Kochi Japan ตกหลุมรักเมืองแห่งธรรมชาติที่ไม่ธรรมดา

แนะนำ จังหวัด โคชิ (Kochi)

จังหวัด โคชิ (Kochi) ตั้งที่อยู่ที่ภูมิภาคชิโคคุ (Shikoku) เมืองที่ยอมรับกันว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทั้งธรรมชาติที่แสนสงบ มีอาหารรสเลิศ วิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ คุณอาจไม่เคยสัมผัสบรรยากาศสุดประทับใจนี้ได้จากที่ไหน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,216 ตารางกิโลเมตร ตลาดการท่องเที่ยวใน Kochi ได้รับการพัฒนาและเติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือน Kochi เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

และถ้าคุณบังเอิญว่างช่วงซากุระบานละก็ห้ามพลาดที่จะไปเยี่ยมเมืองแห่งนี้ เพราะทั้งเมืองจะถูกรายล้อมไปด้วยสีชมพู ชวนหยุดมองจนคุณอาจลืมกดถ่ายชัตเตอร์

การเดินทางไปยัง โคชิ (Kochi)

สนามบิน

โคชิ (Kochi) มีสนามบิน Kochi Ryoma Airport ที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโอมิ มีการบินภายในประเทศญี่ปุ่นที่เชื่อมต่อกับสนามบินนี้ การบินจาก Tokyo และ Osaka ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว

รถไฟ

สามารถใช้บริการรถไฟและ Shinkansen จากเมืองโตเกียวหรือโอซาก้าไปยังสถานี Kochi ใช้เวลาเดินทางใช้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง

7 ที่เที่ยว โคจิ (Kochi)

ต่อไปเราจะมาแนะนำ 7 สถานที่ท่องเที่ยว โคชิ (Kochi) กัน

ปราสาทโคจิ (Kochi castle)

จุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยม ปราสาทโคจิ ปราสาทที่ถูกยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และยังคงสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยเอโดะเอาไว้

นอกจากนี้ในสวนของปราสาทก็ยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง ทัศนียภาพที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ซากุระบานช่วงใบไม้ผลิ ดอกไฮเดรนเยียช่วงฤดูร้อน ใบไม้หลากสีในฤดูหนาว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงครองใจใครหลายคนที่ไปเยี่ยมชม

ทั้งยังมีรูปปั้นของขุนนางคนแรก คาสุโตโยะ ยามากุจิ ขี่ม้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น. ราคาเข้าชมปราสาท 420 เยน เพลิดเพลินราวกับหลุดเข้าไปในสมัยเอโดะกัน

Kochi castle

ที่อยู่	1-2-1 Marunouchi, Kochi City, Kochi Prefecture
วิธีเดินทาง	เดินประมาณ 20 นาที จากรถไฟชิโกกุ สถานีโคจิ
เวลาทำการ	9.00 – 17.00 น. วันหยุด 26 ธ.ค. – 1ม.ค.
ราคา	ผู้ใหญ่ 420 เยน มาเป็นกลุ่ม 330 เยน
โทรศัพท์	+81-88-824-5701

วัดจิคุรินจิ (Chikurin-ji Temple)

วัด Chikurin-ji: วัดที่สวยงามและสำคัญทางศาสนาใน Kochi มีอายุมากกว่า 1,200 ปี วัดนี้เป็นวัดที่ 31 จาก 88 วัดในเส้นทางเดินทางแสวงบุญ ชิโกกุ (Shikoku Henro / Shikoku 88 Temples Pilgrimage)

วัด Chikurin-ji ตั้งอยู่บนเนินเขาในพื้นที่สวยงามของเขา Chikurin ที่เงียบสงบและสวยงาม วัดมีอาคารหลักที่สำคัญที่เป็นสิ่งก่อสร้างตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากนี้ วัด Chikurin-ji ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีและวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านศิลปะและศิลปินท้องถิ่นอยู่ในวัด

วัดจิคุรินจิ (Chikurin-ji Temple)

ที่อยู่	3577 Godaisan, Kochi, 781-8125
วิธีเดินทาง	เดินทางด้วย “รถบัสมายยู” จากสถานีโคจิ โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
เวลาทำการ	8:30 – 17:00
ค่าเข้าชม	ฟรี

สวนพฤกษศาสตร์มากิโนะ (Makino Botanical Garden)

Cr: visitkochijapan

ธรรมชาติมักสร้างสิ่งที่สวยงามให้เราเสมอ พืชนานาพันธุ์ภายในประเทศญี่ปุ่นได้รวบรวมกว่า 3,000 สายพันธุ์ตามฤดูกาลต่างๆ มาอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์มากิโนะแห่งนี้ แถมไฮไลท์อีกมากมาย อย่างห้องสำหรับชมพืชเขตร้อน หรือจะเป็นการตกแต่งจัดเรียงพืชสไตล์เอเชียตะวันตก

Cr: visit kochi japan

Cr: visit kochi japan

สวนพฤกษศาสตร์ประจำจังหวัดโคจิ สถานที่ที่คนรักธรรมชาติจะพลาดไม่ไปเห็นความสวยงามด้วยตาตัวเองไม่ได้ ดอกไม้ที่คุณจะต้องหลงรัก ธรรมชาติที่ชวนหลงไหล กลิ่นอายธรรมชาติที่ไม่อาจลืม

Makino Botanical Garden

ที่อยู่	Godaisan, Kochi City, Kochi Prefecture 4200-6
วิธีเดินทาง	นั่งรถบัส My Yu จากสถานี JR โคจิ ประมาณ 30 นาที แล้วลงที่ป้ายมาคิโนะ โชกุบุทซึเอ็น เซมอนมาเอะ
เวลาทำการ	9.00 – 17.00 น. หยุดวันสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่ 27 ธ.ค. – 1 ม.ค.
ราคา	720 เยน มาเป็นกลุ่ม 620 เยน (ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป)
โทรศัพท์	+81-88-882-2601

ตลาดฮิโรเมะ (Hirome Market)

ตลาดค้าขายสินค้ามากกว่า 65 ร้าน อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายบรรยากาศท้องถิ่นของเมืองโคจิ ทั้งร้านอาหารแบบแผง ร้านขายปลา ร้านขายเนื้อ ร้านเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก และร้านอื่นๆ ที่มีเอกลักษณ์อีกหลากหลาย

Cr: visitkochijapan

ตลาดฮิโรเมะมีร้านอาหารมากมายให้คุณเลือกสรรจึงเหมาะแก่การเดินเพลิดเพลินจ่ายเงินให้เมนูที่ต้องการมานั่งพัก แวะทานอาหารเที่ยงได้ดีที่สุด

Hirome Market

ที่อยู่	2-3-1 Obiya-machi, Kochi City, Kochi Prefecture
วิธีเดินทาง	เดินประมาณ 20 นาที จากสถานี JR โคจิ บนรถไฟชิโกกุ
เวลาทำการ	วันธรรมดา,วันเสาร์,วันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.00-23.00 น./ วันอาทิตย์ 7.00-23.00 น.
โทรศัพท์	+81-88-822-5287

แหลมมุโรโตะ (Cape Muroto)

แหลมมุโรโตะพูดได้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคู่รัก เป็นสถานที่ที่คู่เดทหลายคู่นัดเจอและหลายคู่ที่ขอแต่งงานกัน จึงมีอนุสรณ์รูปหัวใจขึ้นที่ประภาคารสีชอล์กขาวของที่นี่

ความสวยงามยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ในเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ถ้าคุณอยู่ในช่วงเวลาที่ท้องฟ้ากำลังแปรเปลี่ยน พระอาทิตย์สีแดงสดโผล่พ้นขอบทะเลหรือจะค่อยๆตกลง คุณจะได้เห็นการหักเหของแสงพระอาทิตย์เป็นลักษณะคล้ายตุ๊กตาดารุมะ เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยมากทีเดียว

Cape Muroto

ที่อยู่	Murotomisaki-cho, Muroto City, Kochi Prefecture
วิธีเดินทาง	ขึ้นรถไฟจากสถานี JR โคจิ บนสายโกเมน-นาฮาริ ลงที่สถานีนาฮาริ แล้วขึ้นรถบัสโทบุโคซึ ที่มุ่งไปมุโระโตะ โกลบอล จีโอพาร์ค เซ็นเตอร์ แล้วลงที่ป้ายมุโระโตะ-มิซาคิ เดินจากป้ายรถบัส 3 นาที ไปยังแหลมมุโรโตะ
โทรศัพท์	+81-887-22-5134

แม่น้ำนิโยโดะ (Niyodo River)

Cr: visitkochijapan

Cr: visitkochijapan

ใกล้ชิดธรรมชาติให้มากขึ้นกับการล่องเรือบ้านยาคาตะบูเนะ เรือสมัยโบราณที่มีหลังคา ภายในเรือปูด้วยเสื่อทาคามิ มีโต๊ะเก้าอี้ติดไว้ ให้คุณดื่มด่ำกับพื้นน้ำสีฟ้าใส และธรรมชาติรอบข้าง

Niyodo River

ที่อยู่	209-1 Honmura, Hidaka Village
วิธีเดินทาง	30 นาที ด้วยรถยนต์จากทางออกอิโนะ บนทางด่วนโคจิ
เวลาทำการ	9.00 – 17.00 น. วันหยุด วันสิ้นปีและปีใหม่
ราคา	ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก 1,000 เยน
โทรศัพท์	+81-880-34-8911 จำเป็น (ล่วงหน้า 1 สัปดาห์)

แหลมอะชิซุริ (Cape Ashizuri)

แหลมอะชิซุริ (Cape Ashizuri) เป็นหน้าผาหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งอยู่ที่จุดใต้สุดของเกาะชิโกะคุ (Shikoku) มีมุมมองโดยรอบ 270 องศาช่วยให้ผู้มาเยี่ยมชมสามารถมองเห็นส่วนโค้งของโลกได้จริงๆ

บริเวณนี้มีพุ่มดอกไม้สีสันสดใสราว 150,000 พุ่มทั่วบริเวณคาบสมุทร ซึ่ง 60,000 พุ่มนั้นขึ้นอยู่รวมกันที่ปลายของแหลมนี้ และช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมพุ่มดอกเหล่านี้ผลิบานอย่างเต็มที่คือในเดือนกุมภาพันธ์

หินขนาดใหญ่ ที่เรียกกันว่า ฮะคุซันโดมง (Hakusan Domon) ที่มีรูลอดอยู่ตรงกลาง ทำให้สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอย่างแท้จริง

เทศกาลที่มีชื่อเสียง

เทศกาลโยะซะโคอิ (Yosakoi Matsuri)

ตั้งแต่วันที่ 9 ถึง 12 เดือนสิงหาคมของทุกปี ที่จังหวัด โคชิ (Kochi) จะมีการจัดงานเทศกาลโยะซะโคอิ (Yosakoi Matsuri) ในค่ำคืนกลางฤดูร้อน นับเป็นงานเทศกาลฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่ในเกาะชิโกะคุ (Shikoku)

ทุกปีนั้นจะมีนักเต้นกว่า 19,000 คน จาก 200 ทีมเข้าร่วมงานแสดง ณ สถานที่จัดแสดง 16 ที่ในเมืองโดยจะแสดงลักษณะเฉพาะทั้งเสื้อผ้า ดนตรี และท่าเต้นประกอบดนตรีของทีมแต่ละทีมออกมาอย่างไม่รู้จักเหนื่อยให้ได้รับชมกัน

การเดินทางใน จังหวัด โคชิ (Kochi)

การเดินทางใน โคชิ มีหลากหลายแบบเช่น

Pass ที่แนะนำใน โคชิ (Kochi)

สำหรับใครที่สนใจพาสนี้ในการเดินทางสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

JR SHIKOKU Pass พาสเที่ยวภูมิภาคเล็กๆ เก็บทุกแลนด์มาร์ก

ข้อมูลการใช้พาสและบอกช่องทางการซื้อพาส

ช่องทางการซื้อพาส

หรือใครที่อยากสั่งซื้อพาสง่ายๆ ไม่ต้องไปซื้อด้วยตัวเอง สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวก่อนการเดินทางก็สั่งได้เลยที่นี่

สภาพอากาศที่ต้องรู้

สภาพอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในใจกลางเมืองโคจิจึงอยู่ที่ 17.8℃ และมีอุณหภูมิสูงสุดในฤดูร้อนอยู่ที่ประมาณ 37℃ ส่วนในฤดูหนาว ถึงแม้ในบริเวณพื้นที่ราบจะมีอากาศอบอุ่น แต่ในบริเวณหุบภูเขามีสภาพอากาศหนาวรุนแรงและอาจมีหิมะสะสมได้

การแต่งตัวเที่ยวใน จังหวัด โคชิ

สำหรับใครที่มองหาว่าไปที่นี่จะแต่งตัวยังไง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวมากๆ ลองมาดูนี่กันเลย รับรองแต่งไม่บ้งถูกฤดูไม่เทอะทะ

เทคนิค แต่งตัวไปญี่ปุ่นหน้าหนาว ให้อุ่นสบาย ไม่อ้วนกลม!

บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!

แต่สำหรับใครที่มองหาการแต่งตัวไปเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น แบบสบายๆ แต่งชิลๆ ในช่วงร้อนของญี่ปุ่นที่เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าร้อนมากๆ จะต้องแต่งยังไง หนาบางแค่ไหนก็มาทางนี้เลย

แนะนำการ แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หน้าร้อน จาก 3 แบรนด์ฮิต

หน้าร้อนไม่ร้อนใจ แต่งตัวเข้ากันฤดูเที่ยวเพลิน

อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง จังหวัด โคชิ (Kochi)

คัทสึโอะโนะทาทาคิ (katsuo no tataki) ของดีที่ไม่ควรพลาด

พิเศษกว่าที่อื่น เนื่องจากที่นี่ย่างเนื้อปลาด้วยฟางชั้นเลิศแล้วนำไปแช่น้ำแข็ง รสชาติที่เข้มข้นและความสดใหม่ทำให้เนื้อหอมนุ่มละมุนในลิ้น อร่อยสดชื่นกับเมนูสุดประทับใจที่ใครไปก็ต้องหลงรัก ใครไปเที่ยวก็ห้ามพลาดเมนูนี้เลย

ยุซุ (Yuzu)

ที่นี่เป็นแหล่งผลิต ยูซุ ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ยุซุ (Yuzu) เป็นผลไม้รสเปรี้ยว และมีประโยชน์มากมาย ช่วยกระตุ้นต่อมรับรส และเป็นส่วนประกอบหลักของอาหาร ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม และแม้แต่แปรรูปเป็นเครื่องปรุงต่างๆ

ข้อสรุป

เมืองโคชิ เป็นเมืองที่เหมาะกับการพักผ่อนย่อนใจ ใช้เวลาเพียงวันเดียวเที่ยวชมรอบๆ ก็รู้สึกคุ้มค่ากับการนั่งรถไฟไปลงที่สถานี JR โคชิ แล้ว ธรรมชาติที่ไม่เคยธรรมดา ความสงบที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ วิถีชีวิตเรียบง่ายที่อาจทำให้คุณหลงเสน่ห์จนไม่มีวันลืม ไปเก็บบรรยากาศสวยๆ และพักผ่อนให้เต็มที่กับวันหยุดสุดพิเศษที่จังหวัดโคจิกันเถอะ