Harajuku (ฮาราจูกุ) คือแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิคแห่งหนึ่งของวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นในโตเกียว ที่เต็มไปด้วยสีสันและความหลากหลายของแฟชั่นหลากสไตล์ที่ดูแล้วรับรองว่าแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเรา แต่นอกจากแหล่งช้อปปิ้งสุดชิคแล้วในฮาราจูกุยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่ง เราจึงขอพาทุกคนไปทัวร์เดินเที่ยวเล่นในฮาราจูกุชมสีสันของย่านนี้ภายในหนึ่งวัน ใครพร้อมแล้วตามเรามาเลย!
ทำความรู้จักย่านท่องเที่ยวโตเกียว อ่านเลย
Harajuku station
สถานีรถไฟ Harajuku เป็นสถานที่แห่งแรกที่เราจะเหยียบย่างเข้าสู่ย่านฮาราจูกุ ที่นี่คือสถานีรถไฟ สาย JR Yamanote Line หน้าตาเป็นตึกกระจกหน้าตาทันสมัยแบบนี้
หลายคนที่เคยไปอาจจะเอ๊ะ ทำไมมันเปลี่ยนไป ใช่แล้ว เขาเพิ่งปรับปรุงสถานีใหม่เมื่อปี 2020 เพราะของเดิมมันเก่ามากแล้ว เลยต้องทำใหม่เพื่อความปลอดภัย
สถานีเก่าเปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของย่านนี้เลยทีเดียว ตัวอาคารสีน้ำตาล สร้างจากอิฐและไม้ที่ดูโบราณทำให้ Harajuku station มีความโดดเด่นเก๋ชิคในสไตล์วินเทจ แอบเสียดายที่ต้องรื้อไปในปี 2021 แต่อาคารใหม่ก็สวยเก๋ไม่แพ้กัน ยังเชื่่อมกับสถานีรถไฟและทางออกสู่ย่านฮาราจูกุตามเดิม
สถานีแห่งนี้อยู่ใกล้กับศาลเจ้าเมจิ และสวน Yoyogi ที่น่าแวะไปไม่แพ้กัน
Harajuku station
ที่อยู่ | 150-0001 Tokyo, Shibuya Jingumae 1 chome |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Yamanote Line มาลงที่สถานี Harajuku |
Jingu Bashi : สะพานคอสเพลย์
เดินมาไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Harajuku สุดวินเทจสักเท่าไหร่เราก็จะได้เจอกับอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของย่านนี้นั่นก็คือ Jingu Bashi สะพานหินขนาดใหญ่หน้าทางเข้าศาลเจ้าเมจิ
มองเผิน ๆ ก็ดูเป็นสะพานธรรมดาไม่ได้มีความน่าสนใจสักเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้วทุกวันอาทิตย์ที่นี่คือสถานที่รวมตัวของเหล่านักคอสเพลย์ที่แต่งตัวตามการ์ตูนหรือแฟชั่นสุดแนวแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โลลิต้า พังค์ หรือชาวร็อก
ดังนั้นหากเราได้มาเที่ยวย่านฮาราจูกุในวันอาทิตย์เราก็จะได้เจอะเจอศูนย์กลางแห่งเหล่าคนที่มีใจรักในการคอสเพลย์มาแต่งตัวอวดโฉมให้เราได้ชมแฟชั่นแปลก ๆ และการแต่งตัวแบบสุดแแนวกันนั่นเอง (แต่ถ้าอาทิตย์ไหนฝนตกสาวกคอสเพลย์เขาไม่นัดรวมตัวกันนะจ๊ะ)
Jingu Bashi
ที่อยู่ | |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Yamanote Line มาลงที่สถานี Harajuku จากนั้นเดินต่ออีกเพียง 1 นาทีก็ถึงที่หมาย |
Meiji Shrine : ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งฮาราจูกุ
หลังจากชมความสวยงามแบบแปลกตาจากชาวคอสเพลย์กันมาแล้ว ขอพาทุกคนเดินข้ามสะพานมาอีกฝั่งอันเป็นทางเข้าของศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าเก่าแก่ประจำย่านนี้
ศาลเจ้าแห่งนี้มีบริเวณกว้างขวางเต็มไปด้วยต้นไม้และร่มเงาเพียงแค่เราเดินเข้าใกล้กับบริเวณศาลเจ้าจากบรรยากาศที่วุ่นวายของเมืองก็จะเปลี่ยนเป็นความเงียบสงบที่ร่มเย็นแทน ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 เพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิเมจิและพระมเหสีของประเทศญี่ปุ่น
โดยที่นี่ถือเป็นศาลเจ้าแห่งหนึ่งที่โด่งดังมากในเมืองโตเกียว ยิ่งในช่วงปีใหม่จะมีผู้คนเดินทางมาสักการะเป็นจำนวนกว่า 3 ล้านคนเลยทีเดียว และยังเป็นศาลเจ้าที่มีการจัดงานแต่งงานตามแบบศาสนาชินโตซึ่งเป็นหนึ่งในประเพณีญี่ปุ่นโบราณอีกด้วย สามารถแวะมาสัมผัสความสงบร่มเย็นใจกลางเมืองกันได้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ได้เสมอ เข้าชมได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
Meiji Shrine
ที่อยู่ | 1-1 Yoyogikamizonocho, Shibuya, Tokyo 151-8557 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินต่อจากสะพาน Jingu Bashi อีกเพียง 6 นาทีก็จะถึงตัวศาลเจ้า Meiji Shrine |
เวลาทำการ | 9.00-16.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
โทรศัพท์ | 03-3379-5511 |
Website | Meiji Shrine |
Yoyogi Park : สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในโตเกียว
หากใครชอบความร่มรื่นและติดใจอยากเดินชมต้นไม้ใบหญ้าสัมผัสความร่มเย็นกันต่อ หลังจากชมศาลเจ้าเมจิกันเสร็จแล้วเราขอพาทุกคนไปเดินเล่นกันในสวน Yoyogi สวนสาธารณะขนาดใหญ่แห่งเมืองโตเกียวที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงใหญ่บนพื้นที่ 134 เอเคอร์
โดยปกติสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของวัยรุ่นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงดนตรี หรือพื้นที่รวมตัวของคนรักการคอสเพลย์ รวมไปถึงกิจกรรมชิล ๆ อย่างปิคนิค ออกกำลังกายและพาน้องหมามาเดินเล่น
แต่สวนสาธารณะแห่งนี้ยังมีไฮไลต์อีกสองอย่างก็คือ สวนแห่งนี้ยังมีการจัดตลาดขายของโบราณและเป็นจุดชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและต้นแป๊ะก๊วยช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
Yoyogi Park
ที่อยู่ | 2-1 Yoyogikamizonocho, Shibuya, Tokyo 151-0052 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินต่อจาก Meiji Shrine อีกเพียง 9 นาทีก็จะถึงตัวสวน Yoyogi |
เวลาทำการ | 5.00-20.00 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
โทรศัพท์ | 03-3469-6081 |
Website | Yoyogi Park |
Takeshita Dori : ถนนสายช้อปปิ้งสุดชิค
พื้นฟูพลังกายพลังใจจากอากาศสดชื่น ๆ กันมาแล้ว เราขอพาทุกคนไปช้อปปิ้งกันให้สะใจให้หายอยากยังถนนสายช้อปปิ้ง Takeshita ที่ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของย่านฮาราจูกุ ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวแถวนี้แล้วไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนยังมาไม่ถึงฮาราจูกุเลยนะ
เพราะถนนสายนี้ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งความชิคที่ยาวกว่า 400 เมตร และเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายเสื้อผ้าน่ารัก หรือแฟชั่นแปลก ๆ ร้านเครื่องประดับ ร้านขายสินค้าไอดอลและดารานักร้องญี่ปุ่น จึงทำให้ถนนสายนี้มีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ
ยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเราแล้ว ถนนสายนี้ถือเป็นถนนสายช๊อปปิ้งที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ เพราะมีอะไรให้เราได้เดินดูไม่รู้เบื่อ ทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำมากมายไม่ว่าจะนั่งกินขนมในคาเฟ่ เดินช้อปปิ้งเสื้อแฟน่ารัก ซื้อของกระจุกระจิกหรือแม้แต่ถ่ายรูปสไตล์ญี่ปุ่นอย่าง PURIKURA แถมยังมีร้านค้าแปลก ๆ ให้เราได้ลองแวะเข้าไปดูเป็นประสบการณ์อีกต่างหาก
ร้านแนะนำที่อยากให้ลองแวะไปสักครั้งในถนน Takeshita
- ALTA
ศุูนย์การค้าสุดน่ารักที่มีขายของที่ระลึกมากมาย ไม่ว่าจะสินค้าแล้วคิคุหรือแนวเรโทร ทั้งยังมี Disney Store บนชั้น 2 ด้วยนะ
Website : ALTA
เวลาทำการ : 10:00-20:00 น.
- CUTE CUBE
ร้านขายของสุดคิ้วที่เน้นจำหน่ายสินค้าน่ารัก สำหรับวัยรุ่น แถมยังมีร้านขายสินค้าของ Sanirio โดยเฉพาะ พร้อมด้วยคาเฟ่สุดน่ารักอย่าง POMPOMPURINCAFE ด้วย
Website : CUTE CUBE
เวลาทำการ : ชั้น B1-2F 10:00-20:00 น., ชั้น 3F 11:00-21:00 น.
Cr: solado.jp
- SoLaDo
สำหรับใครชอบสินค้าน่ารักสไตล์ฮาราจูกุขอเชิญมาแวะเลื้อกซื้อกันได้ที่นนี่ เพราะเป็นแหล่งรวมสินค้าน่ารักสไตล์ฮาราจูกุ พร้อมด้วยร้านขายเสื้อผ้ามือสองรอให้ไปช้อปปิ้งอยู่ แต่ถ้าเดินมาถึงตรงนี้แล้วเกิดหิวขึ้นมาที่นี่ก็มีฟูดคอร์ดขนาด 230 ที่นั่งและร้านบุฟเฟ่ต์เค้ก SWEET PARADISE เปิดให้บริการ
Website : SoLaDo
เวลาทำการ : 10:30-20:30 น.
- Daiso
ร้าน 100 เยน สาขาใหญ่ใจกลางฮาราจุกุแห่งนี้คืออีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งขวัญใจคนไทยที่จะช่วยให้เราได้ซื้อของดีราคาถูกคุณภาพญี่ปุ่น ซึ่งมีสินค้าให้เลือกมากมายตั้งแต่ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียน เครื่องประดับ เครื่องสำอางหรืออาหาร บางอย่างยังไม่ได้นำเข้าไปขายในไทย และสินค้าทุกอย่างราคาถูกกว่า Daiso ในเมืองไทยเกือบครึ่งราคา
Website : Daiso
เวลาทำการ : 10:00-21:00 น.
- Calbee PLUS
ร้านจำหน่ายขนมของบริษัท Calbee โดยเฉพาะที่มีมันฝรั่งทอดกรอบทำแบสด ๆ ร้อน ๆ พร้อมราดด้วท็อปปิ้งต่าง ๆ ที่อร่อยสุด ๆ ซึ่งสินค้าที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ของร้านก็คือ Jagariko มันฝรัั่งแท่งทอดกรอบ เคี้ยวเพลินนั่นเอง
Website : Calbee PLUS
เวลาทำการ : 10:00-21:00 น.
- Matsumoto Kiyoshi
ร้านขายยา ยอดฮิตที่มีสินเค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามให้เราได้เลือกซื้อได้อย่างจุใจในราคาถูก ไม่ว่าจะโฟมล้างหน้า ครีมกันแดดหรือลิปสติกก็มีรอพร้อมซื้อ
Website : Matsumoto Kiyoshi
เวลาทำการ : 9.00-22.00 น.
- MARION CREPES, ANGELS HEART, SANTA MONICA (เหล่าร้านเครป)
ในถนน Takeshita แห่งนี้ถือเป็นถนนที่รวบรวมร้านเครปญี่ปุ่นซึ่งเป็นต้นตำรับเอาไว้หลายร้าน จึงอยากให้ลองแวะชิมเครปญี่ปุ่นรสชาติดั้งเดิมอันเป็นต้นตำรับดูสักร้าน เพราะถึงแม้หน้าตาของเครปอาจจะเหมือนที่ทำขายกันในบ้านเรา แต่รสชาติและการครีเอทไส้ในเครปแบบต่าง ๆ นั้นไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน
Website : MARION CREPES,ANGELS HEART,SANTA MONICA
เวลาทำการ : 10.30-20.00 น.
- Candy a Go! Go!
ร้านขายลูกกวาดทสุดมุ้งมื้งที่เดินเข้าไปแล้วจะได้กลิ่นหอมหวานของเหล่าลูกอม เยลลี่หอมฟุ้งอยู่ภายใน โดยจะมีลูกอมและเยลลี่หลากหลายประเภทที่ทั้งแปลกตาและน่ารัก ส่วนเรื่องรสชาติต้องลองซื้อชิมดูกันนะจ๊ะ แต่ที่สำคัญพนักงานร้านแต่งตัวกันน่ารักมาก ๆ
Website : Candy a Go! Go!
เวลาทำการ : 10.00-20.00 น.
- Condomania
ชื่อร้านอาจจะดูน่ากลัวไปสักหน่อย แต่ก็บ่งบอกชัดเจนถึงสินค้าที่ขายภายในร้าน เพราะนี่คือร้านจำหน่าย ‘ถุงยางอนามัย’ รูปแบบต่าง ๆ สาว ๆ หลายคนเห็นอาจจะไม่กล้าเข้าแต่ถ้าใครอยากลองเข้าไปดูพอเป็นประสบการณ์เราก็ยินดีแนะนำ เพราะร้านนี้มีถุงยางอนามัยทุกรูปแบบให้เราได้สังเกตการณ์ แถมแต่ละแบบยังออกแบบแพ็กเกจออกมาซะน่ารักอีกต่างหาก ถือเป็นร้านแปลกร้านหนึ่งในถนนสายนี้
Website : Condomania
เวลาทำการ : 11.00-21.30 น.
Takeshita Dori
ที่อยู่ | 150-0001 Tokyo, Shibuya, Jingūmae, 5 Chome-5-9-13 Shigeru Kita building |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินต่อจากสวน Yoyogi อีกประมาณ 13 นาทีก็จะถึงบริเวณถนน Takeshita Dori หรือเดินจากศาลเจ้าเมจิประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | 10.00-19.00 น. |
โทรศัพท์ | 03-3400-3933 |
Website | Takeshita Dori |
Moshi Moshi Box : บริการด้วยใจสไตล์ป๊อบคัลเจอร์
อย่างที่บอกว่าถนนสายนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนมาเป็นจำนวนมาก ทางการฮาราจูกุเขาจึงส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการเปิดศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Moshi Moshi Box ที่สร้างขึ้นมาในสไตล์วัยรุ่นแบบ ป๊อบคัลเจอร์ให้มีความโดดเด่นและกลมกลืนไปกับย่านแห่งแฟชั่นอย่างฮาราจูกุ
แต่แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของ Moshi Moshi Box ก็คือเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามเส้นทาง แจกแผนที่ บริการส่งของหรือแลกเปลี่ยนเงินตรา ทั้งยังมีของที่ระลึกและยังมีแกลอรี่ชั้นสองให้เราแวะเข้าไปชมได้อีกด้วย ใครต้องการข้อมูลการท่องเที่ยวหรือคิดว่าตัวเองกำลังหลงทางละก็ แวะมาขอความช่วยเหลือจากที่นี่ได้้เสมอเลยจ้ะ
Moshi Moshi Box
ที่อยู่ | Jingumae 3-23-5 1F, Shibuya, Tokyo |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินต่อจากถนน Takeshita อีกประมาณ 4 นาทีก็จะถึง Moshi Moshi Box |
เวลาทำการ | 10.00-18.00 น. |
โทรศัพท์ | 03-6447-2225 |
Website | Moshi Moshi Box |
Omotesando : ย่านช๊อปสุดหรู
ช๊อปปิ้งแบบสุดชิคกันมาแล้วกับแฟชั่นสไตล์ฮาราจูกุ เราขอพาไปช๊อปกันต่อที่ย่านช๊อปปิ้งอีกแห่งบนถนนที่มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งร้านรวงเหล่านั้นได้ทำการออกแบบใหม่ให้มีดีไซน์ล้ำสมัยไม่เหมือนกับแหล่งช๊อปปิ้งอื่น ๆ
โดยจะมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าแบรนเนมที่จะมีเสื้อผ้าหลากหลายแบรนด์ให้ได้เลือกช๊อปกัน โดยสไตล์ซื้อผ้าของแหล่งช๊อปปิ้งแห่งนี้จะโตขึ้นกว่าที่ถนน Takeshita สักหน่อย เพราะเป็นสไตล์ของหนุ่มสาววัยทำงานที่ดูเรียบหรูและมีสไตล์ ดังนั้นจึงจะราคาสูงกว่า แต่เหมาะสำหรับคนที่ตามหาเสื้อผ้าแบรนด์เนมนั่นเอง ไม่ว่าจะแบรน Jewelna Rose, Onitsuka Tiger, Louis Vuitton, Dior, Chanel ก็ล้วนหาได้ที่นี่
แต่ถ้าไม่ใช่สายแบรนด์เนม ถนนสายนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ ให้ลองแวะเวียนมานะ และยังมี Cat Street ถนนคนเดินสำหรับวัยรุ่น แต่ผู้คนไม่พลุกพล่านที่เป็นแหล่งร้านขายเสื้อผ้าสไตล์เก๋ ๆ ให้มาเดินดูกันอีกด้วย
Omotesando
ที่อยู่ | 6 Chome-4 Jingūmae, Shibuya-ku, Tokyo 150-0001 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินต่อจาก Moshi Moshi Box อีกประมาณ 4 นาทีก็จะถึงบริเวณ Omotesando |
Oriental Bazaar : จัดเต็มของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่น
ช๊อปเสื้อผ้าของตัวเองกันไปเต็มเหนี่ยวแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะพาทุกคนไปช้อปซื้อของฝากในร้านขายของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่นที่อยู่ไม่ไกลจากย่าน Omotesando นั่นก็คือร้าน Oriental Bazaar แหล่งจำหน่ายของที่ระลึกขนาดใหญ่ของกรุงโตเกียว
ของระลึกที่จำหน่ายภายในร้านนี้มีทั้งชุดกิโมโน อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร โคมไฟ ตุ๊กตา เฟอร์นิเจอร์ สินค้าเกี่ยวกับซามูไร ภาพวาด ของตกแต่งบ้านโบราณ ของเล่นโบราณและของที่ระลึกกระจุกกระจิกอีกมากมายสไตล์ญี่ปุ่นเรียกได้ว่าถ้าอยากซื้อของฝากสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ละก็ มาช้อปกันที่นี่ได้ครบทุกอย่างแน่นอน
Oriental Bazaar
ที่อยู่ | Japan, 150-0001 Tokyo, Shibuya, Jingūmae, 5 Chome-5-9-13 Shigeru Kita building |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินต่อจากย่าน Omotesando ใช้เวลาเพียงแค่ 4 นาทีก็ถึงร้าน |
เวลาทำการ | 10.00-19.00 น. |
โทรศัพท์ | 03-3400-3933 |
Website | Oriental Bazaar |
ข้อสรุป
ฮาราจูกุ คือย่านช้อปปิ้งสุดฮิปเต็มไปด้วยความฉูดฉาดจากเหล่าร้านค้าและสินค้ามากมายที่มีดีไซน์โดดเด่นแปลกตา แต่ความฉูดฉาดของสิ่งเหล่านี้แหละคือสิ่งที่ทำให้ย่านนี้มีความน่าสนใจและโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว ใครอยากลองเห็นแฟชั่นที่สวยแปลกตา ชอบสีสันของความเป็นเมือง และอยากได้ของข้าวที่ไม่เหมือนใครละก็ แวะมาที่ฮาราจูกุสิรับรองไม่ผิดหวัง
ยังมีสถานที่น่าไปในโตเกียวอีกมากมาย ย่านที่พลาดไม่ได้ของญี่ปุ่น มาดูกันเถอะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
สำหรับใครที่ยังวางแผนเที่ยวในเมืองโตเกียวกันอยู่ เราขอแนะนำบทความเที่ยวโตเกียว ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย
ที่เที่ยว โตเกียว (Tokyo) 12 ย่านดัง และ 17 ที่เที่ยวแนะนำอัพเดทใหม่ 2023
โตเกียว เมืองยอดฮิตติดชาร์ตเที่ยวญี่ปุ่นตลอดกาล มีที่เที่ยวและกิจกรรมครบรสหลากสีสัน ไปกี่ครั้งก็ยังไปซ้ำได้ไม่มีเบื่อ