที่เป็นรถบัสทางด่วนทำให้เรามองเห็นวิวจากมุมสูงลงมา เห็นวิวได้เยอะขึ้น
รถจอดแวะพักที่จุดจอดบนทางด่วนหลายครั้ง เพื่อให้ผู้โดยสารได้ลงไปเข้าห้องน้ำ หรือขยับร่างกายเปลี่ยนอิริยาบท ปกติแล้วเราจะลงไปแล้วพยายามขึ้นมาให้ทันภายใน 10 นาทีจะดีกว่านะ ถ้าไม่แน่ใจเวลา ถามคนขับรถอีกที
การเดินทางไกลนั้น ต้องมีเสบียงตุนไว้เสมอ ดังนั้นก่อนที่จะขึ้นรถบัส เราเลยเตรียมเบนโตะ และน้ำดื่มมาไว้ด้วย มื้อเที่ยงของเราเป็นข้าวหน้าเนื้อที่ซื้อมาจาก Lawson ตรงใกล้สถานีรถบัสนั่นเอง ฟินมาก ทานไปชมวิวข้างทางไป
เมื่อรถบัสมาจอดเทียบที่จุดหมายปลายทาง สถานีรถบัส Abashiri Bus Terminal (網走バスターミナル)ก็ลงรถ รับสัมภาระจากนั้นก็ตรงดิ่งไปเก็บของที่โรงแรมแถวนั้นที่เราจองไว้ก่อนจะออกเที่ยวต่อไป สามารถขอให้เจ้าหน้าที่ด้านในเรียกรถแท็กซี่ให้ได้นะ
รายละเอียด Rakutoku Bus
เว็บไซต์
เว็บไซต์จองออนไลน์ ทำได้คือจองแบบขาเดียวเท่านั้น
พิกัด Chuo Bus Sapporo Terminal
พิกัด Abashiri
พิกัด Utoro
หลังจากจัดการสัมภาระเราแล้ว เราก็ออกเที่ยวต่อที่ Okhotsk Ryu-hyo Museum ที่อยู่บนเขาและเดินทางด้วยรถยนต์ก็ราว 20 นาที ซึ่งที่นี่จะมีชื่อเสียงคือ เป็นจุดชมวิวเมืองที่สวยมาก และเราจะมีประสบการณ์สัมผัสน้ำแข็งก้อนใหญ่และสัตว์ฤดูหนาวจากทะเล Okhots- ทะเลโอคอตสค์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลแปซิฟิกตะวันตก ภายในห้องที่มีอุณหภูมิที่หนาวมากๆ
ด้านบนนี้ เรียกว่า Observatory ชั้นดาดฟ้า เวลาที่เหมาะแก่การชมวิวที่จะได้เห็นแสงทไวไลท์ในยามเย็นช่วงหน้าหนาว คือราว 16.00 น. ให้ภาพบรรยายความงามแล้วกัน
อีกด้านของวิว ก็สวยงามไม่แพ้กันเลย ด้วยความที่ฮอกไกโดจะหนาวเย็นกว่าภูมิภาคอื่นก่อน ทำให้เดือนธันวาคมที่เรามานี่ ผิวของแม่น้ำมีน้ำแข็งเคลือบด้านบนบางๆแล้ว
ด้านล่าง ชั้น B1 จะเป็นห้องอุณหภูมิต่ำติดลบ แล้วให้เราพิสูจน์ความหนาวเยือกแข็งด้วยการนำผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ เอามาหมุนๆในอากาศ ไม่เกิน 5 นาที เราจะได้ผ้าขนหนูแบบจับตั้งหงายได้แบบนี้เลย ว้าว
รอบๆคือน้ำแข็งจากทะเลโอค็อตสค์ และสัตว์ที่พบเห็นได้จากแถบทะเลนี้
ร้านอาหารด้านบน Café&restaurant 360
วิวสวยมากๆ ทานอาหารไปก็มองวิวด้านนอกไปได้ด้วย เวลาให้บริการคือ
พ.ค.~ต.ค 11:00~17:00
พ.ย.~เม.ย 11:00~16:30
Okhotks Ryu Hyo Museum
ที่อยู่ | 244-3 Tentozan, Abashiri City, Hokkaido 093-0044 |
---|---|
เวลาทำการ | พฤษภาคม-ตุลาคม: 8:30 – 6:00 น./ พฤศจิกายน-เมษายน: 9:00 – 4:30 น. |
ราคา | ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 750 เยน / ม.ปลาย 640 เยน / ม.ต้น,ประถม 540 เยน |
โทรศัพท์ | +81-152-43-5951 |
Website | ryuhyokan |
จากนั้น เรามาพักผ่อนและช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองกันต่อที่ Ryuhyo-Kaido Abashiri ด้านในมีขนม อาหารแห้ง อาหารพื้นเมือง สินค้าที่ระลึก มีร้านอาหาร
ขอบอกว่า สิ่งที่แนะนำคือ เมนูนี้เลย เครื่องดื่มช็อกโกแลต แก้วละ 300 เยน อร่อยชื่นใจมาก
ออกจากที่นี่แล้ว เดินต่อสักหน่อยเดี๋ยวก็ถึงโรงแรมที่เราจองแล้ว จริงๆก็ใกล้สถานีรถบัสนั่นแหล่ะ ด้วยความที่อยู่เขตหนาว เราจะเห็นแผ่นน้ำแข็งลอยบนผิวน้ำเป็นระยะๆ
Ryuhyo-Kaido Abashiri
ที่อยู่ | Minami3jo Higashi, Abashiri-shi, Hokkaido, 093-0003 |
---|---|
เวลาทำการ | 9.00-18.00 น. |
โทรศัพท์ | 0152-67-5007 |
Website | michi-no-eki |
เมนูมื้อค่ำวันนี้ เราฝากท้องไว้ที่ Kihachi -喜八 เป็นร้านอาหารสไตล์อิซากายะ เข้าไปนั่งแล้วก็สั่งอาหารมาทานได้เลย
แน่นอนว่ามา เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง แล้วเราก็ต้องชิมปลาดิบและหอยนางรมที่ขึ้นชื่อว่าสดมากๆกันเลย อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ
Kihachi
ที่อยู่ | 3 Minamishijo-Nishi, Abashiri, Hokkaido |
---|---|
เวลาทำการ | 17.00-0.00 น. |
โทรศัพท์ | 050-5263-7232 |
Website | hitosara |
หากเรายังอยากอยู่เที่ยวที่เมือง Abashiri ตือ ก็สามารถเช็คข้อมูลท่องเที่ยวได้ที่นี่
เช้านี้ เราก็กลับมาที่สถานีรถบัสของ Abashiri Bus Terminal (網走バスターミナル)ตามเดิมเพื่อจะนั่งรถเที่ยวต่อไปยังเมือง Shiretoko ที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุกๆรอเราอยู่ ได้เวลาขึ้นรถบัสกันแล้ว
มาดูว่าเมืองนี้มีอะไรให้ทำกันบ้าง
ที่สุดแห่งวิวข้างทาง มองไปทางไหนก็เจอแต่หิมะสวยๆ ชมวิวไปก็กดชัตเตอร์รัวๆตลอดเส้นทางซ้ายขวาเลย
เมื่อถึงสถานีปลายทางคือ Utoro onsen bus terminal เมืองนี้ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแนวริมชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรชิเรโทโกะ(Shiretoko Peninsula)
ยังมีความเป็นธรรมชาติสูง ยังมีวิถีชิวิตแบบชาวประมงและกลิ่นอายของความเป็นท้องถิ่นพื้นเมืองที่เราอาจจะหลงรักที่นี่โดยไม่รู้ตัว เราพักที่นี่ kitakobushi shiretoko hotel & resort ขอบอกว่า ใหญ่มากกกก และดีที่สุดเลย ใครก็ตามที่ได้เข้ามาด้านใน จะรู้สึกทันทีว่า ที่นี่คือ หัวใจแห่งงานบริการดีมาก
มุมเวลคัมดริงค์ที่จะทำให้คุณหยุดอยู่ตรงนี้นานมาก เพื่อลองชิมน้ำหลากรสที่ทางโรงแรมสรรหามาให้แขกทุกคนได้ชิม คลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้ดีมาก
แต่เพราะเรามีเวลาเยอะ ก่อนที่จะได้เวลาเช็คอิน เราเลยได้ไปติดต่อขอบริการทัวร์ ตามล่าชมสัตว์ป่า โดยบริษัททัวร์จะมารับเราถึงโรงแรมเลย แล้วก็จัดการแจกจ่ายอุปกรณ์กล้องส่องทางไกลให้เรา
วิวระหว่างทางที่ไปปฏิบัติภารกิจนั้น เค้าจะจอดให้เราลงไปถ่ายภาพวิวสวยๆ ได้ตามที่เราต้องการและพอมีเวลา
ภารกิจเราวันนี้ คือการค้นหา กวาง สุนัขจิ้งจอก หมูป่า และหมี เดาเอาละกันว่าเราจะได้เจอครบไหมภายในเวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆนี้ และแล้วเราก็เจอกวางในป่า เราก็จอดรถแล้วนั่งดูกวางกันในรถค่ะ
จากนั้น เราก็ออกรถเพื่อตามหาสุนัขจิ้งจอกกันต่อ แล้วเราโชคดีมากที่ภารกิจลำดับที่สองสำเร็จลงด้วยดี
การเดินทางผจญภัยของเรายังไม่จบ เค้าจะแวะให้เราส่องดูนกด้วยนะ และมีอุปกรณ์มาให้อีก แต่แค่นี้ก็ทำให้ทริปรุปแบบใหม่นี้ของเรานั้น ตื่นเต้นที่สุดเลย
บริษัททัวร์ Shinra
ราคา | อยู่ที่ราวคนละ 3100 เยนขึ้นไป มีหลายคอร์สให้เลือก |
---|---|
โทรศัพท์ | 0152 – 22-5522 |
แฟกซ์ | 0152 – 22-5524 |
Website | shinra |
ก่อนจะกลับเข้ามาเช็คอินที่โรงแรมตามเวลานั้น เราก็แวบมาเดินเล่นกันที่ Utoro Shirietoku เป็นร้านค้าที่รวบรวมของฝากเมืองนี้และของฮอกไกโดไว้ ไม่ไกลจากโรงแรมเลยค่ะ ซื้อของเสร็จเดินกลับโรงแรมเลย
ด้านในมีร้านอาหาร และขายไอศครีม เครื่องดื่มด้วย ซึ่งเมนูแนะนำของที่เมืองนี้คือ แฮมเบอร์เกอร์เนื้อกวาง เรียกว่าเป็นอาหารท้องถิ่นดีกว่า
Utoro Shirietoku
ที่อยู่ | 186-8, Utoronishi, Shari-gun, Shari-cho, Hokkaido, 099-4354 |
---|---|
เวลาทำการ | 8.30 น. – 18.00น. แต่ถ้าช่วง พฤศจิกายน-เมษายน จะปิด 17.00น. |
Website | michi-no-eki |
ใกล้กันก็มี Shiretoko World Heritage Conservation Center พิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวของสัตว์ และความเป็นอยู่ของที่นี่ ว่าสัตว์ในแถบอากาศหนาวเย็นนั้น ใช้ชีวิตกันแบบไหนและมีอะไรบ้าง ที่เราจะพบเจอได้
Shiretoko World Heritage Conservation Center
เวลาทำการ | หน้าร้อน 8:30~17:30 น. / หน้าหนาว (กลางตุลาคม -กลางเมษายน) 9:00-16:30 น. |
---|---|
Website | shiretoko-whc |
แล้วเราจึงเดินกลับมาเพื่อเช็คอิน และเข้าห้อง ภายในห้องนอนที่เปิดประตูเข้ามาแล้ว แทบจะกรี๊ดให้กับความอลังการดาวล้านดวง ห้องนอนตกแต่งแบบกึ่งวินเทจผสมกับญี่ปุ่น มีเก้าอี้ไม้โยก มีเตาผิงแบบประดับ มีโซฟาขนาดใหญ่ให้นอนกลิ้งเล่น และมีเพลงคลาสสิกแบบผ่อนคลายเปิดคลอเบาๆ คือ นี่แหล่ะ คือที่พักที่ใฝ่ฝันมานาน
อาหารมื้อค่ำที่ห้องอาหารที่ใหญ่มากๆ มีเมนูต่างๆมากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลสด ทุกมุมของประเภทอาหารจะมีเชฟดูแล อร่อยทุกอย่างเลย ทานไปก็ยิ้มไป
และเราก็ตักอาหารมาเพียบ คืนนี้อิ่ม หลับฝันดีสบายใจ
เช้านี้ ตื่นมาด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ ลืมตาเบาๆไปที่กระจกที่อยู่ปลายเท้า แล้วก็ต้องรีบลุกพรวดขึ้นมา หยิบกล้องมาถ่ายรูป แล้วก็ กรี๊ดดด อีกรอบเพราะวิวที่อยู่ตรงหน้านั้น สวยเหลือเกิน และจริงๆเราสามารถใช้เวลานานๆ ได้นะ เพราะที่เมืองนี้ก็เหมือนเป็นที่พักตากอากาศเลย สงบน่าพักผ่อนมาก
KITAKOBUSHI SHIRETOKO Hotel & Resort
ที่อยู่ | 172 Utoro Higashi, Shari-cho, Shari-gun, Hokkaido |
---|---|
Website | shiretoko |
จบทริปแล้วเราก็นั่งรถบัสที่อยู่สถานี Utoro onsen bus terminal เหมือนเดิม และเราก็ซื้อตั๋วมาตั้งแต่สถานีก่อนนี้แล้ว ดังนั้นมาที่นี่คือรอขึ้นรถเลยจ้า จุดหมายปลายทางของเราคือ ซัปโปโร วิวสวยมาก เพลินจนวันกลับเลยน่ะ
ทันทีที่ถึงสถานีซัปโปโร เราก็แวะมาซื้อของใช้กันหน่อย นี่ตรงดิ่งมาที่ร้าน Creare เลย โดยเข้ามาทางโซน Paseo West แล้วเดี๋ยวเจอ
ของใช้ก็มีมากมายให้เหลือ ส่วนอาหารเสริมแบรนด์นี้ก็ยอดนิยม และหาซื้อได้แค่ตามร้านขายยาของเครือนี้เท่านั้น (Satudora) เรียกว่า ช้อปปิ้งให้ครบจบปทริปเที่ยวอย่างสมบูรณ์
Satudora Creare สถานีซัปโปโร
ที่อยู่ | 13-1F JR TOWER PASEO WEST Kita 6-jo Nishi 4-chome Kita-ku, Sapporo |
---|---|
เวลาทำการ | 8:00 – 22:00 น. (วันอาทิตย์ ปิด 21:00 น.) |
Website | satudora |
ข้อสรุป
ฮอกไกโด เป็นดินแดนที่ไม่ได้คิดฝันมาก่อนว่าจะได้มา แต่พอมาแล้ว เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง ง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะ และการเดินทางภายในเกาะนี้นั้นก็สะดวกสบายมาก โดยเฉพาะที่ครั้งนี้เราเลือกใช้บัสทางด่วนในการเดินทางไปยังเมือง Abashiri และ Shiretoko เพราะเราชอบนั่งชมวิวและได้ทำงานไปขณะเดินทางไปด้วย แถมบริการดี นั่งสบาย จองทางอินเตอร์เน็ตก็สะดวก จุดจอดรับ-ส่งบัสก็ใกล้ที่พัก ทำให้เราจัดการทริปครั้งนี้ได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
10 พิกัดที่เที่ยวฮอกไกโดฉ่ำๆ คัดมาแล้วว่าเป็นแลนมาร์กที่ต้องไป มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
ที่เที่ยวฮอกไกโด 10 แลนด์มาร์ก สวยตะลึง น่าตะลุย
ถ้าพูดถึงฮอกไกโดหลายๆ คนคงนึกถึงสภาพอากาศที่เย็นจนสุดขั้วหัวใจแน่นอน แถมยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและสถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนจะธรรมชาติ ทั้งภูเขา น้ำพุร้อน หรือกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่าง การเล่นสกี ก็มีให้เลือกหลายระดับ และไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายกายและสบายใจ เพราะอากาศดีสุดๆ