ทำไมต้องกินบุฟเฟ่ต์ขาปูในโตเกียว?
Tokyo นั้นเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นดังนั้นแล้วก็เปรียบเสมือนศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศญี่ปุ่น แม้กระทั่งปู โดยที่ Tokyo นั้นมีวัตถุดิบที่ส่งตรงมาจาก Hokkaido และพื้นที่อื่นๆของญี่ปุ่น ซึ่งวัตถุดิบที่ว่าก็รวมถึงปูชนิดต่างๆ ด้วยเช่นกัน
โดยราคาของบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ของ Tokyo นั้น ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้และมีปูหลายประเภทให้เลือกกิน อย่างเช่นขาปูยักษ์ ขาปูหิมะ นอกจากนั้นแล้วบางร้านก็ยังมีอาหารประเภทอื่นๆให้เลือกกินได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความหลากหลายในการกินที่จบในร้านเดียว
และที่สำคัญคือจะได้ประหยัดเวลาและเงิน หากนักท่องเที่ยวมีแพลนที่จะเที่ยวแค่ Tokyo และเมืองรอบๆ ทำให้ไม่ต้องเดินทางไปกินไกลถึง Hokkaido ซึ่งจะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายและเสียเวลาเดินทางไปอีก
ขาปูแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร?
ขาปูยักษ์ (Tarabagani) タラバガニ
ปู Taraba หรือที่เรียกกันว่าปูยักษ์นั้น เป็นปูที่นิยมจับกันในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ร่วง โดยมีจุดเด่นคือเป็นปูที่มีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะส่วนขา นั้นจะมีความยาวมาก โดยความยาวนั้นมากที่สุดอาจจะถึง 6 ฟุตเลยทีเดียว จึงเรียกกันว่า ขาปูยักษ์ (Tarabagani) タラバガニ
และส่วนขานี่แหละครับ คือส่วนที่นิยมนำมารับประทานกันโดยมีเนื้อแน่น ฉ่ำๆ หวาน เต็มปากเต็มคำ โดยสามารถนำมาย่าง ปิ้ง ทำหม้อไฟ เรียกได้ว่าทำได้แทบทุกเมนู
ขาปูหิมะ (Zuwaigani) ズワイガニ
ปูหิมะ (Zuwaigani) เป็นปูที่มีขนาดเล็กกว่า ปูทาราบะ ชอบอาศัยอยู่ในน้ำที่เย็นจัด และจะมีราคาถูกกว่าปูทาราบะ แต่รสชาติความอร่อยนั้นไม่ได้เป็นรองปูทาราบะ
โดยรสชาติของปูหิมะนั้น จะมีเนื้อนุ่ม หวานกลมกล่อม ฤดูที่นิยมจับปูชนิดนี้คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ส่วนตัวผู้จะสามารถจับได้ถึงเดือนพฤษภาคม
ขนาดของปูหิมะนั้น ปูตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าปูตัวเมีย และปูหิมะโดยเฉพาะส่วนขานั้นมักจะถูกมาทำเป็นเมนูต่างๆเช่น ซาชิมิ ซุป หม้อไฟ เป็นต้น
ปูขน (Kegani) 毛ガニ
ปูขน (Kegani) เป็นปูที่มีลักษณะเด่นคือมีขนที่แหลม มีขนาดตัวเล็กกว่าปูทาราบะ และปูหิมะ สามารถจับได้ทุกฤดู แต่มักจะนิยมกินกันในช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคม เป็นปูที่สามารถจับได้ในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่น แต่ถ้าจับจากแถบ Hokkaido จะมีรสชาติหวาน อร่อยกว่าพื้นที่อื่นๆ
ปูขนนั้น นิยมนำมารับประทานในรูปแบบ ปูสด ย่าง รวมถึงหม้อไฟ โดยเฉพาะมันปูนั้นจะมีรสชาติเข้มข้นและอร่อย
ราคาบุฟเฟ่ต์ขาปูโดยประมาณ
ราคาบุฟเฟต์ขาปูใน Tokyo นั้นมีหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกกิน โดยแต่ละร้านก็ตั้งราคาไว้ไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับช่วงเวลา ประเภทของปู เป็นต้น
โดยราคาอาจจะแบ่งตามช่วงเวลาคือ ช่วงมื้อกลางวัน ราคาจะอยู่ที่ 3,000 – 6,000 เยน ซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลา 11.00 น. – 13.00 น.( เวลาขึ้นอยู่กับร้าน )
หากเป็นช่วงมื้อเย็นราคาอาจจะสูงกว่าช่วงมื้อกลางวัน โดยราคาจะอยู่ที่ 5,000 – 10,000 เยน ( ราคาขึ้นอยู่กับร้าน )
ระดับหรู/โรงแรม 5 ดาว: 10,000 เยนขึ้นไป
สำหรับร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ขาปูระดับหรูหรือโรงแรม 5 ดาว ราคาก็อาจจะสูงหน่อย แต่อาจจะมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้ราคาสูง เช่น อาจจะมีขาปูยักษ์แบบเกรดพรีเมี่ยมที่ให้กินแบบไม่อั้น หรือบางร้านไม่ได้มีเพียงบุฟเฟ่ต์ขาปู แต่อาจจะมีอาหารชนิดอื่น หรืออาจจะรวมเครื่องดื่มประเภทมีเหล้า เบียร์ รวมในราคาด้วย
นอกจากนั้นแล้วบางร้านอาจจะคอร์สให้เลือก ซึ่งบางก็คอร์สราคาสูง และอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาสูงก็คือ สูงตามฤดูกาล
วิธีเลือกบุฟเฟ่ต์ขาปูในโตเกียวให้คุ้มที่สุด
การเลือกบุฟเฟต์ยังไงให้คุ้มที่สุด ซึ่งจะต้องดูหลายปัจจัยเช่นกันว่า มีปัจจัยอะไรที่บ้างที่นักท่องเที่ยวถึงคุ้มกับราคาที่จ่ายไป
ชนิดของขาปู
ชนิดของขาปูก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกร้านบุฟเฟ่ต์ขาปู โดยที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าปูที่ถูกนำมาให้ลูกค้าบริโภคนั้นหลักๆ มี 3 ชนิด ซึ่งทั้ง 3 ชนิดก็มีความแตกต่างกัน และราคาก็ต่างกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกร้านบุฟเฟต์
ดูเวลาจำกัด: 90 นาที / 120 นาที
ถัดมาจากการเลือกชนิดของขาปูแล้ว การดูเวลาจำกัดของแต่ละร้านก็ถือว่าเป็นปัจจัยอีกอย่างหนึ่งในการพิจารณาเลือกร้านที่เข้าไปกิน ซึ่งอาจจะต้องเทียบกับราคา และชนิดของปู รวมถึงอาหารอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
เช็กว่า “รวมเครื่องดื่ม” หรือ “จ่ายเพิ่ม”
นี่ก็นับเป็นปัจจัยที่สำคัญอันหนึ่งในการเลือกร้าน เพราะการที่ร้านบุฟเฟ่ต์บางร้านได้รวมเครื่องดื่มเข้าไปรวมกับราคาบุฟเฟ่ต์ทำให้ ลูกค้าสามารถคำนวนค่าใช้จ่ายได้ง่าย และเป็นการจ่ายครั้งเดียวจบ ซึ่งอาจจะสะดวกกว่าร้านที่ไม่ได้รวมเครื่องดื่ม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นลูกค้าบางคนอาจจะไม่ชอบดื่มน้ำระหว่างรับประทานบุฟเฟต์ การเลือกร้านที่ไม่รวมเครื่องดื่มก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี
พิจารณาทำเล: ใกล้รถไฟฟ้า เช่น Tokyo, Shinjuku, Ginza
การพิจารณาทำเลซึ่งอาจจะมีผลต่อการเลือกร้านด้วยเช่นกัน การเลือกร้านที่สามารถเดินทางไปได้สะดวก อยู่ใกล่กับสถานีรถไฟ ก็สะดวกในการมาใช้บริการร้านนั้น
อ่านรีวิวลูกค้าจริงก่อนตัดสินใจ
การอ่านรีวิวของลูกค้าจริง ซึ่งผู้อ่านก็จะได้ทราบถึงข้อดีข้อเสียของร้านนั้นๆ และได้เห็นประสบการณ์การของคนที่ได้ไปใช้บริการของร้านนั้นจริงๆ
10 ร้านบุฟเฟ่ต์ขาปูในโตเกียวที่ห้ามพลาด
คราวนี้ก็มาถึงการแนะนำร้านบุฟเฟต์ขาปูกันแล้ว โดยจะมี 10 ร้านมาแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกัน
Kanimura Ueno
ร้านแรกที่ผมจะมาแนะนำคือร้าน Kanimura Ueno โดยตั้งอยู่ที่ย่าน Ueno ซึ่งเป็นย่านยอดนิยมของนักท่องเที่ยว โดยจุดเด่นของร้านนี้คือปูหิมะ และมีหลายคอร์สให้ลูกค้าได้เลือกรับประทาน เริ่มตั้งแต่คอร์สปูหิมะล้วนที่ราคาเริ่มต้นที่ 5,980 เยน จนไปถึงคอร์สแพงที่สุดที่สามารถกินได้ทั้งปูหิมะ อาหารทะเล รวมถึงเครื่องดื่มทุกชนิดราคา 9,980 เยน
Kanimura Ueno
ที่อยู่ | 110-0005 Tokyo, Taito, Ueno, 3 Chome−28−6 Daiichi Oshima Building 1F |
วิธีเดินทาง | เดิน 5 นาทีจากสถานี Ueno – okachimachi |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 23.00 น. |
ราคา | เริ่มต้นที่ 5,980 เยน |
Website | Kanimura Ueno |
Chiso Zanmai (Daimaru Tokyo)
ร้านบุฟเฟ่ต์ปูที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานี Tokyo โดยมีจุดเด่นอยู่ที่บุฟเฟต์ปูหิมะแดง โดยจะแบ่งเป็นมื้อกลางวัน และมื้อเย็น
โดยร้านจะตั้งอยู่ที่ห้าง Daimaru ชั้น 12 ซึ่งลูกค้าก็สามารถรับประทานบุฟเฟ่ต์ปูสุดอร่อยพร้อมกับชมวิวเมือง Tokyo เพิ่มความฟินน์ขึ้นไปอีก นอกจากมีขาปูแล้วยังมีอาหารประเภทอื่นไว้บริการอีกเช่น ซูชิ เทมปุระ เป็นต้น
นอกจากบุฟเฟ่ต์ขาปูแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารกลางวัน และอาหารเย็น ให้ลูกค้าเลือกอีกด้วย
Chiso Zanmai (Daimaru Tokyo)
ที่อยู่ | 100 – 0005 Tokyo, Chiyoda, Marunouchi, 1 Chome-9-1 Daimaru Tokyo Store 12F |
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Tokyo มาที่ห้าง Daimaru แล้วขึ้นไปที่ชั้น 12 |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 22.00 น. มื้อกลางวัน 11.00 น. – 16.00 น. มื้อเย็น 16.00 น. – 21.00 น. |
ราคา | มื้อกลางวัน 2,990 เยน บุฟเฟ่ต์ขาปู 7,390 เยน มื้อเย็น 3,990 เยน บุฟเฟ่ต์ขาปู 8,390 เยน |
Website | Chiso Zanmai (Daimaru Tokyo) |
Kanimatsuri (Tsukiji)
ร้าน Kanimatsuri เป็นร้านที่มีทั้งบุฟเฟต์ขาปูหรือสั่งแบบอาราคาสต์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งหากลูกค้าเลือกกินแบบบุฟเฟ่ต์ก็มีหลายคอร์สให้ลูกค้าได้เลือกกิน
โดยไฮไลท์อยู่ที่คอร์สที่ชื่อว่า Three Generations of Crab All-You-Can-Eat ซึ่งเป็นคอร์สสามารถรับประทานปูได้ทั้ง 3 ชนิด คือปูอลาสก้า ปูหิมะ และเนื้อปูหิมะ ในราคาแค่ 15,000 เยน ( มีเวลา 60 นาที )
หรือลูกค้าที่ไม่ต้องการที่จะกินบุฟเฟ่ต์ก็สามารถสั่งอาหารแบบอาราคาสต์ได้ อย่างเช่นซูชิปู ซาชิมิปูเป็นต้น
Kanimatsuri (Tsukiji)
ที่อยู่ | 104-0045 Tokyo, Chuo, Tsukiji, 4 Chome−8−1 2nd floor |
วิธีเดินทาง | เดิน 5 นาทีจากสถานี Tsukiji |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 21.00 น. |
ราคา | บุฟเฟต์เริ่มต้นที่ 6,000 เยน อาราคาสต์ เริ่มต้นที่ 1,000 เยน |
Website | Kanimatsuri (Tsukiji) |
Seafood Buffet Dining Ginza Happo
ร้านบุฟเฟ่ต์ที่มีเมนูมากกว่า 150 ชนิด ซึ่งแน่นอนว่าจุดเด่นของร้านนี้คือขาปู เนื้อวากิว รวมถึงเมนูซีฟู้ดต่างๆที่มีถึง 150 เมนู โดยที่นี่จับเวลากินถึง 120 นาที ซึ่งเรียกได้ว่าจุใจมากๆ
นอกจากนี้แล้วที่ร้านยังมีเมนูที่มีเฉพาะตามฤดูกาลอีกด้วย อย่างเช่นในเวลานี้ที่ร้านจะมีเทศกาล Spring Taste Fair ซึ่งจัดถึง 31 พฤษภาคม 2025 นี้ ซึ่งมีเมนูที่สามารถรับประทานได้ในช่วงนี้เท่านั้นอย่างเช่น ปลาชะวานมูชิราดซอสปู หรือปลาเฮอริ่งลายเงินทอดราดเกลือยูคาริ เป็นต้น
Seafood Buffet Dining Ginza Happo
ที่อยู่ | 104-0061 Tokyo, Chuo City, Ginza, 8 Chome−10 GINZA NINE 3, B1 |
วิธีเดินทาง | เดิน 5 นาทีจากสถานี Shimbashi หรือเดิน 15 นาทีจากสถานี Ginza |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 16.00 น. – 22.00 น. |
ราคา | บุฟเฟ่ต์ 12,000 เยน |
Website | Seafood Buffet Dining Ginza Happo |
Marugoto Hokkaido Asakusa
ร้านนี้ชื่อก็บ่งบอกว่า Hokkaido ซึ่งแน่นอนว่า วัตถุดิบ ปูชนิดต่างๆ ของร้านนี้ ส่งตรงมายังร้านนี้จาก Hokkaido กันเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของร้านเพราะไม่ต้องไปกินถึง Hokkaido
โดยบุฟเฟ่ต์ของร้านนี้นั้นก็มีหลายคอร์สให้ลูกค้าเลือกหลายราคาโดยเริ่มต้นที่ 13,980 เยน สำหรับบุฟเฟต์มื้อกลางวัน หรือลูกค้าที่ไม่ต้องการที่จะกินบุฟเฟ่ต์ก็สามารถสั่งเป็นเซ็ทได้ โดยราคาเริ่มต้นที่ 3,500 เยน ( เฉพาะมื้อกลางวัน )
Marugoto Hokkaido Asakusa
ที่อยู่ | 111-0032 Tokyo, Taito, Asakusa, 2 Chome−11−5 Kunimoto Building 2F |
วิธีเดินทาง | เดิน 1 นาทีจากสถานี Asakusa |
เวลาทำการ | มื้อกลางวัน 11.00 น. – 15.00 น. มื้อเย็น 17.00 น. – 23.00 น. |
ราคา | มื้อกลางวัน แบบเซ็ทเริ่มต้นที่ 3,500 เยน บุฟเฟ่ต์ 13,980 เยน ตามเวลาปกติแบบเซ็ทเริ่มต้นที่ 7,000 เยน สามารถสั่งได้ทั้งกลางวันและเย็น ส่วนบุฟเฟ่ต์ เริ่มต้นที่ 17,980 เยน |
Website | Marugoto Hokkaido Asakusa |
Kanizammai (Shinjuku Nishiguchi)
ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Shinjuku โดยมีจุดเด่นอยู่ที่บุฟเฟ่ต์ปูหิมะ ซึ่งลูกค้าสามารถรับประทานปูหิมะได้ไม่อั้น รวมถึงซูชิต่างๆด้วย
โดยมีหลายคอร์สให้เลือกรับประทานกันเริ่มต้นตั้งแต่คอร์สราคา 5,478 เยน จนไปถึง 16,280 เยนที่สามารถกินได้ทั้งอาหารและเครื่องดื่มไม่อั้น
Kanizammai (Shinjuku Nishiguchi)
ที่อยู่ | 160-0023 Tokyo, Shinjuku, Nishishinjuku, 1 Chome-3-2 Yodobashi Camera Dai-Guard Building 2F-3F |
วิธีเดินทาง | เดิน 5 นาทีจากสถานี Shinjuku |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 23.30 น. |
ราคา | เริ่มต้นที่ 5,478 เยน |
Website | Kanizammai (Shinjuku Nishiguchi) |
Steam Crab Labo
หากนักท่องเที่ยวอยากกินปูหิมะราคาย่อมเยาว์ที่สามารถกินได้ทั้งบุฟเฟ่ต์หรือแบบอาราคาตส์ล่ะก็ ร้าน Steam Crab Labo สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน
โดยจุดเด่นของร้านนี้คือขาปูที่นึ่งสดๆ เนื้อฉ่ำ โดยมีหลายคอร์สให้เลือก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3,980 เยน เป็นคอร์สเล็กที่มีเวลารับประทาน 1 ชั่วโมง หรือคอร์สปกติราคาเริ่มต้นที่ 5,980 เยน ซึ่งมีเวลากินถึง 120 นาที
Steam Crab Labo
ที่อยู่ | 142-0062 Tokyo, Shinagawa, Koyama, 3 Chome−24−1 Pal BOX2 1F |
วิธีเดินทาง | เดิน 3 นาทีจากสถานี Musashi-Koyama |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 15.00 น. – 23.00 น. วันศุกร์เปิดตั้งแต่ 15.00 น. – 03.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุด จะมีมื้อกลางวันตั้งแต่ 13.30 – 15.00 น. มื้อเย็น 17.00 น. – 22.30 น. ปิดทุกวันพุธ |
ราคา | บุฟเฟ่ต์เริ่มต้นที่ 3,980 เยน มื้อกลางวันเริ่มต้นที่ 1,150 เยนรวมบุฟเฟ่ต์สลัดและเครื่องดื่ม |
Website | Steam Crab Labo |
Kani Ichi (Akihabara)
ร้านนี้สามารถเดินทางไปได้โดยง่ายจากสถานี Akihabara โดยจุดเด่นของร้านนี้ก็คือ นักท่องเที่ยวสามารถรับประทานปูอร่อยๆได้ ในห้องส่วนตัว แต่ร้านนี้ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์
สำหรับเวลาเปิดปิด ร้านนี้จะแบ่งเป็นมื้อกลางวัน และมื้อเย็น
ซึ่งร้านนี้ก็มีหลายคอร์สให้นักท่องเที่ยวได้เลือกโดยมื้อเย็นราคาเริ่มต้นที่ 9,900 เยน ซึ่งคอร์สแนะนำของร้านนี้ก็คือคอร์สที่ชื่อว่า Kani Kaiseki Course ถือว่าเป็นคอร์สที่ยอดนิยมของร้าน
สำหรับมื้อกลางวันเริ่มต้นที่ 6,380 เยน
Kani Ichi (Akihabara)
ที่อยู่ | 101-0025 Tokyo, Chiyoda, Kanda Sakumacho, 1 Chome−15 Kawahatsu Building 8F-D |
วิธีเดินทาง | เดิน 2 นาทีจากสถานี Akihabara |
เวลาทำการ | มื้อกลางวัน 11.30 – 15.00 น. มื้อเย็น 16.00 – 23.00 น |
ราคา | มื้อกลางวันเริ่มต้นที่ 6,380 เยน มื้อเย็นเริ่มต้นที่ 9,900 เยน |
Website | Kani Ichi (Akihabara) |
Kani Doraku Tokyo (Ginza)
ร้านนี้ไม่ใช่ร้านสไตล์บุฟเฟ่ต์ แต่ก็เป็นร้านที่ไม่ควรพลาด โดยมีหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือก เริ่มต้นที่ราคา 5,000 เยน จนไปถึงแพงสุดที่ราคา 18,000 เยน
และที่ร้านนี้ยังมีเมนูสำหรับอาหารกลางวันอีกด้วย โดยเริ่มต้นที่ 3,850 เยน ซึ่งมื้อกลางวันจะมีถึงเวลา 16.00 น.
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่บุฟเฟ่ต์แต่จุดเด่นของร้านนี้ก็คือเซ็ทปูแบบพรีเมี่ยม ซึ่งรวมไปถึงของหวาน รวมอยู่ในเซ็ตด้วย ซึ่งข้อดีก็คือลูกค้าสามารถกินได้แบบไม่เร่งรีบ เพราะไม่ได้มีการจำกัดเวลานั่งเหมือนบุฟเฟ่ต์
Kani Doraku Tokyo (Ginza)
ที่อยู่ | 104-0061 Tokyo, Chuo City, Ginza, 8 Chome−7 GINZA NINE 2, 2F |
วิธีเดินทาง | เดิน 3 นาทีจากสถานี Shimbashi |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 11.30 น. – 22.00 น. มื้อกลางวัน 11.30 น. – 16.00 น. |
ราคา | เริ่มต้นที่ 5,000 เยน มื้อกลางวันเริ่มต้นที่ 3,850 เยน |
Website | Kani Doraku Tokyo (Ginza) |
Gottsuo Ueno Hirokoji
ร้านนี้เป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีคอร์สให้เลือกมากมาย มีแม้กระทั่งคอร์สที่ไม่ใช่คอร์สบุฟเฟ่ต์ปูแต่ก็มีอาหารประเภทอื่นให้รับประทาน และราคาถูกกว่าบุฟเฟ่ต์ปูชื่อว่าคอร์า Izakaya ในราคา 4,500 เยน รวมเครื่องดื่มด้วย
ส่วนบุฟเฟ่ต์ปูหากมาช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ร้านนี้จะมีช่วงเวลาอาหารกลางวัน ซึ่งที่ร้านจะมีคอร์สที่เรียกว่า Red Snow Crab ซึ่งเป็นคอร์สที่มีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ ในเวลา 12.00 น. – 15.00 น. ในราคา 9,900 เยน โดยจุดเด่นอยู่ที่ปูหิมะแดง
ส่วนถ้ามาในเวลาปกติราคาจะเริ่มต้น 5,900 เยน ซึ่งเป็นไม่ใช่คอร์สที่กินปูแบบไม่อั้นแต่จะมีปูหิมะแดงให้ 1 ตัว พร้อมกับกินอาหารประเภทอื่นได้ไม่อั้น
ส่วนคอร์สกินปูแบบไม่อั้นเริ่มต้นที่ 10,900 เยน รวมเครื่องดื่มด้วย
Gottsuo Ueno Hirokoji
ที่อยู่ | 4F, Raiwa Building, 3-39-11 Yushima, Bunkyo-ku, Tokyo |
วิธีเดินทาง | เดิน 1 นาทีจากสถานี Ueno Hirokoji หรือ เดิน 3 นาทีจากสถานี Yushima หรือ จากสถานี Ueno Okachimachi หรือสถานี Okachimachi ก็ได้ |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 16.00 น. – 22.00 น วันเสาร์ – อาทิตย์ 12.00 น. – 15.00 น. และ 16.00 น. – 22.00 น. |
ราคา | มื้อกลางวันราคาเริ่มต้นที่ 9,900 เยน บุฟเฟ่ต์ Izakaya 4,500 เยน บุฟเฟต์ปูเริ่มต้นที่ 10,900 เยน |
Website | Gottsuo Ueno Hirokoji |
ฤดูกาลไหนเหมาะกับการกินขาปูที่สุด?
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการรับประทานปูที่ญี่ปุ่นมักจะเป็นช่วงฤดูหนาว ( ธันวาคม – มีนาคม ) อย่างเช่นปูขน ถ้ารับประทานในช่วงฤดูหนาวรสชาติจะดีกว่าในช่วงฤดูกาลอื่นๆ หรือปูทาราบะถ้ากินในช่วงวันขึ้นปีใหม่ตามความเชื่อนั้นจะมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
ทางด้านปูหิมะ ซึ่งชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าต้องกินในช่วงฤดูหนาว โดยปูชนิดนี้เพศของปูจะมีรสชาติแตกต่างกันด้วย โดยเฉพาะปูเพศเมียมักจะจับในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ซึ่งก็ตรงกับฤดูหนาว ( ส่วนปูตัวผู้มักจะจับในช่วงเดือน พฤศจิกายน – มีนาคม )
บุฟเฟ่ต์ขาปู VS บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดทั่วไปในโตเกียว
ถ้าเทียบกันระหว่างบุฟเฟ่ต์ขาปูแบบเฉพาะทาง และบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดทั่วไปใน Tokyo ก็ค่อนข้างมีความแตกต่างกัน
หากพูดถึงร้านบุฟเฟ่ต์ที่เป็นขาปูเฉพาะทางแล้ว ทางร้านก็จะเน้นหนักไปทางปู ซึ่งบางร้านอาจจะเน้นแค่ชนิดเดียว แต่กินกันให้จุใจไปเลย หรือบางร้านจะมีปูหลายชนิด แต่ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวที่ต้องการเน้นกินปูอร่อยอย่างเดียว ร้านบุฟเฟ่ต์ปูแบบเฉพาะทางก็อาจจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
ทางด้านร้านบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดทั่วไปนั้น ก็อาจจะมีขาปูแต่อาจจะมีจำนวนจำกัดในอย่างเช่นคอร์สละ 1 ตัว แต่สามารถรับประทานอาหารซีฟู้ดอื่นๆ รวมถึงเนื้อย่างได้ไม่อั้น ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ต้องการลิ้มลองอาหารที่มีความหลากหลาย
สรุป
แล้วก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับบทความแนะนำร้านอาหารบุฟเฟต์ขาปู โดยร้านอาหารที่ผมเขียนแนะนำ 10 ร้านนั้น เป็นร้านที่สามารถเดินทางง่ายจากสถานีรถไฟ และแต่ละร้านที่แนะนำก็มีตั้งบุฟเฟ่ต์ราคาสบายกระเป๋าจะไปถึงราคาสูง
หากใครที่มีแพลนไปเที่ยว Tokyo ก็สามารถไปลิ้มลองเมนูปูได้ตามร้านที่ผมแนะนำได้เลย