Cr: Pookday
สวัสดีค่า เพิ่งกลับจากไปเที่ยวโตเกียว ไปคนเดียวครั้งแรกกับทริปต่างประเทศ เราจะมาเล่าเรื่องราวการเดินทางทริปเล็กๆ ของเราให้ฟังกันนะ
เราเดินทางไปด้วยเป้ใบเดียวกับกระเป๋าสะพายข้าง 1 ใบ ทริปนี้ไม่เน้นช้อปเท่าไหร่ เนื่องจากเราไม่ได้โหลดกระเป๋าใต้เครื่อง เลยต้องพยายามทำเป้ให้เบาเข้าไว้ เอากางเกงไป 2 ตัว เสื้อ 3-4 ตัว ตอนแรกกะไว้ใส่เปลี่ยนถ่ายรูป แต่สุดท้ายก็ใส่เสื้อกันหนาวทับอยู่ดี ไม่ต้องเอาไปเยอะหรอก เหงื่อไม่ออก แถมหนัก 555 ใส่ 2 ตัววนไป
Cr: Pookday
แนะนำว่าของส่วนตัวอะไรที่จำเป็นต้องมีติดตัว ให้เตรียมไปจากบ้านเราดีกว่า หยูกยา เตรียมให้เรียบร้อย
อะไรที่เป็นพวกโลชั่น โฟมล้างหน้าให้แบ่งใส่ขวดแบ่ง หรือหาที่เป็นไซส์มินิไปจะช่วยให้เราเบายิ่งขึ้น
รองเท้าผ้าใบคู่เดียวตลอดงาน อย่าลืมปริ้นข้อมูลที่พัก ข้อมูลการจองเครื่องบินไปด้วยนะ
เริ่มต้นด้วยการหาตั๋วโปรโมชั่นจนได้วันที่สามารถลางานได้พอดี กับราคาที่โอเคสำหรับเรา (รวมภาษีราวๆ แปดพันบาท) เอาจริงๆ ก็ลังเลใจมาสักพักใหญ่ๆ ว่าจะไปที่ไหนดี ไปคนเดียวจะนั่งรถไฟได้มั้ย กังวลไปต่างๆนานา ตามประสาคนออกต่างประเทศไกลๆครั้งแรก สุดท้ายก็มานั่งคิดแพลน 3 วันสุดท้ายก่อนเดินทาง (ไฟลนตูดเลยจ้า)
ตั๋วและพาสที่ใช้ในการเดินทาง
เริ่มออกเดินทาง Day 1 : Kawaguchiko Yamanashi,Tokyo
Cr: Pookday
เราออกเดินทางด้วยสายการบิน Nokscoot รอบราวๆ ตี 1 หลับกันยาวๆ จนประมาณ 6 โมงเช้าถึงสนามบินนาริตะพอดีตามเวลาท้องถิ่น เวลาของญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง เดินออกจากเครื่อง สัมผัสได้กับอากาศ 18 องศา เย็นกำลังดีเลย
เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับพี่คนไทยเบาะข้างๆตั้งแต่นั่งบนเครื่อง คุยกันไปกันมา พี่เขาทำงานอยู่ที่โตเกียว แล้วบังเอิญไปเส้นทางที่จะไปต้องลงสถานีเดียวกันพอดี เลยถือโอกาสให้พี่แกช่วยแนะนำการขึ้นรถไฟ แล้วติดสอยห้อยตามพี่แกไปด้วย ซาบายหน่อยย
Narita International Airport
ที่อยู่ | 1-1 Furugome, Narita, Chiba Prefecture 282-0004, Japan |
---|---|
ราคา | จากสนามบินนาริตะไปยังสถานีชินจุกุ เที่ยวเดียว ที่นั่ง Ordinary Cars 3,190 เยน ที่นั่ง Green Cars (first class) 4,730 เยน |
Website | Narita International Airport |
เราจองตั๋ว NEX (Narita Express) เพื่อเดินทางไปสถานีชินจุกุ โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ อีกอย่างคือ..ยังนั่งรถไฟไม่เป็น 555 เลยต้องขอแบบสะดวกๆ หน่อยก่อนละกัน สำหรับใครที่มีสัมภาระ กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สามารถเก็บที่ตู้ที่เรานั่งได้เลย
ตั๋วรถไฟราคา 3 พันเยนนิดๆ NEX จะมีตู้สำหรับคนที่จองที่นั่งและไม่ได้จองที่นั่ง แต่ทางที่ดีควรจองที่นั่งตั้งแต่แรกเลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลุกให้กับคนอื่น (คนที่ไม่ได้จอง สามารถนั่งที่นั่งไหนก็ได้ แต่ถ้ามีคนที่เป็นจองมาตรงที่กับเบาะที่เรานั่ง เราต้องสละเบาะให้เขานะฮะ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงสถานี
Cr: Pookday
ถ้าใช้ NEX เราสามารถเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 4 ได้เลย เพื่อไปจองรถบัสไปยัง Kawaguchiko ใครที่ยังไม่ได้จองมาก่อน สามารถไปติดต่อที่เคาเตอร์ หรือในกรณีที่จองในเว็บมาก่อนสำหรับเรา เพียงแค่นำใบจองที่เราปริ้นมายื่นให้เจ้าหน้าที่ดูที่เคาเตอร์ เขาจะออกบัตรให้เลย
เราจองไปตั๋วไปและกลับ ราคาอยู่ที่ 1,750/รอบ เมื่อได้ตั๋วมาแล้วก็ไปหาอะไรรองท้องกันก่อน เริ่มมื้อแรกด้วย family mart เราต้องมารอก่อนเวลารถออก 10 นาทีนะ รถบัสมาตรงเวลามาก และบนรถสามารถนำอาหารขึ้นไปกินได้ ตอนแรกเราไม่แน่ใจว่าเอาขึ้นไปกินบนรถได้ไหม เพราะเกรงใจคนนั่งข้างๆ แหะๆ เลยต้องลงไปถามโชเฟอร์ย้ำให้แน่ใจอีกรอบ สรุปกินได้จ้า จัดมือแรกบนรถด้วยความหิวโหย
Cr: Pookday
ระหว่างทางราวๆ 2 ชั่วโมง บรรยากาศข้างทางเหมือนในฝันเลย ต้นไม้เขียวชอุ่ม ช่างสบายตาอะไรขนาดนี้ ดูแค่วิว 2 ข้างทางก็ปริ่มแล้วละ
จนกระทั่งรถมาจอดหน้าสถานี Kawaguchiko แอพในมือถือแจ้งเตือนรายงานว่าตอนนี้ 15 องศานะหล่อน หนาวสำหรับเรานะ555 ดันเอาแค่เสื้อกันหนาวบางๆมาตัวเดียวไง สมน้ำหน้าตัวเองไป เดินไปหาที่พักกันค่ะ ด้วยความที่พักอยู่ตรงข้ามสถานี หน้าถนนพอดิบพอดี ค่อนข้างสะดวกมากเลยทีเดียว
Kawaguchiko Station
ที่อยู่ | Japan, 〒401-0301 Yamanashi-ken, Minamitsuru-gun, Fujikawaguchiko-machi, Funatsu, 364 |
---|---|
Website | Kawaguchiko Station |
Cr: Pookday
Cr: Pookday
Cr: Pookday
ที่พักคืนแรกของเราชื่อว่า Kawaguchiko stationinn ราคา 916 บาทไทย เรานอนที่พักแบบรวมหญิงชาย แต่ในห้องที่เราพักมีแต่ผู้ชาย อร๊ายย ฟินกันไปสิ
เราออกเที่ยวโดยการเช่าจักรยานแถวๆตรงข้ามหน้าสถานี 1 ช.ม 500 เยน ปั่นไปแถว kawaguchiko lake ปั่นแปบๆ ก็ครบชั่วโมงก็ต้องเอาไปคืนซะแล้ว ไม่คุ้มเลย สุดท้ายจบด้วยการเดินไปทะเลสาบกันอีกรอบ ระยะทางก็ไม่ได้ไกลเท่าไรนะ เลยมีโอกาสเดินถ่ายรูปไปด้วยเลย
Cr: Pookday
เราเดินหามื้อเย็นกินแถวที่พัก เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ จำชื่อร้านไม่ได้แล้วแหละ ฮ่าๆ หลังจากที่เดินวนหาร้านกันหลายรอบ เริ่มค่ำๆ หน่อย เราก็เดินกลับที่พัก
ประสบการณ์ออนเซ็นครั้งแรก
Cr: Pookday
Cr: Pookday
ห้องอาบน้ำสาธารณะที่โฮสเทลนี้จะปิดเวลา 5 ทุ่ม ไอ้เราก็คอยจังหวะย่องที่น่าจะไม่มีคน ไปตอน 3 ทุ่มกว่าๆ กะว่าไม่น่าจะมีคนแล้วนะ ปรากฏว่าไม่มีคนจริงๆ แหะ ฟิน กลายเป็นชะนีขี้อายเปลื้องผ้าลั่นลาอยู่ในอ่างแต่เพียงผู้เดียว
แช่น้ำเล่นไปสักพัก มีแม่ลูกญี่ปุ่นเดินเข้ามากำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน ในใจคิด มีคนเข้ามาหว่ะ เขินวุ้ย เลยย่องออกไปนุ่งผ้าขนหนู ยืนลีลาเพื่อที่จะรอใส่เสื้อผ้า จังหวะนั้นแม่ลูกยุ่นก็เปลื้องชุดต่อหน้าฉันอย่างสบายใจ โอวว สาหร่ายวากาเมะ เขินแทนเลยแหม่
สิ่งอำนวยความสะดวก
Kawaguchiko stationinn
ที่อยู่ | 3639-2 Funatsu Kawaguchiko-machi Yamanashi Prefecture Japan 401-0301 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Kawaguchigo เพียง 1 นาที |
เวลาทำการ | เช็คอิน 14.00-23.00 น. เช็คเอ้าท์ 10.00 น. |
ราคา | เริ่มตั้งแต่ 3,550-4,200 เยน รองรับแขกตั้งแต่ 1-4 คน |
โทรศัพท์ | +81 555-72-0015 |
Website | Kawaguchiko stationinn |
Day 2 Kawaguchiko-Shinjuku
Cr: Pookday
Cr: Pookday
เช้านี้เราลงมากินข้าวกันที่ห้องอาหารชั้นล่างของโฮสเทล เป็นเซ็ทอาหารญี่ปุ่นที่ทางโฮสเทลจัดไวให้ มีให้เลือกในราคา 750 เยน สามารถเติมข้าว เติมชาได้ตลอด เจ้าของที่พักบริการดีมาก เข้ามาสอนการกินสาหร่ายคู่กับข้าวให้ด้วยละ ถ้ามองจากหน้าที่พักจะสามารถมองเห็นวิวฟูจิได้ แต่วันนี้ฟูจิค่อนข้างจะเก็บตัวไปหน่อยนึง
Cr: Pookday
จุดหมายต่อไปของเราคือเจดีย์แดง (Chureito Pagoda) เรานั่งรถไฟสาย Fujikyu railway ไปลงสถานี Shimoyoshida ไปกลับราคา 600 เยน
Cr: Pookday
ตั๋วขาไป 300 เยน
Cr: Pookday
ถึงสถานี Shimoyoshida แล้ว มีภาษาไทยด้วยละ
Shimoyoshida station
ที่อยู่ | Japan, 〒403-0011 Yamanashi Prefecture, Fujiyoshida, Arakura, 840 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Fujikyuko Line 4 ป้ายแล้วลงที่สถานี Shinmoyoshida MAP |
Cr: Pookday
Cr: Pookday
ระหว่างทางเดินไปเจดีย์แดง
Cr: Pookday
Cr: Pookday
แค่ระหว่างทางก็ฟินแล้วใช่ไหมละ
Cr: Pookday
Cr: Pookday
ถึงแล้วววว ตอนแรกเดินหลงด้วยละ เดินขึ้นเขาไปนู้น บ้าบอมาก ฮ่าๆ ทั้งๆที่อยู่ใกล้นิดเดียว ฟูจิเขาขี้อายมากเลย ออกมายิ้มทักทาย สักพักก็หลบหายไปเหมือนเดิม
Chureito Pagoda
ที่อยู่ | Japan, 〒403-0011 Yamanashi Prefecture, Fujiyoshida, Arakura, 3360−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Shimoyoshida ประมาณ 22 นาที |
Cr: Pookday
แวะกินไอติม Sakuramochi กันสักหน่อยก่อนกลับ งื้มม ฟินนน
Cr: Pookday
กลับมาถึงสถานี kawaguchiko เนื่องจากจองบัสกลับชินจุกุตอน 13.40 เลยนังมีเวลาเที่ยวต่อ เราเดินกันไปที่ ropeway เพื่อขึ้นกระเช้าดูวิวทะเลสาบ
Cr: Pookday
ราคาไปกลับ 800 เยน ก็จะดูวิวฟูจิกันแล้ว ^^
Cr: Pookday
Cr: Pookday
Cr: Pookday
ลงมาถึงด้านล่างจะมีจุดขายของที่ระลึก มีเจ้านี้ ย่างไฟร้อนๆแล้วราดด้วยซอส นุ่มหนึบหนับดีจัง
MT.KACHI KACHI ROPEWAY
ที่อยู่ | Japan, 〒 401-0303 Yamanashi-ken, Minamitsuru-gun, Fujikawaguchiko-machi, Fujikawaguchikocho Azagawa, 1163-1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินมาบริเวณขึ้นกระเช้าประมาณ 12 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.20 น. (ช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์จะเปิด 9.30-16.40 น.) |
ราคา | ผู้ใหญ่เที่ยวเดียว 450 เยน ไปกลับ 800 เยน เด็กเที่ยวเดียว 230 เยนไปกลับ 400 เยน |
โทรศัพท์ | 075-204-5543 (+81-75-204-5543) |
Website | MT.KACHI KACHI ROPEWAY |
เราเดินกลับไปที่สถานี Kawaguchiko กันอีกรอบเพื่อรอขึ้นรถบัสกลับชินจุกุ Platform ที่จอดรถจะอยู่หน้าสถานีเลยค่ะ เมื่อมาถึงสถานีชินจุกุเราก็มุ่งหน้าที่ที่พักกันเลยค่ะ แต่เนื่องจากที่พักเราอยู่ไกล
จากสถานี เดินวนอยู่ในสถานี หาทางออกเกือบครึ่ง ช.ม เดินตามแผนที่วนไปๆวนมา เห้ย ทำไมตรูมาอยู่ที่เดิมอีกแล้ว จนถาม information พร้อมยื่น Map ในมือถือให้เขาดู หาทางออกได้แล้ว ก็ไปงมที่พักกันต่อ สุดท้ายก็เจอจนได้
Cr: Pookday
ที่พักวันที่ 2 วันนี้ชื่อว่า Imano Tokyo Hostel ราคาพันนิดๆ ห้องที่เราอยู่มี 4 เตียง อุปกรณ์ทุกอย่างมีเตรียมไว้ให้ ยกเว้นผ้าเช็ดตัวที่ต้องเช่าราคา 200 เยน มีพื้นที่ตรงระเบียงห้องไว้สำหรับแฮ้งเอ้าท์ สำหรับพบปะพูดคุย แต่ห้องเราเงียบค่ะ ทุกคนต่างพากันนอนหมดเลย
สิ่งอำนวยความสะดวก
Imano Tokyo Hostel
ที่อยู่ | Japan, 〒160-0022 Tokyo, Shinjuku, 5 Chome−12−2 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Shinjuku-sanchome ประมาณ 4 นาที |
เวลาทำการ | เช็คอินก่อน 23.00 น. เช็คเอ้าท์ 11.00 น. |
ราคา | 3,500-10,000 เยน มีทั้งแบบห้องพักส่วนตัวและส่วนรวม รองรับตั้งแต่ 1-4 คน |
โทรศัพท์ | +81 3-5362-7161 |
Website | Imano Tokyo Hostel |
Cr: Pookday
หลังจากขึ้นมาอาบน้ำ พักผ่อน สักผ่อนเราก็ออกเดินทางกันต่อ คืนนี้เรามีเป้าหมายคือ Shibuya เดินทางที่พักเพื่อไปที่สถานีชินจุกุ ไปไม่ถูกก็ใช้อิ๊งขั้นเบสิกถามทางกันไปเรื่อยๆ ตอนแรกหา subway ไม่เจอ เลยต้องใช้ suica card จ่ายเพื่อนั่ง JR เสียตังเลยย ไปชิบุยะกันฮะ ออกทางออก Hachiko exit หายากนิดหน่อย ถามทางอย่างเดียวค่า มีเจ้าเหมียวนั่งอยู่กับฮาจิโกะด้วยละ น่าร้ากก
Hachiko Memorial Statue
ที่อยู่ | apan, 〒150-0043 Tōkyō-to, Shibuya-ku, 渋谷区Dōgenzaka, 2 Chome−2−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | าลงรถไฟที่สถานี Shibuya ทางออก Hachiko Exit |
Cr: Pookday
Cr: Pookday
กลับมาที่ย่านชินจุกุกันต่อเพราะต้องเข้าที่พักก่อน 5 ทุ่ม นั่งกลับมา 1 สถานี มาเดินย่าน Kabugicho แหล่งศูนย์รวมความบันเทิง เต็มไปด้วยร้านรวงเยอะมาก
Kabukicho
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Fukutoshin Line จากสถานี Shibuya ไปลง Shinjuku sanchome |
---|
Day 3 Harajuku – Asakusa
Cr: Pookday
ตื่นเช้ามากินข้าวที่ชั้นล่างของโฮสเทล
Cr: Pookday
Cr: Pookday
Cr: Pookday
Cr: Pookday
วันนี้เราจะไปกันที่ Meji jingu (ศาลเจ้าเมจิ) นั่งจาก Shinjuku-sanchome ไปยังสถานี Meji-jingumae ‘Harajuku’ ห่างเพียง 2 สถานีเท่านั้น เมื่อเดินออกจากสถานีจะเจอสถานีของ Jr พอดี ให้เดินไปทางขวามือเลยฮะ
Meji jingu
ที่อยู่ | Japan, 〒151-8557 Tokyo, Shibuya, Yoyogikamizonocho, 1−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Shinjuku-sanchome ขึ้นรถไฟสาย Fukutoshin Line จากนั้นลงที่สถานี Meji-jingumae แล้วเดินต่อไปยังศาลเจ้า |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | Dinner¥2,000~¥2,999, Lunch:¥1,000~¥1,999 |
โทรศัพท์ | 075-204-5543 (+81-75-204-5543) |
Website | awomb |
Cr: Pookday
Cr: Pookday
มาต่อกันที่ Takeshita Street ถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านย่านวันรุ่น เสื้อผ้า บลาๆ อยู่เยื้องๆกับ Harajuku Station
Cr: Pookday
มาที่นี่ต้องกินเครปฮะ หวานๆ ละมุนๆ
Takeshita Street
ที่อยู่ | Japan, 〒150-0001 Tōkyō-to, Shibuya-ku, Jingūmae, 1 Chome−19 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจาก Harajuku station ประมาณ 2 นาที |
Website | Takeshita Street |
Cr: Pookday
Cr: Pookday
ไปต่อกันที่ย่าน Asakusa นั่งเปลี่ยนสถานีที่ Ometa-sando ออกมาก็เจอเจอวัดเซ็นโซจิเลย
Cr: Pookday
ถนนสายของกิน อยู่ทางเข้าวัด เดินซอยนี้อาจหมดตัวกับของกินได้ ฮ่าๆ
Sensoji temple
ที่อยู่ | Japan, 〒111-0032 Tōkyō-to, Taitō-ku, Asakusa, 2 Chome−3−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินประมาณ 6 นาทีจากสถานี Asakusa |
เวลาทำการ | 6.00-17.00 น. (ตุลาคมถึงมีนาคม 6.00-16.30 น.) |
Website | Sensoji temple |
Day 4 Tsukiji fish market – Imperial Palace – Roppongi – Tokyo Metropolitan Government Building – Ueno
Cr: Pookday
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมวันนี้ไปอะไรหลายที่ขนาดนี้ วันสุดท้าย และเก็บตกทุกที่ด้วยรถไฟใต้ดิน บอกเลยว่าใช้คุ้มมาก
Tsukiji fish market : ตลาดปลาโตเกียว
เราออกจากย่าน Asakusa เปลี่ยนรถที่ Daimon เพื่อไปสถานี Tsukijishijo ใช้เวลา 27 นาทีในการเดินทาง
Cr: Pookday
Cr: Pookday
แนะนำให้มาช่วงเช้าดีกว่า ตลาดกำลังคึกคักเลยละ จุดมุ่งหมายของที่นี่เรามาเพื่อออ กินแซลมอน ทูน่า ของสดด หิวเลย
Cr: Pookday
เดินออกจากสถานีแล้วเลี้ยวขวาออกไปเรื่อยๆตามเขาไป ก็จะเจอ เลี้ยวเข้าตลาดกันเลยค่ะ
Tsukiji fish market
ที่อยู่ | Japan, 〒104-0045 Tokyo, Chuo, Tsukiji, 5 Chome−2−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ลงรถไฟที่สถานี Tsukiji จากนั้นเดินต่อประมาณ 4 นาที |
ราคา | 5.00-14.00 น. |
Website | Tsukiji fish market |
Imperial Palace : พระราชวังอิมพีเรียล
Cr: Pookday
Cr: Pookday
สำหรับคนที่มาเที่ยวโตเกียวที่นี้ถือเป็นสถานที่อันดับแรกๆ ที่ผู้คนต้องมาเที่ยวชม ไหนๆ วันนี้เราก็มีเวลากันทั้งวันละ ก็เลยต้องมากันซะหน่อย โดยไฮไลท์ของที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปกันที่ สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge)
การเดินทางนั้นเรานั่งต่อมาจาก ตลาดปลา tsukiji ต้องนั่ง 3 ต่อ เพื่อมาลงที่สถานี Tokyo เมื่อมาถึงสถานี Tokyo อาจจะค่อนข้างสับสนนะคะ เพราะเป็นสถานีใหญ่มาก ออกทางออก 4a 4b เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ เลี้ยวเข้าไปจะเหมือนเดินเข้าห้างสรรพสินค้า เมื่อเดินเข้ามา จะมีป้ายบอกว่าพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ให้ตรงออกประตูข้างหน้าเลย อากาศวันที่เรามาค่อนข้างฟ้ามัวๆ เย็นๆ เหงาๆ เย้ยย
เดินขาลากเลยค่ะ ฮ่าๆ
Imperial Palace
ที่อยู่ | Japan, 〒100-8111 Tōkyō-to, Chiyoda-ku, Chiyoda, 1−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Takebashi ประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | เดือนมีนาคมถึงตุลาคม 9.00-16.30 น. เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ 9.00-16.00 น.) |
Website | Imperial Palace |
Ropponji Hill : ย่านแสงสี
Cr: Pookday
ที่จริงแล้ว จากพระราชวังอิมพีเรียลเรากะว่าจะไปต่อที่ Tokyo Metropolitan Government Building แต่เห็นว่าต้องผ่านสถานีนี้ก่อนพอดี และแวะก่อนสักหน่อย ย่านรปปงงิของโตเกียวถือว่าเป็นย่านแสงสีที่มีความคึกคักมากโดยเฉพาะกับชาวต่างชาติ ที่ๆเต็มไปด้วยอาคาร สำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร แต่เราแวะขึ้นไปไม่นาน แล้วก็ไปต่อ
Ropponji Hill
ที่อยู่ | Japan, 〒106-6108 Tōkyō-to, Minato-ku, Roppongi, 6 Chome−11−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ลงที่สถานี Roppongi จากนั้นเดินต่อประมาณ 7 นาที |
เวลาทำการ | 10.00-21.00 น. |
Tokyo Metropolitan Government Building : ตึกศาลาว่าการกรุงโตเกียว
Cr: Pookday
ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเพราะว่าทางตึกได้เปิดพื้นที่บางส่วนให้ สามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองโตเกียวได้ฟรี ที่ชั้น 45 โดยทางขึ้นมีสองฝั่ง คือฝั่งเหนือ (The North Observatory) และฝั่งใต้ (The South Observatory)
Tokyo Metropolitan Government Building
ที่อยู่ | Japan, 〒163-8001 Tokyo, Shinjuku, Nishishinjuku, 2 Chome−8−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลง Tochomae จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาที |
เวลาทำการ | หอชมวิวทิศใต้เปิดตั้งแต่ 9.30-17.30 (ทิศเหนือเปิดถึง 23.00) |
ราคา | Dinner¥2,000~¥2,999, Lunch:¥1,000~¥1,999 |
โทรศัพท์ | 075-204-5543 (+81-75-204-5543) |
Website | awomb |
Ameyoko (Ueno) : แหล่งช้อปคึกคัก
Cr: Pookday
เราไปๆ กลับๆ ระหว่าง Ueno กับ Asakusa บ่อยมาก เพราะอยู่ห่างแค่สถานีเดียว
ที่นี่จะมี Ameyoko Market เป็นตลาดที่มีความคึกคักเกือบตลอดเวลา ที่นี่มีสินค้าหลากหลายชนิด ทั้งของใช้ต่างๆ ของกิน กระเป๋า ขาช็อปรองเท้าถ้าได้มาต้องติดใจแน่นอน นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมต้องทำให้เป้เบาตอนขามา อิอิ แต่เราก็ซื้อของกลับได้ไม่เยอะ เพราะมีกระเป๋ามาใบเดียว ไม่งั้นหลังหักแน่นวล
Ameyoko (Ueno)
ที่อยู่ | 4 Chome Ueno, Taito-ku Tokyo 110-0005, Japan/td> |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Ueno ประมาณ 2 นาที |
เวลาทำการ | 10.00-20.00 น. |
Website | Ameyoko (Ueno) |
Cr: Pookday
ช่วงเย็นเรามีแพลนไปนอนที่สนามบินนาริตะ เพราะบินรอบเช้าของวันพรุ่งนี้ โดยนั่ง Keisei Skyliner จาก Ueno ประมาณ 40 นาที ก็ถึง
เราลง Terminal 2 สำหรับใครที่ต้องบินไฟลท์เช้าที่ต้องการนอนค้างคืน จะมีห้องสำหรับคนที่ต้องการค่ะ
เมื่อเข้ามาที่เทอมินอล 2 ชั้น 1 ฝั่งด้านขวามือของเรา เดินไปจะเห็นป้าย North waiting area เดินตรงไปทางนั้นเรื่อยๆ เรื่อยๆเลยค่ะ
เดินเข้ามาจะเจอห้องที่มีเก้าอี้โซฟาเรียงรายมากมาย คนน้อยด้วย มีปลั๊กให้ใช้บริการ มุมอ่านหนังสือ ตู้กดน้ำ ห้องน้ำพร้อม จะมีเจ้าหน้าที่คอยเดินดูความเรียบร้อยให้ตลอด ดีงามมาก
Cr: Pookday
ส่วนเรื่องอาบน้ำ คงต้องใช้บริการ 9 hour อยู่ที่ชั้น 2 เดินหาป้าย แล้วเดินตามป้ายไปเรื่อยๆเลย (พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมา) จะมีห้องพักแคปซูล ห้องสำหรับงีบกี่ชั่วโมงแล้วแต่เรา ถ้าห้องสำหรับอาบน้ำราคาหนึ่งพันเยน มีเวลาอาบน้ำได้ถึง 1 ช.ม วันนี้เราใช้บริการอาบน้ำค่ะ ฟินน
9 hour
ที่อยู่ | Narita International Airport Terminal 2, 1-1 Furugome, Narita-City, Chiba 282-0004 Japan |
---|---|
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
ราคา | อาบน้ำ 1,000 เยน |
Website | 9 hour |
เล่ามาซะยืดยาวเลย ส่วนที่เหลือก็ให้ได้พบเจอเองละกันเนอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ต่างคนต่างจะได้รับไม่เหมือนกัน
ค่าใช้จ่ายไม่รวมค่าเครื่อง ราวๆ 14000 ค่าเดินทางเอาจริงๆ มีอีกหลายเส้นทางที่สามารถเซฟได้มากกว่านี้ แต่เวลาในการเดินทางพอๆ กัน
ข้อสรุป
สิ่งที่เราได้กลับมาหลังจากไปคือ
ขอให้มีความสุขกับการเดินทางนะฮะ คงได้กลับไปอีกแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทริปโตเกียวคนเดียวแบบไม่เหงา เที่ยวโตเกียวครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไรน้า
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
สำหรับใครที่กำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในโตเกียว ขอแนะนำ 10 พิกัดใหม่เอาใจสายชิลล์
เที่ยวโตเกียว 10 พิกัดใหม่ ไม่ซ้ำใคร เอาใจสายชิลล์
อยากเที่ยวพิกัดใหม่เมืองโตเกียว คลิกเลย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจลองเที่ยวด้วยตัวเองบ้าง แต่ไม่รู้จะไปไหนดี ลองมาอ่านบมความข้างล่างนี้กัน
เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง ไปที่ครั้งก็ไม่เบื่อ
อ่านบทความเที่ยวโตเกียวเพิ่มเติม คลิกเลย