Cr: DARIN | ダーリン
โอฮาโยโกไซมัส เพื่อนๆจำได้ไหมตอนนี้เราอยู่ในตอนเที่ยวมิเอะกัน ความเดิมตอนที่แล้ว ในบทความตอนที่ 1 เราไปเที่ยว ศาลเจ้า Ise Jingu ต่อด้วยเดินเล่นและทานอาหารกลางวันที่ Okage Yokocho Ancient Street หลังจากนั่นเราก็ไปกันที่ Meoto Iwa และ Yokoyama Tenbodai ปิดท้ายวันแห่งความสุขด้วยดินเนอร์ที่โรงแรม Prime Resort Kashikojima และนอนหลับบนเตียงนุ่มๆ ในส่วนของวันที่สอง หญิงก็พาไปดูโชว์นินจา ซึ่งหลังจากนั่นหญิงค้างไว้ที่อาหารกลางวันสุดจะฟินที่ยังไม่ได้บอกเพื่อนๆว่ามันคืออะไร ใช่ไหมคะเพื่อนๆ หากเพื่อนๆคนไหนยังไม่ได้อ่าน ไปติดตามตอนที่ 1 กันก่อนได้นร้า งั้นในบทความนี้เราไปเที่ยวมิเอะกันต่อเถอะค่ะ
Kanaya (金谷):สุกิยากิเนื้ออิกะสุดละมุนลิ้น
Cr: DARIN | ダーリン
ถึงเวลาข้าวเที่ยงของเราแล้วค่ะเพื่อนๆ ข้าวมื้อนี้บอกเลยว่าเด็ดมาก เพราะหญิงจะพาไปทานเนื้อ A5 สุดแสนจะนุ่มละมุนลิ้นกัน เนื้อในวันนี้มีชื่อเรียกว่า เนื้ออิกะ
Cr: DARIN | ダーリン
ร้านคานายะ เป็นร้านเก่าแก่ที่ขายเนื้ออิกะมาเป็นระยะเวลา 100 กว่าปี ปัจจุบันคนขายเป็นรุ่นที่ 4แล้วจ้า ร้านของเขามีตำนานนะขอบอก
Cr: DARIN | ダーリン
ภายในร้านมีสองชั้น เป็นตึกยาวๆ ยาวมากจริงๆ แบ่งเป็นห้องส่วนตัวหลายๆห้อง หรือเรียกว่า โคะชิซึ (個室)แน่นอนว่าสไตล์การแต่งร้านก็แบบญี่ปุ่นเลยจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
และแล้วอาหารเชตที่เราสั่งก็มาถึงแล้วจ้า เป็นเซตผักที่น่าทานมาก ล้อเล่นนร้า ฮ่าๆ เมนูของเราเป็นสุกิยากิเนื้ออิกะชั้นดี นอกจากเมนูนี้ ก็มีสเต็ก ชาบูชาบู เนื้ออิกะย่างเนย เนื้อย่างบนตะแกรง อีกด้วย
Cr: DARIN | ダーリン
พอคุณป้าพนักงานเอามาเสิร์ฟแล้วนั่น คุณป้าจะนั่งจัดแจง นำมันของเนื้ออิกะลงไปละเลงทั่วกะทะ ให้หอมและมัน หลังจากนั่นก็ใส่เนื้อแดงๆที่มีลายขาวๆแทรกลงไปบนกะทะ ผ่านไปได้ไม่ถึงสามสี่นาที คุณป้าก็คีบมาวางไว้ในถ้วยไข่ของเรา อุ้ย อย่าได้รอช้า ทานเลยจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
ซึ่งอยากจะบอกว่า เนื้ออิกะเป็นเนื้อที่อร่อยพอๆกับเนื้อมัตสึซากะ และโด่งดังมากในระแวกนี้ สาเหตุที่พวกเราไม่ค่อยรู้จักกันเพราะเนื้อประเภทนี้มีจำนวนจำกัด เลยยังไม่ได้ถูกส่งออก มีแต่คนท้องถิ่นเท่านั่นที่จะรู้จักจ้า พอคุณป้าคีบเนื้อมาใส่ลงที่ถ้วยไข่แล้ว คุณป้าจะทำการใส่น้ำตาล มิริน และผักลงไป เพื่อทำสุกิยากิ ซึ่งต้นตำรับร้านนี้คือไม่ใส่น้ำสต๊อกจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
และหน้าตาของสุกี้ยากิก็จะออกมาประมาณนี้ คือถ้ามองรูปแล้วมีกลิ่นออกมาด้วยคงจะฟินมากๆอะค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
Kanaya (金谷):สุกิยากิเนื้ออิกะสุดละมุนลิ้น
ที่อยู่ | 434 Ueno Nonimmachi, Iga-shi, Mie Prefecture 518-0831 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Ninja Museum Igaryu เดินประมาณ 13 นาที |
เวลาทำการ | 11:00 – 20:30 น. ปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ |
ราคา |
เมนูสเต็ก(เนื้อสันนอก) 9,680 – 13,310 เยน |
โทรศัพท์ | 0595-21-0105 |
Cr: DARIN | ダーリン
ทานเนื้ออิกะนุ่มๆกันอิ่มอกอิ่มใจกันแล้ว ได้เวลาเดินทางต่อแล้วจ้า เดินจากร้านคานายะ มาที่สถานี Hirokoji station (広小路駅) เพียง 2 นาทีเท่านั่น เพื่อนั่งรถไฟกลับไปที่สถานี Iga-Kambe (伊賀神戸駅) ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ แน่นอนว่าการขึ้นรถไฟครั้งนี้ โชว์บัตร Kintetsu Rail Pass Plus ก็ขึ้นรถไฟได้เลย
Cr: DARIN | ダーリン
พอถึงสถานี Iga-Kambe (伊賀神戸) แล้ว เราก็จะนั่งรถบัสของทาง Menard Aoyama Resort ไปที่รีสอร์ทนี้กันจ้า รถบัสวิ่งทุก ๆ ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 8:35 น. – 16:35 น. พอขึ้นรถแล้วแนะนำให้นั่งหน้าค่ะ เพราะจะได้ชมวิวป่าสนชัดๆ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 35 นาที
Menard Aoyama Resort (メナード青山リゾート) : พักกายพักใจบำรุงความสวยที่ Menard Aoyama
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากนั่งรถมาเป็นเวลา 35 นาที เราก็มาถึง Menard Aoyama Resort สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งหญิงจะพาเพื่อนๆ ไปเดินเล่นถ่ายรูปที่ Herb Garden กันก่อน ชมดอกไม้สวยๆ วิวดีๆ
Cr: DARIN | ダーリン
ทางรีสอร์ทแนะนำให้เรามาชมสวนกันในช่วงเดือนพฤศจิกายน เพราะจะเป็นช่วงดอกไม้กำลังบานเต็มที่ สวนจะสวยมากเป็นพิเศษ
Cr: DARIN | ダーリン
แต่หากเพื่อนๆ อยากชมทุ่งดอกคาโมมายล์แนะนำให้มาช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน ส่วนดอกลาเวนเดอร์นั่นต้องมาในช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคมจ้า และดอกแซลเวียจะออกดอกในช่วงกลางเดือนกันยายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมากกว่าดอกไม้ภายในสวนแห่งนี้ก็มีสมุนไพรมากกว่า 300 ชนิด
Cr: DARIN | ダーリン
ชมสวนสวยๆ พร้อมกับทานซอฟท์ครีมไปด้วย ก็เป็นเรื่องที่ฟินมากๆเช่นกัน หญิงเลยอยากแนะนำซอฟท์ครีมรสดอกคาโมมายล์ ราคา 400 เยน หวานละมุนมาก หากเพื่อนๆไม่ชอบดอกคาโมมายล์ เขาก็มีซอฟท์ครีมดอกลาเวนเดอร์เหมือนกันน้า
Cr: DARIN | ダーリン
ชมดอกไม้เสร็จแล้ว เราจะขึ้นเขาไปทำกิจกรรมประดิษฐ์งานหัตถกรรมจากสมุนไพรกันที่บ้านไม้หลังนี้เลย
Cr: DARIN | ダーリン
นี้คืออุปกรณ์ที่จะใช้ทำงานหัตถกรรม Herb Craft มาเดากันค่ะ ว่าวัสดุแบบนี้จะทำอะไร หญิงจะทำเป็นมงกุฎดอกไม้จ้า
Cr: DARIN | ダーリン
การทำ Herb Craft จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ราคาเพียง 2,750 เยนเท่านั่น และจะมีคุณครูสอนและอธิบายขั้นตอนการทำ พร้อมกับทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งครูใจดีมากยิ้มแย้มแจ่มใส ช่วยหญิงทุกขั้นตอนเลย คือมันสนุกและก็ท้าทายด้วย ไม่ได้ทำง่ายๆอย่างที่คิดเลย
Cr: DARIN | ダーリン
นี้คือผลงานของหญิงครึ่งหนึ่งและของอาจารย์ครึ่งหนึ่งเองละจ้า นอกจากทำงานหัตถกรรม Herb Craft ประเภทนี้แล้ว ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายภายใน Menard Aoyama Resort
Cr: DARIN | ダーリン
ไม่ว่าจะเป็น การประดิษฐ์งานหัตถกรรมย่อส่วนจากไม้ (Miniature Craft) งานเครื่องปั่นดินเผา งานวาดรูประบายสีบนผลิตภัณฑ์เซรามิก หรือจะทำผลิตภัฑณ์เครื่องสำอางค์ เช่น โอเดอเพอร์ฟูม ลิปสติก และครีมบลัชออนก็มีจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
หรืออยากจะทำขนมปังหรือเส้นโซบะด้วยตัวเอง ทางโรงแรมก็มีจัดบริการสอน มากกว่านี้ยังมีลานตีกอล์ฟ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามเทนนิส คาราโอเกะ ออนเซน และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งราคาเข้าออนเซนนั่นอยู่ที่ 1,000 เยน แต่หากมีบัตร Kintetsu Rail Pass Plus จะสามารถเข้าออนเซนได้ในราคา 800 เยนเอง
Cr: DARIN | ダーリン
ที่สำคัญบรรยากาศที่รีสอร์ทแห่งนี้ร่มรื่น เหมาะกับการผักผ่อนเป็นอย่างมาก แค่เพียงสถานที่แห่งเดียวก็สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง หากเพื่อนๆคนไหนอยากจะค้างคืนที่นี้ หญิงก็แนะนำมาก แต่ทริปนี้หญิงขออนุญาตไปเที่ยวต่อนร้า รายละเอียดเพิ่มเติม ตามเว็บไซต์นี้เลยนะคะ menard.co.jp
Menard Aoyama Resort (メナード青山リゾート)
ที่อยู่ | 2356 Kiryu, Iga-shi, Mie Prefecture 518-0295 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากร้านอาหาร Kanaya เดินประมาณ 2 นาทีเพื่อไปขึ้นรถไฟที่สถานี Hirokoji station (広小路駅) ไปที่สถานี Iga-Kambe (伊賀神戸駅) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และนั่งรถบัสของทาง Menard Aoyama Resort ใช้เวลาประมาณ 35 นาที |
เวลาทำการ | วันธรรมดา 9:00 – 19:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ 9:00 – 18:00 น. |
โทรศัพท์ | 0595-54-1326 |
Website | menard.co.jp |
และหลังจากนี้หญิงจะพาเพื่อนๆ ไปนั่งเรือชมไฟของโรงงานอุตสาหกรรมที่เมือง Yokkaichi ซึ่งเราจะนั่งรถบัสของทางรีสอร์ทมาลงที่ สถานี Iga-Kambe เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานี Kintetsu-Yokkaichi ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ แต่ทว่าเพื่อนๆอย่าลืมซื้อ ตั๋วรถไฟ tokyuken ราคา 920 เยนด้วยนร้า
Yokkaichi Kombinat Yakei Cruise (四日市コンビナート夜景クルーズ):นั่งเรือชมแสงไฟโรงงานยามค่ำคืน
Cr. glocalmie
และแล้วเราก็มาถึงสถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)พอถึงแล้วให้ลงมาที่ชั้น 1ของสถานี หน้า Yokkaichi Bussan tourism hall (四日市 物産観光ホール)แล้วขึ้นรถบัสของบริษัททัวร์เวลา 18:10 น. เพื่อไปขึ้นเรือเวลา 19:00 น. กันจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
การชมแสงไฟโรงงานยามค่ำคืนในวันนี้เป็นแพลน 60 นาที โดยที่เรือลำนี้มีทั้งหมดสองชั้น แต่คนจะเยอะหน่อยๆค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
ซึ่งบรรยากาศด้านบนเรือ ทุกคนจะขะมักเขม้นเป็นอย่างมาก แนะนำให้เตรียมกล้องมาดีๆเลยค่ะงานนี้ เพราะวิวดีๆเยอะมาก ระหว่างการเดินเรือ จะมีไกด์บรรยายประวัติของแต่ละโรงงานไปเรื่อยๆ และที่สำคัญเขาจะบอกจุดที่เป็นไฮไลท์ในการถ่ายรูปด้วยแหละ
Cr: DARIN | ダーリン
โรงงานจะเปิดไฟสีต่างๆมากมาย มีทั้งโรงงานขนาดเล็กและใหญ่ไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความสวยงามที่แตกต่าง บวกกับบรรยากาศเย็นๆของลมทะเล ทำให้ค่ำคืนผ่านไปได้แบบเยี่ยมมากเลยแหละจ้า
Cr:SeesaaBlog
หากกล่องดีหน่อย มันจะยิ่งใหญ่อลังการประมาณนี้เลยค่ะเพื่อนๆ รูปนี้ถ่ายที่บริเวณ Taishobashi (大正橋) โรงงาน Cosmo Oil Co., Ltd. จ้า คือก็ไม่เคยคิดว่าโรงงานเวลาเปิดไฟตอนกลางคืนจะสวยขนาดนี้ เพื่อนๆลองมาดูรับรองต้องประทับใจ
Yokkaichi Kombinat Yakei Cruise (四日市コンビナート夜景クルーズ)
ที่อยู่ | 385 Honchomachi ,Yokkaichi-shi, Mie Prefecture 510-0093 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Iga-Kambe (伊賀神戸駅) ลงที่สถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)ใช้เวลาประมาณ 40 นาที |
เวลาทำการ | 10:00 – 17:00 น. ปิดทำการ : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ |
ราคา | แพลน 60 นาที ราคาผู้ใหญ่ 5,000 เยน / เด็ก (6-12ปี) 4,500 เยน *Golden Week and Obon special cruises คือ 5,500 เยน (รวมภาษี) สำหรับผู้ใหญ่ และ 5,000 เยน (รวมภาษี) สำหรับเด็ก |
โทรศัพท์ | 059-327-5377 |
วิธีการจอง | ทางอินเตอร์เน็ต เปิดจอง 24 ชั่วโมง ทางโทรศัพท์ เปิดจองเฉพาะวันธรรมดา 10:00 – 17:00 น. (ปิดทำการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) |
Beer Dining Grill Station Yokkaichi (ビアダイニング グリルステーション四日市)
:สเต็กหมูของขึ้นชื่อเมือง Yokkaichi
Cr: DARIN | ダーリン
และแล้วเราก็เลยเวลาทานข้าวเย็นกันมามากแล้ว พุ่งหลาวกันไปที่ร้านอาหารกันเถอะจ้า เราจะมากินสเต็กหมู (Stamina Pork Steak) ของขึ้นชื่อของเมือง Yokkaichi กัน เนื้อหมูจะหวานๆคล้ายๆเมนูหมูหวานของบ้านเรา แต่จะมีรสชาติพิเศษบ้างอย่างที่ต้องไปชิมกันเองนะคะ ราคาจานนี้อยู่ที่ 1,620 เยนจ้า
Beer Dining Grill Station Yokkaichi (ビアダイニング グリルステーション四日市)
11:30 – 22:00 น. (เวลาอาหารกลางวัน 11:30-15:00 น. )
ปิดทำการ วันที่ 1 มกราคม
ที่อยู่ | 7-34 Suwasakaemachi ,Yokkaichi-shi, Mie Prefecture 510-0086 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)ออกประตูฝั่งทิศเหนือ เดินประมาณ 3 นาที |
เวลาทำการ |
11:30 ~ 22:00 น.
|
ราคา | ตั้งแต่ 390 เยน 〜 |
โทรศัพท์ | 059-352-1360 |
Miyako Hotel Yokkaichi (都ホテル四日市):โรงแรมใจกลางเมือง Yokkaichi
Cr: DARIN | ダーリン
ถึงเวลาพักผ่อนกันแล้วค่า ค่ำคืนนี้เราจะเอนร่างกายของเราที่ โรงแรม Miyako Hotel Yokkaichi เป็นโรงแรมใจกลางเมืองมาก เพราะไม่ว่าจะสถานีรถไฟฟ้า ร้านอาหาร ตลาดนัดคนเดิน ห้างสรรพสินค้า ก็อยู่ใกล้แค่อึดใจเดียว
Cr: DARIN | ダーリン
และนี้คือห้องพักในวันนี้ค่ะ เตียงใหญ่พอสมควรสำหรับ 1 คน แถมยังมีเครื่องทำกาแฟภายในห้องให้ด้วยนร้า อีกอย่างวิวจากหน้าต่างของห้องก็ดีมาก เห็นวิวเมือง Yokkaichi แบบชัดแจ๋ว แต่วันนี้นอนกันเถอะจ้า ฝันดีนะคะ
Cr: DARIN | ダーリン
แน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้ หญิงพาเพื่อนๆมาทานอาหารเช้ากันแล้วค่ะ รีบตื่นมาดูอาหารเช้ามาก จากห้องอาหาร มองไปข้างหน้าจะเป็นสวนสาธารณที่ทุกเพศทุกวัยจะมาออกกำลังแต่เช้าเลย
Cr: DARIN | ダーリン
แทนแท๊น นี้คืออาหารเช้าของหญิงค่ะ ดูเยอะเนอะค่ะ เยอะแหละ เยอะจริง ฮ่าๆ ทางโรงแรมมีทั้งอาหารแบบอิตาเลียน และแบบญี่ปุ่น ที่จะมีข้าว ปลาย่าง น้ำซุปสาหร่าย ไข่หวาน ซึ่งแน่นอนว่าบุฟเฟ่ต์ ตามสบายเลยนะคะเพื่อนๆ แนะนำน้ำผลไม้ปั่นค่ะ เพราะเป็นสินค้าขายดีมาก
Cr: DARIN | ダーリン
อย่างที่บอกเลยค่ะ ข้างโรงแรมติดกับห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังมี Starbucks Coffee และ Bic camera ให้แวะกันด้วย
Miyako Hotel Yokkaichi (都ホテル四日市)
เช็คอิน 14:00 น.
เช็คเอาท์ 11:00 น.
ที่อยู่ | 1-3-38 Ajima, Yokkaichi-shi, Mie Prefecture 510-0075 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)ออกประตูฝั่งทิศเหนือ หลังจากนั่นเลี้ยวซ้าย เดินประมาณ 3นาที |
โทรศัพท์ | 059-352-4131 |
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่สามของทริปเรา หญิงจะพาเพื่อนๆ เที่ยวในบริเวณ Hokusei และ Chunansei ไปขึ้นกระเช้าดูวิวกว้างๆของจังหวัดนี้กันค่ะ โดยเราจะไปขึ้นรถไฟที่สถานี Kintetsu Yokkaichi
Cr: DARIN | ダーリン
เพื่อนๆอย่าลืมเตรียมบัตร Kintetsu Rail Pass กันนะคะ เพราะวันนี้เราก็จะใช้บัตรนี้กันทั้งวันเลย เหมือนเดิม
Cr: DARIN | ダーリン
จากสถานี Kintetsu Yokkaichi เราจะนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Yunoyama-onsen(湯の山温泉) เพื่อมาขึ้นรถบัสไปที่ Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ)กันจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
ขึ้นบัส Mie-Kotsu เราก็ใช้บัตร Kintetsu Rail Pass นร้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 9นาทีเท่านั่น ลงที่ป้าย Yunoyama-onsen Gozaisho Ropeway (湯の山温泉・ 御在所ロープウエイ)เลยจ้า
Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ):ขึ้นเขาจนสุด หยุดที่ระหว่างสองจังหวัด
Cr: DARIN | ダーリン
ในที่สุดเราก็มาถึง Ropeway กันแล้วค่า รีบวิ่งไปซื้อตั๋ว ขึ้นกระเช้ากันดีกว่า อยากบอกว่าเรามีสิทธิพิเศษจากการถือบัตร Kintetsu Rail Pass ทำให้เราสามารถขึ้นกระเช้าได้ในราคาถูกกว่า 30% คือจากราคา 2,600 เยน จ่ายเพียง 1,820 เยน ลดไปตั้ง 780 เยนแหนะค่ะเพื่อนๆ
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่เราซื้อตั๋วแล้ว กระโดดขึ้นกระเช้ากันดีกว่าค่ะ กระเช้าที่นี่จะมีอยู่ประเภทหนึ่งที่จะพิเศษกว่ากระเช้าอื่นคือ จะสามารถมองวิวด้านล่าง จากพื้นกระจกได้
Cr: DARIN | ダーリン
กระเช้ามีจำนวน 36 คัน นั่งกระเช้าขึ้นไปบนเขาใช้เวลาทั้งหมด 15 นาทีค่ะ ตอนนั่งจริงๆนี้แบบว่าทำไมแปปเดียวก็ถึงแล้ว มีความรู้สึกว่ายังอยากนั่งต่อ ฮ่าๆ
Cr: DARIN | ダーリン
Gozaisho Ropeway มีบริเวณติดกับ Yunoyama onsen ตั้งอยู่บริเวณ Mt. Gozaisho ที่มีความสูง 1,212 เมตร ถึงแม้จะไม่สูงมาก แต่อยากบอกว่าวิวล้ำค่ามากค่ะ ยิ่งตอนใบไม้ร่วงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ภูเขาลูกนี้จะไล่สีตั้งแต่สีเขียว เหลือง แดง สวยงามมากจริง
Cr: DARIN | ダーリン
เมื่อขึ้นมาแล้ว เราจะมองวิวได้ถึง 360 องศา และจะเห็นนักปีนเขามากมายที่มาหยุดนั่งพักที่ยอดเขากันค่ะ และในฤดูหนาวสถานที่นี้ก็มีสกีให้เล่นด้วย
Cr: DARIN | ダーリン
ยอดเขานี้มีความพิเศษคือ หากเราไปยืนอยู่ฝั่งซ้ายจะยืนอยู่บนจังหวัดชิกะ แต่หากมายืนอยู่ฝั่งขวาจะเป็นจังหวัดมิเอะนั่นเอง ทาง Gozaisho แนะนำด้วยว่าในช่วงเดือนเดือนกันยายนมีจัดกิจกรรมดูพระอาทิตย์ตกด้วย
Cr: DARIN | ダーリン
ราคาบัตรที่เราจ่ายไปสามารถนั่ง เก้าอี้ลอยฟ้าแบบนี้ได้ด้วยนร้า นั่งแล้วจะหวิวๆ แต่อยากบอกว่าลมเย็นดีมาก วิวก็ดี
Cr: DARIN | ダーリン
ระหว่างนั่งเก้าอี้ลอยฟ้า ก็จะเห็นเด็กๆวิ่งเล่นลูกโปร่งกันเยอะแยะเลย มากกว่านั่นยังมีกิจกรรมให้ทำบนเขาลูกนี้อีกเยอะแยะ
Cr: DARIN | ダーリン
บนยอดเขามีร้านอาหารขนาดใหญ่ ให้เราเข้าไปชิมทั้งอาหารอร่อยๆและวิวได้ด้วย ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 500 – 1,700 เยน
Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ)
เดือนเมษายน- เดือนพฤศจิกายน 9:00 – 17:00 น.
เดือนธันวาคม – เดือนมีนาคม 9:00 – 16:00 น.
ที่อยู่ | 8625 Yunoyama Onsen, Komono, Komono-cho, Mei-gun, Mie Prefecture 510-1233 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Yunoyama-onsen(湯の山温泉) ใช้เวลาประมาณ 28 นาที หลังจากนั่นขึ้นรถบัสมุ่งสู่ Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ)ใช้เวลาประมาณ 8 นาที |
ราคา | เซตขึ้นเคเบิลคาร์ :ผู้ใหญ่ 2,600 เยน/เด็ก(ตั้งแต่ 4 ขึ้นไป) 1,300 เยน |
โทรศัพท์ | 059-392-2261 |
Aquaignis (アクアイグニス) : รีสอร์ทออนเซน สปาและการดูแลสุขภาพพร้อมอาหารชั้นเลิศ
Cr: DARIN | ダーリン
สถานที่ที่หญิงจะพาเพื่อนๆมาพักผ่อน แช่ออนเซน ทานอาหารจากเชฟชื่อดัง ตบท้ายด้วยขนมเค้กจากสุดยอดเชฟขนมหวาน คือ Aquaignis รีสอร์ทออนเซนที่ห้ามพลาดเด็ดขาด
Cr: DARIN | ダーリン
ภายใน Aquaignis มีทั้ง ออนเซน 100% ทรีทเมนต์และแพ็คเกจสปา ให้ได้ผ่อนคลายกับการนวดอย่างพิถีพิถัน พร้อมทั้งร้านขนมเบเกอรี่ ร้านอาหารอีตาเลี่ยน ร้านอาหารญี่ปุ่น และในช่วงฤดูหนาวก็มีสวนสตอเบอรี่ให้เก็บอีกด้วย แถมบรรยากาศดี ถ่ายรูปด้วย
Cr: DARIN | ダーリン
และวันนี้หญิงจะพาเพื่อนๆมาทานอาหารญี่ปุ่นโดยเชฟ Masahiro Kasahara ที่เป็นผู้ควบคุมรสชาติอาหาร และอาหารทุกจานให้ออกมารสชาติดีเยี่ยมกันจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
ก่อนอื่นเรามาสั่งอาหารกันเลยดีกว่า อยากบอกว่าทุกเมนูได้รับคำแนะนำจากผู้จัดการของทาง Aquaignis เลยนร้า คือเรื่องไม่อร่อยนี้เป็นไปไม่ได้เลยแหละ เมนูแรกของเราคือ สลัดมะเขือเทศ (Tomato Marugoto Saladda )ที่มีความพิถีพิถันตรงน้ำสลัดนี้แหละค่ะเพื่อนๆ เพราะเขาใช้ผักสามชนิดเป็นส่วนผสมแหละ คืออร่อยเกินคาด เมนูนี้ ราคา 900 เยน
Cr: DARIN | ダーリン
ต่อด้วยเมนูที่สอง Potato Cream Koroke คือด้านนอกจะกรอบๆด้วยแป้งขนมปังกำลังดี ด้านในนั่นจะเป็นมันบดตีกับครีมให้ความนุ่มละมุนเข้ากันมากๆ เมนูนี้ราคา 700 เยน เช่นกันค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
ต่อด้วยเมนูที่ 2 เมนูนี้มีชื่อว่า Gyoshisankara No Okurimono แปลว่าของขวัญจากชาวประมง ซึ่งขอบอกเลยว่าเมนูนี้อร่อยที่สุดค่ะ มีขั้นตอนในการทานดังนี้ คือคีบปลามาวางไว้บนข้าว แล้วเทน้ำชาพอประมาณ เมื่อเวลาทานจะได้รสชาติของปลาสดๆ ข้าวนุ่มๆ และน้ำซุปที่กลมกล่อมของน้ำซอสถั่วเหลือง เมนูนี้ราคา 1,600 เยน
Cr: DARIN | ダーリン
และแล้วเราก็ทานข้าวจนอิ่มหนำสำราญ ต่อไปจะพาไปร้านเบเกอรี่กันต่อค่ะ ร้านนี้ได้รัลความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก เพราะเขาว่ากันว่าขนมปังที่คุณภาพดี ทำให้ต้องต่อแถวซื้อกลับบ้านกันยาวเหยียด
Cr: DARIN | ダーリン
ไม่ต้องบรรยายเยอะเลยค่ะ คนต่อแถวจนออกประตูนอกร้านเลย ขนมปังที่นี้อบสดใหม่ทุกวัน ราคาไม่แพงด้วยแหละจ้า ขนาดอิ่มแล้ว เดินเข้ามาในร้านได้กลิ่นความหอมของขนมปังก็อยากจะทานอีกเลยแหละ
Cr: DARIN | ダーリン
ขนมปังแถวนี้ หน้าตาน่ารักมากเลย ราคาก็แค่เพียง 270 เยนเท่านั่นเอง อยากบอกเพื่อนๆว่ามาแล้วต้องลองนะ
Cr: DARIN | ダーリン
ถึงแม้จะไม่ได้ทานอาหารอิตาเลียนต้นตำรับเชฟ Masayuki Okuda ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ขอแวะมาดูบรรยากาศนิดหน่อยนะ เมนูของร้านนี้จะเป็นพาสต้าและพิซซ่ารสชาติต่างๆกว่าเกือบ 10 ชนิด ร้านเปิด
11:00-19:00 น.
Cr: DARIN | ダーリン
สำหรับของฝาก หรือขนมหิ้วติดไม้ติดมือกลับบ้านเขาก็มีขายนร้า พอดัหญิงไปช่วงปลายเดือนกันยายนมาค่ะเพื่อนๆ ใกล้กับเดือนตุลาคมพอดี เขาเลยมีของฝากน่ารักๆตามธีมฮาโลวีนให้เราได้เลือกซื้อเยอะเลย
Cr: DARIN | ダーリン
และสินค้าที่ได้รับความนิยมมากๆคือ แยมรสชาติต่างๆกว่า 10 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว ช็อคโกแลต คาราเมล สตอเบอรี่ ส้ม หรือใครชอบทานมาการองที่นี้เขาก็มีบริการให้
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่ทานข้าวกันแล้ว หญิงจะพาไปทานขนมเค้กกันต่อค่ะ ร้านนี้ขนมเค้กทุกชนิด ถูกออกแบบและควบคุมการทำโดย คุณ Hironobu Tsujiguchi เชฟทำขนมหวาน (ปาติชิเญ่)ผู้เก่งกาจด้านสายขนมฝรั่งเศส และเคยเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกอาหารที่เยอรมนีอีกด้วย แน่นอนว่าถ้าได้ทานขนมเค้ก จะไม่มีคำว่าผิดหวังเลยค่ะเพื่อนๆ เพราะอร่อยจริง หญิงทานหมดเลย
Cr: DARIN | ダーリン
หากเพื่อนๆคนไหนสนใจแช่ออนเซนเพื่อผ่อนคลายร่างกายและบำรุงผิวพรรณ ทาง Aquaignis ก็มีบริการออนเซ็นค่ะ ค่าเข้า ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) 600 เยน ในวันธรรมดา / 800 เยน ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใช้บัตร Kintetsu Rail Pass จะได้รับส่วนลดค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ 100 เยน เด็ก 50 เยน และผ้าเช็ดตัวให้เช่าฟรี (ปกติ 100 เยน) แถมยังเปิดบริการตั้งแต่ 6:00-24:00. น. อีกด้วย
Cr: DARIN | ダーリン
ปิดท้ายด้วยหญิงจะพาเพื่อนๆไปชมบ้านพัก 2 แบบ จากทั้งหมด 4แบบ 4 หลัง ซึ่งบ้านพักทุกหลังจะมีออนเซนส่วนตัวภายในตัวด้วยนร้า อีกทั้งเมื่เข้าพัก ก็จะมีอาหารเช้าและอาหารเย็นให้บริการ
Cr: DARIN | ダーリン
ซึ่งบ้าน 4 หลังนี้ ถูกออกแบบโดยสถาปนิกคนละคน ทำให้บ้านแต่ละหลังมีสไตล์การตบแต่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ทุกหลังจะถูกสร้างด้วยไม้เป็นวัสดุหลัก บ้านหลังแรกที่หญิงจะพาไปคือ บ้าน Sugi (杉)
Cr: DARIN | ダーリン
ที่บ้านพักหลังนี้ตั้งชื่อว่า Sugi (杉)เพราะ ใช้ไม้ Sugi ในการสร้างนั่นเองแหละค่ะเพื่อนๆ พื้นที่ภายในห้องก็ใหญ่ และให้ความรู้สึกผ่อนคลายมาก
Cr: DARIN | ダーリン
และที่บอกไปแล้วนั่นว่า แต่ละบ้านก็มีออนเซนส่วนตัว ซึ่งทางเข้าออนเซนจะติดกับห้องน้ำภายในบ้านทำให้เมื่อแช่ออนเซนเสร็จแล้ว ก็สามารถที่จะอาบน้ำได้เลย
Cr: DARIN | ダーリン
ส่วนในบ้านหลังที่ 2 ชื่อว่าบ้านพัก Kuri (栗) เพราะตัวบ้านทำมาจากไม้คุรินั่นเองค่ะ ห้องนอนของบ้านพักนี้จะถูกยกตัวขึ้นสูง ห้องนอนมีความกว้าง 10 เสื่อ สามารถเข้าพักได้ทั้งหมด 7ท่านค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
บ้านพัก Kuri จะเป็นสไตล์สีเขียว เฟอร์เจอร์ทุกชิ้นจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มากกว่านั่นทางเดินไปออนเซนยังเป็นสวนญี่ปุ่นเล็กๆน่ารัก ไว้ให้ได้สูดอากาศสดชื่นยามเช้าอีกด้วยค่ะ นอกจากสองห้องนี้และยังมีห้อง Hinoko และห้อง Matsu อีก และหากเพื่อนๆคนไหนต้องการพักแบบที่พักธรรมดาทาง Aquaignis ก็มีให้บริการในราคา 16,000 กว่าเยนค่ะ
Aquaignis (アクアイグニス)
ที่อยู่ | 4800-1 Komono, Komonocho,Miegun, Yokkaichi-shi, Mie Prefecture 510-1233 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ)ขึ้นรถบัส Mie-Kotsu มุ่งสู่ Aquaignis (アクアイグニス) ใช้เวลาประมาณ 11 นาที สามารถใช้บัตร Kintetsu Rail pass plus ได้ |
เวลาทำการ | เช็คอิน 15:00 น. เช็คเอาท์ 11:00 น. |
โทรศัพท์ | 0593-94-7733 |
Nabana No Sato (なばなの里) :ชมสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
Cr: DARIN | ダーリン
และแล้วก็มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายในทริปนี้แล้วจ้า หญิงจะพาเพื่อนๆไปชมสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และไม่ว่าจะฤดูไหนก็มีดอกไม้สวยๆให้ชมตลอดทั้งปีเลย
Cr: DARIN | ダーリン
ส่วนค่าเข้า ราคา 1,700 เยน
Cr: DARIN | ダーリン
ซึ่งสวนแห่งนี้ มีพื้นที่ถึง 43,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดในได้ชมมากมาย
ดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เช่น ดอกทิวลิป
Cr: DARIN | ダーリン
ช่วงเดือนปลายกันยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงการชมดอกไม้ฤดูใบไม้ร่วง ได้แก่ ดอกรักเร่ ดอกดาวกระจาย ซึ่งหญิงมาในช่วงนี้เลยจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
ซึ่งไฮไลท์สำคัญของสวนนี้คือการชมดอกไม้ ที่เรือนกระจกขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า Begonia Garden ซึ่งในเรือนกระจกนี้ จะเต็มไปด้วยดอกกุหลาบขนาดใหญ่ที่บานสะพรั่ง เรียงรายกว่า 800 สายพันธุ์
Cr: DARIN | ダーリン
เมื่อเราชมดอกไม้ที่ Begonia Garden กันจนสดชื่นแล้ว ด้านนอกก็มีสวนดอกคอสมอส ให้ได้เดินชมและถ่ายรูปสวยๆกลับไปเป็นที่ระลึกด้วยน้า
Cr: DARIN | ダーリン
แต่ตรงนี้ไม่ได้มีแค่สวนคอสมอส แต่ยังมีสวนกุหลาบที่กำลังเบ่งบานเมื่อจะเข้สู่เดือนตุลาคมอีกด้วย เพื่อนๆคนไหนชอบดอกไม้ แน่นอนว่าที่นี้ถูกใจแน่นอนจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
ก่อนกลับเราก็ขอนั่งพัก ดื่มชา ทานขนมของขึ้นชื่อจากทาง Nabana No Sato กันก่อน ขนมชิ้นนี้มีชื่อว่า Yasunagamochi(安永餅)ที่ด้านนอกจะเป็นแป้งโมจิ ด้านในเป็นถั่วแดง แล้วนำเอาไปปิ้ง เมื่อทานแล้วจะรู้สึกว่าโมจิด้านนอกนั่นไม่นิ่มจนเกินไป เข้ากันกับน้ำชามากจ้า วิธีการเดินทางกลับนั่นให้นั่งรถบัส Mie-Kotsu ไปลงที่สถานี Kuwana (桑名駅) หลังจากนั่นนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Nagoya (名古屋駅) จ้า
Nabana No Sato(なばなの里)
ที่อยู่ | 270 Urushibata, Nagashimacho Komae, Kuwana-shi, Mie Prefecture 511-1144 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ใช้บัตร Kintetsu Rail Pass เพื่อไปยังสถานี Kuwana ประมาณ 20 นาทีจากป้ายรถบัส Nabana no Sato ทางออกทิศตะวันออก สถานี Kuwana |
เวลาทำการ | 10:00 – 21.00 น. |
ราคา | เข้าดูสวนดอกไม้ 1,700 เยน |
โทรศัพท์ | 059-441-0787 |
ข้อสรุป
ในที่สุดการเดินทางครั้งนี้ก็จบลงได้อย่างสวยงาม แถมยังคุ้มอีกต่างหากเพราะเรามีบัตร Kintetsu Rail Pass Plus ที่เป็นทั้งบัตรโดยสาร และบัตรส่วนลดต่างๆให้อีกด้วย ถ้าจะอธิบายอย่างละเอียดเลยคือ บัตร Kintetsu Rail Pass Plus นี้สามารถทำให้ทริปนี้ประหยัดเงินไปได้ถึง 5,582 เยนเลยแหละค่ะเพื่อนๆ ซึ่งเพื่อนคนไหนต้องการเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ก็อย่าลืมจังหวัดมิเอะนร้า เพราะสถานที่ท่องเที่ยวของเขาดีจริง ตอนนี้นักท่องเที่ยวก็ยังน้อยมากด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจังหวัดมิเอะไม่ได้มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่หญิงแนะนำไปเท่านั่น ยังมีอีกหลายที่เลยที่หญิงอยากจะแนะนำ ไว้โอกาสหน้าจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มิเอะอีกนร้า ฝากบทความนี้ด้วยนร้า สวัสดีค่ะ