10 ที่เที่ยว ทตโตริ (Tottori) สุดอลังการเนินทรายญี่ปุ่น ตามรอยโคนัน ชมวัดเก่าแก่

แนะนำ ทตโตริ (Tottori)

จังหวัดทตโตริ (Tottori) ตั้งอยู่ในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นในภูมิภาค Chugoku มีอาณาเขตครอบคลุมชายฝั่งทะเลที่ยาวสุดลูกหูลูกตาจากฝั่งตะวันออก ไปยังฝั่งตะวันตก เป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แต่ก็มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะเนินทรายที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในญี่ปุ่นนั้นกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี

การเดินทางไปยัง ทตโตริ (Tottori)

สนามบิน

ที่ทตโตริมีสนามบินด้วยกันสองสนามบิน คือ Yonago Kitaro Airport และสนามบิน Tottori Sand Dunes Conan Airport แต่ไม่ได้รองรับเที่ยวบินตรงจากประเทศไทย สามรถเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินฮาเนดะเพียง 1 ชม. 10นาทีเท่านั้น

รถไฟ

ใครที่มี JR PASS, Kansai WIDE Area pass หรือ San’in-Okayama Area Pass ก็สามารถนั่ง Shinkansen ได้เลย ใช้เวลา 2ชั่วโมงครึ่งจากโอซาก้า หรือ 5 ชั่วโมงจากโตเกียว

รถบัส

มี Night bus จากโตเกียว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12ชั่วโมง ค่าเดินทางอยู่ที่ประมาณ 10,000เยน และSugizaki Highway Bus จากโอซาก้า ใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมง

10 ที่เที่ยว Tottori

ต่อไปเราจะมาแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยว Tottori ที่รับประกันได้ว่า แทบจะหาที่ไหนในญี่ปุ่นเหมือนไม่ได้เลย

เนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes)

เนินทรายขนาดใหญ่ ที่มีขนาดกว้างไกลจนดูเหมือนกับทะเลทราย มีลักษณะกว้างขวางและเป็นแนวยาวเลียบไปกับทะเลญี่ปุ่น มีความสูง 50 เมตร และมีความกว้างถึง 2 กิโลเมตร อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติ Sanin Kaigan National Park ป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งชาวต่างชาติ และคนญี่ปุ่นเองอีกด้วย

นอกจากการเดินเล่นในทะเลทรายแล้ว เค้ายังมีกิจกรรมสนุก ๆ ได้คุณได้ลองสัมผัสอีกด้วย เช่น การขี่อูฐชมทิวทัศน์บนเนินทราย ให้คุณได้ถ่ายภาพชิค ๆ ของคุณกับน้องอูฐไว้อัพลงบนโซเชียล หรือการเล่นกระดานทราย (Sand Board) ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับการเล่นสโนว์บอร์ด แต่เปลี่ยนมาเป็นเล่นบนทราย !

เนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (Tottori Sand Dunes The Sand Museum)

Cr: sand-museum

หลังจากเล่นสนุกกลางเนินทรายกันมาแล้ว ลองมาชมประติมากรรมที่ทำมาจากทรายกันดูสิ พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (Tottori Sand Dunes The Sand Museum) แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเนินทะเลทรายทตโตริ และยังเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในโลก ที่มีการจัดแสดงงานศิลปะแกะสลักที่ใช้วัตถุดิบจากทราย

Cr: sand-museum

ซึ่งทรายที่นำมาสร้างสรรค์ผลงานนั้นก็ไม่ใช่จากที่ไหน นำมาจากเนินทรายทตโตรินั่นเอง ผลงานการปั้นและแกะสลักเหล่านี้ก็มาจากประติมากรชื่อดังจากทั่วโลก ที่จะสร้างสรรค์ผลงานการแกะสลักอย่างละเอียดและประณีตให้พวกเราได้ชมกัน !

Cr: sand-museum

Cr: sand-museum

พิพิธภัณฑ์ทรายแห่งนี้ จะเปิดให้บริการช่วงเดือนเมษายน – พฤศจิกายน จากนั้นจะปิดทำการเพื่อเตรียมจัดแสดงนิทรรศการในปีต่อไป เสน่ห์ของงานแกะสลักเหล่านี้คือ ในแต่ละปีจะมีธีมที่แตกต่างกันไป และความคงทนของการแกะสลักทราย เนื่องจากสามารถพังทลายได้ง่าย จึงสามารถรับชมได้ในช่วงเวลาและสถานที่ที่จำกัดนั่นเองล่ะ

Cr: sand-museum

พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (Tottori Sand Dunes The Sand Museum)

Gosho Aoyama Manga Factory (พิพิธภัณฑ์โคนัน)

Cr: Gosho Aoyama Manga Factory

หากคุณเป็นแฟนตัวยงของยอดนักสืบจิ๋ว “โคนัน” หรือ “คุโด้ ชินอิจิ” แล้วล่ะก็ คงไม่อยากพลาดกับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แน่ๆ เพราะที่นี่รวบรวมผลงานของ อาจารย์โกโช อาโอยาม่า ผู้เขียนซีรี่ย์และมังงะชื่อดังเรื่อง “โคนัน” ที่พวกเรารู้จักกันนั่นเอง

Cr: Gosho Aoyama Manga Factory

ถึงแม้จะเป็นพิพิธภัณฑ์ 2 ชั้นที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ด้านในคุณจะได้เพลิดเพลินและฟินไปกับผลงานของอาจารย์อาโอยาม่า อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะประวัติของอาจารย์ ตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งเริ่มเป็นนักเขียนการ์ตูนในปัจจุบัน ต้นฉบับการ์ตูน แผ่นอนิเมะ หุ่นจำลองตัวละครเรื่องโคนันยอดนักสืบ และห้องทำงานจำลอง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนจริงมากเลยล่ะ

Cr: Gosho Aoyama Manga Factory

และบนชั้นที่ 2 ก็ยังมีมุมให้คุณทดลองแก้ไขคดีปริศนาการฆาตกรรม เหมือนกับได้เป็นโคนันคุงจริง ๆ เลย น่าตื่นเต้นดีใช่มั้ยล่ะ ! ระหว่างทางก็มีตัวการ์ตูนในเรื่องมายืนต้อนรับพวกคุณไม่ขาดสาย รวบถึงจอมโจรคิดที่จะมาคอยขโมยหัวใจสาว ๆ อีกด้วย ระวังกันด้วยล่ะ !!!

Cr: Gosho Aoyama Manga Factory

หากยังไม่จุใจ ที่นี่ก็ยังมีร้านขายของที่ระลึก ที่อยู่ตรงกันข้ามกับทางเข้าพิพิธภัณฑ์ จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับการ์ตูนนักสืบจิ๋วโคนัน มีทั้งขนม ตุ๊กตา หนังสือ DVDการ์ตูน พวงกุญแจ เหรียญที่ระลึก สมุดโน้ต และอื่นๆอีกมากมายให้ได้ช้อปกลับบ้านกันอีกด้วย

Gosho Aoyama Manga Factory (พิพิธภัณฑ์โคนัน)

ชายฝั่งอุระโดะเมะ (Uradome Coast)

หากใครกำลังคิดว่าชายหาดที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่สวยล่ะก็ ลองคิดใหม่หากคุณยังไม่ได้มาเที่ยวที่ ชายฝั่งอุระโดะเมะ ที่ทตโตริแห่งนี้ บริเวณชายฝั่งอุระโดเมะนั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานธรณีที่มีแหล่งชมวิวสวยสุดๆ !! และน้ำที่ใสจนมองเห็นลึกลงไปมากกว่า 25 เมตรเชียวล่ะ

ชายฝั่งทะเลอุราโดเมะ เกิดจากสภาพของหินที่ผุกร่อน จนเกิดเป็นอุโมงค์ถ้ำ และหินที่มีลักษณะแบบแปลก ๆ บวกกับน้ำทะเลสีฟ้าใสตัดกับหาดทรายขาวสะอาด ดูยังไงนี่มันก็เหมือนหาดสวรรค์ชัด ๆ

ชายฝั่งอุระโดะเมะ (Uradome Coast)

สวนดอกไม้ทตโตริ ฮานะ ไคโร (Tottori Hanakairo Flower Park)

สวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองโยนาโกะ (Yonago) มีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์บานต้อนรับคุณอยู่บนพื้นที่กว่า 310 ไร่ !!! และมีดอกลิลลี่สีสันสดใสโดดเด่น ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติถึง 15 สายพันธุ์ และยังเป็นดอกไม้ประจำสวนแห่งนี้ด้วยล่ะ

ดอกไม้แสนสวยของสวนแห่งนี้สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปีเลย

ในตอนกลางคืนจะกลายเป็น “Moonlight Flower Garden” ที่มีการประดับไฟรอบๆเนื้อที่ 80,000 ตร.ม. ล้อมรอบอาคารชมวิวทรงโดมเอาไว้ ให้บรรยากาศสุดโรแมนติก คุณจะได้เดินอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่มีไฟระยิบระยับชวนหลงไหลสุด ๆ

ถึงแม้สวนดอกไม้แห่งนี้จะมีพื้นที่กว้างขวางมาก แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเดินกันจนเมื่อยซะก่อน เพราะที่นี่เค้ามีบริการรถวิ่งด้านใน โดยมีค่าบริการเพียงแค่คนละ 300 เยนเท่านั้นเอง

สวนดอกไม้ทตโตริ ฮานะ ไคโร (Tottori Hanakairo Flower Park)

มิซาสะออนเซ็น (Misasa Onsen)

Misasa Onsen แหล่งออนเซ็นเก่าแก่ท่ามกลางธรรมชาติที่อยู่ในเมืองคุราโยชิ จังหวัดทตโตริ ภูมิภาคชูโกกุ ว่ากันว่าถ้าเกิดได้แช่มิซาสะออนเซ็นเป็นเวลา 3 วัน ไม่ว่าป่วยเป็นโรคอะไรมาก็จะหาย สุขภาพแข็งแรง ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนที่เหล่าผู้ฝึกตนในศาสนาพุทธจะมาแช่ที่ออนเซ็นแห่งนี้ ทำให้มีความเชื่อว่าเป็นแหล่งออนเซ็นศักดิ์สิทธิิ์

ตัวน้ำพุร้อนของที่นี่มีส่วนประกอบของแร่เรเดียมที่แตกต่างจากที่อื่น มีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด ภายในมิซาสะออนเซ็นก็ไม่ได้มีแค่บ่อออนเซ็นไว้ให้แช่เท่านั้นนะ แต่มีจุดดื่มน้ำออนเซ็นที่มีแร่เรเดียมฟรีตั้งเอาไว้ให้บริการอ ทั้งดื่มทั้งแช่ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ เลย

ศาลเจ้าฮาคุโตะ (Hakuto Shrine)

ศาลเจ้ากระต่าย Hakuto Shrine เป็นที่ๆคนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรความรักและลูกที่นี่ ศาลเจ้าแห่งนี้มีตำนาน “กระต่ายแห่งอินาบะ” ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเทพเจ้า และก่อเกิดตำนานความรักระหว่างเทพเจ้า Ookuninushi และ เจ้าหญิง Yakamihime ขึ้น ถือเป็นต้นกำเนิดของตำนานรัก

ศาลเจ้าแห่งนี้จึงถูกตั้งให้เป็น “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของคู่รัก” ดังนั้น คู่รักหลายหลายคู่จึงนิยมเดินทางมาขอพรที่นี่และซื้อเครื่องรางติดตัวกลับไป

ศาลเจ้าอยู่ติดริมฝั่งทะเลญี่ปุ่น สามารถเดินเที่ยวชมชายฝั่งทะเลที่สวยงามและ เป็นต้นกำเนิดของตำนานความรักดั่งกล่าวขึ้นได้อีกด้วย

Hakuto Shrine

ศาลเจ้าโอกามิยามะ (Ogamiyama Shrine)

ศาลเจ้าโอกามิยามะ Tottori เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างมากว่า 1,200 ปี วิหารหลักที่ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นสถาปัตยกรรมแบบกงเก็นสึคุริของชินโตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความสวยงามเป็นธรรมชาติและร่มรื่น

ทางเดินเข้าศาลเจ้าปูด้วยหินธรรมชาติ ยาว 700เมตร ที่นี่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ตัวอุโบสถหลักสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบGongen-zukuri ของชินโต ที่ใหญ่ที่สุด ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามในฤดูใบไม้ร่วง

Ogamiyama Shrine

ภูเขาไดเซ็น (Mount Daisen)

ภูเขาไดเซ็นคือภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคชูโกกุ รูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจอ สูงถึง 1,729 เมตร เป็นพื้นที่ภูเขาไฟที่สงบลงแล้ว มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ รวมถึงป่าบีชที่ปกคลุมภูเขาบนระดับความสูงกว่า 800-1,300 เมตร ซึ่งถือว่ากว้างใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก เขียวชอุ่มในฤดูใบไม้ผลิ และเปลี่ยนเป็นสีแดงในฤดูใบไม้ร่วง

ภูเขาไดเซ็นได้รับการบูชาในฐานะภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของการบูชาภูเขาเลยทีเดียว เป็นที่ตั้งของวัดไดเซ็น (Daisen Temple) อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปีตั้งแต่บุกเบิกเขา

Mount Daisen

วัดซันบุทสึจิ ภูเขามิโตะกุ(Mitokusan Sanbutsuji Temple)

สร้างขึ้นบนภูเขามิโตคุ (Mitokusan) ตั้งอยู่บนขอบหน้าผาสูงชันที่ระดับความสูง 525 เมตร เหนือน้ำทะเล อาคารได้รับการรับรองให้เป็นสมบัติประจำชาติและสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม โบสถ์นาเกอิเรโดปัจจุบันนี้ก็ยังไม่อาจทราบได้ว่าสร้างขึ้นมาด้วยวิธีใด

สามารถปีนเขาขึ้นไปเพื่อชมความสวยงามด้านบนได้ แต่การขึ้นไปยังโบสถ์นาเกอิเรโดจะต้องปีนเขาสูงชันอย่างยากลำบาก ใช้เวลาไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมง

Mitokusan Sanbutsuji Temple

การเดินทางภายใน Tottori

JR Pass ที่แนะนำใน ทตโตริ (Tottori)

การเดินทางจากโอซาก้าสู่ทตโตริ สะดวกสบายทำได้โดยการขึ้นรถไฟชินคันเซ็น ในเวลา 150 นาที หรือจากโตเกียว ใช้เวลา 5ชั่วโมง

ข้อมูลพาสเพิ่มเติม

ตะลอนทั่วคันไซให้คุ้มด้วย Kansai Area Pass และ Kansai WIDE Area Pass

ข้อมูลพาส คันไซที่ต้องรู้

JR Okayama San’in-Okayama Area Pass เที่ยวตามรอยยอดนักสืบจิ๋วโคนัน

ข้อมูลพาส San’in-Okayama ที่ต้องรู้

ช่องทางการซื้อพาส

JR Kansai WIDE Area Pass (5 Days)

ช่องทางการซื้อพาสแบบสะดวกรวดเร็ว

4 Day JR San’in Okayama Area Pass

ช่องทางการซื้อพาสแบบสะดวกรวดเร็ว

สภาพอากาศที่ต้องรู้ใน จังหวัด ทตโตริ (Tottori)

ทตโตริมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 14 องศา ช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิอาจพุ่งสูงเกิน 30 องศา เลยทีเดียว ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดในฤดูหนาวจะประมาณ 0 องศา โดยเฉพาะเขตภูเขา เช่น ไดเซ็น ทางภาคตะวันตกของจังหวัดทตโตริซึ่งในฤดูหนาวจะยิ่งมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้นไปอีก

การแต่งกายที่ ทตโตริ (Tottori)

เนื่องจากทตโตริเป็นจังหวัดที่ไม่ได้หนาวเย็นมาก จึงสามารถสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ ได้ อาจจะพกแค่โค้ทหรือเสื้อคลุมเพื่อนกันหนาวหรือกันลมบ้าง แต่ถ้าหากเป็นช่วงหน้าหนาวแล้วล่ะก็ อาจจะต้องแต่งตัวหนาๆสักนิด เพื่อนๆสามารถอ่านบทความแนะนำการแต่งตัวด้านล่างนี้ได้เลย

การแต่งกายช่วงฤดูหนาว แต่งยังไงให้ดูดีลองอ่านนี่เลย

เทคนิค แต่งตัวไปญี่ปุ่นหน้าหนาว ให้อุ่นสบาย ไม่อ้วนกลม!

บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!

และสำหรับช่วงฤดูร้อน แต่งตัวสบายๆ ไม่ดูหนาเกินจริง ก็มาทางนี้เลย

แนะนำการ แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หน้าร้อน จาก 3 แบรนด์ฮิต

หน้าร้อนไม่ร้อนใจ แต่งตัวเข้ากันฤดูเที่ยวเพลิน

อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง ทตโตริ (Tottori)

ทตโตริ (Tottori) เป็นเมืองหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่มีวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นที่น่าสนใจอย่างมาก อาหารพื้นเมืองทตโตริมีความหลากหลาย

ทตโตริ วากิว Tottori Wagyu

นับเป็นต้นกำเนิดของวากิวประเทศญี่ปุ่น

ปูยักษ์สุดอร่อย

ทตโตริถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งปู เนื่องจากสามารถจับปูได้มากอันดับต้นของญี่ปุ่น มีปูอยู่ 2 สายพันธุ์ให้เลือกทาน คือ “ปูเบนิซูไว” จับได้ช่วงเดือนกันยายน – มิถุนายน และ “ปูมัตสึบะ”จับได้ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม

ข้าวคลุกปู (Kani Meshi)

เนื่องจากเป็นเมืองแห่งปู จึงมีอาหารเกี่ยวกับปูมากมาย แต่ที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือข้าวคลุกปู (Kani Meshi) เมนูดังที่มีขายทั้งแบบเป็นเบนโตะตามสถานีรถไฟและเป็นร้านนั่งกิน

Tottori pear

เมืองทตโตริเป็นแหล่งผลิตลูกแพร์ที่เยอะที่สุดของญี่ปุ่น มีรสชาติเข้มข้น หวานกรอบ และมีผลิตภัณฑ์จากลูกแพร์มากมาย อย่างเช่นไอศกรีมลูกแพรเป็นต้น

ข้อสรุป

ไม่ธรรมดาจริง ๆ สำหรับเมืองที่มีประชากรน้อยแห่งนี้ แต่กลับมีสถานที่ท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าเป็นอีกจังหวัดน่าเที่ยวในภูมิภาคจูโกกุ เลยล่ะ

นอกจากสถานที่เที่ยว หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมานี้แล้ว ที่ทตโตริยังมีอาหารที่ต้องลองก่อนกลับไป อย่างหลากหลายเมนูปู หรืออาหารทะเลต่าง ๆ ไว้รอให้คุณได้มาลิ้มรสเพิ่มความฟินกับเมืองนี้อีกด้วยนะ