มารู้จักที่มาของความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) กันสักหน่อยดีกว่า
ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเต็มว่า “ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกู (Hokkaido-jingu Shrine)” เป็นศาลเจ้าของศาสนาพุทธนิกายชินโตที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด
โดยศาลเจ้าแห่งนี้ มีการอัญเชิญเทพเจ้ามาประทับภายในศาลเจ้ามากถึง 4 องค์เลยทีเดียวนะ ! (ถูกใจสายมูแน่นอน)
ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงยุคสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ เพื่อเป็นสิริมงคลและความสงบสุขให้แก่ชาวฮอกไกโด ด้วยความเก่าแก่และมีประวัติมายาวนานจึงทำให้ศาลนี้มีอายุมากกว่า 150 ปี (ถูกสร้างในช่วงประมาณปี ค.ศ.1871)
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้มีความร่มเย็นและบรรยากาศที่สุขสบาย ก็เพราะว่าที่ตั้งของศาลเจ้า ถูกสร้างในบริเวณที่โอบล้อมด้วยภูเขาทั้งสามด้าน ทำให้เทพพิทักษ์ผู้เฝ้ามองการพัฒนาของฮอกไกโดและความสงบสุขของผู้คนมีพลังคุ้มครองที่มหาศาล
คือในสมัยก่อนเนี่ย คนญี่ปุ่นท้องถิ่นเค้าเชื่อกันว่ามีผู้พิทักษ์คอยปกป้องรักษาคนฮอกไกโดให้มีความสงบสุข ซึ่งอาจจะอุปมาอุปมัยได้กับเทือกเขาที่ล้อมรอบในลักษณะนี้
อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นมาตั้งแต่ในอดีต จึงทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในการการปัดเป่ารังควาญ ประกอบพิธีสมรส หรือการเฉลิมฉลองขอพรเทพเจ้าในวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันเซ็ตสึบุน วันคริสมาสต์ และวันขึ้นปีใหม่
ไฮไลท์กิจกรรมสำคัญที่ไม่ควรพลาดของ “ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)”
1. รับตราประทับสีแดง เพื่อเป็นที่ระลึกในการมาไหว้พระที่ศาลเจ้า
ตราประทับสีแดง หรือ โกะชุอินโจ (Goshuincho)” สำหรับเราแล้ว ขอเรียกว่าเป็นสมุดสำหรับเก็บสะสมตราประทับจะเข้าใจง่ายกว่า
เหมือนว่าเรามีสมุดที่ใช้สำหรับสะสมการไปเยือนศาลเจ้าต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น (เหมือนเก็บสะสมแสตมป์๗ ซึ่งจะรับได้จากสถานที่ ที่เราเคยไปนมัสการ (มีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 เยน) หากเพื่อน ๆ ยังไม่เคยมีสมุดมาก่อน ก็สามารถบริจาคปัจจัยสำหรัลค่าสมุดรับตราประทับของศาลเจ้าฮอกไกโด 1300 เยน
2. แวะชม “หินซะซะเระ”
เรื่องราวที่น่าสนใจคือ หินก้อนใหญ่ก้อนนี้ เกิดจากก้อนกรวดที่ใช้เวลานานหลายปี ทำให้หินก้อนเล็กๆ รวมตัวกันกลายเป็นหินก้อนใหญ่ จึงทำให้หินก้อนนี้ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติที่ได้รับการสงวนตามกฎหมาย
อีกเรื่องราวนึงคือ ชื่อของหินก้อนนี้ปรากฎอยู่ในเนื้อเพลงชาติญี่ปุ่นอีกด้วยนะ โดยเพื่อน ๆ สามารถเดินมารับชมหินก้อนนี้ได้ที่หน้าสำนักงานศาลเจ้าฮอกไกโด
3. อนุสาวรีย์ทองแดงของชิมะ โยชิทาเกะ
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่ต้องแวะถ่ายรูป คือรูปปั้นของคุณ ชิมะ โยชิทาเกะ หรือ “บิดาแห่งเกาะฮอกไกโด” ผู้บุกเบิกเกาะฮอกไกโดและวางรากฐานการสร้างเมืองซัปโปโรแห่งนี้
4. มาเขียนแผ่นอธิษฐานกันดีกว่า !
ในศาลเจ้าจะมีขายแผ่นป้ายเขียนคำอธิษฐานภาษาญี่ปุ่น เรียกว่าเอะมะ (絵馬)
เอะมะ (絵馬) จะเป็นแผ่นป้ายไม้ขนาดเท่าฝ่ามือ มีไว้สำหรับเขียนคำอธิษฐานขอพรให้สมหวังหรือเขียนขอบคุณหลังคำอธิษฐานสมหวังแล้ว
5. ชมซากุระ
เพื่อน ๆ ยังสามารถหาช่วงเวลามาชมซากุระที่ศาลเจ้าแห่งนี้ได้อีกด้วยนะ
โดยเพื่อน ๆ สามารถเพลิดเพลินกับซากุระซึ่งมีประมาณ 1400 ต้น พร้อมกับเดินหาของกินตามร้านแผงลอย อิ่มไปกับบรรยากาศที่สวยงาม
อีกทั้งศาลเจ้าติดกับสวนสาธารณะ Maruyama ซึ่งเป็นหนึ่งในสวนธารณะที่สามารถชมต้นซากุระได้สวยที่สุดในเมืองซัปโปโร เพื่อน ๆ ก็สามารถเดินไปชมต่อได้อีกนะ รับรองว่าไม่เสียเที่ยวแน่นอน
ช่วงซากุระสวย เราขอแนะนำเป็นช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
วิธีการไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าฮอกไกโด ฉบับเรียบง่าย
1. เริ่มจากการชำระล้างร่างกายให้บริสุทธ์ก่อนจะไปไหว้เทพเจ้า (ในที่นี้ขอแค่ล้างมือก็พอ)
หยิบกระบวยตักน้ำขึ้นมาด้วยมือขวา และเริ่มล้างด้วยมือซ้ายก่อน
2. สลับกันล้างมือทีละข้าง เมื่อเสร็จแล้ว ให้เอาน้ำมาล้างที่ปาก (น้ำของเค้าค่อนข้างสะอาดเลย สามารถจิบดื่มได้นะ)
3. เดินเข้าไปทำบุณขอพรด้วยการโยนเหรียญไปในกล่องบริจาค ส่วนใหญ่จะใช้เหรียญ 5 เยน
พร้อมกับโค้งคำนับ 2 ครั้ง และตบมือ 2 ครั้ง (หลังตบมือให้โค้งคำนับอีกรอบ)
4. หลังจากโยนเหรียญเสร็จแล้ว ก็มาเสี่ยงเซียมซีพยากรณ์กันต่อ
โดยให้บริจาคเงินประมาณ 100 เยน หากพอใจกับคำทำนายก็สามารถเก็บแผ่นทำนายไว้ได้เลย หากไม่พอใจก็นำไปผูกไว้ในบริเวณที่มีเสาให้ผุกได้
5. สุดท้ายเราก็จะได้เดินออกมาซื้อเครื่องรางและของนำโชค กัน !
เครื่องรางที่ต้องมาซื้อ
ต้องบอกว่าที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เขามีเครื่องรางเยอะมาก ๆ เกือบ 30 อันเลย เราขอแนะนำสัก 5 อัน ที่น่าสนใจมาแทน
สีแดง – เครื่องรางนำโชคเกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ
สีเขียว – เครื่องรางนำโชคเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
สีชมพู – เครื่องรางนำโชคเกี่ยวกับเรื่องลูก
สีขาว – เครื่องรางนำโชคเกี่ยวกับเรื่องการเรียน การสอบ
เครื่องรางแบบพู่ (Traffic Safety) – เครื่องรางนำโชคเกี่ยวกับเรื่องการเดินทาง
ของฝากประจำศาลเจ้าฮอกไกโด “จิงกูโนะอุเมะ”
“จิงกูโนะอุเมะ” เป็นเหล้าที่ทำจากบ๊วย” และยังมี “จิงกูโนะซากุระ” เป็นชาที่มีจำหน่ายเฉพาะที่สำนักงานศาลเจ้าเท่านั้น จุดเด่นของเหล้าบ๊วยอันนี้ คือวัตถุดิบที่ใช้ผลิตอย่างบ๊วยและซากุระที่ปลูกในบริเวณศาลเจ้า
พิกัด “ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)”
ที่อยู่ | 2-chome-4-1 Asama, Fujiyoshida, Yamanashi 403-0031 |
วิธีเดินทาง | รถไฟใต้ดินสาย Tozai สถานี Maruyama Koen ทางออก 2 หรือ 3 |
เวลาทำการ | เปิดทำการทุกวัน ฤดูร้อน 6:00 น.-17:00 น. ฤดูหนาว 7:00 น.-16:00 น. |
ราคา | ฟรี |
Website | ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) |
วิธีเดินทางไปยังศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)
ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เริ่มออกเดินทางที่สถานีรถไฟ Sapporo
จากสถานีรถไฟ Sapporo นั่งสายสีเขียว (Namboku Line) มาลง ที่สถานี Odori Station รถไฟใต้ดินสายสีส้ม (Tozai line) มาลงที่สถานี Maruyama koen (円山公園) สถานีเดียวกับสวนสัตว์ Maruyama zoo เดินตามทางออกที่ 3 แล้วเดินตามป้ายชมนกชมไม้มาเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที ก็จะเจอะกับทางเข้าศาลเจ้า
โดยแท็กซี่ : หากเรียกแท็กซี่จากสถานี Sapporo Staion จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที มีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,500 เยน
นอกจากศาลเจ้าแล้ว เรามาหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า !
1. Susukino
สถานที่แห่งนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น ย่านแห่งแสงสีประจำเมืองซัปโปโรแหล่งรวมความบันเทิงทุกรูปแบบ คล้ายกับย่านชินจูกุของกรุงโตเกียว
พิกัด Susukino
ที่อยู่ | 2 Chome Minami 5 Jonishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0805 |
วิธีเดินทาง | เดินทางไปขึ้นสถานทีรถไฟสีส้ม (Tozai line) Maruyama Koen Station มาลงที่สถานี Odori Station จากนั้นขึ้นรถไฟสายสีเขียว มาลงที่ Susukino Station |
เวลาทำการ | สามารถเดินชมได้ตลอดทั้งวัน |
ราคา | ฟรี |
Website | – |
2. Maruyama Zoo
สวนสัตว์ประจำเมืงซัปโปโร โดยไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ สัตว์เมืองหนาวที่ไม่ค่อยได้พบเห็นทั่วไป อย่างเช่น หมีขั้วโลก หมีสีน้ำตาล หมาป่า และนกเพนกวิน
พิกัด Maruyama Zoo
ที่อยู่ | Miyagaoka, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0959 |
วิธีเดินทาง | จากศาลเค้าฮอกไกโด สามารถเดินผ่านสวนสาธารณะ Maruyama ไปที่สวนสัตว์ได้เลย ระยะทางประมาณ 900 เมตร หรือเดินชมสวนประมาณ 13 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทำการทุกวัน (ปิดวันพุธ) เวลา 9.30- 16.30 |
ราคา | 800 เยน |
Website | Maruyama Zoo |
3. โรงงานช็อคโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
โรงงานช็อคโกแลตที่มีการออกแบบในสไตล์ยุโรป หากเพื่อน ๆ มาเยี่ยมชมในหน้าหนาวนั้น ที่โรงงานแห่งนี้จะมีการเปิดไฟสุดจะโรแมนติกให้เราชมด้วยนะ (เหมือนตลาดคริสมาสต์ของทางยุโรปเลย)
ขอแอบบอกว่า คุกกี้ Shiroi Koibio คุ้กกี้เนยสอดไส้ไวท์ช็อกโกแลต อร่อยมากกก !
พิกัด โรงงานช็อคโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
ที่อยู่ | 2 Chome-11-36 Miyanosawa 2 Jo, Nishi Ward, Sapporo, Hokkaido 063-0052 |
วิธีเดินทาง | จากศาลเค้าฮอกไกโด นั่งรถไฟใต้ดินสายสีส้ม (Tozai line) มาลงที่สถานี Miyanosawa Station จากนั้นเดินไปอีกประมาณ 10 นาที (550 เมตร) |
เวลาทำการ | เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00-18:00 |
ราคา | ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็กอายุ 4-15 ปี 400 เยน เด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี เข้าฟรี |
Website | โรงงานช็อคโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) |
สรุป
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดประจำจังหวัดซัปโปโร สามารถมาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี เพราะหากมาในหน้าฤดูใบไม้ผลิ เราก็จะได้ชมซากุระที่สวยงามจากสวนสาธารณะ Maruyama และหากมาในหน้าหนาว เราก็จะได้พบกับทิวทัศน์ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เพิ่มเติมด้วยแสงสีที่สวยงาม อีกทั้งการเดินทางมายังศาลเจ้าจากใจกลางของเมืองซัปโปโร ก็สามารถเดินทางได้สะดวก และไม่เสียเวลาเดินทางไปยังสถานที่ใกล้เคียงอย่างแน่นอน