สักการะศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu ศาลเจ้าเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง Kamakura

ข้อมูลทั่วไปของศาลเจ้า

ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu สร้างขึ้นเมื่อในปีค.ศ. 1063 โดย Minamoto Yoriyoshi จนกระทั่งในปีค.ศ. 1180 Minamoto Yoritomo ได้มีการก่อสร้างต่อเติมศาลเจ้าและได้ย้ายศาลเจ้ามาในที่ๆตั้งอยู่ในปัจจุบัน ณ เวลานี้

จุดประสงค์ของการสร้างศาลเจ้า Tsurugaoka นั้นเพื่อเคารพเทพ Hachiman ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ตระกูล Minamoto และซามูไร ต่างนับถือ

ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้นับว่าเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของเมือง Kamakura และภายในศาลเจ้านั้นก็ประกอบไปด้วยศาลเจ้าย่อยอีกเช่น ศาลเจ้า Wakamiya, ศาลเจ้า Maruyama Inari, ศาลเจ้า Shirahata และ Hataage Benzaiten เป็นต้น

ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีช่วงเวลาที่น่ามาเยือนอย่างเช่นช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ

ไฮไลท์ที่สำคัญของศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu

San no Torii

San No Torii หรือเสาโทริอิที่ 3 เดิมที่นั้นเสาโทริอิอันนี้ถูกบริจาคโดย Tokugawa Ietsuna ซึ่งเป็นโชกุน Tokugawa คนที่ 4 ในปีค.ศ. 1668 โดยทำมาจากหิน ก่อนที่จะเกิดเหตุแผ่นดินไหว Kanto ในปีค.ศ. 1923 ทำให้เสาโทริอิได้พังทลายลงมา ก่อนที่เสาปัจจุบันนั้นทำมาจากคอนกรีตเสริมเหล็ก

สระน้ำ Genji

เมื่อเพื่อนๆ มาถึงศาลเจ้า Tsurugaoka แล้วหลังจากที่เดินผ่านสำ Torii แดงเสาแรก เพื่อนๆจะพบกับสระน้ำ 2 ข้างซ้าย – ขวา ซึ่งสระน้ำแห่งนี้มีชื่อว่า Genji 

โดยการสร้างสระน้ำแห่งนี้นั้นก็แฝงไปด้วยนัยยะ นั่นก็คือถ้าสังเกตดีๆ ฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาจะมีจำนวนเกาะไม่เท่ากัน ฝั่งหนึ่งจะมี 4 เกาะ ฝั่งหนึ่งจะมี 3 เกาะ ซึ่งฝั่งที่มี 4 เกาะ จะเปรียบเสมือนเป็นฝั่งของตระกูล Taira ซึ่งเป็นศัตรูกัน โดยจำนวนเกาะที่มี 4 เกาะ เพราะว่าเลข 4 ภาษาญี่ปุ่นจะอ่าน ชิ ซึ่งจะไปพ้องเสียงกับคำว่า ชิ ที่แปลว่าตาย นั่นเอง

ส่วนฝั่งที่มี 3 เกาะ ซึ่งเป็นการสื่อถึงความเจิรญรุ่งเรือง จะเป็นฝั่งของตระกูล Minamoto ซึ่งมีศาลเจ้าที่ชื่อว่า Hataage Benzaiten ตั้งอยู่ด้วย โดยสระน้ำฝั่งของ Minamoto จะเปิดให้เข้าชมในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วง และไฮไลท์อีกอย่างของสระน้ำฝั่ง Minamoto คือจะมีสวนดอกโบตั๋นให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วย

ศาลเจ้า Hataage Benzaiten

ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนเกาะในสระ Genji สร้างขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1980 โดยมีต้นแบบจากยุค Bunsei

บันไดหิน

บันไดหินของศาลเจ้า Tsurugaoka ก็ถือว่าเป็นไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนี้เลยก็ว่าได้ โดยข้างซ้ายของบันไดจะมีต้นแปะก๊วยซึ่งถ้าเพื่อนๆมาช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบของต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนสีเหลืองสวยงาม แต่ในปี 2010 ต้นแปะก๊วยก็ได้ถูกลมพายุจนโค่นล้มลงมา และกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ที่ล้มลงก็ได้กำลังเจริญเติบโตกับต้นเดิม ซึ่งต้นแปะก๊วยจะมีชื่อเรียกว่า แปะก๊วย พ่อแม่ลูก

กลับมาที่บันไดหินต่อ ถ้าเพื่อนๆมาช่วงวันที่อากาศดีแจ่มใส จะสามารถมองวิวเมือง Kamakura แบบพาโนราม่าได้เลยทีเดียว เท่านั้นไม่พอ ถ้าวันไหนอากาศแจ่มใสแบบสุดๆ จะสามารถมองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิคได้เลยทีเดียว รวมถึงมองเห็นเกาะ Izu oshima ได้อีกด้วย

ศาลเจ้าหลัก ( Jogu )

ตัวศาลเจ้าหลักของศาลเจ้า Tsurugaoka นั้นถูกกำหนดให้เป็น มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ตัวอาคารหลักนั้นเป็นที่ประดิษฐานของจักรพรรดิ Ojin, Himegami และจักรพรรดินี Jingu

และยังเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ที่จัดแสดงสมบัติของศาลเจ้า เช่น ดาบ หน้ากาก และเอกสารต่างๆ เป็นต้น

บ่อน้ำ Yanagihara – Shinchi

บ่อน้ำแห่งนี้มักจะถูกใช้งานในช่วงเทศกาลปล่อยหิ่งห้วยและปล่อยจิ้งหรีด และช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเป้นช่วงเวลาที่ควรมาบ่อนี้เพราะต้นไม้แถวบ่อใบไม้จะเปลี่ยนสีทำให้มีความสวยงามเป็นพิเศษ

เครื่องรางของขลัง

เครื่องอันนี้จะมีรูปคนขี่ม้ายิงธนู ซึ่ง 1 ในพิธีกรรมโบราณที่จัดขึ้นที่ศาลเจ้าแห่งนี้เรียกว่า Yabusame โดยการเช่าเครื่องรางอันนี้นั้น จะเป็นการเช่าเพื่อได้รับงานดีๆ หรือมีหน้าที่การงานที่ดี และความมั่นคงของอาชีพ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ควรมายังศาลเจ้าแห่งนี้

ได้แก่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม ) ซึ่งช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นอากาศจะไม่ค่อยหนาวหรือร้อนมากเกินไป และจะมีดอกซากุระบานทำให้รอบๆศาลเจ้านั้นยิ่งสวยงามขึ้นไปอีก โดยเฉพาะบริเวณรอบบ่อ Genji จะเต็มไปด้วยดอกซากุระสายพันธุ์ Yoshino ที่กำลังบานสะพรั่งสวยงาม และที่เป็นไฮไลท์ของฤดูใบไม้ผลิคือช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งที่นี่จะมีงานประเพณีประจำปีเรียกว่า Yabusame ซึ่งเป็นการยิงธนูจากบนหลังม้า

และช่วงฤดูใบไม้ร่วง ( ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ) เนื่องจากใบไม้จากต้นไม้รอบศาลเจ้าจะเปลี่ยนสี ซึ่งทำให้รอบๆศาลเจ้าจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม โดยเฉพาะต้นแปะก๊วยที่อยู่ข้างทางเดินที่เป็นบันไดหินขึ้นสู่ศาลเจ้าหลักจะเปลี่ยนเป็นสีทองสวยงาม

การเดินทางมายังศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu

ตารางข้อมูล

ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu

ดูแผนที่ ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu

วัดฮาเซเดระ Hasedera Temple

วัดฮาเซเดระ เป็นวัดของนิกาย Jodo ซึ่งที่นี้มีเจ้าแม่กวนอิมที่ทำมาจากไม้ประดิษฐานอยู่ที่อาคารหลักของวัด ซึ่งเป็น 1 ในประติมากรรมที่ทำจากไม้ใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งของญี่ปุ่น โดยมีความสูง 9.18 เมตร

และข้างๆโถงที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ต้องเสียค่าเข้าชม โดยจัดแสดงสิ่งของต่างๆที่เป็นสมบัติของวัดเช่น พระพุทธรูป ระฆังวัด และม้วนภาพ เป็นต้น

วัดฮาเซเดระ Hasedera Temple

ดูแผนที่ วัดฮาเซเดระ Hasedera Temple

วัด Hokokuji

วัดแห่งนี้เป็นวัดนิกาย Rinzai โดยตั้งอยู่บนเนินเขาทางตะวันออกของ Kamakura วัดนี้ถือว่าเป็นวัดเล็กๆ โดยห้องโถงหลักของวัดเป็นอาคารที่สร้างขึ้นมาแทนของเก่า ที่เสียจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ทำหน้าที่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป Shaka Nryorai 

ทางซ้ายมือของห้องโถงจะมีหอระฆังที่มีลักษณะเฉพาะคือ หลังคาทำมาจากฟาง

ส่วนไฮไลท์ของวัดนี้คือป่าไผ่ ซึ่งอยู่ด้านหลังของห้องโถงหลัก ซึ่งมีต้นไผ่มากกว่า 2000 ต้นและยังมีร้านน้ำชาตั้งอยู่ ซึ่งเพื่อนๆสามารถนั่งจิบชาพร้อมกับชมวิวป่าไผ่ได้ด้วย ซึ่งบรรยากาศดีมากๆ 

วัด Hokokuji

ดูแผนที่ วัด Hokokuji

ถนนช็อปปิ้ง Komachi

ถนนช็อปปิ้งแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างสถานี Kamakura กับศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu ซึ่งถนนช็อปปิ้งแห่งนี้จะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก  ซึ่งมีมากกว่า 300 ร้านให้นักท่องเที่ยวเลือกช็อป

ถนนช็อปปิ้ง Komachi

ดูแผนที่ ถนนช็อปปิ้ง Komachi

สรุป

ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานกันระหว่างความเก่าคลาสสิคและธรรมชาติได้อย่างลงตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสักการะขอพร พร้อมกับเที่ยวชมธรรมชาติสวยๆของศาลเจ้าแห่งนี้ได้ โดยเฉพาะถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วงก็จะเต็มอิ่มกับความสวยงามของธรรมชาติรอบๆศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งเพื่อนๆต้องมาศาลเจ้านี้ซักครั้งในชีวิต