Zeniarai Benten Shrine แห่งนี้ หากเล่าถึงคำในภาษาญี่ปุ่นคำว่า Zeni Arai (銭洗 ) นั้นหมายถึง “การล้างเงิน” ซึ่งเป็นการนำเงินมาล้างกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในศาลเจ้าต่างๆ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน และต่างมีพิธีกรรมแตกต่างกันออกไป โดยการล้างเงินนี้มีความเชื่อว่าจะทำให้การเงินของคนนั้นๆ ไหลมาเทมา และเมื่อนำเงินมาล้างแล้วจะยิ่งทวีความมั่งคั่งร่ำรวยรวมทั้งโชคลาภไปอีกหลายเท่าตัว
ทำไมต้องไปศาลเจ้า Zeniarai Benzaiten?
Zeniarai Benzaiten Shrine หรือมีอีกชื่อว่า Zeniarai Benzaiten Ugafuku Jinja ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในช่องเขาของเมืองคามาคุระ เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดคานากาวะ ความน่าสนใจและทำให้ที่นี่มีความแตกต่างจากศาลเจ้าอื่นๆ ก็คือเมื่อเดินลอดเสาโทริอิเพื่อมุ่งหน้าไปยังอุโมงค์เล็กๆ ก็จะพบกับตัวศาลเจ้า ซึ่งคนส่วนใหญรู้จักที่นี่เพราะเป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐาน Ichikishimahime no Mikoto เทพเจ้าแห่งน้ำที่ปรากฏในตํานานญี่ปุ่น และ Benzaiten เทพแห่งศิลปะการแสดง ดนตรี ความอุดมสมบูรณ์และโชคลาภ
นอกจากนั้นที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นศาลเจ้าที่มีความเชื่อว่าหากคุณนำเงินไปชำระล้างในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ผุดขึ้นภายในถ้ำของศาลเจ้าแล้ว จะเป็นเสริมโชคลาภและดวงเรื่องการเงินให้แก่บุคคลนั้นๆ อีกด้วย
ที่มาที่ไปของ Zeniarai Benzaiten Shrine
สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1185 หลังจากMinamoto no Yoritomo (ค.ศ.1147–1199) ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกของเมืองคามาคุระ ฝันถึงเทพเจ้า Ugafukujin ซึ่งเทพเจ้าบอกเขาว่า “ในหุบเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือมีน้ำพุมหัศจรรย์ที่พุ่งออกมาจากโขดหิน ไปที่นั่นและบูชาเทพเจ้าชินโต และพุทธศาสนาแล้วสันติภาพจะถือกำเนิดขึ้นในผืนแผ่นดินนี้
ส่วนที่มาที่ไปของพิธีชำระล้างเงินนั้น เริ่มต้นมาจากท่าน Tokiyori Hojo ซึ่งเป็นผู้ปกครองเมืองคามาคุระรุ่นที่ 5 ได้มาที่ศาลเจ้าแล้วทำการล้างเหรียญของเขาด้วยน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในสมัยเอโดะ น้ำพุที่นี่ถือเป็น 1 ใน 5 น้ำพุที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพของน้ำแห่งเมืองคามาคุระด้วย หลังจากล้างเงินแล้วก็ทำการขอพรเพื่อให้ครอบครัวเจริญรุ่งเรือง จนเป็นที่มาของความเชื่อเรื่องการล้างเงินด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ Zeniarai Benzaiten Shrine เพื่อให้มีโชคลาภ และความมั่งคั่งในเวลาต่อมา
สิ่งที่น่าสนใจภายในศาลเจ้า
มายังศาลเจ้าที่เป็นไฮไลท์ของเมืองคามาคุระทั้งที ความน่าสนใจที่ทำให้ที่นี่มีความโดดเด่นและแตกต่างก็มีมากมาย จึงขอหยิบยกมาแนะนำกันสักเล็กน้อย
สถาปัตยกรรมสวยงาม
เสาประตูโทริอิมงคลเรียงรายไปตามทางที่มุ่งไปยังศาลเจ้า มีผู้คนว่ากันว่าเมื่อเดินลอดเสาที่ตั้งเรียงรายเข้าไปผู้ลอดจะได้รับพรตามจำนวนเสานั้น อีกทั้งจุดเด่นของเสาประตูโทริที่นี่คือไม่ได้ทาสี จึงเป็นเสาที่กลมกลืนอย่างลงตัวกับสีของธรรมชาติที่รายล้อมศาลเจ้าอยู่
ศาสนาพุทธและศาสนาชินโตอยู่ด้วยกัน
เนื่องจากที่นี่มีส่วนผสมของศาสนาพุทธและศาสนาชินโตอยู่ด้วยกัน ตัวศาลเจ้าจึงมีทั้งพระพุทธรูปตัวแทนของศาสนาพุทธ และเหล่าเทพเจ้ารวมทั้งเสาโทริอิของศาสนาชินโตผสมผสานกันอย่างลงตัว จนกระทั่งการปฏิรูปเมจิในปีค.ศ. 1868 ซึ่งศาสนาพุทธถูกยกเลิกไป ซึ่งในเวลาต่อมานั้นศาสนาพุทธและศาสนาชินโตได้ถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง แต่ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังคงความผสมผสานศาสนาทั้งสองไว้ด้วยกัน และไม่ถูกรื้อถอนไปเหมือนศาลเจ้าแห่งอื่นในประเทศญี่ปุ่น
เครื่องรางมงคล
ที่ศาลเจ้านี้จะเน้นไปที่เครื่องรางนำโชคสีทอง โดยเครื่องรางยอดนิยมเมื่อมายังศาลเจ้าแห่งนี้ คือการ์ดทองนำโชค ซึ่งเป็นเครื่องรางที่มาในรูปแบบบัตรสีทอง พกพาสะดวก เชื่อกันว่าใครพกติดไว้ในกระเป๋าสตางค์ก็จะมีโชคในเรื่องการเงิน และเหรียญโอตะคาระ โคบัน เป็นเหรียญทองนำโชคด้านการเงิน หากพกติดกระเป๋าสตางค์ไว้จะช่วยให้เงินทองเพิ่มพูน
สวนสวยตามฤดูกาล
สวนลับที่มีรูปปั้น Komainu เป็นสัตว์ในจินตนาการและเป็น “ทูตของเทพเจ้า” ที่คอยปกป้องวัดและศาลเจ้า (คล้ายกับสัตว์ในสมัยราชวงศ์ถังของจีน) ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วเป็นเหมือนสิงโตและสุนัข ตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำตกอันเงียบสงบที่อยู่ด้านหลัง ท่ามกลาง มอส ใบไม้ และต้นไม้เขียวชอุ่มรอต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน ในช่วงฤดูร้อน ดอกไฮเดรนเยียบานบริเวณนี้ก็เป็นทัศนียภาพที่สวยงาม
เทศกาลยอดนิยม
ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ความเกี่ยวข้องกับนักษัตรปีมะเส็ง โดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายน ว่ากันว่าวันนี้จะเป็นวันดีของเหล่าเทพเจ้า ชาวญี่ปุ่นและผู้ที่ศรัทธานิยมนำไข่ต้มมาสักการะขอพร เพราะเชื่อว่าเป็นเมนูที่เทพเจ้าโปรดปราน ร้านค้าโดยรอบศาลเจ้าจะขายไข่ต้มเป็นเครื่องบูชาเพราะจะส่งผลให้ ความปรารถนาของคนๆ นั้นเป็นจริง และช่วงงานเทศกาลจะมีการสวดมนต์ให้พร และการแสดงร่ายรำ ถือเป็นช่วงเวลาที่คึกคักของศาลเจ้า และมีผู้คนมาเยี่ยมชมในช่วงเวลานี้เป็นจำนวนมากด้วย
น้ำศักดิ์สิทธิ์
น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ที่ไหลออกมาเป็นหนึ่งในห้าน้ำที่มีชื่อเสียงของคามาคุระ ว่ากันว่าหากทำการชำระล้างเงินด้วยน้ำนี้จะช่วยชำระจิตใจให้บริสุทธิ์และนำโชคลาภมาสู่คนนั้นๆ ว่ากันว่ายิ่งคุณใช้จ่ายเงินที่นำมาล้างเร็วเท่าไร โชคลาภเงินทองก็จะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นทวีคูณ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ และวันงูซึ่งเป็นเทศกาลเบ็นไซเท็นว่ากันว่าจะนำพาโชคดีมาให้ และที่ศาลเจ้านี้จะมีคนมาสักการะกันเนืองแน่นกว่าปกติ
สักการะศาลเจ้าหลักก่อน
เมื่อมาถึงบริเวณของศาลเจ้า ซื้อเทียนและธูปได้ที่สำนักงานของศาลเจ้าในราคา 100 เยน ว่ากันว่าเทียนจะนำมาซึ่งแสงสว่าง และธูปว่ากันว่าเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้ ในขณะเดียวกันก็จะได้รับภาชนะสำหรับการล้างเงินจากที่นี่ด้วย
วิธีการล้างเงิน
เนื่องจากมีชาวญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากนิยมมาที่นี่ จึงมีข้อควรระวังสำหรับการปฏิบัติตัวให้เก็บข้อมูลก่อนเดินทางกันบ้างเล็กน้อย รวมทั้งควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของศาลเจ้าอย่างเคร่งครัด โดยทำการสักการะด้วยความสุภาพ และไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
เตรียมเงิน: นำเงินที่ต้องการล้างมา โดยสามารถเป็นธนบัตรหรือเหรียญก็ได้
ควรล้างเงินในปริมาณที่พอเหมาะพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป คนส่วนใหญ่นิยมใส่ทั้งเหรียญและแบงค์เยนลงไปในภาชนะแล้วก็เตรียมตัวในขั้นตอนต่อไป
ตักน้ำ: ใช้กระบวยที่ทางศาลเจ้าเตรียมไว้ตักน้ำศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเตรียมเงินเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้มือข้างที่ถนัดจับกระบวยสำหรับตักน้ำ และมืออีกข้างถือภาชนะไว้
ล้างเงิน: นำเงินมาล้างอย่างเบามือ
ต่อไปให้นั่งลงอย่างนอบน้อม ค่อยๆ ใช้กระบวยตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติใส่ภาชนะและราดบนเงินเบาๆ ประมาณ 2 – 5 ครั้งต่อตะกร้า ซึ่งจะทำให้เงินเปียกได้ทั่วทั้งหมด
ทำความเคารพ: กล่าวคำขอพรและทำความเคารพต่อเทพเจ้า
หลังจากนั้นอธิษฐานขอพรให้เงินที่มีเพิ่มพูน ขอให้น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ช่วยนำโชคนำลาภทางด้านการเงิน ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจต่างๆ มีความมั่งคั่งร่ำรวยขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว
ข้อควรระวัง: ก่อนใช้งานต้องเช็ดเงินให้แห้ง
รอบๆ ศาลเจ้า จะมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่นำเงินมาล้างที่นี่เสมอ เพราะหากใครนำเงินที่ล้างใหม่ไปใช้งานกับเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ตู้จำหน่ายตั๋ว ตู้กดน้ำ อาจส่งผลให้เครื่องขัดข้องได้ ดังนั้นหลังจากล้างเงินด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้วควรเช็ดเงินก่อนนำไปใช้งาน หรือก่อนจะเก็บลงในกระเป๋าสตางค์ของคุณ ซึ่งคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะพกผ้าขนหนูผืนเล็กติดตัวไปด้วย แต่ข้อดีของเงินเยนก็คือสามารถกันน้ำได้ดีและแห้งเร็ว
ศาลเจ้าเซนิอาระอิ เบ็นเตน (Zeniarai Benten Shrine)
ที่อยู่ | 2 Chome-25-16 Sasuke, Kamakura, Kanagawa |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kamakura เดินต่ออีก 20 นาที |
เวลาทำการ | 8.00 – 16.30 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Zeniarai Benten Shrine |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ได้มาเยือนเมืองเก่าอย่างคามาคุระทั้งที การได้มีเวลาท่องเที่ยวเข้า-ออก ตามวัดและศาลเจ้าที่มีนับไม่ถ้วนที่เมืองนี้ นอกจากจะเป็นดินแดนสวรรค์ของสายมูแล้ว ใครที่ชื่นชอบท่องเที่ยววัด และสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณตามศาลเจ้าละก็รับรองเลยว่าทริปนี้คุณต้องสนุกกว่าใครอย่างแน่นอน
วัดโคโตคุอิน (Kotoku-in Temple)
วัดพระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระ เป็นพิกัดสำคัญที่ไม่อยากให้พลาดเลยเมื่อมีโอกาสมาเยือนเมืองนี้ องค์พระไดบุทสึสีทองสัมฤทธิ์นิกายสุขาวดีที่เห็นนี้มีขนาดสูงที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศญี่ปุ่น รองจากพระใหญ่ของวัดโทไดจิในจ.นารา ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เป็นพระพุทธรูปที่มีความโดดเด่น ตั้งอยู่กลางแจ้งสัมผัสได้ถึงความสุขและสงบที่แท้ ไฮไลท์คือสามารถเดินเข้าไปชมด้านในขององค์พระเพื่อฟังเสียงของโลกภายนอกได้ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชื่นชมความงดงามขององค์พระจำนวนมากที่สุดในพื้นที่คันโตอีกด้วย
วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple)
ที่อยู่ | 4 Chome-2-28 Hase, Kamakura, Kanagawa 248-0016 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Enoshima Dentetsu Line ลงที่สถานี Hase จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 9 นาที |
เวลาทำการ | 8.00 – 17.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 300 เยน นักเรียนมัธยมปลาย 13-18 ปี 150 เยน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
Website | Kotokuin Temple |
ศาลเจ้าทซึรุงะโอะกะ ฮาจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu)
ศาลเจ้าที่ใครๆ ว่าเป็นหัวใจของเมืองคามาคุระ มีความสําคัญที่สุดและเป็นศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า 800 ปี ก่อตั้งโดยมินาโมโตะ โยริโยชิในปี ค.ศ. 1063 และย้ายมายังที่ตั้งในปัจจุบันช่วงปี ค.ศ. 1180 ต่อมามินาโมโตะ โยริโตโมะ ซึ่งเป็นบุตรชาย และโชกุนคนแรกของรัฐบาลคามาคุระ ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อถวายให้แก่เทพฮาจิมัง เทพผู้พิทักษ์ของเหล่าซามูไรและเทพเจ้าที่คอยอุปถัมภ์ตระกูลมินาโมโตะ เป็นอีกศาลเจ้าแนะนำของเมืองคามาคุระ และผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อน พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในมุมกว้างได้
ศาลเจ้าทซึรุงะโอะกะ ฮาจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu)
ที่อยู่ | 2 Chome-1-31 Yukinoshita, Kamakura, Kanagawa 248-8588 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kamakura ทางออกทิศตะวันออก เดิน 10 นาที |
เวลาทำการ | 6.00 – 20.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าฟรี |
Website | Tsurugaoka Hachimangu |
วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple)
วัดฮาเซเดระ เป็นวัดของนิกายโจโด ภายในอาคารหลักของวัดมีเจ้าแม่กวนอิม เทพแห่งความเมตตาที่ทำมาจากไม้ และสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 ประดิษฐานอยู่ ตามคำบอกเล่าว่านี่คือหนึ่งประติมากรรมที่ทำจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว นอกเหนือจากนั้นพื้นที่โดยรอบของวัดฮาเซเดระ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ปกคลุมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเมืองคามาคุระ ในขณะเดียวกันก็สามารถชมวิวมหาสมุทรทอดยาวสุดลูกหูลูกตาได้ แนะนำให้มาที่นี่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะพบกับภาพธรรมชาติเป็นสีสันที่สวยงามเกินบรรยาย
วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple)
ที่อยู่ | 3 Chome-11-2 Hase, Kamakura, Kanagawa 248-0016 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kamakura นั่งรถไฟสาย Enoden ไปลงสถานี Hase แล้ว เดินอีก 5 นาที |
เวลาทำการ | เดือนกรกฎาคม – มีนาคม เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 17.00 น. เดือนเมษายน – มิถุนายน เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 17.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน |
Website | Hasedera Temple |
สรุป
การค้นพบศาลเจ้า Zeniarai Benten ในคามาคุระมีความตั้งใจจะเผยให้เห็นมรดกทางจิตวิญญาณอันล้ำค่าของญี่ปุ่น ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณี มีส่วนร่วมในพิธีกรรมโบราณที่ตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ แนะนำให้หาเครื่องรางนำโชคสำหรับการเดินทางทจากที่ศาลเจ้าแห่งงนี้ และขอให้ศาลเจ้า Zeniarai Benten ได้นำความสุขและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิต และธุรกิจการค้า รวมทั้งกิจการของคุณดูนะ