บุกเบิกเส้นทางสามดาว ตอน คานาซาวะ …ทองคำลือนาม งดงามวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมตราตรึงใจ

คานาซาวะ อยู่ในจังหวัดอิชิกาวะ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองที่เป็นที่ตั้งของสวนเค็นโรคุเอ็นที่ถ่ายรูปสวย และเป็นเมืองที่มีไอติมทองกับทาโกยากิทอง…แต่จริงๆ แล้วที่นี่ยังมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ เรียกได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวแบบทูอินวัน ได้เที่ยวทั้งสไตล์โบราณและโมเดิร์นครบจบในที่เดียว

มาถึงเมืองสุดท้ายในทริปบุกเบิกเส้นทางใหม่ Mitsuboshi kaidou หรือ Three star route กับสถานที่ท่องเที่ยวสามดาวที่การันตีแล้วว่าดีไม่มีผิดหวัง ประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบ วางแผนเที่ยวและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ >>ที่นี่

เค็นโรคุเอ็น ไม่มาไม่ได้

แน่นอนว่าพูดถึงคานาซาวะ หลายคนต้องนึกถึงสวนแห่งนี้ เป็นถึงแลนด์มาร์กขนาดนี้ไม่มาก็เสียเที่ยว สวนเค็นโรคุเอ็นแห่งนี้ได้รับการขึ้นให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมและเป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ไม่ต้องแปลกใจที่เห็นมอสเต็มไปหมด คนญี่ปุ่นเขามองว่ามอสนี่แหละที่เป็นสัญลักษณ์ของความงามอย่างธรรมชาติ ไม่มีการเพิ่มเสริมเติมแต่ง

เกาะโฮราอิจิมะ เกาะกลางน้ำที่ทำเป็นรูปเต่า หินที่อยู่ด้านหน้าเป็นหัว เกาะเป็นกระดอง น่ารัก

จุดไฮไลท์อย่างโคมไฟโคโตจิโตโร โห เชื่อไหมว่านี่กลางมกราคม ปกติควรจะมีหิมะหนาๆ แล้ว ภาพนี้ไม่ได้เห็นทุกปีนะ (ร้องไห้)

บรรยากาศในสวนร่มรื่นสบายใจ

Kenrokuen

เดินชมปราสาทคานาซาวะ

พอเดินทะลุสวนออกมาจะเจอปราสาทคานาซาวะตั้งขาวเด่นเป็นสง่าต่อเลย จะถ่ายปราสาทโล่งๆ ไร้หิมะก็ห่อเหี่ยวหัวใจไปหน่อย เจอสองสาวในชุดกิโมโนเลยลองขอถ่าย เขาก็ยิ้มให้เลย น่ารักมาก

เช่นเดียวกับปราสาทมัตสึโมโตะ ปราสาทแห่งนี้เป็นป้อมปราการในการรบเช่นกัน จึงมีการบูรณะความเสียหายจากเพลิงไหม้ในอดีต แต่เป็นการบูรณะโดยคงสภาพของเดิมไว้ จึงยังคงความคลาสสิกไว้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความขาวสะอาด

ไม่รู้ว่าคิดอยู่คนเดียวหรือเปล่า แต่ที่นี่บรรยากาศเกาหลีมากเลยอะ

ปราสาทแห่งนี้มีสวนที่สวยมากๆ อยู่ด้วย แต่เราจะกลับมาอีกครั้งในตอนกลางคืน

Kanazawa castle

ปลดปล่อยความสร้างสรรค์ในตัวคุณ ด้วยเทมาริซูชิ

มาถึงญี่ปุ่นก็ต้องกินซูชิ! แต่ที่ล้ำกว่ากินซูชิก็คือทำซูชิกินเอง! แถมไม่ใช่ซูชิธรรมดาแต่เป็นเทมาริซูชิ!! มื้อกลางวันจะกินได้หรือไม่ต้องไปดูกัน

เทมาริซูชิคือข้าวปั้นทรงกลมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลูกบอลด้ายสีๆ ที่เรียกว่าเทมาริ วิธีทำเริ่มจากอัดข้าวใส่พิมพ์ทรงกระบอกออกมาเป็นลูกๆ แบบนี้

ถึงเวลาใช้จินตนาการ ผสมคอมบิเนชั่นรสชาติและสีสันตามใจชอบได้เลย จุดเด่นของเทมาริซูชิคือสีสันสดใสนี่แหละ ใครอยากทำเป็นลูกกลมๆ ให้ห่อด้วยพลาสติกแรปแล้วปั้นเป็นก้อน

และนี่ก็คือหน้าตาของผลงานที่ออกมา พอไปวัดไปวาได้อยู่นา ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึง วัตถุดิบดีรสชาติก็ย่อมดี

นอกจากนี้ยังมีให้ลองทำไทยากิเป็นของแถมด้วย

ใครอยากมาลองทำต้องมาวันอาทิตย์เด้อ และต้องจองก่อน (จอง ที่นี่) ใครไม่ได้ภาษาอังกฤษไม่เป็นไรเพราะเขามีล่ามภาษาอังกฤษด้วย คุณครูที่สอนใจดีมากด้วยล่ะ

In Kanazawa house

ลองแต่งชุดกิโมโนเวอร์ชั่นเต็มรูปแบบ

การใส่กิโมโนที่ญี่ปุ่น แม้จะเป็นกิจกรรรมที่ออกจะเกร่อ แต่มาทั้งทีไม่ควรพลาด และคราวนี้เราจะมาลองใส่กิโมโนอย่างดีกัน อย่างดีที่ว่าคือเป็นผ้าที่ทำขึ้นอย่างประณีต เนื้อผ้านุ่มลื่นไม่ระคายผิว ลวดลายทั้งหมดวาดด้วยมือ ทุกขั้นตอนใส่โดยผู้เชี่ยวชาญ โอบิก็เป็นแบบผูกเอง ไม่ใช่แบบสำเร็จรูปมาเสียบ

เราเลือกสีและลายได้เองด้วยนะ โดยคุณป้าจะคอยแนะนำว่าผ้าสีนี้ควรใช้โอบิสีอะไร เสร็จแล้วภายในจะมีฉากให้ถ่ายรูปด้วย หรือใครจองเซ็ตแบบออกไปเดินเล่นได้ก็ลุยโลด แต่คราวนี้ขอผ่าน เพราะหนาวมาก

การลงสีเนียนจนไม่อยากเชื่อว่าลายดอกไม้นี้วาดด้วยมือ

เดินๆ ไปก็เจอคุณลุงกำลังระบายสีอยู่เลย ทำเองตั้งแต่ร่าง ตัดเส้น ลงสี ไม่มีการสกรีนหรือทำซ้ำ

นอกจากนี้ที่ชั้นล่างยังมีเวิร์กช็อปให้ลองลงสีกันด้วย โคนันก็เคยมาที่นี่ด้วยนะ

Kaga-yuzen kimono center

เยือน Paparoku ร้านของคนไทยในญี่ปุ่น

ร้าน Paparoku เป็นร้านอิซากายะที่อยู่ใจกลางเมือง เจ้าของร้านคือคู่สามีภรรยาไทย-ญี่ปุ่น

ห้องส่วนตัวน่ารักมาก อารมณ์เหมือนเข้าไปอยู่ในอิกลู ส่วนตัวได้ใจ

ที่ชอบมากๆ คือเมนูค็อกเทลเยอะมากกกกกก ถูกใจสาวๆ สายแอลเบาๆ แบบเราสุดๆ มีมากกว่า 20 เมนูเลย ในรูปคือ Kahlua milk อร่อยมาก อร่อยจนถึงกับเครียดว่าจะไปหากินที่ไหนในไทยได้

เมนูอาหารก็มีมากมายตามแบบอิซากายะ ไก่คาราอาเกะกรอบๆ เมนูเสียบไม้ทั้งหลาย กับแกล้มต่างๆ ส่วนตัวขอแนะนำเต้าหู้ทอด เต้าหู้นุ่มๆ เปลือกกรอบกับน้ำราดรสเข้มข้น กินร้อนๆ คือดีงาม แน่นอนว่าสายแอลจะจัดเต็มก็มีเครื่องดื่มให้เลือกมากมายเช่นกัน

เป็นร้านลับในคานาซาวะที่อยากให้มาลองจริงๆ พูดญี่ปุ่นไม่ได้อิ๊งไม่คล่องก็พูดภาษาไทยกับคุณภรรยาเจ้าของร้านได้เลย

Paparoku Tatemachi

ชมสวนประดับไฟสุดโรแมนติกยามค่ำคืน

กลับมาที่ปราสาทคานาซาวะกันอีกครั้ง บรรยากาศต่างจากตอนกลางวันเป็นคนละเรื่อง สวน Gyokusen inmaru แห่งนี้จะจัดการแสดงไฟในวันศุกร์และเสาร์ ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึง 21.00 น. โดยแต่ละฤดูก็จะมีธีมที่แตกต่างกันไป สวยตรึงใจมากๆ

Kanazawa castle park Gyokusen inmaru

ตื่นเช้ามาเดินเล่นที่ตลาด Omicho

เบิกอรุณรับวันใหม่ด้วยตลาดสด Omicho ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดที่ขายวัตถุดิบพื้นเมืองที่อยู่คู่กับคานาซาวะมาเกือบ 300 ปีแล้ว คนที่มาเดินส่วนใหญ่ก็คือคนท้องถิ่นที่มาจับจ่ายใช้สอยกันในยามเช้า ของทุกอย่างสดใหม่ ราคาไม่แพง อาหารทะเลน่ากินทั้งนั้นเลย

Omicho Market

ส่องบ้านซามูไรที่ Nomura-ke samurai residence

แน่นอนว่าเมื่อมีปราสาท ย่อมมีซามูไรอยู่รอบๆ คานาซาวะ แห่งนี้มีย่านที่ซามูไรเคยอยู่อาศัยกันด้วย โดยไฮไลท์ของบ้านซามูไรแห่งนี้คือ…สวนกลางบ้าน แถมไม่ใช่สวนธรรมดา ด้วยความเล็กกะทัดรัดแต่มีมิติสูงต่ำและองค์ประกอบต่างๆ ทำให้ที่นี่เป็นสวนที่สวยติดอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่นเลย

สงบร่มรื่นมาก

เข้ามาดื่มชาเขียวกับขนมกันได้ด้วย ดื่มชาไปชมสวนท่ามกลางธรรมชาติไป จรรโลงจิตใจสุดๆ

บริเวณรอบๆ คือย่านนากามาจิที่เป็นย่านอยู่อาศัยของซามูไรสมัยก่อน สวยคลาสสิก

Nomura-ke samurai residence

สัมผัสเกอิชาของแท้ที่ Nishi chaya

อย่าเข้าใจผิดนะ เกอิชาไม่ใช่โสเภณี แต่เป็นเหมือนอาชีพที่เอนเตอร์เทนผู้คนด้วยการแสดงและการพูดคุยมากกว่า Nishi chaya นี้คือถิ่นเกอิชา มีอยู่หลายเจ้าด้วยกัน แต่คราวนี้เรามาแวะกันที่ Asanoke

ทันทีที่เปิดประตูก็พบกับคุณเกอิชานั่งพับเพียบรออยู่ อารมณ์เหมือนต้อนรับนายท่านกลับบ้านมาก ใส่กิโมโนเต็มยศ หน้าขาวปากแดง ผมจัดเต็มแบบในหนังทุกประการ พอเข้าไปแล้วจะมีขนมญี่ปุ่นกับน้ำชาไว้รองรับด้วย

ต้องขอเตือนก่อนว่าที่นี่มีกฏระเบียบเกี่ยวกับการถ่ายรูปเข้มงวดมาก โดยห้ามถ่ายรูปหรือวิดีโอทุกรูปแบบตลอดการแสดง พอเข้าพาร์ทกิจกรรมแล้วถึงถ่ายได้ พาร์ทแรกเป็นการแสดงร่ายรำพร้อมกับดนตรีญี่ปุ่นโบราณ คล้ายๆ กับที่เคยเห็นในหนังเลย

พอเข้าส่วนที่สองจะเป็นกิจกรรมที่ให้ผู้ชมทำร่วมกับเกอิชา อย่างแรกคือตีกลองประกอบดนตรี เขาให้ลองทุกคน เราออกเป็นคนหลังๆ เลยได้ดูคนอื่นเป็นตัวอย่างและจำจังหวะไว้ก่อน ตอนออกไปเลยไม่เด๋อเท่าไหร่ แหะๆ

และอีกเกม เกมนี้สนุกสนานเฮฮามาก ให้เป่ายิงฉุบประกอบจังหวะเพลง คนชนะให้ตีกลอง คนแพ้ให้หมุนตัว ชนะสามครั้งถึงจบเกม งานนี้คนไม่คล่องก็มั่วหมดสิคะ ชนะแพ้ไม่รู้ตีไว้ก่อน

เป็นประสบการณ์ที่หายากมากๆ ควรได้มาสัมผัสสักครั้งจริงๆ

Nishi chaya district

สร้างสรรค์ผลงานทองของตัวเอง

กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ในคานาวาวะ ศิลปะจากทองคำนั่นเอง เมืองนี้โด่งดังเรื่องทองคำแผ่นมาก คำว่า “คานา” ของคานาซาวะก็แปลว่าทองนี่แหละ ทองแผ่นที่เห็นนี่คือทองจริงๆ ที่เอามาตีแผ่ให้จนหนาแค่ 0.001 มม.

ซึ่งสิ่งที่เราจะมาทำกันในครั้งนี้ก็คือจานแปะลายทอง วิธีทำคือวาดภาพที่ต้องการลงบนสติกเกอร์ ตัดส่วนนั้นให้เป็นช่องแล้วแปะลงบนจาน

จากนั้นก็แปะทองลงไป ขั้นตอนนี้คนไทยจะทำคล่องผิดคาด เพราะมันก็เหมือนเวลาแปะพระพุทธรูปนั่นแหละ หลังแปะแล้วใช้แปรงกดๆ อีกทีให้แน่น

พอลอกสติกเกอร์ออกก็จะเป็นลายทองสวยงามแบบนี้ เอากลับไปทาน้ำยาทาเล็บทับอีกทีก็เอาไปล้างได้ตามปกติเลย

ถ้าเสร็จแล้วมีเวลา อยากให้ลองแวะมาเข้าห้องน้ำกันที่ชั้น 2 สักหน่อย เพราะห้องน้ำที่นี่เป็นสีทองอร่ามตั้งแต่ประตู กำแพง ก๊อกน้ำ ยันสบู่!! เสียดายชักโครกไม่ทอง (ฮา)

Gold Leaf Sakuda

เดินเล่นซึมซับบรรยากาศในย่าน Higashi chaya

เมื่อกี้อยู่ทางตะวันตก คราวนี้ขยับมาเดินเล่นกันในฝั่งตะวันออกบ้าง บ้านเรือนที่สร้างจากไม้สองฝั่งทางเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในละครย้อนยุคก็ไม่ปาน

ร้านรวงต่างๆ คงคอนเซ็ปต์ความเป็นเมืองโบราณย่านเกอิชาไม่มีหลุด

มาเมืองแห่งทองก็ต้องกินทอง! ไอติมแปะทองอันเป็นที่เลื่องลือ

แวะร้านผลิตภัณฑ์ความสวยความงามที่คนท้องถิ่นแนะนำ Chaya bijin แน่นอนว่ามีส่วนผสมของทอง ไม่ว่าจะมาสก์หน้าทอง ครีมทอง สบู่ทอง รวมถึงของกินอย่างชาทองและแยมทองด้วย

เครื่องประดับต่างๆ ล้วนแล้วแต่ทอง

Higashi chaya

Hotel kanazawa โรงแรมดีข้างสถานี

Hotel kanazawa อยู่ในทำเลที่ดีมากๆ เดินจาก Kanazawa station เพียงไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว มาก็สะดวก จะเดินทางไปไหนก็ง่าย

นี่คือวิวจากหน้าต่างห้อง ใกล้สถานีมากจริงๆ

Hotel kanazawa

แลนด์มาร์กประจำเมือง

สถานี Kanazawa นี้เป็นอีกจุดที่ควรแวะอย่างยิ่ง เพราะได้ชื่อว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย และที่ห้ามพลาดก็คือประตูโดมแห่งนี้

ชอบความเก๋นี้ นาฬิกาน้ำนี่จะตั้งอยู่ด้านหน้าของซุ้มประตู เปลี่ยนเวลาได้เหมือนนาฬิกาดิจิตอลเลย พอหกโมงปุ๊บให้หันกลับไปดูด้านหลัง

ใช่แล้ว ประตูแห่งนี้จะมีการไลท์อัพเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างยิ่ง

ลิ้มรสมื้ออาหารเหมือนได้เป็นไดเมียวที่ Daimyo jaya

ปิดท้ายทริปด้วยมื้อหรูหน่อย อาหารของที่นี่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูสีสันน่ารับประทาน จัดตกแต่งอย่างดีให้ความรู้สึกเป็นมื้อพิเศษ อ้อ แล้วก็ปลาดิบอร่อยมาก

เมนูท้องถิ่นหลากหลายมาก แต่ละอย่างเป็นสไตล์อาหารญี่ปุ่นให้ความรู้สึกเฮลตี้

Daimyo jaya

กลับสู่โตเกียว

และแล้วก็ถึงเวลาอำลาทริปนี้และเดินทางสู่โตเกียวเพื่อกลับบ้าน หืม? ทำไมไม่กลับสนามบินจูบุเหมือนขามาน่ะเหรอ อ๋อ ตอนจองตั๋ว กลับนาริตะมันถูกกว่าน่ะ…แต่จากคานาซาวะไปโตเกียวง่ายนิดเดียว ขึ้นชินคันเซ็น Kagayaki จากสถานีคานาซาวะตรงสู่สถานีโตเกียวเลย

แน่นอนว่าขากลับก็ไม่ลืมซื้อเอคิเบนจากสถานีคานาซาวะมากินบนรถด้วย เพราะใช้เวลาเกือบสามชั่วโมง

พอถึงสถานีโตเกียว หาเส้นสีแดงบนพื้นก็ขึ้นรถไปนาริตะได้ง่ายๆ ไม่หลงทาง

นั่ง Narita express ต่อเดียว ถึงเทอร์มินอลที่ต้องขึ้นทันที

จบลงไปแล้วกับทริปเส้นทางสามดาว ไล่ตั้งแต่มัตสึโมโตะ ทาคายามะ ชิราคาวาโกะ โกคายามะ และปิดท้ายกันที่คานาซาวะ เป็นทริปที่ประทับใจมากๆๆๆ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวทุกที่ในรูทนี้ล้วนคัดมาแล้วว่าควรค่าแก่การไป ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ วัฒนธรรม และความน่ารักเล็กๆ น้อยๆ ที่แฝงอยู่ในทุกบรรยากาศ ที่ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะรู้

ข้อสรุป

คานาซาวะ เป็นเมืองขนาดเล็กที่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทันสมัยในที่เดียว เมืองโบราณคลาสสิก สวนสวยติดอันดับญี่ปุ่น ปราสาทเงียบสงบ ศิลปะทองอันเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรมเกอิชาที่หาได้ยาก และอะไรบางอย่างในบรรยากาศที่ทำให้หลงรัก ทุกอย่าง…อยู่ที่นี่