เที่ยวมิเอะ ญี่ปุ่นที่คุณไปยังไม่ถึง ตอนที่ 2

30/10/2018 (อัพเดทเมื่อ 10/11/2020)
จากตอนที่แล้วหญิงได้พาทุกคนเดินทางสู่มิเอะ เมืองน่าเที่ยวใกล้นาโกย่า วันนี้จะพามาสานต่อความสนุกในการ เที่ยวมิเอะ ตอนที่สอง มาดูกันว่าจะฟินขนาดไหน
Meiji Step RakuRaku Cube LP R1
Meiji Step RakuRaku Cube LP R2

Cr: DARIN | ダーリン

โอฮาโยโกไซมัส เพื่อนๆจำได้ไหมตอนนี้เราอยู่ในตอนเที่ยวมิเอะกัน ความเดิมตอนที่แล้ว ในบทความตอนที่ 1 เราไปเที่ยว ศาลเจ้า Ise Jingu ต่อด้วยเดินเล่นและทานอาหารกลางวันที่ Okage Yokocho Ancient Street หลังจากนั่นเราก็ไปกันที่ Meoto Iwa และ Yokoyama Tenbodai ปิดท้ายวันแห่งความสุขด้วยดินเนอร์ที่โรงแรม Prime Resort Kashikojima และนอนหลับบนเตียงนุ่มๆ ในส่วนของวันที่สอง หญิงก็พาไปดูโชว์นินจา ซึ่งหลังจากนั่นหญิงค้างไว้ที่อาหารกลางวันสุดจะฟินที่ยังไม่ได้บอกเพื่อนๆว่ามันคืออะไร ใช่ไหมคะเพื่อนๆ หากเพื่อนๆคนไหนยังไม่ได้อ่าน ไปติดตามตอนที่ 1 กันก่อนได้นร้า งั้นในบทความนี้เราไปเที่ยวมิเอะกันต่อเถอะค่ะ

Kanaya (金谷):สุกิยากิเนื้ออิกะสุดละมุนลิ้น

Cr: DARIN | ダーリン

ถึงเวลาข้าวเที่ยงของเราแล้วค่ะเพื่อนๆ ข้าวมื้อนี้บอกเลยว่าเด็ดมาก เพราะหญิงจะพาไปทานเนื้อ A5 สุดแสนจะนุ่มละมุนลิ้นกัน เนื้อในวันนี้มีชื่อเรียกว่า เนื้ออิกะ

Cr: DARIN | ダーリン

ร้านคานายะ เป็นร้านเก่าแก่ที่ขายเนื้ออิกะมาเป็นระยะเวลา 100 กว่าปี ปัจจุบันคนขายเป็นรุ่นที่ 4แล้วจ้า ร้านของเขามีตำนานนะขอบอก

Cr: DARIN | ダーリン

ภายในร้านมีสองชั้น เป็นตึกยาวๆ ยาวมากจริงๆ แบ่งเป็นห้องส่วนตัวหลายๆห้อง หรือเรียกว่า โคะชิซึ (個室)แน่นอนว่าสไตล์การแต่งร้านก็แบบญี่ปุ่นเลยจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

และแล้วอาหารเชตที่เราสั่งก็มาถึงแล้วจ้า เป็นเซตผักที่น่าทานมาก ล้อเล่นนร้า ฮ่าๆ เมนูของเราเป็นสุกิยากิเนื้ออิกะชั้นดี นอกจากเมนูนี้ ก็มีสเต็ก ชาบูชาบู เนื้ออิกะย่างเนย เนื้อย่างบนตะแกรง อีกด้วย

Cr: DARIN | ダーリン

พอคุณป้าพนักงานเอามาเสิร์ฟแล้วนั่น คุณป้าจะนั่งจัดแจง นำมันของเนื้ออิกะลงไปละเลงทั่วกะทะ ให้หอมและมัน หลังจากนั่นก็ใส่เนื้อแดงๆที่มีลายขาวๆแทรกลงไปบนกะทะ ผ่านไปได้ไม่ถึงสามสี่นาที คุณป้าก็คีบมาวางไว้ในถ้วยไข่ของเรา อุ้ย อย่าได้รอช้า ทานเลยจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

ซึ่งอยากจะบอกว่า เนื้ออิกะเป็นเนื้อที่อร่อยพอๆกับเนื้อมัตสึซากะ และโด่งดังมากในระแวกนี้ สาเหตุที่พวกเราไม่ค่อยรู้จักกันเพราะเนื้อประเภทนี้มีจำนวนจำกัด เลยยังไม่ได้ถูกส่งออก มีแต่คนท้องถิ่นเท่านั่นที่จะรู้จักจ้า พอคุณป้าคีบเนื้อมาใส่ลงที่ถ้วยไข่แล้ว คุณป้าจะทำการใส่น้ำตาล มิริน และผักลงไป เพื่อทำสุกิยากิ ซึ่งต้นตำรับร้านนี้คือไม่ใส่น้ำสต๊อกจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

และหน้าตาของสุกี้ยากิก็จะออกมาประมาณนี้ คือถ้ามองรูปแล้วมีกลิ่นออกมาด้วยคงจะฟินมากๆอะค่ะ

Cr: DARIN | ダーリン

Kanaya (金谷):สุกิยากิเนื้ออิกะสุดละมุนลิ้น

ที่อยู่ 434 Ueno Nonimmachi, Iga-shi, Mie Prefecture 518-0831
วิธีเดินทาง จาก Ninja Museum Igaryu เดินประมาณ 13 นาที
เวลาทำการ11:00 – 20:30 น.
ปิดทำการ : ทุกวันจันทร์
ราคาเมนูสเต็ก(เนื้อสันนอก) 8,910 – 12,474 เยน
เมนูชาบูชาบู 7,722 เยน
เมนูเนื้ออิกะย่างเนย 8,316 เยน
เมนูเนื้อย่างบนตะแกรง 8,316 เยน (ราคารวมภาษีแล้ว)
โทรศัพท์0595-21-0105

Cr: DARIN | ダーリン

ทานเนื้ออิกะนุ่มๆกันอิ่มอกอิ่มใจกันแล้ว ได้เวลาเดินทางต่อแล้วจ้า เดินจากร้านคานายะ มาที่สถานี Hirokoji station (広小路駅) เพียง 2 นาทีเท่านั่น เพื่อนั่งรถไฟกลับไปที่สถานี Iga-Kambe (伊賀神戸駅) ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ แน่นอนว่าการขึ้นรถไฟครั้งนี้ โชว์บัตร Kintetsu Rail Pass Plus ก็ขึ้นรถไฟได้เลย

Cr: DARIN | ダーリン

พอถึงสถานี Iga-Kambe (伊賀神戸) แล้ว เราก็จะนั่งรถบัสของทาง Menard Aoyama Resort ไปที่รีสอร์ทนี้กันจ้า รถจะมีทุกนาทีที่ 20 มีตั้งแต่ 8:20 – 16:20 น. เลย พอขึ้นรถแล้วแนะนำให้นั่งหน้าค่ะ เพราะจะได้ชมวิวป่าสนชัดๆ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 35 นาที

Menard Aoyama Resort (メナード青山リゾート) : พักกายพักใจบำรุงความสวยที่ Menard Aoyama

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากนั่งรถมาเป็นเวลา 35 นาที เราก็มาถึง Menard Aoyama Resort สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งหญิงจะพาเพื่อนๆ ไปเดินเล่นถ่ายรูปที่ Herb Garden กันก่อน ชมดอกไม้สวยๆ วิวดีๆ

Cr: DARIN | ダーリン

ทางรีสอร์ทแนะนำให้เรามาชมสวนกันในช่วงเดือนพฤศจิกายน เพราะจะเป็นช่วงดอกไม้กำลังบานเต็มที่ สวนจะสวยมากเป็นพิเศษ

Cr: DARIN | ダーリン

แต่หากเพื่อนๆ อยากชมทุ่งดอกคาโมมายล์แนะนำให้มาช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน ส่วนดอกลาเวนเดอร์นั่นต้องมาในช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคมจ้า และดอกแซลเวียจะออกดอกในช่วงกลางเดือนกันยายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมากกว่าดอกไม้ภายในสวนแห่งนี้ก็มีสมุนไพรมากกว่า 300 ชนิด

Cr: DARIN | ダーリン

ชมสวนสวยๆ พร้อมกับทานซอฟท์ครีมไปด้วย ก็เป็นเรื่องที่ฟินมากๆเช่นกัน หญิงเลยอยากแนะนำซอฟท์ครีมรสดอกคาโมมายล์ ราคา 380 เยน หวานละมุนมาก หากเพื่อนๆไม่ชอบดอกคาโมมายล์ เขาก็มีซอฟท์ครีมดอกลาเวนเดอร์เหมือนกันน้า

Cr: DARIN | ダーリン

ชมดอกไม้เสร็จแล้ว เราจะขึ้นเขาไปทำกิจกรรมประดิษฐ์งานหัตถกรรมจากสมุนไพรกันที่บ้านไม้หลังนี้เลย

Cr: DARIN | ダーリン

นี้คืออุปกรณ์ที่จะใช้ทำงานหัตถกรรม Herb Craft มาเดากันค่ะ ว่าวัสดุแบบนี้จะทำอะไร หญิงจะทำเป็นมงกุฎดอกไม้จ้า

Cr: DARIN | ダーリン

การทำ Herb Craft จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ราคาเพียง 2,000 เยนเท่านั่น และจะมีคุณครูสอนและอธิบายขั้นตอนการทำ พร้อมกับทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งครูใจดีมากยิ้มแย้มแจ่มใส ช่วยหญิงทุกขั้นตอนเลย คือมันสนุกและก็ท้าทายด้วย ไม่ได้ทำง่ายๆอย่างที่คิดเลย

Cr: DARIN | ダーリン

นี้คือผลงานของหญิงครึ่งหนึ่งและของอาจารย์ครึ่งหนึ่งเองละจ้า นอกจากทำงานหัตถกรรม Herb Craft ประเภทนี้แล้ว ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายภายใน Menard Aoyama Resort

Cr: DARIN | ダーリン

ไม่ว่าจะเป็น การประดิษฐ์งานหัตถกรรมย่อส่วนจากไม้ (Miniature Craft) งานเครื่องปั่นดินเผา งานวาดรูประบายสีบนผลิตภัณฑ์เซรามิก หรือจะทำผลิตภัฑณ์เครื่องสำอางค์ เช่น โอเดอเพอร์ฟูม ลิปสติก และครีมบลัชออนก็มีจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

หรืออยากจะทำขนมปังหรือเส้นโซบะด้วยตัวเอง ทางโรงแรมก็มีจัดบริการสอน มากกว่านี้ยังมีลานตีกอล์ฟ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามเทนนิส คาราโอเกะ ออนเซน และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งราคาเข้าออนเซนนั่นอยู่ที่ 1,000 เยน แต่หากมีบัตร Kintetsu Rail Pass Plus จะสามารถเข้าออนเซนได้ในราคา 600 เยนเอง

Cr: DARIN | ダーリン

ที่สำคัญบรรยากาศที่รีสอร์ทแห่งนี้ร่มรื่น เหมาะกับการผักผ่อนเป็นอย่างมาก แค่เพียงสถานที่แห่งเดียวก็สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง หากเพื่อนๆคนไหนอยากจะค้างคืนที่นี้ หญิงก็แนะนำมาก แต่ทริปนี้หญิงขออนุญาตไปเที่ยวต่อนร้า รายละเอียดเพิ่มเติม ตามเว็บไซต์นี้เลยนะคะ menard.co.jp

Menard Aoyama Resort (メナード青山リゾート)

ที่อยู่ 2356 Kiryu, Iga-shi, Mie Prefecture 518-0295
วิธีเดินทาง จากร้านอาหาร Kanaya เดินประมาณ 2 นาทีเพื่อไปขึ้นรถไฟที่สถานี Hirokoji station (広小路駅) ไปที่สถานี Iga-Kambe (伊賀神戸駅) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และนั่งรถบัสของทาง Menard Aoyama Resort ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
เวลาทำการวันธรรมดา 9:00 – 19:00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ 9:00 – 18:00 น.
ราคาHotel Schonvert 16,950 เยน 〜/1 คืน (รวมอาหารเช้าและอาหารเย็น)
Wafukan Utatsukasa 29,550 เยน 〜/1 คืน(รวมอาหารเช้าและอาหารเย็น)
โทรศัพท์ 0595-54-1326
Websitemenard.co.jp

และหลังจากนี้หญิงจะพาเพื่อนๆ ไปนั่งเรือชมไฟของโรงงานอุตสาหกรรมที่เมือง Yokkaichi ซึ่งเราจะนั่งรถบัสของทางรีสอร์ทมาลงที่ สถานี Iga-Kambe เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานี Kintetsu-Yokkaichi ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ แต่ทว่าเพื่อนๆอย่าลืมซื้อ ตั๋วรถไฟ tokyuken ราคา 900 เยนด้วยนร้า

Yokkaichi Kombinat Yakei Cruise (四日市コンビナート夜景クルーズ):นั่งเรือชมแสงไฟโรงงานยามค่ำคืน

Cr. glocalmie

และแล้วเราก็มาถึงสถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)พอถึงแล้วให้ลงมาที่ชั้น 1ของสถานี หน้า Yokkaichi Bussan tourism hall (四日市 物産観光ホール)แล้วขึ้นรถบัสของบริษัททัวร์เวลา 18:10 น. เพื่อไปขึ้นเรือเวลา 19:00 น. กันจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

การชมแสงไฟโรงงานยามค่ำคืนในวันนี้เป็นแพลน 90 นาที โดยที่เรือลำนี้มีทั้งหมดสองชั้น แต่คนจะเยอะหน่อยๆค่ะ ทำให้ต้องแบ่งกันขึ้นไปชมไฟบนชั้นสองของเรือ โดยจะแบ่งเวลาเป็น 45 นาทีแรกและหลังให้เลือกขึ้นไปชมนร้า

Cr: DARIN | ダーリン

ซึ่งบรรยากาศด้านบนเรือ ทุกคนจะขะมักเขม้นเป็นอย่างมาก แนะนำให้เตรียมกล้องมาดีๆเลยค่ะงานนี้ เพราะวิวดีๆเยอะมาก ระหว่างการเดินเรือ จะมีไกด์บรรยายประวัติของแต่ละโรงงานไปเรื่อยๆ และที่สำคัญเขาจะบอกจุดที่เป็นไฮไลท์ในการถ่ายรูปด้วยแหละ

Cr: DARIN | ダーリン

โรงงานจะเปิดไฟสีต่างๆมากมาย มีทั้งโรงงานขนาดเล็กและใหญ่ไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความสวยงามที่แตกต่าง บวกกับบรรยากาศเย็นๆของลมทะเล ทำให้ค่ำคืนผ่านไปได้แบบเยี่ยมมากเลยแหละจ้า

Cr:SeesaaBlog

หากกล่องดีหน่อย มันจะยิ่งใหญ่อลังการประมาณนี้เลยค่ะเพื่อนๆ รูปนี้ถ่ายที่บริเวณ Taishobashi (大正橋) โรงงาน Cosmo Oil Co., Ltd. จ้า คือก็ไม่เคยคิดว่าโรงงานเวลาเปิดไฟตอนกลางคืนจะสวยขนาดนี้ เพื่อนๆลองมาดูรับรองต้องประทับใจ

Yokkaichi Kombinat Yakei Cruise (四日市コンビナート夜景クルーズ)

ที่อยู่ 385 Honchomachi ,Yokkaichi-shi, Mie Prefecture 510-0093
วิธีเดินทางนั่งรถไฟจากสถานี Iga-Kambe (伊賀神戸駅) ลงที่สถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
เวลาทำการ 10:00 – 17:00 น.
ปิดทำการ : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
ราคาแพลน 90 นาที ราคาผู้ใหญ่ 4,900 เยน / เด็ก (6-12ปี) 4,400 เยน
แพลน 60 นาที ราคาผู้ใหญ่ 3,900 เยน / เด็ก (6-12ปี) 3,400 เยน
โทรศัพท์ 059-327-5377
วิธีการจองทางอินเตอร์เน็ต เปิดจอง 24 ชั่วโมง
ทางโทรศัพท์ เปิดจองเฉพาะวันธรรมดา 10:00 – 17:00 น.
(ปิดทำการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)

Asahi Biakera Yokkaichi (アサヒビアケラー四日市) :สเต็กหมูของขึ้นชื่อเมือง Yokkaichi

Cr: DARIN | ダーリン

และแล้วเราก็เลยเวลาทานข้าวเย็นกันมามากแล้ว พุ่งหลาวกันไปที่ร้านอาหารกันเถอะจ้า เราจะมากินสเต็กหมู (Stamina Pork Steak) ของขึ้นชื่อของเมือง Yokkaichi กัน เนื้อหมูจะหวานๆคล้ายๆเมนูหมูหวานของบ้านเรา แต่จะมีรสชาติพิเศษบ้างอย่างที่ต้องไปชิมกันเองนะคะ ราคาจานนี้อยู่ที่ 1,620 เยนจ้า

Asahi Biakera Yokkaichi (アサヒビアケラー四日市)

11:30 – 22:00 น. (เวลาอาหารกลางวัน 11:30-15:00 น. )
ปิดทำการ วันที่ 1 มกราคม
ที่อยู่ 7-34 Suwasakaemachi ,Yokkaichi-shi, Mie Prefecture 510-0086
วิธีเดินทาง จากสถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)ออกประตูฝั่งทิศเหนือ เดินประมาณ 3นาที
เวลาทำการ
ราคาตั้งแต่ 150 เยน 〜
โทรศัพท์059-352-1360

Yokkaichi Miyako Hotel (四日市都ホテル):โรงแรมใจกลางเมือง Yokkaichi

Cr: DARIN | ダーリン

ถึงเวลาพักผ่อนกันแล้วค่า ค่ำคืนนี้เราจะเอนร่างกายของเราที่ โรงแรม Yokkaichi Miyako Hotel เป็นโรงแรมใจกลางเมืองมาก เพราะไม่ว่าจะสถานีรถไฟฟ้า ร้านอาหาร ตลาดนัดคนเดิน ห้างสรรพสินค้า ก็อยู่ใกล้แค่อึดใจเดียว

Cr: DARIN | ダーリン

และนี้คือห้องพักในวันนี้ค่ะ เตียงใหญ่พอสมควรสำหรับ 1 คน แถมยังมีเครื่องทำกาแฟภายในห้องให้ด้วยนร้า อีกอย่างวิวจากหน้าต่างของห้องก็ดีมาก เห็นวิวเมือง Yokkaichi แบบชัดแจ๋ว แต่วันนี้นอนกันเถอะจ้า ฝันดีนะคะ

Cr: DARIN | ダーリン

แน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้ หญิงพาเพื่อนๆมาทานอาหารเช้ากันแล้วค่ะ รีบตื่นมาดูอาหารเช้ามาก จากห้องอาหาร มองไปข้างหน้าจะเป็นสวนสาธารณที่ทุกเพศทุกวัยจะมาออกกำลังแต่เช้าเลย

Cr: DARIN | ダーリン

แทนแท๊น นี้คืออาหารเช้าของหญิงค่ะ ดูเยอะเนอะค่ะ เยอะแหละ เยอะจริง ฮ่าๆ ทางโรงแรมมีทั้งอาหารแบบอิตาเลียน และแบบญี่ปุ่น ที่จะมีข้าว ปลาย่าง น้ำซุปสาหร่าย ไข่หวาน ซึ่งแน่นอนว่าบุฟเฟ่ต์ ตามสบายเลยนะคะเพื่อนๆ แนะนำน้ำผลไม้ปั่นค่ะ เพราะเป็นสินค้าขายดีมาก

Cr: DARIN | ダーリン

อย่างที่บอกเลยค่ะ ข้างโรงแรมติดกับห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังมี Starbucks Coffee และ Bic camera ให้แวะกันด้วย

Yokkaichi Miyako Hotel (四日市都ホテル)

เช็คอิน 14:00 น.
เช็คเอาท์ 11:00 น.
ที่อยู่ 1-3-38 Ajima, Yokkaichi-shi, Mie Prefecture 510-0075
วิธีเดินทาง จากสถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)ออกประตูฝั่งทิศเหนือ หลังจากนั่นเลี้ยวซ้าย เดินประมาณ 3นาที
เวลาทำการ
ราคา10,369 – 25,866 เยน
โทรศัพท์ 059-352-4131

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่สามของทริปเรา หญิงจะพาเพื่อนๆ เที่ยวในบริเวณ Hokusei และ Chunansei ไปขึ้นกระเช้าดูวิวกว้างๆของจังหวัดนี้กันค่ะ โดยเราจะไปขึ้นรถไฟที่สถานี Kintetsu Yokkaichi

Cr: DARIN | ダーリン

เพื่อนๆอย่าลืมเตรียมบัตร Kintetsu Rail Pass กันนะคะ เพราะวันนี้เราก็จะใช้บัตรนี้กันทั้งวันเลย เหมือนเดิม

Cr: DARIN | ダーリン

จากสถานี Kintetsu Yokkaichi เราจะนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Yunoyama-onsen(湯の山温泉) เพื่อมาขึ้นรถบัสไปที่ Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ)กันจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

ขึ้นบัส Mie-Kotsu เราก็ใช้บัตร Kintetsu Rail Pass นร้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 9นาทีเท่านั่น ลงที่ป้าย Yunoyama-onsen Gozaisho Ropeway (湯の山温泉・ 御在所ロープウエイ)เลยจ้า

Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ):ขึ้นเขาจนสุด หยุดที่ระหว่างสองจังหวัด

Cr: DARIN | ダーリン

ในที่สุดเราก็มาถึง Ropeway กันแล้วค่า รีบวิ่งไปซื้อตั๋ว ขึ้นกระเช้ากันดีกว่า อยากบอกว่าเรามีสิทธิพิเศษจากการถือบัตร Kintetsu Rail Pass ทำให้เราสามารถขึ้นกระเช้าได้ในราคาถูกกว่า 30% คือจากราคา 2,400 เยน จ่ายเพียง 1,680 เยน ลดไปตั้ง 720 เยนแหนะค่ะเพื่อนๆ

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากที่เราซื้อตั๋วแล้ว กระโดดขึ้นกระเช้ากันดีกว่าค่ะ กระเช้าที่นี่จะมีอยู่ประเภทหนึ่งที่จะพิเศษกว่ากระเช้าอื่นคือ จะสามารถมองวิวด้านล่าง จากพื้นกระจกได้

Cr: DARIN | ダーリン

กระเช้ามีจำนวน 36 คัน นั่งกระเช้าขึ้นไปบนเขาใช้เวลาทั้งหมด 15 นาทีค่ะ ตอนนั่งจริงๆนี้แบบว่าทำไมแปปเดียวก็ถึงแล้ว มีความรู้สึกว่ายังอยากนั่งต่อ ฮ่าๆ

Cr: DARIN | ダーリン

Gozaisho Ropeway มีบริเวณติดกับ Yunoyama onsen ตั้งอยู่บริเวณ Mt. Gozaisho ที่มีความสูง 1,212 เมตร ถึงแม้จะไม่สูงมาก แต่อยากบอกว่าวิวล้ำค่ามากค่ะ ยิ่งตอนใบไม้ร่วงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ภูเขาลูกนี้จะไล่สีตั้งแต่สีเขียว เหลือง แดง สวยงามมากจริง

Cr: DARIN | ダーリン

เมื่อขึ้นมาแล้ว เราจะมองวิวได้ถึง 360 องศา และจะเห็นนักปีนเขามากมายที่มาหยุดนั่งพักที่ยอดเขากันค่ะ และในฤดูหนาวสถานที่นี้ก็มีสกีให้เล่นด้วย

Cr: DARIN | ダーリン

ยอดเขานี้มีความพิเศษคือ หากเราไปยืนอยู่ฝั่งซ้ายจะยืนอยู่บนจังหวัดชิกะ แต่หากมายืนอยู่ฝั่งขวาจะเป็นจังหวัดมิเอะนั่นเอง ทาง Gozaisho แนะนำด้วยว่าในช่วงเดือนเดือนกันยายนมีจัดกิจกรรมดูพระอาทิตย์ตกด้วย

Cr: DARIN | ダーリン

ราคาบัตรที่เราจ่ายไปสามารถนั่ง เก้าอี้ลอยฟ้าแบบนี้ได้ด้วยนร้า นั่งแล้วจะหวิวๆ แต่อยากบอกว่าลมเย็นดีมาก วิวก็ดี

Cr: DARIN | ダーリン

ระหว่างนั่งเก้าอี้ลอยฟ้า ก็จะเห็นเด็กๆวิ่งเล่นลูกโปร่งกันเยอะแยะเลย มากกว่านั่นยังมีกิจกรรมให้ทำบนเขาลูกนี้อีกเยอะแยะ

Cr: DARIN | ダーリン

บนยอดเขามีร้านอาหารขนาดใหญ่ ให้เราเข้าไปชิมทั้งอาหารอร่อยๆและวิวได้ด้วย ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 300 – 2,000 เยน ที่สำคัญมีหมูสเต็กของขึ้นชื่อเมือง Yokkaichi (Yokkaichi Tonteki )ซะด้วยจ้า

Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ)

เดือนเมษายน- เดือนพฤศจิกายน 9:00 – 17:00 น.
เดือนธันวาคม – เดือนมีนาคม 9:00 – 16:00 น.
ที่อยู่ 8625 Yunoyama Onsen, Komono, Komono-cho, Mei-gun, Mie Prefecture 510-1233
วิธีเดินทาง จากสถานี Kintetsu-Yokkaichi (近鉄四日市駅)นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Yunoyama-onsen(湯の山温泉) ใช้เวลาประมาณ 28 นาที หลังจากนั่นขึ้นรถบัสมุ่งสู่ Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ)ใช้เวลาประมาณ 8 นาที
เวลาทำการ
ราคาเซตขึ้นเคเบิลคาร์ :ผู้ใหญ่ 2,400 เยน/เด็ก(ตั้งแต่ 4 ขึ้นไป) 1,200 เยน
โทรศัพท์ 059-392-2261

Aquaignis (アクアイグニス) : รีสอร์ทออนเซน สปาและการดูแลสุขภาพพร้อมอาหารชั้นเลิศ

Cr: DARIN | ダーリン

สถานที่ที่หญิงจะพาเพื่อนๆมาพักผ่อน แช่ออนเซน ทานอาหารจากเชฟชื่อดัง ตบท้ายด้วยขนมเค้กจากสุดยอดเชฟขนมหวาน คือ Aquaignis รีสอร์ทออนเซนที่ห้ามพลาดเด็ดขาด

Cr: DARIN | ダーリン

ภายใน Aquaignis มีทั้ง ออนเซน 100% ทรีทเมนต์และแพ็คเกจสปา ให้ได้ผ่อนคลายกับการนวดอย่างพิถีพิถัน พร้อมทั้งร้านขนมเบเกอรี่ ร้านอาหารอีตาเลี่ยน ร้านอาหารญี่ปุ่น และในช่วงฤดูหนาวก็มีสวนสตอเบอรี่ให้เก็บอีกด้วย แถมบรรยากาศดี ถ่ายรูปด้วย

Cr: DARIN | ダーリン

และวันนี้หญิงจะพาเพื่อนๆมาทานอาหารญี่ปุ่นโดยเชฟ Masahiro Kasahara ที่เป็นผู้ควบคุมรสชาติอาหาร และอาหารทุกจานให้ออกมารสชาติดีเยี่ยมกันจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

ก่อนอื่นเรามาสั่งอาหารกันเลยดีกว่า อยากบอกว่าทุกเมนูได้รับคำแนะนำจากผู้จัดการของทาง Aquaignis เลยนร้า คือเรื่องไม่อร่อยนี้เป็นไปไม่ได้เลยแหละ เมนูแรกของเราคือ สลัดมะเขือเทศ (Tomato Marugoto Saladda )ที่มีความพิถีพิถันตรงน้ำสลัดนี้แหละค่ะเพื่อนๆ เพราะเขาใช้ผักสามชนิดเป็นส่วนผสมแหละ คืออร่อยเกินคาด เมนูนี้ ราคา 700 เยน

Cr: DARIN | ダーリン

ต่อด้วยเมนูที่สอง Potato Cream Koroke คือด้านนอกจะกรอบๆด้วยแป้งขนมปังกำลังดี ด้านในนั่นจะเป็นมันบดตีกับครีมให้ความนุ่มละมุนเข้ากันมากๆ เมนูนี้ราคา 700 เยน เช่นกันค่ะ

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากที่เราสั่งเมนูทานเล่นกันไปแล้ว ก็มาสั่งกันที่เมนูจริงจังเมนูที่ 1 กันค่ะ เมนูนี้มีชื่อว่า Komokinton Shoga Yaki Teisyoku เป็นหมูย่างราดด้วยซอสขิง ที่มีความกลมกล่อมไม่รู้สึกถึงขิงมากจนเกินไป และเนื้อหมูที่นุ่มกำลังพอดี เสิร์ฟพร้อมกับข้าวๆร้อนๆ รับรองค่ะว่าอร่อย เมนูนี้ราคา 1,500 เยนจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

ต่อด้วยเมนูที่ 2 เมนูนี้มีชื่อว่า Gyoshisankara No Okurimono แปลว่าของขวัญจากชาวประมง ซึ่งขอบอกเลยว่าเมนูนี้อร่อยที่สุดค่ะ มีขั้นตอนในการทานดังนี้ คือคีบปลามาวางไว้บนข้าว แล้วเทน้ำชาพอประมาณ เมื่อเวลาทานจะได้รสชาติของปลาสดๆ ข้าวนุ่มๆ และน้ำซุปที่กลมกล่อมของน้ำซอสถั่วเหลือง เมนูนี้ราคา 1,200 เยน

Cr: DARIN | ダーリン

และเมนูที่ 3 เมนูสุดท้ายของเรา มีชื่อว่า Matsusakagyu Karubitataki เป็นเมนูเนื้อมัตสึซากะย่างแบบมีเดียมแรร์ ทำให้ตัวเนื้อมีนุ่มแต่เหนียวนิดๆและหวานหน่อยๆ กินกับข้าวอร่อยจริงๆจ้า เมนูนี้ราคา 3,200 เยน

Cr: DARIN | ダーリン

และแล้วเราก็ทานข้าวจนอิ่มหนำสำราญ ต่อไปจะพาไปร้านเบเกอรี่กันต่อค่ะ ร้านนี้ได้รัลความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก เพราะเขาว่ากันว่าขนมปังที่คุณภาพดี ทำให้ต้องต่อแถวซื้อกลับบ้านกันยาวเหยียด

Cr: DARIN | ダーリン

ไม่ต้องบรรยายเยอะเลยค่ะ คนต่อแถวจนออกประตูนอกร้านเลย ขนมปังที่นี้อบสดใหม่ทุกวัน ราคาไม่แพงด้วยแหละจ้า ขนาดอิ่มแล้ว เดินเข้ามาในร้านได้กลิ่นความหอมของขนมปังก็อยากจะทานอีกเลยแหละ

Cr: DARIN | ダーリン

ขนมปังแถวนี้ หน้าตาน่ารักมากเลย ราคาก็แค่เพียง 220 เยนเท่านั่นเอง อยากบอกเพื่อนๆว่ามาแล้วต้องลองนะ

Cr: DARIN | ダーリン

สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ชอบตัวคาแร๊กเตอร์โทโทโร่ ก็อย่าได้พลาดขนมปังชิ้นนี้เลยค่ะ ไส้ครีมช็อคโกแลต ราคา 200 เยนจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

ถึงแม้จะไม่ได้ทานอาหารอิตาเลียนต้นตำรับเชฟ Masayuki Okuda ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ขอแวะมาดูบรรยากาศนิดหน่อยนะ เมนูของร้านนี้จะเป็นพาสต้าและพิซซ่ารสชาติต่างๆกว่าเกือบ 10 ชนิด ร้านเปิด 11:00-19:00 น.

Cr: DARIN | ダーリン

สำหรับของฝาก หรือขนมหิ้วติดไม้ติดมือกลับบ้านเขาก็มีขายนร้า พอดัหญิงไปช่วงปลายเดือนกันยายนมาค่ะเพื่อนๆ ใกล้กับเดือนตุลาคมพอดี เขาเลยมีของฝากน่ารักๆตามธีมฮาโลวีนให้เราได้เลือกซื้อเยอะเลย

Cr: DARIN | ダーリン

และสินค้าที่ได้รับความนิยมมากๆคือ แยมรสชาติต่างๆกว่า 10 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว ช็อคโกแลต คาราเมล สตอเบอรี่ ส้ม หรือใครชอบทานมาการองที่นี้เขาก็มีบริการให้

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากที่ทานข้าวกันแล้ว หญิงจะพาไปทานขนมเค้กกันต่อค่ะ ร้านนี้ขนมเค้กทุกชนิด ถูกออกแบบและควบคุมการทำโดย คุณ Hironobu Tsujiguchi เชฟทำขนมหวาน (ปาติชิเญ่)ผู้เก่งกาจด้านสายขนมฝรั่งเศส และเคยเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกอาหารที่เยอรมนีอีกด้วย แน่นอนว่าถ้าได้ทานขนมเค้ก จะไม่มีคำว่าผิดหวังเลยค่ะเพื่อนๆ เพราะอร่อยจริง หญิงทานหมดเลย

Cr: DARIN | ダーリン

หากเพื่อนๆคนไหนสนใจแช่ออนเซนเพื่อผ่อนคลายร่างกายและบำรุงผิวพรรณ ทาง Aquaignis ก็มีบริการในราคาเพียง 600 เยนเท่านั่น แถมยังเปิดบริการตั้งแต่ 6:00-24:00. น. อีกด้วย

Cr: DARIN | ダーリン

ปิดท้ายด้วยหญิงจะพาเพื่อนๆไปชมบ้านพัก 2 แบบ จากทั้งหมด 4แบบ 4 หลัง ซึ่งบ้านพักทุกหลังจะมีออนเซนส่วนตัวภายในตัวด้วยนร้า อีกทั้งเมื่เข้าพัก ก็จะมีอาหารเช้าและอาหารเย็นให้บริการ

Cr: DARIN | ダーリン

ซึ่งบ้าน 4 หลังนี้ ถูกออกแบบโดยสถาปนิกคนละคน ทำให้บ้านแต่ละหลังมีสไตล์การตบแต่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ทุกหลังจะถูกสร้างด้วยไม้เป็นวัสดุหลัก บ้านหลังแรกที่หญิงจะพาไปคือ บ้าน Sugi (杉)

Cr: DARIN | ダーリン

ที่บ้านพักหลังนี้ตั้งชื่อว่า Sugi (杉)เพราะ ใช้ไม้ Sugi ในการสร้างนั่นเองแหละค่ะเพื่อนๆ พื้นที่ภายในห้องก็ใหญ่ และให้ความรู้สึกผ่อนคลายมาก

Cr: DARIN | ダーリン

และที่บอกไปแล้วนั่นว่า แต่ละบ้านก็มีออนเซนส่วนตัว ซึ่งทางเข้าออนเซนจะติดกับห้องน้ำภายในบ้านทำให้เมื่อแช่ออนเซนเสร็จแล้ว ก็สามารถที่จะอาบน้ำได้เลย

Cr: DARIN | ダーリン

ส่วนในบ้านหลังที่ 2 ชื่อว่าบ้านพัก Kuri (栗) เพราะตัวบ้านทำมาจากไม้คุรินั่นเองค่ะ ห้องนอนของบ้านพักนี้จะถูกยกตัวขึ้นสูง ห้องนอนมีความกว้าง 10 เสื่อ สามารถเข้าพักได้ทั้งหมด 7ท่านค่ะ

Cr: DARIN | ダーリン

บ้านพัก Kuri จะเป็นสไตล์สีเขียว เฟอร์เจอร์ทุกชิ้นจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มากกว่านั่นทางเดินไปออนเซนยังเป็นสวนญี่ปุ่นเล็กๆน่ารัก ไว้ให้ได้สูดอากาศสดชื่นยามเช้าอีกด้วยค่ะ นอกจากสองห้องนี้และยังมีห้อง Hinoko และห้อง Matsu อีก และหากเพื่อนๆคนไหนต้องการพักแบบที่พักธรรมดาทาง Aquaignis ก็มีให้บริการในราคาหมื่นกว่าเยนค่ะ

Aquaignis (アクアイグニス)

ที่อยู่ 4800-1 Komono, Komonocho,Miegun, Yokkaichi-shi, Mie Prefecture 510-1233
วิธีเดินทาง จากสถานี Gozaisho Ropeway (御在所ロープウエイ)ขึ้นรถบัส Mie-Kotsu มุ่งสู่ Aquaignis (アクアイグニス) ใช้เวลาประมาณ 11 นาที สามารถใช้บัตร Kintetsu Rail pass plus ได้
เวลาทำการเช็คอิน 15:00 น.
เช็คเอาท์ 11:00 น.
ราคาราคาห้องพัก 13,200 เยน 〜
โทรศัพท์ 059-394-1511

Nabana No Sato (なばなの里) :ชมสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

Cr: DARIN | ダーリン

และแล้วก็มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายในทริปนี้แล้วจ้า หญิงจะพาเพื่อนๆไปชมสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และไม่ว่าจะฤดูไหนก็มีดอกไม้สวยๆให้ชมตลอดทั้งปีเลย

Cr: DARIN | ダーリン

ส่วนค่าเข้านั่นเราก็ได้รับส่วนลดจากบัตร Kintetsu Rail Pass Plus คือจากราคา 1,600 เยนก็จ่ายเพียง 1,400 เยนจ้าเพื่อนๆ

Cr: DARIN | ダーリン

ซึ่งสวนแห่งนี้ มีพื้นที่ถึง 43,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดในได้ชมมากมาย ดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เช่น ดอกทิวลิป

Cr: DARIN | ダーリン

ช่วงเดือนปลายกันยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงการชมดอกไม้ฤดูใบไม้ร่วง ได้แก่ ดอกรักเร่ ดอกดาวกระจาย ซึ่งหญิงมาในช่วงนี้เลยจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

ซึ่งไฮไลท์สำคัญของสวนนี้คือการชมดอกไม้ ที่เรือนกระจกขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า  Begonia Garden ซึ่งในเรือนกระจกนี้ จะเต็มไปด้วยดอกกุหลาบขนาดใหญ่ที่บานสะพรั่ง เรียงรายกว่า 800 สายพันธุ์

Cr: DARIN | ダーリン

เมื่อเราชมดอกไม้ที่ Begonia Garden กันจนสดชื่นแล้ว ด้านนอกก็มีสวนดอกคอสมอส ให้ได้เดินชมและถ่ายรูปสวยๆกลับไปเป็นที่ระลึกด้วยน้า

Cr: DARIN | ダーリン

แต่ตรงนี้ไม่ได้มีแค่สวนคอสมอส แต่ยังมีสวนกุหลาบที่กำลังเบ่งบานเมื่อจะเข้สู่เดือนตุลาคมอีกด้วย เพื่อนๆคนไหนชอบดอกไม้ แน่นอนว่าที่นี้ถูกใจแน่นอนจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

ก่อนกลับเราก็ขอนั่งพัก ดื่มชา ทานขนมของขึ้นชื่อจากทาง Nabana No Sato กันก่อน ขนมชิ้นนี้มีชื่อว่า Yasunagamochi(安永餅)ที่ด้านนอกจะเป็นแป้งโมจิ ด้านในเป็นถั่วแดง แล้วนำเอาไปปิ้ง เมื่อทานแล้วจะรู้สึกว่าโมจิด้านนอกนั่นไม่นิ่มจนเกินไป เข้ากันกับน้ำชามากจ้า วิธีการเดินทางกลับนั่นให้นั่งรถบัส Mie-Kotsu ไปลงที่สถานี Kuwana (桑名駅) หลังจากนั่นนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Nagoya (名古屋駅) จ้า

Nabana No Sato(なばなの里)

ที่อยู่270 Urushibata, Nagashimacho Komae, Kuwana-shi, Mie Prefecture 511-1144
วิธีเดินทาง จาก Aquaignis (アクアイグニス) ขึ้นรถบัส Mie-Kotsu ลงสถานีรถไฟ Yunoyama-onsen(湯の山温泉) ใช้เวลา 3 นาที หลังจากนั่นนั่งรถไฟต่อไปที่สถานี Kuwana (桑名駅) ใช้เวลา 38 นาที เมื่อถึงสถานี Kuwana (桑名駅) แล้วให้เดินไปขึ้นรถบัสสาย 57 มุ่งสู่ Nabananosato (なばなの里行)ใช้เวลา 18 นาที สามารถใช้บัตร Kintetsu Rail pass plus ได้
เวลาทำการ 9:00 – 21.00 น.
ราคาเข้าดูสวนดอกไม้ 1,600 เยน
โทรศัพท์ 059-441-0787

ข้อสรุป

ในที่สุดการเดินทางครั้งนี้ก็จบลงได้อย่างสวยงาม แถมยังคุ้มอีกต่างหากเพราะเรามีบัตร Kintetsu Rail Pass Plus ที่เป็นทั้งบัตรโดยสาร และบัตรส่วนลดต่างๆให้อีกด้วย ถ้าจะอธิบายอย่างละเอียดเลยคือ บัตร Kintetsu Rail Pass Plus นี้สามารถทำให้ทริปนี้ประหยัดเงินไปได้ถึง 5,582 เยนเลยแหละค่ะเพื่อนๆ ซึ่งเพื่อนคนไหนต้องการเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ก็อย่าลืมจังหวัดมิเอะนร้า เพราะสถานที่ท่องเที่ยวของเขาดีจริง ตอนนี้นักท่องเที่ยวก็ยังน้อยมากด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจังหวัดมิเอะไม่ได้มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่หญิงแนะนำไปเท่านั่น ยังมีอีกหลายที่เลยที่หญิงอยากจะแนะนำ ไว้โอกาสหน้าจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มิเอะอีกนร้า ฝากบทความนี้ด้วยนร้า สวัสดีค่ะ

Meiji Step RakuRaku Cube LP R3
Meiji Step RakuRaku Cube LP R4
DARIN | ダーリン

Blogger : DARIN | ダーリン

เดินทางชิวชิว หิวหยิบสัปปะรด ชอบธรรมชาติเป็นที่สุด หลุดขั้วเที่ยวญี่ปุ่น แฮปปี้พรรณาของกิน มโนได้จนเพื่อน ๆ คล้อยตาม อิอิ ??

14 Posts

Meiji Step RakuRaku Cube LP R5

สถานที่เที่ยว

| Feature
Meiji Step RakuRaku Cube LP R6

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

Meiji Step RakuRaku Cube LP R7