รีวิว “teamLab Borderless” เปิดใหม่ที่ Azabudai Hills สนุกกับการสำรวจและสร้างประสบการณ์ที่โซนเปิดใหม่

TeamLab Borderless Azabudai Hills คือ

ศิลปะดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีที่สร้างประสบการณ์การเข้าชมที่ไม่มีพรมแดนระหว่างผู้ชมและงานศิลปะ ให้ผู้เข้าชมได้สนุกสนานและได้รับประสบการณ์ที่ท้าทายและสร้างความประทับใจ เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ ตั้งอยู่ในตึก Azabudai Hills Garden Plaza โตเกียว

 วิธีการเดินทาง

ไม่ว่าเพื่อนๆจะเดินทางมากจากสถานีอะไรก็ตาม ให้นั่งมาถึงสาย Hibiya ซึ่งเป็นรถไฟใต้ดิน มาลงที่ H05 Kamiyacho Station จากทางออกที่นี่ สามารถเดินไปเรื่อยๆจนถึง TeamLab ได้เลย (ชั้น B1)

ดูแผนที่ teamLab Borderless Azabudai Hills

ไฮไลท์

งานใหม่ “Light Sculpture”

ห้องแห่งพื้นที่ประติมากรรมแสงโดยใช้เส้นแสงหลากสีสัน โดยทำเป็นรูปร่างต่างๆแบบสามมิติทั่วทั้งพื้นที่และในขณะที่ดูไปก็จะเห็นหมอกจางๆลอยมาด้วยนะ พอเปลี่ยนเป็นแสงสีฟ้าก็เป็นเสมือนโลกอวกาศเท่ๆเลย

ในระหว่างที่การแสดงจะเริ่ม เจ้าหน้าที่จะเตือนก่อนว่าการแสดงอาจสร้างความเวียนหัวหรือไม่สบายตัวได้ ถ้าใครรู้สึกไม่ดีก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที 

ความสนุกของห้องนี้คือพอเราอยู่จุดที่เหมาะ เราก็จะสามารถใช้ท่าทางต่างๆเป็นลูกเล่นกับแสงสีเสียงได้ 

ตลอดช่วงเวลาที่ชมการแสดงก็รอจังหวะนิดนึง เพื่อนๆก็จะได้มุมเท่ๆแบบเราเช่นกัน สำหรับห้องนี้ถือเป็นหนึ่งในห้องโปรดของเราเลยล่ะ  

นอกจากจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากธรรมชาติ และเปิดเพลงประกอบเส้นแสงตามจังหวะ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก 

 งานใหม่ “Microcosmoses”

งานศิลปะ “Microcosmoses” มักจะมีลักษณะเป็นโลกที่มีลักษณะคล้ายจักรวาลเล็กๆ หรือจักรวาลที่ไร้ขอบเขต

เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Microcosmoses จะอยู่ในรูปแบบของการแสดงภาพที่ได้เสียงและการเคลื่อนไหว เช่นการสร้างโลกที่มีชีวิตอยู่ในน้ำหรือโลกขนาดย่อยที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความน่าสนใจ

Bubble Universe

ที่นี่เปรียบเหมือนเราอยู่ในโลกแห่งฟองอากาศ เหมือนเราเดินไปแล้วมีฟองอากาศลอยไปลอยมา สวยมากๆ

ขณะที่เรากำลังถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แสงไฟก็จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ เช่นกัน ใครที่ตั้งตารอแสงแบบไหนก็ลุ้นกันล่ะคราวนี้

TeamLabมีเป้าหมายเพื่อสร้างสถานที่ศิลปะและวัฒนธรรมให้มาบรรจบกันเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับจิตใจและความคิดของผู้คน

เราใช้เวลาที่นี่สักพักเพื่อเฝ้ายืนมองการเปลี่ยนแปลงของสีสันในฟองอากาศแต่ละลูกว่าเปลี่ยนไปได้อย่างไร อย่างลุ้นตลอดเวลา

แล้วเพื่อนๆล่ะ ชอบสีสันของฟองอากาศแบบไหนกันบ้าง อยู่ข้างในนี้ไม่มีเบื่อเลย จะถ่ายรูปมุมไหนก็ดูเท่และสวยไปหมด

Sketch Ocean

ใน “Sketch Ocean” เราจะได้รับประสบการณ์ในการสร้างและมีส่วนร่วมกิจกรรมแบบศิลปินดิจิทัลในการวาดภาพที่มีหลากหลายรูปแบบในพื้นที่ที่มีรูปแบบเหมือนใต้ท้องทะเล 

เหล่าปลา ปลาหมึก เต่า ที่มีความสวยงามและสีสันสดใสจะเคลื่อนไหวอย่างสมจริง ซึ่งเราได้ระบายสีภาพที่เราเลือกไว้ จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ก็จะสแกน สักพักภาพของเราจะมีชีวิตบนจอ ขั้นตอนนี้ตื่นตามากๆ  เหล่าสัตว์ทะเลสามารถว่ายไปโผล่ยังจอของประเทศอื่นๆที่มี TeamLab ได้ด้วยนะ

EN TEA HOUSE

ห้องดื่มน้ำชาและไอศครีมที่เราจะได้สัมผัสบรรยากาศกับดอกไม้บานในจักรวาลที่ไม่สิ้นสุด เป็นห้องดื่มชาที่มืดมากๆ แต่ดอกไม้จะบานเต็มถ้วย พอเรายกถ้วยขึ้นกลีบดอกไม้จะร่วงและออกดอกใหม่อีกครั้ง

หากเป็นก้านต้นไม้ ตอนยกถ้วยขึ้นแต่พอเราวางลงใหม่ ก้านใหม่ก็จะค่อยๆโตขึ้นและใบไม้ก็ผลิออกอีกครั้งและก้านเก่าจะค่อยๆหายไป วันนี้เราเลือกชาเขียว ยูสึแบบเย็น หอมชื่นใจมาก ไอศครีมชาเขียวเข้มข้น อร่อยมากเลย

บรรยากาศ

สำหรับห้องนี้ เป็นห้องที่เราชอบมากๆเพราะมีเนินที่เราสามารถปีนป่ายขึ้นไปถ่ายรูปได้อย่างเท่ๆ และห้องนี้คือเด็กๆก็ชอบเล่นกันมากๆเลยล่ะ  

ที่นี่ก็เปลี่ยนธีมดอกไม้ไปเรื่อยๆ บางครั้งก็มาในแบบดอกทานตะวัน และลวดลายก็ขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลา คือมันสนุกมากจริงๆนะ

ห้องที่เป็นพื้นที่อิสระก็สวยงามไม่แพ้โซนอื่นๆ พื้นที่กว้างขนาดนี้รองรับนักท่องเที่ยวได้สบายๆเลย หากเพื่อนๆชอบห้องไหนเป็นพิเศษแต่หาไม่เจอ สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้เลย ทุกคนพูดอังกฤษได้ด้วยล่ะ

ที่ยืนนิ่งๆไม่ใช่เพราะอะไรนะ เพราะว่ากำลังทำมุมเท่ๆถ่ายรูปอยู่ บอกแล้วว่าต้องหาจังหวะแสงผ่านดีๆ เดี๋ยวได้รูปสวยรีบอัพลงอินสตาแกรมเลย

แม้ว่าใครเคยไปชม TeamLab ที่โอไดบะมาแล้ว แต่ที่นี่ก็ไม่ได้เหมือนกันทุกอย่างนะ เพราะอย่างที่บอก คำว่า ศิลปะดิจิทัลของ TeamLab คือคำว่าอิสระที่ไม่มีที่สิ้นสุด

บางคนก็เลือกที่จะมาพักผ่อนสบายๆ ใช้เวลาในวันว่างกับการท่องเที่ยวในยุคนี้ที่ทันสมัยมากขึ้นแต่ก็ยังคงความมีสีสันที่เต็มไปด้วยความทันสมัย

ห้องนี้เป็นห้องที่ถ่ายรูปได้ยากมากที่สุด เพราะด้วยความมืดมากๆของห้อง รวมถึงมีวัตถุขนาดใหญ่จัดวางตามขอบ ต้องค่อยๆเดิน 

แสงของห้องจะเน้นไปที่สีดำ สีแดง และจากนั้นจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและผสมสีแดงอีกครั้ง อยู่ห้องนี้ไปเรื่อยๆก็จะได้ภาพคนละแบบเลยนะ

เราว่าแนวคิดของศิลปะดิจิทัลนี่ดีมากๆ ทำให้เราหลุดออกจากกรอบชีวิตเดิมๆที่บางทีก็น่าเบื่อในแต่ละวัน เพื่อนๆจะไม่ต้องเห็นเส้นขอบของห้องเลย ไม่มีกรอบ ไม่มีแนว ทำให้รู้สึก free มากๆ 

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

Entrance

สำหรับทางเข้า TeamLab Borderless ที่ Azabudai Hills  ก็เห็นง่ายมากๆเลยนะ ทางเข้าที่แปลกตา แค่ขยับกล้องขึ้นลงก็ได้ภาพตัวหนังสือคนละแบบกันแล้ว ไม่เชื่อลองถ่ายดู  นี่เป็นภาพจากกล้องของเราจริงๆนะ 

ตู้ล็อกเกอร์

ด้านในทางเข้า มีตู้ล็อกเกอร์ที่สามารถใส่เป้ กระเป๋าและอื่นๆได้ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาอะไรเข้าไปนะ จะได้คล่องตัว ใครที่มาพร้อมกระเป๋าเดินทาง ที่นี่ก็มีกุญแจพร้อมสายคล้องไว้ล็อคให้ด้วย 

ตู้กดน้ำดื่ม

ที่นี่เขามีตู้กดน้ำดื่มให้ด้วย แต่ถ้าใครมีกระติกน้ำมาก็สามารถกดเติมน้ำที่ตู้กดน้ำได้ แถมยังมีให้เลือกทั้งแบบน้ำอุ่นและน้ำเย็นด้วยนะ

ห้องน้ำ

สำหรับใครที่กังวลเรื่องห้องน้ำ มาที่ teamLab Borderless ไม่ต้องกังวลนะ เพราะเขามีโซนห้องน้ำถึง 2 โซนเลย สวยสบาย มีที่นั่งรอด้วยนะ 

จอง teamLab Borderless Azabudai Hills

บัตรเข้าชมนิทรรศการ teamLab Borderless ที่พิพิธภัณฑ์ Mori Building Digital Art Museum

จองง่ายๆ ผ่าน KLOOK คลิกเดียว เที่ยวสนุก

ที่อยู่และราคา teamLab Borderless Azabudai Hills

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างกับความเป็น Borderless (ไม่มีขอบ) ที่ทำให้เราสนุกกับงานศิลปะได้แบบไม่มีขีดจำกัดที่ Chill Chill Japan นำมาฝากกัน ถ้าเพื่อนๆ ชอบรีวิวแบบนี้สามารถคลิกดูบทความอื่นๆได้เลยนะคะ