Himeji Tourist Pass เที่ยววันเดียวทริปสุดฟิน จากสนามบินคันไซสู่ฮิเมจิ

Himeji Tourist Pass

พาสพาเที่ยวสุดฟินในหนึ่งวันกับ Himeji Tourist Pass พาสนี้มีความน่าสนใจหลายอย่างที่น่าจับตามองเลยก็คือ พาสนี้จะให้เที่ยวจากโอซาก้าจนถึงโกเบ และฮิเมจิ เป็นพาสเล็กน่ารักที่ให้คุณแบบไม่อั้นเลย กับแพ็คเกจที่มีทั้งพาสออกจากสนามบินคันไซเข้าสู่สถานีนัมบะ พร้อมด้วยพาสเดินทางเข้าสู่เมืองฮิเมจิ แถมด้วยส่วนลดในการเข้าที่เที่ยวต่างๆ ได้อีกมากมาย

จาก Nankai Electric Railway ใช้เดินทางจาก Kansai-Airport Station → Namba Station (one way) หากต้องการนั่งรถไฟด่วนแบบสำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

จาก Hanshin Electric Railway and Sanyo Electric Railway ใช้ในการเดินทางเที่ยวที่ต่างๆ ตั้งแต่โอซาก้า โกเบ ไปจนถึงฮิเมจิเลย

โดยทั้งสองพาสนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องกันก็ได้ ตัวอย่างเช่น

หากเดินทางไปถึงสนามบินคันไซวันจันทร์ เราสามารถใช้ One-way ticket เดินทางออกจากสนามบินได้เลย หลังจากนั้นหากเราอยากเดินทางไปเที่ยวฮิเมจิในวันพุธ ก็เริ่มใช้ One-day pass Himeji Tourist Pass ในการเดินทางได้ในวันพุธนั่นเอง โดยระยะเวลาการใช้พาสจะเริ่มนับตั้งแต่เริ่มใช้พาสนี้กับเครื่อง Automated ticket gate หรือ ประตูแตะบัตรเข้าสู่สถานีรถไฟ โดยให้ใช้ต่อเนื่องให้หมดภายใน 1 วันนั่นเอง

ขอบเขตการใช้งานของพาส

Cr: www.sanyo-railway.co.jp

ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังเดือนเมษายน 2563

เอาล่ะ เราก็รู้จักพาสกันมาพอสังเขปแล้ว มาลองใช้พาสเที่ยวกันเถอะ ว่าแต่จะมีที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้างลองไปดูกัน!

Sumaura-yuen

สวนสนุกขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเขา Hachibuse ที่มีความสูงถึง 246 เมตร ทำให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ของทะเลเซโตะ อ่าวโอซาก้า เมืองโกเบ สนามบินโกเบ สะพานอาคาชิโอฮาชิ เกาะอาวาจิมะ และอีกมากมายได้แบบ 360 องศา ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนก็สวยจนละสายตาไม่ลงเลยทีเดียว

การเดินทางขึ้นไปยังสวนสนุกบนภูเขาแห่งนี้สามารถเดินทางไปได้โดยการนั่งโรปเวย์ โดยเมื่อมาถึงเราสามารถไปนั่ง Samaura Ropeway โรปเวย์ที่จุคนได้ถึง 30 คน โดยระหว่างนั่งโรปเวย์เราสามารถชมความสวยงามของอ่าวเซโตะมุมสูงได้ด้วย ใช้เวลาเพียง 3 นาที

หลังจากนั้นให้ไปนั่งเคเบิ้ลสำหรับ 2 คน แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่เรียกว่า CableLator ไปจุดชมวิวต่อได้เลย แต่ถ้าต้องการไปให้ถึงสวนสนุกที่อยู่บนยอดเขา ให้ขึ้นลิฟต์ต่อไปที่ชั้น 3 โดยบนยอดเขาเนี่ย จะมีเครื่องเล่นมากมาย และยังมีอาหารจัดจำหน่ายทั้งบาร์บีคิวและอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าสนุกไม่จำกัดวัยเลยล่ะ

หากใครไม่ชอบไปสถานที่แออัดหนาแน่นไปด้วยผู้คนแล้วล่ะก็ ที่สวนสนุกแห่งนี้เหมาะเป็นอย่างมาก เพราะยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวและไม่เป็นที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก เรียกได้ว่าเป็นที่ลับๆ เหมาะแก่การมาเที่ยวแบบ Unseen มากๆ รวมไปถึงฤดูซากุระผู้คนที่นี่ก็ไม่เยอะเช่นกัน ไม่ต้องเบียดเวลาชมเลยล่ะ

Sumaura-yuen

Maiko Marine Promenade

จุดชมวิวความสวยงามของ Akashi-Kaikyo Bridge สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก เป็นอุโมงค์ทางเดินยาวเข้าไปยังบริเวณใต้สะพาน Akashi-Kaikyo Bridge โดยมีความยาวถึง 317 เมตร โดยบนชั้น 8 มีเลาจ์ชมวิวสะพาน

ซึ่งจะมีกล้องส่องสำหรับชมวิวสะพานทำให้รู้สึกเหมือนกับได้อยู่บนหอคอยหลักของสะพาน Akashi Kaikyo Bridge และหากใครที่ชอบความท้าทายหวาดเสียวล่ะก็ ที่นี่ยังมีสะพานไม้ที่สูง 47 เมตรจากน้ำทะเลอีกด้วยล่ะ หวาดเสียวสุดๆ

Maiko Marine Promenade

Himeji Castle

ปราสาทเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ด้านใน Nakabori รวมถึงส่วนหลักของปราสาทยังถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติพิเศษอีกด้วย

นอกจากนี้ยังได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกและได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ส่งผลให้ได้รับความนิยมจากเหล่านักท่องเที่ยวอย่างมากมายเลยล่ะ และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราควรจะมีพาสนี้ไว้ในครอบครองไงล่ะ

Himeji Castle

Himeji castle Nishio oyashiki ato garden Kokokoen

สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นในพื้นที่ที่มีการขุดพบบ้านพักซามูไรในสมัยก่อนที่ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาท เป็นสวนที่มีคฤหาสน์พร้อมน้ำตกและบ่อน้ำ มีห้องชงชา “Souju-an” ที่สร้างด้วยศิลปะแบบ sukiya-zukuri และสวนชาที่ประกอบด้วยสวนย่อยถึง 9 สวน

Himeji castle Nishio oyashiki ato garden Kokokoen

สัมผัสวัฒนธรรม เปิดประสบการณ์กิน

ย่านการค้า Uontana

Uontana หรือ Uonotana เป็นย่านการค้าที่คล้ายๆ กับตลาดสดบ้านเรา ถ้าหากไปที่เราจะพบเห็นกับร้านขายปลาสดต่างๆ มากมาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ Akashi ที่มีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่นแวะเวียนมา

ที่นี่จึงเหมาะมากๆ สำหรับใครที่อยากทานอาหารทะเลสดๆ ดีๆ ควรแวะมาที่นี่เลย ซึ่งที่ Akashi Ginza และ Honmachi Shopping Street ในช่วงกลางวันจะปิดถนนไม่ให้รถวิ่ง ถ้าหากใครที่อยากลองมาหาของกินแบบท้องถิ่น หรืออาหารทะเลสดๆ ควรแวะมาที่นี่

ธงรูปปลาขนาดใหญ่ที่ถูกประดับเรียงรายตามสองฝั่งถนน ไม่ว่าจะเป็นรูปปลา รูปปลาหมึก คลื่นทะเล หรือเรือสมบัติ พร้อมกับข้อความที่เขียนไว้บนธงว่า การค้ารุ่งเรือง เป็นประเพณีที่ทำสืบต่อกันมา เพื่อให้ค้าขายยดี และมีโชคลาภ

ย่านการค้า Uontana

Honke Kimuraya

อาคาชิยากิ อาหารท้องถิ่นที่หากินได้ที่นี่เท่านั้น แป้งกลมๆ นุ่มๆ เคี้ยวเพลินๆ หลายๆ คนอาจเห็นแว๊บแรกแล้วคิดว่าเป็นทาโกยากิ อันนี้ไม่ใช่นะ คนที่นี่เรียกกันว่า “อาคาชิยากิ” โดยจานที่เราเห็นอยู่นี้ราคา 900 เยน อาจจะดูเหมือนแพง แต่ดูจำนวนที่ให้มาแล้วน่าจะกินกันจนจุกไปเลย ปริมาณที่ให้มาในแต่ละจานเนี่ย กินได้สองคนเลยทีเดียวล่ะ

โดยการกินจะกินแบบปกติก็ได้ แต่แนะนำให้ลองจุ่มน้ำซุปกินจะยิ่งอร่อยกว่าเดิม และนอกจากเมนูหลักอย่าง “อาคาชิยากิ” ที่ร้านยังมีเมนูโอเด้งด้วย แนะนำว่าถ้าจะมานั่งกินที่ร้านให้มาก่อนเที่ยง เพราะหากมาสายไปกว่านี้คนจะแน่นร้านเลยทีเดียวล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ให้สั่งกลับมากินที่บ้านจะสบายอารมณ์กว่ามากเลยล่ะ

Honke Kimuraya

Pettan yaki Eirakudo

ร้านขายเซมเบ้จากปลาหมึกอาคาชิ ที่ร้าน Eirokudo ในย่านการค้า Uontana แต่ที่นี่ไม่ได้เพียงแต่ขายให้เราซื้อกลับบ้านเท่านั้น หากใครที่สนใจจะลองทำเซมเบ้เองก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องสมัครกันทาง Akashi Tpurism Association ก่อนไปนะ เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและน่าสนุกมากๆ เลยล่ะ

ตัวนี้คืออุปกรณ์สำหรับทำเซมเบ้ ส่วนผสมที่ใส่ในเซมเบ้ก็จะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

แผ่นเบ้อเร่อแน่ะ กลิ่นหอมๆ สามารถทำเองและสามารถปรับรสได้ตามเราชอบด้วยล่ะ อร่อยสุดๆ ไปเลย ทำเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นพร้อมกินไปด้วย เพลินๆ ไปอีก

Pettan Yaki Eirakudo

หลายๆ คนเวลาเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อยากจะลองสัมผัสประสบการ์ณกินซุชิที่เชฟทำตรงหน้าแล้ววางให้ทานได้เลยกันทั้งนั้น แต่มันก็จะมีความยากอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ ในเรื่องของการสื่อสารระหว่างเรากับเชฟ เพราะทางร้านจะไม่ได้มีเมนูให้เราเลือกมากนักแต่จะต้องคุยกับเชฟเพื่อให้เชฟแนะนำเมนูให้นั่นเอง แต่ปัญหานี้จะหมดไปที่ เมือง Akashi เพราะทางศูนย์ท่องเที่ยวเนี่ยได้ทำคูปอง ในราคา 2,000 เยน 3,000 เยน และ 5,000 เยน เราสามารถไปซื้อคูปองเหล่านี้ได้ในราคาเดียวกันกับคูปอง แล้วนำไปยื่นให้ร้านได้เลย ทางเชฟก็จะรังสรรเมนูออกมาให้เราทานแบบไม่ต้องพูดเยอะเลย

Hiruamisushi Honoka

ก่อนจะไปเราก็แวะมาซื้อคูปอง “Waza no ippin” สำหรับใช้ที่ร้านซูชิแล้วไปต่อกันที่ Hiruamisushi Honoka กันเลย โดยคูปอง “Waza no ippin” นี้สามารถซื้อได้ที่ Akashi Tourist Information Center

ร้านตั้งอยู่บริเวณกลาง Uontana เลย ให้เดินจาก Akashi Station แค่ 5 นาที

ส่วนหน้าตาของคูปองราคา 3000 เยนก็จะเป็นแบบนี้ เข้าไปในร้านแล้วเอายื่นได้เลย

ร้านนี้มีแต่ที่นั่งเคาน์เตอร์ ให้อารมณ์แบบร้านอาหารญี่ปุ่นมากๆ

ซูชิที่ทำจากปลาที่จับสดๆ ในท้องถิ่น น่ากินมากๆ ปลาที่ได้มารับรองว่าสดอย่างแน่นอน

พอดูใกล้ๆ แล้วน้ำลายสอเป็นอย่างมาก แต่ละคำเรียกได้ว่าสด เต็มปากเต็มคำ ฟินสุดๆ

Hiruamisushi Honoka

และสำหรับใครท่ีมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวด้วย Himeji Tourist Pass ตามสถานที่ต่างๆ เหล่านี้แล้วติดแฮชแท็ก #sanyorailway แล้วโพสต์ลงโซเชี่ยลช่องทางใดช่องทางนึง ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram แล้วรอลุ้นของรางวัลน่ารักๆ สงกรานต์ต้องไปเที่ยว Himeji-Akashi ด้วย Himeji Tourist Pass แล้วล่ะ

สรุป