แนะนำ ซากะ (Saga)
จังหวัดซากะอยู่ตอนเหนือของเกาะคิวชู ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดฟุกุโอกะที่เป็นประตูสู่เกาะคิวชู ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดนางาซากิที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยเสน่ห์มากมาย ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทางฝั่งเหนือของจังหวัดมีวิวชายฝั่งที่สวยงามจนได้เป็น Genkai Quasi-National Park
การเดินทางไปยัง ซากะ (Saga)
สนามบิน
ซากะไม่มีสนามบิน สนามบินที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการมากที่สุดคือ สนามบิน ฟุกุโอกะ
รถไฟ
สามารถใช้บริการรถไฟ JR ไปยังสถานี ซากะ (Saga) ได้เลย
12 ที่เที่ยว ซากะ (Saga)
ศาลเจ้า Yutoku inari
ศาลเจ้ายูโทคุอินาริสร้างขึ้นในปี1687 เป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ใครที่เป็นแฟนละครช่อง 3 คงคุ้นเคยกับศาลเจ้านี้อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ “กลกิโมโน” ที่พี่เบิร์ดของเราเล่นเป็นพระเอกนั่นเอง ศาลเจ้ายูโทคุอินารินั้น เป็นศาลเจ้าประจำตระกูลนาเบะชิมะ ศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ปีคศ 1688 เป็นศาลเจ้าหลักประจำจังหวัดซากะ
ใต้ศาลเจ้าหลักนั้นจะมีศาลเจ้าเล็กที่คนส่วนใหญ่นิยมมาขอพรผูกดวงขอคู่รักจากศาลเจ้านี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Power Spot ที่ไม่ควรพลาด
ด้วยความที่มีคนไทยนิยมมาที่นี่มากๆ แม้แต่ใบเซียมซีก็ยังมีภาษาไทยไว้รองรับด้วย ความสวยงามของที่นี่เป็นที่เลื่องลือมาก ถึงขนาดถูกใช้เป็นโลเคชั่นของซีรีส์ไทยเรื่อง Stay ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ รวมถึงละครอย่างเรื่องกลกิโมโน
Yutoku Inari Shrine
ที่อยู่ | 1855 Furueda, Kashima-shi, Saga-ken 849-1321, Japan |
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถไฟ JR ลงสถานี Hizen-Kashima Station แล้วต่อรถบัสที่ Kashima Bus Center มาลงที่หน้าศาลเจ้า Yutoku Inari Shrine |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Yutoku Inari Shrine |
อุทยานประวัติศาสตร์ยุคยาโยอิ (Yoshinogari Historical Park)
สวนโยชิโนการิเป็นเหมือนอุทยานประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคยาโยอิ เป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรื่องอย่างมาก ที่นี่จึงเป็นเสมือนแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในสมัยโบราณได้เป็นอย่างดี
บ้านเรือนต่างๆ ของที่นี่มีหลายแบบมากๆ ความแตกต่างเหล่านี้แบ่งจากชนชั้นและฐานะนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ประทับของกษัตริย์และผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับศาสนาก็จะเป็นอีกรูปแบบนึง บ้านของชาวบ้านก็จะเป็นอีกแบบนึง รวมถึงอาคารทรงสูงก็จะเป็นเหมือนหอคอยใช้ในการเฝ้าระวัง ซึ่งทุกๆ อย่างก็ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้ทั้งหมด
Yoshinogari Park
ที่อยู่ | 1843 Yoshinogari-machi, Kanzaki-gun, Saga-ken, 842-0035 |
วิธีเดินทาง | 1. นั่งรถไฟ JR จากสถานีโทซุ มาลงสถานีคันซาคิหรือสถานีโยชิโนการิโคเอง 2. นั่งรถไฟ JR จากสถานีซากะ มาลงสถานีคันซาคิหรือสถานีโยชิโนการิโคเอง แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 17.00 น. |
ราคา | 460 เยน |
Website | Yoshinogari Park |
สวนคันเคียวเกอิจูสึโนะโมริ (Kankyo Geijutsu No Mori Park)
สวนป่า Environmental Art Forest เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของจังหวัดซะกะ (Saga) ที่ปลูกต้นเมเปิ้ลไว้กว่า 10,000 ต้น ในช่วงราวกลางเดือนพฤศจิกายน ทั่วทั้งสวนจะเต็มไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้ที่เปลี่ยนสี รวมทั้งมีลำธารตามธรรมชาติไหลผ่าน ให้ความรู้สึกสดชื่นเพลินตา เป็นความงามที่ควรค่าแก่การมาเยือนยิ่งนัก
ไฮไลต์เด่นที่ไม่ควรพลาดคือ ภายในอาคารฟุยุซังโซ (Fuyusansou) ที่สามารถมองเห็นวิวทั่วทั้งสวนผ่านหน้าต่างกระจกโดยรอบอาคาร อีกทั้งมุมถ่ายรูปสุดฮิตที่เป็นภาพวิวธรรมชาติสะท้อนบนพื้นผิวที่มันเงาเหมือนกระจก สวยงามมากๆ ราวกับผลงานศิลปะที่ผสมผสานเข้ากันกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว สมกับชื่อของสวน Environmental Art Forest
Kankyo Geijutsu No Mori Park
ที่อยู่ | 667 Kyuragimachi Hirano, Karatsu, Saga 849-3115 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถจากสถานีรถไฟ JR Kyuraki 15 นาที |
เวลาทำการ | 9:00-16:00 น. |
ราคา | 700 เยน |
Website | Kankyo Geijutsu No Mori Park |
ศาลเจ้าโออุโอะ (Oouo Shrine)
ศาลเจ้าโออุโอะ (Oouo Jinja) เป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่มีเสาโทริอิตั้งโดดเด่นบริเวณชายฝั่งทะเลอะริอะเกะ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้ว โทริอิกลางน้ำของศาลเจ้าโออุโอะที่ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นของทะเลสาบในเมืองทาระ ซึ่งมีระยะต่างของระดับน้ำในช่วงน้ำขึ้นน้ำลงมากสุดถึง 6 เมตร
ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเพราะสามารถชมทัศนียภาพที่แตกต่างกันจากการขึ้นลงของระดับน้ำ ในเดือนสิงหาคมจะมีการจัดงานเทศกาลโคมไฟยุกิโนะ ในงานจะประดับประดาโคมไฟกว่า 500 อันทำให้โทริอิดูงดงามราวภาพมายา
คนพื้นเมืองของที่นี่เชื่อกันว่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จากตำนานเล่าว่าเทพเจ้าเคยช่วยชีวิตชายชาวประมงไว้ ทำให้เค้ามีชีวิตรอดจากภัยทางทะเล คนจึงนิยมมาขอพรเรื่องความรัก เพราะการช่วยชีวิตผู้อื่นเป็นการแสดงออกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่
Oouo Shrine
ที่อยู่ | 1874-9 Tara, Fujitsu District, Saga 849-1602 |
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ JR Tara Station 10 นาที |
เวลาทำการ | 9:00-18:00น. |
ราคา | ฟรี |
Website | Oouo Shrine |
สะพานโยบุโกะโอฮาชิ (Yobuko Ohashi Bridge)
สะพาน Yobuko Ohashi นั้นมีความยาว 728 เมตร ได้รับเลือกในปี 1998 ให้เป็น 1 ใน 100 สะพานที่มีวิวสวยงามที่สุดของญี่ปุ่น เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างเมืองโยบุโกะ (Yobuko City) และเกาะคาเบะชิมะ (Kabeshima Island)
จุดชมวิว สะพาน Yobuko Ohashi
ที่อยู่ | 3279-1 Yobukochō Kabeshima Karatsu, Saga 847-0305 |
วิธีเดินทาง | ควรเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวา 10 นาทีเพื่อเดินจากสถานีเกียวโต |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 |
ราคา | ฟรี |
Website | จุดชมวิว สะพาน Yobuko Ohashi |
ห้องสมุดเมืองทาเคโอะ (Takeo city Library)
ห้องสมุดเมืองแห่งนี้ ได้รับการปรับปรุงใหม่เปลี่ยนภาพห้องสมุดเก่าแก่แบบเดิมๆ และเปิดทำการใหม่อีกครั้งในปีค.ศ. 2013 เป็นต้นมา ดยมีคาเฟ่ด้านใน ห้องสมุดที่นี่นอกจากสามารถยืมหนังสือได้แล้ว ยังสามารถซื้อหนังสือ นิตยสาร และสินค้ากุ๊กกิ๊กได้อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สุดวิเศษสำหรับคนรักหนังสือ
ภายในอาคารสองชั้นแห่งนี้แบ่งเป็น 3 โซนหลักคือ โซนห้องสมุด โซนร้านหนังสือและของจิปาถะ และโซนเช่าซีดีและดีวีดีของร้านสึทะยะ (Tsutaya)
Takeo city Library
ที่อยู่ | 5304-1 Takeo, Takeo-cho, Takeo-shi, Saga |
วิธีเดินทาง | เดิน 15 นาทีจากสถานี Takeo Onsen บนสาย JR Sasebo |
เวลาทำการ | 9:00 น. ถึง 21:00 น. (เปิดทำการตลอดปี) |
ราคา | ฟรี |
Website | Takeo city Library |
ย่าน Hizen Hamashuku
Hizen Hamashuku เป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นที่ปากแม่น้ำ Hamagawa และเชื่อกันว่าได้รับการจัดตั้งให้เป็นชุมชนเมืองในยุคมูโรมาจิ (ค.ศ. 1336 – ค.ศ. 1573) ในสมัยเอโดะ Hizen Hamashuku
เคยเป็นสถานีขนส่งและจุดพักสำหรับนักเดินทางที่อยู่ตามเส้นทาง Tara Kaido ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Nagasaki Kaido ( ถนนที่เชื่อมระหว่างจ.ซากะและจ.นางาซากิ) แถมยังเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองท่าที่อยู่ติดกับทะเลอาริอาเกะ
ถนนสายฮิเซ็นฮามาชูกุ (Hizen Hamashuku) ถนนเก่าแก่แห่งคาชิมะ เรียกได้ว่าเป็นอีกไฮไลต์ของเมืองซากะ ย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านสาเกและโรงงานทำสาเกอันโด่งดัง เดินเล่นไปตามบ้านเรือนสัมผัสบรรยากาศราวกับได้ย้อนกลับไปยุคเอโดะ
Hizen Hamashuku
ที่อยู่ | 2696 Hamamachi, Kashima, Saga 849-1322 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Hizenhama เดินประมาณ 7 นาที |
เวลาทำการ | 10.00 น. – 17.00 น. |
Website | Kashima City Official Travel Guide |
เมืองอุเรชิโนะ (Ureshino)
เมืองอุเรชิโนะ (Ureshino) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด ซากะ เดินทางจากจังหวัดฟุคุโอกะ (Fukuoka)ก็ง่ายโดยสามารถนั่งรถบัสจากสนามบินฟุคุโอกะหรือ Hakata Bus Terminal ซึ่งรถบัสจะมาจอดให้ที่กลางเมืองเลยโดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
อุเรชิโนะมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการทำไร่ชามาตั้งแต่ยุคเอโดะ และได้รับการยอมรับว่าที่นี่คือหนึ่งในเมืองแห่งการปลูกชาคุณภาพดี ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมทัศนียภาพเมืองที่เต็มไปด้วยไร่ชาอันสวยงาม
เพื่อนๆสามารถตามไปอ่านบทความท่องเที่ยวอุเรชิโนะแบบเต็มๆและจุใจได้เลยนะคะ
สวมกิโมโนเที่ยวเมืองแห่งชาเขียวขึ้นชื่อจังหวัด ซากะ แช่ออนเซ็นคุณภาพดี ที่เมืองอุเรชิโนะ (Ureshino)
ตามมาอ่านรีวิวการท่องเที่ยวกันได้เลย
Mikaeri waterfall
น้ำตก Mikaeri ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 100 ของน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น น้ำตกแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่และดอกไม้นานาพันธุ์ ทำให้บริเวณนี้มีอากาศสดชื่นเหมาะแก่การมานั่งเล่นชมธรรมชาติสุด ๆ ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระแถวนี้ก็จะผลิดอกบานสวยอวดโฉมให้เราได้เชยชม
หากมาเที่ยวที่นี่ในช่วงหน้าฝนหรือประมาณเดือนมิถุนายนก็จะได้เห็นดอกไฮเดรนเยียร์บานสะพรั่งไปทั่วบริเวณด้วยเช่นกัน ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการชมดอกไฮเดรนเยียร์จนมีการจัดงานเทศกาลขึ้นทุกปีในช่วงเดือนมิถุนายน
Mikaeri waterfall
ที่อยู่ | 511-5 Ochicho Ikisa Karatsu-shi, Saga-ken 849-3223 |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟสาย JR Karatsu Line มาลงที่สถานี Ochi จากนั้นนั่งรถต่อไปที่น้ำตกอีกประมาณ 13 นาที |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
ราคา | 200 เยน |
แหลมฮาโดะ (Cape Hado)
แหลม Hado Misaki คือแหลมเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาจากคาบสมุทร Higashimatsuura ซึ่งเป็นบริเวณที่มีทิวทัศน์สวยสดงดงามทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปที่เหมาะสำหรับคู่รักและเหมาะกับการพักผ่อน งมีหอสังเกตการณ์ใต้ทะเลลึกที่เราจะสามารถเข้าไปชมแหล่งอนุบาลปลา สาหร่ายทะเลและสิ่งมีชีวิต ๆ ภายใต้ความลึก 7 เมตรจากผิวทะเล
โดยบริเวณแหลมแห่งนี้มีทั้งรีสอร์ทและพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมมากมายเปิดให้บริการแก่เหล่านักท่องเที่ยว ถือเป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์สวย ๆ ให้เราได้ชมและเพรียบพร้อมไปด้วยกิจกรรมสนุก ๆ ที่ต้องลองแวะมาเที่ยวดูให้ได้สักครั้งหนึ่ง
Cape Hado
ที่อยู่ | 947 Chinzeimachi Hado, Karatsu, Saga 847-0404 |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟสาย JR Nagasaki Line มาลงที่สถานี Karatsu แล้วนั่งรถแท็กซี่ต่อใช้เวลา 43 นาที |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
Website | Cape Hado |
Ureshino Onsen
Ureshino เป็นอีกหนึ่งเมืองออนเซ็นแห่งจังหวัดซากะที่มีชื่อเสียงมายาวนานไม่แพ้กัน และออนเซ็นของที่นี่ก็มีจุดเด่นแตกต่างจากที่อื่นอยู่ตรงที่เป็นออนเซ็นที่ช่วยรักษาโรคได้
โดยในน้ำพุร้อนของออนเซ็นที่นี่นั้นจะประกอบไปด้วยแร่ธาตุอย่าง โซเดียม ไฮโดรเจนคาร์บอเนต และโซเดียมคลอไรด์ซึ่งล้วนแต่มีสรรพคุณในการช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
Ureshino Onsen
ที่อยู่ | Ureshinomachi Oaza Shimojuku, Ureshino, Saga, Japan |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR Kyushu สาย Sasebo Line มาลงสถานี Takeo Onsen จากนั้นนั่งรถบัส JR เพื่อไปลงที่ Ureshino Onsen |
Website | Ureshino Onsen Town Tourist Association |
ปราสาทคาราสึ (Karatsu Castle)
ปราสาทคาราสึ ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองคาราสึ มีความเป็นมาเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะ แต่ได้ถูกทำลายลงในช่วงปฏิรูปเมจิ จนมีการสร้างขึ้นใหม่ใน ค.ศ. 1966 ตัวปราสาทนั้น ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นอยู่บนเนินเขาเล็กๆใกล้กับอ่าวคาราสึ
อกจากเราจะได้ชมสถาปัตยกรรมงามๆของปราสาทแล้วที่นี่ยังเป็นอีกจุดที่สามารถชมวิวอ่าวคาราซึไปจนถึงวิวทิวทัศน์ของเมืองซากะได้สวยงามมาก ปัจจุบันภายในมี 5 ชั้น แต่ละชั้นจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ของเมืองคาราสึ และชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวเมืองที่สวยงามมากๆอีกด้วย
Karatsu Castle
ที่อยู่ | 8-1 Dongcheng inside Karatsu City Saga Prefecture 847-0016 |
วิธีเดินทาง | ใช้รถไฟ JR สายคาราสุ จากสถานีรถไฟคาราสุ โดยใช้สายชิคุชิ เดินประมาณ 20 นาที หรือนั่งแท๊กซี่ประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.00น. |
ราคา | 500 เยน |
Website | Karatsu Castle |
เทศกาล
เมืองซากะมีการจัดงานเทศกาลบอลลูนลมร้อนนานาชาติตั้งแต่ปี 1980 ในชื่อ ซากะ อินเตอร์เนชั่นแนล บอลลูน เฟสติวัล (Saga International Balloon Festival) ตอนช่วงปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเวลา 5 วัน บนท้องฟ้าของเมืองซากะจะมีบอลลูนกว่า 100 ลูกล่องลอยอยู่เต็มท้องฟ้า ช่วยแต่งแต้มสีสันบนท้องฟ้าให้งดงาม
การเดินทางใน ซากะ (Saga)
การเดินทางใน ซากะ (Saga) มีหลากหลายแบบเช่น
วิธีการเดินทาง | รายละเอียด |
---|---|
รถไฟ | เราสามารถเดินทางด้วยรถไฟ JR เข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ |
รถบัส | จะมีรถบัสต่างๆ เพื่อเดินทางเข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยว |
รถแท็กซี่ | หรือจะนั่งรถแท็กซี่เพื่อเข้าสู่สถานที่ที่ยังไม่มีรถประจำทางไปถึง |
รถยนต์ | อีกวิธีที่แนะนำคือการเช่ารถขับ เพราะรถบัสและรถเมล์ค่อนข้างน้อย และยังไม่ครอบคลุมทุกๆ สถานที่ หากต้องการความสะดวกสบาย หรือมากันเป็นครอบครัว อาจจะแนะนำให้เช่ารถขับเองจะสะดวกกว่า |
JR Pass ที่แนะนำใน ซากะ (Saga)
PASS | รายละเอียด | ราคา |
---|---|---|
Seishun 18 | โดยสาร Non-Reserved Seat ของ Ordinary Cars ของรถธรรมดา และรถเร็วของสาย JR ทั้งประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ ได้ไม่จำกัด | 12,050 เยน |
JR Kyushu Pass | แบ่งออกเป็น คิวชูเหนือ คิวชูใต้ และ JR Kyushu all area มีแบบ 3 วันและ 5 วัน | ราคาเริ่มต้นที่ 2,515 บาท |
รายละเอียดเกี่ยวกับพาสเพิ่มเติม
สำหรับใครที่สนใจพาสนี้ในการเดินทางสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
JR Kyushu Rail Pass พาสเดียวที่คิวชู เกาะใหญ่แค่ไหนก็เที่ยวล้นความสุข เติมพลังใจ
ข้อมูลการใช้พาสและบอกช่องทางการซื้อพาส
ช่องทางการซื้อพาส
หรือใครที่อยากสั่งซื้อพาสง่ายๆ ไม่ต้องไปซื้อด้วยตัวเอง สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวก่อนการเดินทางก็สั่งได้เลยที่นี่
บัตร JR Pass ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือ/ฝั่งใต้/ทั้งหมดในคิวชู
ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!
สภาพอากาศที่ต้องรู้ใน ชื่อจังหวัด
การแต่งตัวเที่ยวใน ซากะ (Saga)
สำหรับใครที่มองหาว่าไปที่นี่จะแต่งตัวยังไง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวมากๆ รับรองแต่งไม่บ้งถูกฤดูไม่เทอะทะ
แต่สำหรับใครที่มองหาการแต่งตัวไปเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น แบบสบายๆ แต่งชิลๆ ในช่วงร้อนของญี่ปุ่นที่เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าร้อนมากๆ จะต้องแต่งยังไง หนาบางแค่ไหนก็มาทางนี้เลย
อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง ซากะ (Saga)
เนื้อซากะ (Saga Beef)
จุดเด่นของเนื้อสองชนิดนี้คือเนื้อแดงอ่อนนุ่มและมีไขมันแทรกเยอะ รสชาติหวานเข้มข้น ไม่ว่าจะเอาไปทำสเต็กหรือชาบุชาบุก็ลิ้มรสความอร่อยนั้นได้อย่างเต็มที่
สำหรับท่านที่สนใจเนื้อซากะเรามีร้านมาแนะนำนะคะ ตามไปอ่านบทความของเราได้เลย
แนะนำเนื้อซากะและสาเกรสเลิศสุดฮิตในร้านอาหารไทย พร้อมพาไปขอพรศาลเจ้าชื่อดังแห่งจังหวัดซากะ
ตามมาอ่านบทความกันได้เลย
สาเก (Sake)
เมืองคาชิม่า จังหวัดซากะโดยเมืองคาชิม่านั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “The town that produced the world’s greatest sake” หรือเมืองที่ผลิตสาเกที่ดีที่สุดในโลก จังหวัดซากะมีโรงหมักสาเกอยู่ถึง 26 แห่ง
ปลาหมึกโยบุโกะ (Yobuko)
ปลาหมึกโยบุโกะไม่ได้มีชื่อเสียงเฉพาะในท้องถิ่นเท่านั้น แต่โด่งดังไปทั่วญี่ปุ่นเลยทีเดียว จุดเด่นอยู่ที่เนื้อใสแน่นและมีรสหวาน คนในโยบุโกะมักจะกินแบบดิบๆ เป็นซาชิมิ
ของฝาก
ซากะมีขนมหวานอร่อย ๆ มากมายไว้ให้เราซื้อติดมือกลับไปเป็นของฝากสุดประทับใจไม่แพ้เมืองอื่นเลยค่ะ เพื่อนๆสามารถตามไปอ่านบทความแนะนำของฝากได้เลยค่ะ
7 ของฝากสุดอร่อยจากถนนสายน้ำตาลแห่ง ซากะ
ตามมาอ่านบทความได้เลย!
บทความท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องใน ซากะ (Saga)
สำหรับใครที่สนใจที่นี่ ลองเข้ามาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ชวนมาค้นพบเสน่ห์แห่ง Saga เมืองน่าเที่ยวในคิวชูตอนเหนือ
อ่านบทความท่องเที่ยวได้ที่นี่
แจกแพลน! ตะลุยญี่ปุ่น เที่ยว คิวชู เหนือ ทริปแน่นๆ ไม่มีเบื่อ 4 วัน 3 คืน
อ่านบทความท่องเที่ยวได้ที่นี่
ข้อสรุป
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดซากะไม่ว่าเมืองไหนก็ล้วนเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และความงดงามของธรรมชาติ และบางแห่งก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เมื่อเราได้ไปเยือนแล้วจะเต็มอิ่มไปกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ซากะจึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวอย่างเราควรเดินทางไปสัมผัสความสวยงามของจังหวัดแห่งนี้ด้วยตัวเอง แล้วคุณจะประทับใจ ‘ซากะ’ โดยไม่รู้ตัว