ทำไม Yutoku Inari Shrine ถึงเป็นจุดหมายที่ต้องมาเยือนในคิวชู?
ก่อนอื่นผมจะพูดถึงว่าทำไมทุกคนที่มาเที่ยว Kyushu ถึงไม่ควรพลาดการมาเที่ยวศาลเจ้าแห่งนี้
- สามารถมาเที่ยวได้ทั้งฤดูใบไม้ร่วงและใบไม้ผลิ
ที่ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือที่เรียกกันติดปากว่าใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้รอบๆศาลเจ้านั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแสง, ส้ม ซึ่งให้บรรยากาศเหมือนรอบๆศาลเจ้าถูกย้อมเปลี่ยนสี ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ชมวิวสวยๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
หากนักท่องเที่ยวมาช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระบริเวณศาลเจ้าก็ได้ออกดอกที่งามสะพรั่งให้นักท่องเที่ยวเห็นกัน ซึ่งเป็นบรรยากาศที่สุดฟินน์เลยทีเดียว
- การขอพร
แน่นอนว่าจุดประสงค์ยอดนิยมของคนที่มาศาลเจ้าต่างๆของญี่ปุ่นคือ การมาขอพรเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้น ผู้คนมักนิยมมาขอพรเกี่ยวกับธุรกิจ โชคลาภ และความปลอดในเรื่องของการจราจร เป็นต้น
- ชมการรำที่เรียกว่า คากุระ
การรำคากุระนั้นเป็นการรำที่ มิโกะ จะขึ้นมาร่ายรำโดยในมือนั้นจะถือพัด หรืออาจจะเป็นกระพรวน ซึ่งการรำคากุระนั้นเป็นการรำเพื่อถวายแก่เทพเจ้า
การร่ายรำที่ดูงดงามมาก โดยการรำนั้นจะมีขึ้นในพิธีเฉลิมฉลองของศาลเจ้า ซึ่งต้องบอกได้ว่ามีให้ชมแทบจะทุกเดือน โดยนักท่องเที่ยวสามารถดูตารางงานพิธีของศาลเจ้าได้ที่นี่ https://www.yutokusan.jp/en/prayer/dance/
ทำความรู้จักกับ Yutoku Inari Shrine
ประวัติการก่อตั้งศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าอินาริ
ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี.ค.ศ. 1687 โดยคำสั่งของท่าน Kazanin Mankohime ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ปกครองแคว้น Kashima ชื่อว่าท่าน Nabeshima Naotomo เพื่อประดิษฐานเทพ Inari Okami ซึ่งเป็นเทพเกี่ยวกับอาหาร เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นเทพที่ชาวญี่ปุ่นนั้นเคารพมากองค์หนึ่ง
โดยศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นถือว่าเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งในทุกๆปี จะมีผู้คนถึง 3 ล้านคนแวะมาสักการะเทพเจ้า ขอพร
โดยศาลเจ้านี้ประกอบไปด้วยอาคาร สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญๆ เช่น Gohonden, Kaguraden, ประตูศาลเจ้า และอาคารอื่นๆที่มีความงดงาม
ความเชื่อที่มีต่อเทพเจ้าของศาลเจ้านี้ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
อุคะโนะมิทะมะ โนะ คะมิ ( Ukanomitama No Kami ) หรือที่รู้จักกันในชื่อเทพ Inari Okami นั้นเป็นเทพที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่น และมีความนิยมมากในหมู่ชาวญี่ปุ่นมานับ 1000 ปี โดยเทพ Inari Okami นั้นเป็นเทพเกี่ยวกับความมั่งคั่ง, ชา การเกษตร อุตสาหกรรม และการตีเหล็ก ซึ่งตัวเทพนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อน ซึ่งอาจจะเป็นเพศชาย เพศหญิง หรือเพศที่ 3 เลยก็ได้
ในความเชื่อทางด้านพุทธศาสนานั้น เทพ Inari Okami นั้น ก็อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับพระโพธิสัตว์
การสร้างศาลเจ้าเพื่ออุทิศให้แก่เทพ Inari Okami นั้น ที่ญี่ปุ่นนั้นได้มีการสร้างศาลเจ้าให้เทพองค์นี้มากกว่าศาลเจ้าของเทพองค์อื่นๆ เรียกว่ามีมากถึง 1 ใน 3 ของศาลเจ้า
เทพ Inari Okami นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งอย่างที่ผมบอกข้างต้นว่ามุมมองของคนญี่ปุ่นต่อเทพ Inari Okami นั้น ก็มองได้หลายมุมมอง อย่างเช่นเรื่องเพศที่ผมกล่าวไว้ในบรรทัดก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่าเทพ Inari Okami นั้นสามารถเปลี่ยนแปลง และปรับตัวได้ตลอดเวลา เป็นเวลามากกว่า 1000 ปีแล้ว ดังนั้นไม่แปลกว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเทพองค์นี้มาหลายชั่วอายุคน
นอกจากนั้นแล้วเทพ Inari Okami ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถเชื่อมโยงกับนิกายต่างๆ ของศาสนาพุทธได้อีกด้วย อย่างเช่นนิกาย Shingon เกี่ยวกับเทพเจ้าหญิงที่มีความเกี่ยวข้องกับจิ้งจอก ทำให้มีความเชื่อมโยงกับเทพ Inari Okami อีกด้วย
ส่วนรูปปั้นจิ้งจองที่พบเห็นได้ตามศาลเจ้าประเภท Inari ต่างๆนั้น บางความเชื่อบอกว่า จิ้งจอกถือว่าเป็นสัตว์รับใช้ของเทพ หรือบางความเชื่อบอกว่าจิ้งจอกนั้นได้ออกมากำจัดศัตรูพืชอย่างหนู
แนะนำการสักการะเทพเจ้าอินาริที่ Yutoku Inari Shrine
วิธีการขอพรที่ศาลเจ้า
การขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นก็เหมือนกับการขอพรที่ศาลเจ้าอื่นๆ คือ
- ก่อนที่จะเข้าสักการะศาลเจ้านั้น นักท่องเที่ยวจะต้องชำระล้างก่อน ซึ่งที่ศาลเจ้าจะมีบ่อน้ำเล็กๆให้ชำระล้างก่อนที่จะเข้ามาสักการะในศาลเจ้า คือ วิธีการชำระล้างคือเริ่มจากเอามือขวาหยิบกระบวยตักน้ำแล้วนำมาเทลงใส่มือซ้าย จากนั้นใช้มือซ้ายตักน้ำใส่กระบวย แล้วนำมาล้างมือขวา จากนั้นมือขวาตักน้ำแล้วเทใส่บริเวณอุ้งมือซ้าย แล้วเอาน้ำจากมือซ้ายกวักใส่ปาก ( ห้ามเอาปากสัมผัสกับกระบวยโดยตรง ) จากนั้นบวนน้ำออกมาห้ามดื่ม จากนั้นล้างมือซ้ายอีกครั้ง แล้วนำกระบวยตั้งขึ้นเพื่อให้น้ำไหลออกมา แล้วก็จบการชำระล้าง
- หลังจากที่ชำระล้างเสร็จเมื่อมาถึงจุดที่ใช้ในการขอพร ให้นักท่องเที่ยวเริ่มต้นด้วยการโค้งคำนับ 2 ครั้ง จากนั้นตบมือ 2 ครั้ง แล้วให้พนมมือค้างไว้พร้อมกับอธิฐานขอพรในใจ เมื่ออธิฐานขอพรเสร็จแล้ว ให้คำนับอีก 1 ครั้ง ก็เป็นอันเสร็จ
คำแนะนำในการขอพรให้ประสบความสำเร็จ
เนื่องจากว่าศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพ Inari Okami ซึ่งเป็นเทพเกี่ยวกับการเกษตร พืชพรรณต่างๆ ความมั่งคั่ง ถ้าสังเกตดูดีๆแล้วล้วนแต่สิ่งที่ผู้คนในยุคปัจจุบันนั้นได้ใช้ในชีวิตประจำวันแทบทั้งสิ้น
ดังนั้นแล้วถ้านักท่องเที่ยวได้อธิฐานเกี่ยวกับทางด้านการเงิน การค้าขาย หรือความสัมพันธ์ ก็มีโอกาสที่คำอธิฐานจะเป็นจริงได้ง่าย เพราะท่านเป็นเทพที่เกี่ยวกับด้านนี้โดยตรง อย่างเช่นการขอพรทางด้านการเงินจากเทพ Omiyanomeno Okami ซึ่งสามารถอธิฐานได้ที่ Honden ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นบันได 117 ขั้นเลยทีเดียว ซึ่งการขอพรเกี่ยวกับการเงินนั้น หากได้มีการสวดมนต์ที่นี่ด้วยจะเพิ่มโอกาสความสำเร็จมากขึ้นไปอีกโดยเฉพาะการถูกรางวัลจากลอตเตอรี่
หรือการขอพรที่ศาลเจ้าชั้นใน ( Okunoin ) การที่นักท่องเที่ยวจะมายังศาลเจ้าชั้นในได้นั้นจะเดินผ่านเสาโทริอินับไม่ถ้วนจากด้านล่างขึ้นมาชั้นบนของภูเขา และยังต้องเดินผ่านบันไดหินอีก โดยผู้ที่มาถึง Okunoin นั้น มักจะสำเร็จในการอธิฐานเกี่ยวกับธุรกิจ เพราะการเดินขึ้นมาถึงด้านบนได้นั้นเปรียบเสมือนกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายนั่นเอง
นอกจากนั้นแล้วยังมีวิธีอื่นๆที่ทำให้การขอพรนั้นประสบความสำเร็จ อย่างเช่น การส่งคำอธิฐานผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า God Communication โดยจะต้องมายังที่อยู่ซึ่งดูได้จากที่นี่ ที่อยู่ของศาลเจ้า
ซึ่งวิธีการมีดังนี้นักท่องเที่ยวต้องกรอกแบบฟอร์มเกี่ยวกับการอธิบานขอพรลงในเว็บไซส์ของศาลเจ้าเพื่อให้ศาลเจ้านั้นได้ส่งอุปกรณ์ที่สามารถอธิฐานให้เป็นจริงได้ ( แต่ไม่มีการส่งออกนอกประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องมีที่อยู่ในญี่ปุ่นที่สามารถรับอุปกรณ์ได้ ) ซึ่งมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 5000 เยน
นักท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
เดินเล่นรอบ Yutoku Inari Shrine
การเดินขึ้นบันไดและการชมวิวจากจุดสูงสุดและจุดที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพวิวสวย ๆ
จุดสูงสุดของศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นเรียกว่า Okunoin ซึ่งการจะขึ้นมายังจุดนี้ได้นั้น นักท่องเที่ยวจะต้องเดินผ่านเสาโทริอิสีแดง ทางด้านหลังของอาคารหลักของที่นี่ ( Honden ) โดยเสาโทริอินั้นเปรียบเสมือนประสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินผ่านเสาโทริอิที่เรียงรายจนไปถึงบริเวณ Okunoin
Okunoin นั้นเป็นศาลเจ้าชั้นในที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่บริเวณนี้นั้น ความเหนื่อยของนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นมาจากด้านล่างนั้นแทบจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยทันที เมื่อสิ่งที่นักท่องเที่ยวได้เห็นอยู่ตรงหน้าก็คือ วิวอันงดงามของเมือง Kashima ที่ทอดยาวไปถึงทะเล Ariake
นอกจากบริเวณ Okunoin แล้วที่นี่ยังมีจุดอื่นๆที่สามารถถ่ายรูปได้สวยอีก ซึ่งผมแนะนำมากๆคือบริเวณสวนญี่ปุ่น
ที่สวนญี่ปุ่นนั้นนักท่องเที่ยวสามารถมาได้ทุกฤดูกาล ซึ่งในแต่ละฤดูกาลก็มีความเด่น มีเอกลักษณ์ ความสวยงามแตกต่างกันไป อย่างเช่น ถ้ามาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะพบกับดอกบ๊วย, มาช่วงเดือนเมษายน ก็จะพบกับดอกโบตั๋น หรือถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะพบกับใบไม้เปลี่ยนสี
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปสวยๆได้จากสวนแห่งนี้อย่างแน่นอน
และมุมมหาชนที่ไม่ควรพลาดคือ ด้านหน้าของอาคารหลัก Gohonden โดยนักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน
Yutoku Inari Shrine ในช่วงเทศกาล
เทศกาลและกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นที่ศาลเจ้าในแต่ละปี
ในแต่ละปีนั้นที่ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นได้มีเทศกาล งานกิจกรรมต่างๆแทบจะทุกเดือน และก็เป็นอีก 1 ไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนี้ด้วย อย่างเช่น
เดือนมกราคม
เทศกาล Gantan ซึ่งก็คือการสักการะศาลเจ้าครั้งแรกของปี ซึ่งจะมีในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งในช่วง 3 วันแรกของเดือนมกราคมนั้นก็จะมีผู้คนมากมายมาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้
เดือนกุมภาพันธ์
มีเทศกาลที่ชื่อว่า Hatsuuma ( ฮะทสึอุมะ ) ซึ่งเป็นเทศกาลที่รำลึกถึงการประเิษฐานของเทพ Inari Okami
เดือนมิถุนายน
มีเทศกาลปลูกข้าว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมการเต้นรำปลูกข้าว
เดือนธันวาคม
มีเทศกาล Shuki Taisai ซึ่งจะมีกองไฟขนาดใหญ่ที่มีไฟร้อนแรง
นักท่องเที่ยวสามารถดูตารางเทศกาลของศาลเจ้านี้ได้จากที่นี่
วิธีการเดินทางมายังศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine )
ต้นทาง | ปลายทาง | รายละเอียดการเดินทาง |
---|---|---|
Fukuoka | Yutoku Inari Shrine | นั่งรถไฟจากสถานี Hakata มาลงสถานี Hizen Kashima จากนั้นนั่งแท็กซี่อีก 10 นาที หรือนั่งรถบัส 10 นาทีลงป้าย Yutokujinja-mae |
Saga | Yutoku Inari Shrine | นั่งรถบัส Yutoku จากสถานี Saga มาลง Yutokujinja-mae ใช้เวลา 1 ชั่วโมง |
ตารางข้อมูล
ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine )
ที่อยู่ | 849-1321 Saga, Kashima, Furueda, 1855 |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine )
สวนสาธารณะอะสะชิกะโอะกะ Asahigaoka Park ( ขับรถ 15 นาที )
หากนักท่องเที่ยวต้องการหาจุดชมซากุระซักแห่งใกล้ๆกับศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) สวนสาธารณะแห่งนี้จะตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน
โดยที่นี่ถือว่าเป็นจุดชมซากุระที่ดีแห่งหนึ่งในจังหวัด Saga ในช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งจนเป็นอุงโมงค์ดอกซากุระเลยทีเดียว และช่วงเวลากลางคืนระหว่าง 18.00 น. – 22.00 น. ที่นี่ก็มีการประดับไฟที่สวยงามอีกด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดโดยอย่างยิ่ง
สวนสาธารณะอะสะชิกะโอะกะ Asahigaoka Park
ที่อยู่ | Takatsuhara, Kashima, Saga 849-1311 |
วิธีเดินทาง | จากศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) ขับรถ 10 นาทีหรือจากสถานี Hizen – Kashima เดิน 15 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | สวนสาธารณะอะสะชิกะโอะกะ Asahigaoka Park |
Shiota River Port ( ขับรถ 15 นาที )
ย่านเมืองเก่าที่ถูกอนุรักษ์ให้เป็นแบบอาคารดั้งเดิมในปี 2005 โดยภายในย่านนี้นั้นได้มีการบูรณะอาคารบ้านเรือนเพื่อรักษาบรรยากาศแบบอดีต จุดเด่นของย่านนี้คือบ้านที่เรียกว่า Iguraya ( อิกุระยะ ) เป็นบ้านที่มีลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ที่มีการฉาบปูนเป็นสีขาว เป็นสถาปัตยกรรมแบบเอโดะ ที่มีข้อดีคือทนต่อไฟไหม้ ลมแรง และน้ำท่วม ถ้าใครชอบย่านเมืองเก่าห้ามพลาดที่นี่
Shiota River Port
ที่อยู่ | Ko Shiotacho Oaza Babashita, Ureshino, Saga 849-1411 |
วิธีเดินทาง | จากศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) ขับรถ 15 นาที หรือนั่งรถบัสจากสถานี Hizen – Kashima นั่งรถบัส 10 นาทีลงป้าย Shioda Yakuba mae แล้วเดิน 3 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน |
Website | Shiota River Port |
Takeo Onsen ( ขับรถ 30 นาที )
Takeo Onsen เป็นเมืองออนเซ็นที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด Saga ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาช้านาน มากกว่า 1300 ปี จุดเด่นของ Takeo Onsen ก็คือประตู Sakura – mon ซึ่งเป็นประตู 2 ชั้นเคลือบด้วยสีแดง
ที่ Takeo Onsen แห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแช่ออนเซ็น โดยน้ำออนเซ็นของที่นี่จะมีโซเดียมไบคาร์บอเนต ซึ่งสัมผัสกับผิวแล้วจะมีความรู้สึกเนียนนุ่ม โดยโรงอาบน้ำสาธารณะของ Takeo Onsen นั้นมีอยู่มากมาย ให้เลือกใช้บริการ
ถ้าใครอยากแช่ออนเซ็นที่มีความรู้สึกถึงความเนียนนุ่มล่ะก็ Takeo Onsen คือสถานที่ที่ต้องมาให้ได้
Takeo Onsen
ที่อยู่ | 7425 Honmachi, Takeo, Saga 843-0022 |
วิธีเดินทาง | จากศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) ขับรถ 30 นาที หรือ นั่งรถไฟจากสถานี Hizen – Kashima มาลงสถานี Takeo Onsen |
Website | Takeo Onsen |
สรุป
ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นเป็นศาลเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์และประดิษฐานขององค์เทพที่ชาวญี่ปุ่นเคารพกันมานับพันปี ซึ่งนักท่องเที่ยวนั้นสามารถไปขอพรได้ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนเขาได้อีกด้วย เท่านั้นไม่พอถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวคนไหนที่ไม่ได้เป็นสายขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ยังสามารถมาชมความงามของธรรมชาติได้ทั้ง 4 ฤดู ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องมาให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต