คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
15%
15%
17%
ก่อนอื่นผมจะพูดถึงว่าทำไมทุกคนที่มาเที่ยว Kyushu ถึงไม่ควรพลาดการมาเที่ยวศาลเจ้าแห่งนี้
ที่ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือที่เรียกกันติดปากว่าใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้รอบๆศาลเจ้านั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแสง, ส้ม ซึ่งให้บรรยากาศเหมือนรอบๆศาลเจ้าถูกย้อมเปลี่ยนสี ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ชมวิวสวยๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
หากนักท่องเที่ยวมาช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระบริเวณศาลเจ้าก็ได้ออกดอกที่งามสะพรั่งให้นักท่องเที่ยวเห็นกัน ซึ่งเป็นบรรยากาศที่สุดฟินน์เลยทีเดียว
แน่นอนว่าจุดประสงค์ยอดนิยมของคนที่มาศาลเจ้าต่างๆของญี่ปุ่นคือ การมาขอพรเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้น ผู้คนมักนิยมมาขอพรเกี่ยวกับธุรกิจ โชคลาภ และความปลอดในเรื่องของการจราจร เป็นต้น
การรำคากุระนั้นเป็นการรำที่ มิโกะ จะขึ้นมาร่ายรำโดยในมือนั้นจะถือพัด หรืออาจจะเป็นกระพรวน ซึ่งการรำคากุระนั้นเป็นการรำเพื่อถวายแก่เทพเจ้า
การร่ายรำที่ดูงดงามมาก โดยการรำนั้นจะมีขึ้นในพิธีเฉลิมฉลองของศาลเจ้า ซึ่งต้องบอกได้ว่ามีให้ชมแทบจะทุกเดือน โดยนักท่องเที่ยวสามารถดูตารางงานพิธีของศาลเจ้าได้ที่นี่ https://www.yutokusan.jp/en/prayer/dance/
ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี.ค.ศ. 1687 โดยคำสั่งของท่าน Kazanin Mankohime ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ปกครองแคว้น Kashima ชื่อว่าท่าน Nabeshima Naotomo เพื่อประดิษฐานเทพ Inari Okami ซึ่งเป็นเทพเกี่ยวกับอาหาร เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นเทพที่ชาวญี่ปุ่นนั้นเคารพมากองค์หนึ่ง
โดยศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นถือว่าเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งในทุกๆปี จะมีผู้คนถึง 3 ล้านคนแวะมาสักการะเทพเจ้า ขอพร
โดยศาลเจ้านี้ประกอบไปด้วยอาคาร สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญๆ เช่น Gohonden, Kaguraden, ประตูศาลเจ้า และอาคารอื่นๆที่มีความงดงาม
อุคะโนะมิทะมะ โนะ คะมิ ( Ukanomitama No Kami ) หรือที่รู้จักกันในชื่อเทพ Inari Okami นั้นเป็นเทพที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่น และมีความนิยมมากในหมู่ชาวญี่ปุ่นมานับ 1000 ปี โดยเทพ Inari Okami นั้นเป็นเทพเกี่ยวกับความมั่งคั่ง, ชา การเกษตร อุตสาหกรรม และการตีเหล็ก ซึ่งตัวเทพนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อน ซึ่งอาจจะเป็นเพศชาย เพศหญิง หรือเพศที่ 3 เลยก็ได้
ในความเชื่อทางด้านพุทธศาสนานั้น เทพ Inari Okami นั้น ก็อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับพระโพธิสัตว์
การสร้างศาลเจ้าเพื่ออุทิศให้แก่เทพ Inari Okami นั้น ที่ญี่ปุ่นนั้นได้มีการสร้างศาลเจ้าให้เทพองค์นี้มากกว่าศาลเจ้าของเทพองค์อื่นๆ เรียกว่ามีมากถึง 1 ใน 3 ของศาลเจ้า
เทพ Inari Okami นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งอย่างที่ผมบอกข้างต้นว่ามุมมองของคนญี่ปุ่นต่อเทพ Inari Okami นั้น ก็มองได้หลายมุมมอง อย่างเช่นเรื่องเพศที่ผมกล่าวไว้ในบรรทัดก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่าเทพ Inari Okami นั้นสามารถเปลี่ยนแปลง และปรับตัวได้ตลอดเวลา เป็นเวลามากกว่า 1000 ปีแล้ว ดังนั้นไม่แปลกว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเทพองค์นี้มาหลายชั่วอายุคน
นอกจากนั้นแล้วเทพ Inari Okami ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถเชื่อมโยงกับนิกายต่างๆ ของศาสนาพุทธได้อีกด้วย อย่างเช่นนิกาย Shingon เกี่ยวกับเทพเจ้าหญิงที่มีความเกี่ยวข้องกับจิ้งจอก ทำให้มีความเชื่อมโยงกับเทพ Inari Okami อีกด้วย
ส่วนรูปปั้นจิ้งจองที่พบเห็นได้ตามศาลเจ้าประเภท Inari ต่างๆนั้น บางความเชื่อบอกว่า จิ้งจอกถือว่าเป็นสัตว์รับใช้ของเทพ หรือบางความเชื่อบอกว่าจิ้งจอกนั้นได้ออกมากำจัดศัตรูพืชอย่างหนู
การขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นก็เหมือนกับการขอพรที่ศาลเจ้าอื่นๆ คือ
เนื่องจากว่าศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพ Inari Okami ซึ่งเป็นเทพเกี่ยวกับการเกษตร พืชพรรณต่างๆ ความมั่งคั่ง ถ้าสังเกตดูดีๆแล้วล้วนแต่สิ่งที่ผู้คนในยุคปัจจุบันนั้นได้ใช้ในชีวิตประจำวันแทบทั้งสิ้น
ดังนั้นแล้วถ้านักท่องเที่ยวได้อธิฐานเกี่ยวกับทางด้านการเงิน การค้าขาย หรือความสัมพันธ์ ก็มีโอกาสที่คำอธิฐานจะเป็นจริงได้ง่าย เพราะท่านเป็นเทพที่เกี่ยวกับด้านนี้โดยตรง อย่างเช่นการขอพรทางด้านการเงินจากเทพ Omiyanomeno Okami ซึ่งสามารถอธิฐานได้ที่ Honden ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นบันได 117 ขั้นเลยทีเดียว ซึ่งการขอพรเกี่ยวกับการเงินนั้น หากได้มีการสวดมนต์ที่นี่ด้วยจะเพิ่มโอกาสความสำเร็จมากขึ้นไปอีกโดยเฉพาะการถูกรางวัลจากลอตเตอรี่
หรือการขอพรที่ศาลเจ้าชั้นใน ( Okunoin ) การที่นักท่องเที่ยวจะมายังศาลเจ้าชั้นในได้นั้นจะเดินผ่านเสาโทริอินับไม่ถ้วนจากด้านล่างขึ้นมาชั้นบนของภูเขา และยังต้องเดินผ่านบันไดหินอีก โดยผู้ที่มาถึง Okunoin นั้น มักจะสำเร็จในการอธิฐานเกี่ยวกับธุรกิจ เพราะการเดินขึ้นมาถึงด้านบนได้นั้นเปรียบเสมือนกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายนั่นเอง
นอกจากนั้นแล้วยังมีวิธีอื่นๆที่ทำให้การขอพรนั้นประสบความสำเร็จ อย่างเช่น การส่งคำอธิฐานผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า God Communication โดยจะต้องมายังที่อยู่ซึ่งดูได้จากที่นี่ ที่อยู่ของศาลเจ้า
ซึ่งวิธีการมีดังนี้นักท่องเที่ยวต้องกรอกแบบฟอร์มเกี่ยวกับการอธิบานขอพรลงในเว็บไซส์ของศาลเจ้าเพื่อให้ศาลเจ้านั้นได้ส่งอุปกรณ์ที่สามารถอธิฐานให้เป็นจริงได้ ( แต่ไม่มีการส่งออกนอกประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องมีที่อยู่ในญี่ปุ่นที่สามารถรับอุปกรณ์ได้ ) ซึ่งมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 5000 เยน
นักท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
จุดสูงสุดของศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นเรียกว่า Okunoin ซึ่งการจะขึ้นมายังจุดนี้ได้นั้น นักท่องเที่ยวจะต้องเดินผ่านเสาโทริอิสีแดง ทางด้านหลังของอาคารหลักของที่นี่ ( Honden ) โดยเสาโทริอินั้นเปรียบเสมือนประสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินผ่านเสาโทริอิที่เรียงรายจนไปถึงบริเวณ Okunoin
Okunoin นั้นเป็นศาลเจ้าชั้นในที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่บริเวณนี้นั้น ความเหนื่อยของนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นมาจากด้านล่างนั้นแทบจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยทันที เมื่อสิ่งที่นักท่องเที่ยวได้เห็นอยู่ตรงหน้าก็คือ วิวอันงดงามของเมือง Kashima ที่ทอดยาวไปถึงทะเล Ariake
นอกจากบริเวณ Okunoin แล้วที่นี่ยังมีจุดอื่นๆที่สามารถถ่ายรูปได้สวยอีก ซึ่งผมแนะนำมากๆคือบริเวณสวนญี่ปุ่น
ที่สวนญี่ปุ่นนั้นนักท่องเที่ยวสามารถมาได้ทุกฤดูกาล ซึ่งในแต่ละฤดูกาลก็มีความเด่น มีเอกลักษณ์ ความสวยงามแตกต่างกันไป อย่างเช่น ถ้ามาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะพบกับดอกบ๊วย, มาช่วงเดือนเมษายน ก็จะพบกับดอกโบตั๋น หรือถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะพบกับใบไม้เปลี่ยนสี
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปสวยๆได้จากสวนแห่งนี้อย่างแน่นอน
และมุมมหาชนที่ไม่ควรพลาดคือ ด้านหน้าของอาคารหลัก Gohonden โดยนักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน
ในแต่ละปีนั้นที่ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นได้มีเทศกาล งานกิจกรรมต่างๆแทบจะทุกเดือน และก็เป็นอีก 1 ไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนี้ด้วย อย่างเช่น
เดือนมกราคม
เทศกาล Gantan ซึ่งก็คือการสักการะศาลเจ้าครั้งแรกของปี ซึ่งจะมีในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งในช่วง 3 วันแรกของเดือนมกราคมนั้นก็จะมีผู้คนมากมายมาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้
เดือนกุมภาพันธ์
มีเทศกาลที่ชื่อว่า Hatsuuma ( ฮะทสึอุมะ ) ซึ่งเป็นเทศกาลที่รำลึกถึงการประเิษฐานของเทพ Inari Okami
เดือนมิถุนายน
มีเทศกาลปลูกข้าว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมการเต้นรำปลูกข้าว
เดือนธันวาคม
มีเทศกาล Shuki Taisai ซึ่งจะมีกองไฟขนาดใหญ่ที่มีไฟร้อนแรง
นักท่องเที่ยวสามารถดูตารางเทศกาลของศาลเจ้านี้ได้จากที่นี่
ต้นทาง | ปลายทาง | รายละเอียดการเดินทาง |
---|---|---|
Fukuoka | Yutoku Inari Shrine | นั่งรถไฟจากสถานี Hakata มาลงสถานี Hizen Kashima จากนั้นนั่งแท็กซี่อีก 10 นาที หรือนั่งรถบัส 10 นาทีลงป้าย Yutokujinja-mae |
Saga | Yutoku Inari Shrine | นั่งรถบัส Yutoku จากสถานี Saga มาลง Yutokujinja-mae ใช้เวลา 1 ชั่วโมง |
ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine )
ที่อยู่ | 849-1321 Saga, Kashima, Furueda, 1855 |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) |
หากนักท่องเที่ยวต้องการหาจุดชมซากุระซักแห่งใกล้ๆกับศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) สวนสาธารณะแห่งนี้จะตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน
โดยที่นี่ถือว่าเป็นจุดชมซากุระที่ดีแห่งหนึ่งในจังหวัด Saga ในช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งจนเป็นอุงโมงค์ดอกซากุระเลยทีเดียว และช่วงเวลากลางคืนระหว่าง 18.00 น. – 22.00 น. ที่นี่ก็มีการประดับไฟที่สวยงามอีกด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดโดยอย่างยิ่ง
สวนสาธารณะอะสะชิกะโอะกะ Asahigaoka Park
ที่อยู่ | Takatsuhara, Kashima, Saga 849-1311 |
วิธีเดินทาง | จากศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) ขับรถ 10 นาทีหรือจากสถานี Hizen – Kashima เดิน 15 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | สวนสาธารณะอะสะชิกะโอะกะ Asahigaoka Park |
ย่านเมืองเก่าที่ถูกอนุรักษ์ให้เป็นแบบอาคารดั้งเดิมในปี 2005 โดยภายในย่านนี้นั้นได้มีการบูรณะอาคารบ้านเรือนเพื่อรักษาบรรยากาศแบบอดีต จุดเด่นของย่านนี้คือบ้านที่เรียกว่า Iguraya ( อิกุระยะ ) เป็นบ้านที่มีลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ที่มีการฉาบปูนเป็นสีขาว เป็นสถาปัตยกรรมแบบเอโดะ ที่มีข้อดีคือทนต่อไฟไหม้ ลมแรง และน้ำท่วม ถ้าใครชอบย่านเมืองเก่าห้ามพลาดที่นี่
Shiota River Port
ที่อยู่ | Ko Shiotacho Oaza Babashita, Ureshino, Saga 849-1411 |
วิธีเดินทาง | จากศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) ขับรถ 15 นาที หรือนั่งรถบัสจากสถานี Hizen – Kashima นั่งรถบัส 10 นาทีลงป้าย Shioda Yakuba mae แล้วเดิน 3 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน |
Website | Shiota River Port |
Takeo Onsen เป็นเมืองออนเซ็นที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด Saga ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาช้านาน มากกว่า 1300 ปี จุดเด่นของ Takeo Onsen ก็คือประตู Sakura – mon ซึ่งเป็นประตู 2 ชั้นเคลือบด้วยสีแดง
ที่ Takeo Onsen แห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแช่ออนเซ็น โดยน้ำออนเซ็นของที่นี่จะมีโซเดียมไบคาร์บอเนต ซึ่งสัมผัสกับผิวแล้วจะมีความรู้สึกเนียนนุ่ม โดยโรงอาบน้ำสาธารณะของ Takeo Onsen นั้นมีอยู่มากมาย ให้เลือกใช้บริการ
ถ้าใครอยากแช่ออนเซ็นที่มีความรู้สึกถึงความเนียนนุ่มล่ะก็ Takeo Onsen คือสถานที่ที่ต้องมาให้ได้
Takeo Onsen
ที่อยู่ | 7425 Honmachi, Takeo, Saga 843-0022 |
วิธีเดินทาง | จากศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) ขับรถ 30 นาที หรือ นั่งรถไฟจากสถานี Hizen – Kashima มาลงสถานี Takeo Onsen |
Website | Takeo Onsen |
ศาลเจ้ายูโทคุ ( Yutoku Inari Shrine ) นั้นเป็นศาลเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์และประดิษฐานขององค์เทพที่ชาวญี่ปุ่นเคารพกันมานับพันปี ซึ่งนักท่องเที่ยวนั้นสามารถไปขอพรได้ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนเขาได้อีกด้วย เท่านั้นไม่พอถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวคนไหนที่ไม่ได้เป็นสายขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ยังสามารถมาชมความงามของธรรมชาติได้ทั้ง 4 ฤดู ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องมาให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต
Blogger : Kitslaughter666
ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น
109 Posts
ไปคิวชูทั้งที ต้องไม่พลาด SUNQ Pass! พาเที่ยวทั่วเกาะ คุ้ม ครบ จบในใบเดียว
SUNQ Pass คือบัตรโดยสารสุดคุ้มที่ให้คุณขึ้นรถบัสได้ไม่จำกัด ทั้งรถบัสด่วนและรถ...
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...
อยากเที่ยวคิวชูให้คุ้ม ต้องรู้จัก! SUNQ Pass กับ 4 ข้อดีที่คุณไม่ควรพลาด
ไปคิวชูทั้งที เที่ยวยังไงให้คุ้มที่สุด? คำตอบคือ... SUNQ Pass! บัตรเดียวขึ้นรถ...
สนุกกับการเที่ยวรอบเมืองฟุกุโอกะให้เต็มที่ ด้วยบัตรโดยสาร “Fukuoka City 1-Day Pass” ที่ทั้งคุ้มและสะดวก!
บัตร Fukuoka City 1-Day Pass ช่วยให้คุณสามารถนั่งรถบัสของ Nishitetsu ภายในเมือ...
รีวิวที่พักฟุกุโอกะ Cross Life Hakata Yanagibashi และ Cross Life Hakata Tenjin
รีวิว Cross Life Hakata Yanagibashi Hotel และ Cross Life Hakata Tenjin มีสิ่งอ...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515