ร้านเนื้อย่าง MIYAZAKI KAN
ถ้าพูดถึงเนื้อคุโระวากิว หลายคนอาจจะนึกถึงเนื้อโกเบ หรือ เนื้อมัตซึซากะ แต่รู้กันมั้ยว่า จริง ๆ แล้ว “เนื้อมิยาซากิ” นั้น เป็นเนื้อที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเนื้อคุโระวากิวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นเลยเชียวนะ โอ้โห ! ฟังดูควรค่าแก่การลองขนาดนี้ วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ มาชิมเนื้อมิยาซากิที่ร้านมิยาซากิกังกันล่ะ สำหรับวันนี้เราจะพามาที่ร้านมิยาซากิ-กังสาขาโอซาก้า นัมบะกัน
ภายในร้านมีการจัดโต๊ะจะเป็นแบบกระทะเทปปังยากิทั้งหมด ซึ่งเราก็จะได้เห็นเชฟโชว์ฝีมือการทำอาหาร และเสิร์ฟข้างหน้าร้อนๆให้ได้รับประทานกันเลย
โต๊ะจะมี 2 แบบ คือแบบนั่งทานร่วมกับลูกค้าคนอื่น
และแบบห้องส่วนตัว สำหรับใครที่มาเป็นครอบครัวก็สามารถนั่งแยกห้องได้เลย
ทางร้านมีผ้ากันเปื้อนให้ใส่คลุมกันเสื้อผ้าเปื้อนด้วย บริการดีและใส่ใจลูกค้ามากๆ
เดือนเมษายนนี้อาจจะมีการปรับเปลี่ยนของเมนูบ้าง ส่วนเมนูที่พลาดไม่ได้ของที่นี่จะเป็นคอร์สเนื้อมิยาซากิ วากิวทางด้านซ้าย ส่วนเมนูทางขวาบนนั้นจะเป็นเมนูสำหรับสั่งเฉพาะเนื้อแยกเป็นจาน ๆ
ก่อนจะเริ่มทำอาหารให้เราทาน เชฟจะถามเราว่ามีอะไรที่ไม่ชอบกิน หรือแพ้อาหารอะไรไหม ทางร้านมีอาหารทะเลด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆคนไหนที่ไม่ชอบหรือแพ้อาหารก็สามารถบอกทางร้านได้เลย
เมนูที่เราสั่งวันนี้คือ คอร์ส C Select Loin เนื้อสันในพิเศษ น้ำหนัก 200g ค่ะ ลายเนื้อสวยมาก ๆ สมแล้วที่เป็นเนื้ออันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เพื่อน ๆ คงสงสัยกันว่าทําไมเนื้อมิยาซากิถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น เพราะฟาร์มที่มิยาซากินั้น เป็นฟาร์มที่เพาะเลี้ยงวัวคุโระวากิวส่งไปที่เมืองต่าง ๆ นอกจากนี้วัวที่เลี้ยงจากฟาร์มที่นี่จะมีความเครียดน้อย จึงทําให้เนื้อของวัวนุ่ม ละมุนนั่นเอง
เริ่มเรียกน้ำย่อยด้วยแอพพิไทเซอร์กันเลยดีกว่า ในจานจะมีเนื้อมิยาซากิอบแบบ pastrami กับมันบด ขนมปัง grissini พันเบคอน ฟองดูครีมชีสหอยเชลล์ใส่บล็อคเคอรี่,แครอท,พวกแอพพิไทเซอร์,สลัด และของหวาน จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของเมืองมิยาซากิทั้งนั้นเลยล่ะ
หลังจากที่ได้ทานแอพพิไทเซอร์แล้ว ก็จะมีซุปใส่ครีมเบคอนกับคุเรซอนออยร้อนๆ มาเสริฟทันที เรียกได้ว่าได้ทานอย่างต่อเนื่องกันเลย
ต่อด้วยเมนูสลัด สลัดนี้มีความพิเศษที่น้ำสลัด ที่ทำมาจากแรดิช (หัวไซเท้าแดง) ของเมืองมิยาซากิ และรากไม้กรอบ ซึ่งก็เป็นสินค้าขึ้นชื่อของเมืองมิยาซากิเช่นกัน
จากนั้นเชฟก็จะเริ่มย่างเนื้อสันในมิยาซากิของเราแล้วววว เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ
แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้ว น่ากินมาก ๆเลย เพื่อนคนไหนที่ดูตอนกลางคืนระวังหิวนะ
น้ำจิ้มสำหรับทานกับเนื้อก็จะมีน้ำจิ้มพอนสึ วาซาบิ พริกไทยสด พริกส้มยูสุ ซอสเนื้อ
ซึ่งเกลือ พริกส้มยูสุ น้ำจิ้มพอนสึ เป็นแบรนด์ขึ้นชื่อของเมืองมิยาซากิทั้งหมดเลย
ทางร้านบอกว่าอย่าเอาพริกส้มยูสุหรือวาซาบิไปผสมกับซอสหรือน้ำจิ้มพอนสึ มันจะทำให้ซอสเสียรสชาติและไม่สามารถเปลี่ยนหรือขอใหม่ได้นะ
ที่ร้านยังมีวิธีการกินเนื้อเป็นภาษาอังกฤษให้ดูอีกด้วย
ก่อนเนื้อจะมาเสิร์ฟที่จาน เขาจะราดแอลกอฮอล์แล้วจุดไฟที่เนื้อด้วย อลังการสุด ๆ
เนื้อที่ย่างเสร็จแล้วก็จะมีหน้าตาแบบนี้เลย น่ากินมาก ๆเลยใช่ไหมล่ะ ส่วนผักเครื่องเคียงข้าง ๆ ก็จะมี แรดิช (หัวไซเท้าแดง) เห็ดชิทาเกะ มันหวาน มะเขือม่วง
เชฟแนะนำให้ย่างเนื้อเป็น 2 แบบค่ะ แบบข้างบนคือ Rare
และอีกส่วนในรูปนี้เป็นแบบ Medium ก็น่าทานไม่แพ้กัน
เริ่มแรก อย่าเพิ่งเอาเนื้อไปจิ้มกับอะไรเลยนะ ให้ลองทานเฉพาะเนื้ออย่างเดียวก่อน เพื่อจะได้สัมผัสรสชาติของเนื้อ ซึ่งเนื้อสันในนิ่มมากกกก กัดแต่ละครั้งจะสัมผัสได้ถึงความอร่อยของเนื้อที่ไม่สามารถบรรยายได้ อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองมากินดู รับรองว่าจะต้องลืมไม่ลงแน่ ๆ
ต่อจากนั้นก็ลองใส่เกลือหรือวาซาบิดูตามใจชอบได้เลย
พริกส้มยูสุมีรสชาติเผ็ด ๆ นิดหน่อย และมีกลิ่นหอมของส้ม เข้ากับเนื้อมาก ๆ เลย หรือใครที่ชอบเปรี้ยว ๆ แนะนำให้จิ้มกับซอสพอนสึดู
เมื่อเนื้อหมดแล้วอย่าพึ่งกินขนมปังนะ เพราะเชฟบอกว่าขนมปังนี้เป็นเซอร์ไพรส์ เพราะเดี๋ยวจะมีเรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้น
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเพิ่มความอร่อยระหว่างการทานเนื้อ ก็สามารถสั่งได้เลย ที่นี่มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายชนิด
หลังจากกินเนื้อเสร็จก็จะมีข้าวผัดกระเทียม ซึ่งเชฟจะผัดข้าวผัดกระเทียมที่กระทะเทปังข้างหน้าเราเลย ขอบอกว่ากลิ่นกระเทียมหอมมาก ๆ
ข้าวกระเทียม เสิร์ฟพร้อมกับซุปมิโซะหัวไซเท้าร้อน ๆ อร่อยมาก ๆ
สามารถทานข้าวผัดกระเทียมคู่กับไก่สับหัวไซเท้าและขิงดองได้ด้วย ไก่สับหัวไซเท้าดองขิงจะออกรสชาติหวาน ๆ เค็ม ๆ ทานแล้วเข้ากับข้าวผัดกระเทียมมาก ๆ ซึ่งสำหรับข้าวผัดเนี่ยให้รับประทานแค่ครึ่งเดียวก่อนนะ
อีกครึ่งที่เหลือเชฟจะใส่น้ำชาลงไป
ก็จะกลายเป็นข้าวผัดโอฉะซึเกะ
ระหว่างที่กำลังอร่อยกับข้าวผัดกระเทียม ขนมปังที่เซฟบอกว่าเป็นเซอร์ไพรส์และอย่าเพิ่งกินนั้นอยู่ดี ๆ ก็ไปอยู่ในกระทะเทปปัง
ขนมปังที่เราสงสัยว่าทำไมไม่กินกับเนื้อถูกบีบจนแบนเป็นหน้าตาแบบนี้ อ้าวเห้ยยยย
จากขนมปังธรรมดาแปลงร่างมาเป็นของหวานที่สวยงาม และขนมปังก็ไม่ได้มีกลิ่นคาวของเนื้อหรืออะไรเลย แถมยังกรอบและอร่อยมาก ๆ
ส้มกัมควอท (kinkan) เป็นส้มที่สามารถกินได้ทั้งเปลือก มาจากเมืองมิยาซากิเอามาทำเป็นครีมซอสของหวาน ในของหวานจะเห็นส้มและสตรอเบอร์รี่ ซึ่งส้มนั้นก็เป็นส้มกัมควอทจากเมืองมิยาซากินั่นเอง
สุดท้ายจะมีชาและกาแฟให้เราเลือกทาน จะเป็นแบบร้อนหรือเย็นก็ได้ สามารถเลือกเป็นใส่นมกับใส่น้ำมะนาวได้อีกด้วยนะ
Miyazakigyu teppanyaki steak MIYAZAKIKAN
ที่อยู่ | IS building, 2 Chome-1-32 Shinsaibashisuji, Chūō-ku, Ōsaka-shi, Ōsaka-fu542-0085, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสายใดก็ได้ ลงที่สถานี Namba เดินประมาณ10 นาที |
เวลาทำการ | เปิดวันทุกวันไม่มีวันหยุด 11:00-23:00 น. กลางวันวันธรรมดา 11:00-14:00 น. |
ราคา | Kiwami course 29,500 เยน หรือ ราคาตามเมนู |
โทรศัพท์ | 06-6210-4139 |
Website | MIYAZAKIKAN |
ข้อสรุป
ร้าน Miyazaki kan ที่แนะนํา น่ากินมาก ๆเลยใช่ไหม แถมยังให้บริการดีสุด ๆไปเลย ถ้ามาเที่ยวที่ญี่ปุ่นก็อย่าลืมแวะมาชิมเนื้อคุโระวากิวมิยาซากิ เนื้อที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นกันนะ รับรองว่าคุณจะได้ฟินกับเนื้อสุดนุ่มละมุนลิ้นจนลืมไม่ลงอย่างแน่นอนนนนน