ชวนทำความรู้จัก Togetsukyo Bridge (สะพานโทเก็ตสึเคียว) ในเกียวโต
หลายๆ คนมักจะเรียกสะพานนี้ว่า “Moon Crossing Bridge” เป็นแลนด์มาร์คที่ไม่ไปไม่ได้เมื่อไปเยือนอาราชิยาม่า แหล่งท่องเที่ยวชานเมืองเกียวโตที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ สะพานโทเก็ตสึเคียวเป็นหนึ่งในทัศนียภาพอันงดงามของหุบเขาอาราชิยาม่า และเงาสะท้อนบนผิวน้ำซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล กิจกรรมยอดนิยมคือการเดินข้ามสะพานเพื่อจะได้เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก และร้านน้ำชาโดยรอบสะพานแห่งนี้ได้อย่างสะดวกสบายพร้อมภาพรถลากที่วิ่งไปมาช่วยสร้างบรรยากาศชวนให้หวนนึกถึงวันวานของประเทศญี่ปุ่น
สะพานแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเป็นสะพานที่ปรากฏอยู่ในงานวรรณกรรมและภาพวาดมากมาย ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำแก่ผู้มาเยี่ยมชมในหลากหลายรูปแบบ นอกจากนั้นสะพานนี้มักปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นหลายเรื่องด้วยกันและยังถือเป็น 1 ใน 10 สะพานชั้นนําของญี่ปุ่นอีกด้วย
ประวัติของ Togetsukyo Bridge
สะพานโทเก็ตสึเคียวแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำโออิ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วน นั่นคือต้นน้ำโฮซุ และแม่น้ำคัตสึระที่อยู่ปลายน้ำ ชื่อ “โทเก็ตสึ” มีที่มาที่ไปจากองค์พระจักรพรรดิคาเมยามะจากยุคคามาคุระ ระหว่างงานเลี้ยงสังสรรค์บนเรือช่วงคืนพระจันทร์เต็มดวง แม่น้ำนั้นสงบมากจนสะท้อนสภาพแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดวงจันทร์สะท้อนจากผิวน้ำสวยงามจนดูเหมือน ว่ากําลังข้ามสะพานทีละเล็กทีละน้อย และนี่คือเหตุผลที่สะพานนี้มีชื่อตามตัวอักษรว่า “สะพานข้ามดวงจันทร์”
ส่วนตัวสะพานถูกสร้างขึ้นในยุคเฮอันระหว่างปีค.ศ. 834 ถึงปี 848 และได้รับชื่อเป็น “โทเก็ตสึเคียว” ในช่วงระหว่างปีค.ศ.1259 ถึงปีค.ศ.1274 สะพานถูกสร้างขึ้นใหม่ในปีค.ศ.1934 โดยมีฐานคอนกรีตเพื่อความแข็งแรง ส่วนของราวจับด้านบนของสะพานทำจากไม้ไซเปรสและได้รับการออกแบบ ให้กลมกลืนกับความงดงามตามธรรมชาติของอาราชิยาม่า อุทยานประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นด้วย
ส่วนแมโออินั้นเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าที่สำคัญของเกียวโตในอดีต เช่นข้าวข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี ถ่านและไม้ซุง เนื่องจากแม่น้ำแห่งนี้เชื่อมต่อกับแม่น้ำคาโมะในเกียวโตและแม่น้ำโยโดะในโอซาก้าจึงมีบทบาทสำคัญสำหรับการขนส่งที่รวดเร็วมานานก่อนที่จะมีทางหลวงและทางรถไฟ แม้แต่วัสดุก่อสร้างสําหรับปราสาทโอซาก้า และวัดหลายแห่งก็ถูกขนส่งไปตามแม่น้ำสายนี้ จวบจนปีค.ศ. 1606 กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางการค้าหลักของเกียวโตในเวลาต่อมา
ไฮไลท์ท่องเที่ยวสำคัญที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่
นอกจากการเดินทอดน่องชมความสวยงามของสะพานแล้ว กิจกรรมแนะนำที่เป็นไฮไลท์อยากให้ลองมีประสบการณ์ที่น่าจดจำที่นี่สักครั้ง นั่นก็คือการล่องเรือชมภาพธรรมชาติสองข้างทางและนั่งรถลากไปรอบๆ บริเวณ
สัมผัสประสบการณ์การล่องเรือในแม่น้ำโฮซุ
อีกประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่อยากให้พลาดและสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมทัศนียภาพของแม่น้ำเมื่อมาที่นี่คือ การล่องเรือ Hozugawa River Boat Ride (Hozugawa Kudari) ซึ่งจะมีจุดลงเรือแถวๆ สถานี Kameoka โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงไปตามแม่น้ำโฮซุราวๆ 16 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีทั้งการเดินทางที่ราบรื่นและเงียบสงบ แต่ก็มีแก่งหินตามธรรมชาติ 2 – 3 แห่งที่ให้ความตื่นเต้น และขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย
คุณสามารถรื่นรมย์กับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ความเขียวขจีที่สดใสในฤดูร้อน สีสันของฤดูใบไม้ร่วง และแม้แต่หิมะในฤดูหนาว ท่ามกลางคำบรรยายโดยคนพายเรือที่พร้อมจะชี้ให้เห็นสัตว์ป่า จุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งหินรูปทรงแปลกตา และจุดถ่ายรูปแนะนำตลอดเส้นทางได้
ข้อมูลการลงเรือประจำปี 2024
ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. – 13 ธ.ค.
เรือแบบธรรมดา : มีรอบเดินเรือตั้งแต่เวลา 9.00 / 10.00/11.00/12.00/13.00/14.00/15.00 น. เรือออกเดินทางทันทีเมื่อที่นั่งเต็ม
ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. – 9 มี.ค.
เรือแบบธรรมดา : มีรอบเดินเรือตั้งแต่เวลา 10.00/11.30/12.00/13.00/14.30 น.
*กรณีเหมาเรือส่วนตัวสามารถออกเดินทางได้ตลอดเวลา
**เรืองดให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม ถึง 4 มกราคม
ค่าล่องเรือ
เรือแบบธรรมดา : 6,000 เยน/ ผู้ใหญ่, 4,500 เยน/ เด็ก (อายุ 4-12 ปี)
เหมาเรือส่วนตัว : 144,000 เยน/ลำ (ผู้โดยสารสูงสุด 17 คน), 162,000 เยนในช่วงฤดูท่องเที่ยว
ขึ้นรถลากชมวิวไปรอบๆ อาราชิยาม่า
การไปเยือนอาราชิยาม่าเพื่อชมความงามตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ด้วยการนั่งรถลากชมวิวไปรอบๆ นั้นเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก และมีให้เลือกหลายเส้นทางด้วยกัน โดยจะเพลิดเพลินไปกับการเที่ยวชมโดยการนั่งรถลากแบบดั้งเดิมคุณสามารถนั่งเอนหลังและผ่อนคลายในขณะที่ไกด์นำทางอย่างระมัดระวังและมีความปลอดภัย
ตลอดเส้นทางจะพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น เช่น สะพานโทเก็ตสึเคียว ป่าไผ่ วัด ร้านน้ำชา ร้านขนมหวานแบบดั้งเดิม ย่านใกล้เคียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังพบกับบ้านและภูมิทัศน์แบบดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของการมาเที่ยวที่นี่ ที่มีทั้งสถาปัตยกรรมอันงดงามและป่าอันเงียบสงบ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นขุนนางที่กำลังนั่งรถลากชมเมืองเก่า และชวนเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่น่าจดจำอื่นๆ มากมาย
ข้อมูลทัวร์นั่งรถลากไปรอบๆ อาราชิยาม่า
มีหลายบริษัทให้เลือก ใช้เวลาอยู่ที่ 30, 60 และ120 นาที
เริ่มตั้งแต่เวลา 9.30 น. – เวลาพระอาทิตย์ตก
จำกัดจำนวน 2 คน / คัน
ค่าทัวร์นั่งรถลาก 1,000 – 4,500 เยน / คัน แล้วแต่บริษัทและระยะเวลาที่เลือก
วิวทิวทัศน์ในแต่ละฤดูกาล
หนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของสะพานโทเก็ตสึเคียวก็คือการที่สามารถมองเห็นธรรมชาติของเกียวโตได้อย่างสวยงามเสมอแต่ก็มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลาของปี อาราชิยาม่า คือภูเขาที่อยู่ทางทิศใต้ของสะพานแห่งนี้ เนินเขาที่เต็มไปด้วยหมู่แมกไม้จะแปรสภาพบรรยากาศแสนโรแมนติกเมื่อจมอยู่ใต้หิมะในฤดูหนาว เป็นเฉดสีชมพูของดอกซากุระในยามฤดูใบไม้ผลิ ความสดชื่นของสีเขียวชอุ่มในฤดูร้อนทำให้สรรพสิ่งกลับมามีชีวิตชีวา ปกคลุมด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงสดเมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน เป็นทัศนียภาพที่คล้ายภาพวาดตลอดทั้งปี
ฤดูหนาว
สภาพแวดล้อมของสะพานโทเก็ตสึเคียวกลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ในฤดูหนาว ในช่วงฤดูหนาว ต้นไม้รอบๆ บริเวณสะพาน เนินเขาและไหล่เขาโดยรอบถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน แม่น้ำบางส่วที่กลายเป็นน้ำแข็ง สภาพแวดล้อมมีความสวยงามอย่างแท้จริงในช่วงเวลานี้
ฤดูใบไม้ผลิ
สิ่งที่ทําให้สะพานโทเก็ตสึเคียวมีความพิเศษยิ่งขึ้นก็คือต้นซากุระจํานวนมากที่เรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสําหรับการชมดอกไม้บานในช่วงเดือนเมษายนและต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี กลิ่นหอมของซากุระอบอวลอยู่ในอากาศและผู้คนเพลิดเพลินกับการร่วมงานเทศกาลฮานามิบนสะพาน ยิ่งไปกว่านั้นสภาพแวดล้อมกลายเป็นภาพที่มีสีสันสวยงาม เหมาะสำหรับการเดินเล่นและพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
ฤดูร้อน
ฉากหลังของสะพานกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความมีชีวิตชีวาในช่วงฤดูร้อน เพราะเกือบทุกอย่างเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดใส ต้นไม้โดยรอบเริ่มออกผลและพุ่มไม้จะหนาด้วยใบไม้และดอกไม้ เป็นทัศนียภาพที่น่าสนใจ พร้อมทั้งจะเห็นภาพการอพยพของปลาที่กำลังว่ายทวนน้ำ ช่วงเวลานี้เองสะพานแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในการให้อาหารปลาคราฟท์อีกด้วย
ฤดูใบไม้ร่วง
เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน นักท่องเที่ยวก็จะเห็นใบไม้สีแดง เหลือง ส้มอันน่าหลงใหล พร้อมความงามยามพระอาทิตย์ขึ้นและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นฉากหลังทำให้ฤดูกาลนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับใครหลายคน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งนี้จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง และหากย้อนกลับไปดูข้อมูลประวัติศาสตร์ เหล่าขุนนางในสมัยก่อนมักจะสนุกกับการล่องเรือชมและใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่
พร้อมทำกิจกรรมตกปลาด้วยนกกาน้ำ เป็นงานตกปลายอดนิยมที่จัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายนเป็นประจำทุกปี ซึ่งการตกปลาด้วยนกกาน้ำเป็นวิธีการจับแบบดั้งเดิมที่ชาวประมงใช้นกกาน้ำที่ผ่านการฝึกอบรมเพื่อตกปลาในแม่น้ำแถบนี้
สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge )
ที่อยู่ | 1-5 Sagatenryuji Susukinobabacho, Ukyo Ward, Kyoto, 616-8384 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Saga-Arashiyama ของรถไฟ JR เดินประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Togetsukyo Bridge |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
มาเยือนเกียวโตทั้งที ยังมีอีกหลายสถานที่แนะนำ ที่เดินทางสะดวกและอยู่ไม่ไกลจากสะพานโทเก็ตสึเคียว สมกับที่เป็นเมืองเก่าจึงมีปราสาท ตลดโบราณและวัดที่มีความน่าสนใจและเป็นไฮไลท์สำหรับการท่องเที่ยวในเกียวโตเช่นกัน
Nijo Castle
สำหรับปราสาทนิโจ ปราสาทอายุกว่า 400 ปี ขึ้นชื่อในเรื่องสถาปัตยกรรมที่งดงามในยุคเอโดะ ตัวปราสาทมีขนาดกว้างขวางราวๆ 275,000 ตารางเมตร สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1603 โดยโทคุงาวะ อิเอะยาสุตั้งใจสร้างไว้เป็นที่พักอาศัยของโชกุนรุ่นแรกแห่งยุครัฐบาลเอโดะ อีกทั้งยังมีบทบาทในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมายของเกียวโต ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ยังคงสภาพและแสดงงานศิลปะที่หาชมได้ยากไว้มากมาย อาทิ ประตูคะระมงที่ดูยิ่งใหญ่อลังการก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอีกด้วย
ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)
ที่อยู่ | 541 Nijojocho, Nakagyo Ward, Kyoto, 604-8301 |
วิธีเดินทาง | จากสถานีเกียวโต ให้ขึ้น Karasuma Line ไปลงที่สถานี Karasuma Oike แล้วเดินต่ออีกประมาณ 11 นาที |
เวลาทำการ | 8.45 – 17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1,300 เยน, เด็กมัธยมต้นและมัธยมปลาย 400 เยน, เด็กประถม 300 เยน, ต่ำกว่า 4 ขวบ เข้าฟรี |
Website | Nijo Castle |
Nishiki Market
ตลาดนิชิกิ ที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำอีกแห่งในเมืองเกียวโต มีหลายคนนิยามให้ที่นี่เป็น “ครัวของเกียวโต” มีการจัดแสดงวัฒนธรรมการทำอาหารที่ดีที่สุด นอกจากนั้นยังรู้จักกันดีในฐานะแหล่งช็อปปิ้งของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ที่นี่มีร้านค้าที่ขายอาหารสด อาหารทะเล เครื่องเคียง ของหวาน ผลไม้ และสินค้าท้องถิ่นอีกมากมาย ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนยังเกียวโต
ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market)
ที่อยู่ | Nakagyo Ward, Kyoto, 604-8055 |
วิธีเดินทาง | จากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟขบวน Hankyu มาลงยังสถานี Kawaramachi ออกทางออก 9 เดินต่อประมาณ 100 เมตร |
เวลาทำการ | 9.00 – 18.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Nishiki Market |
Kiyomizu Dera
ทางตะวันออกของเกียวโตเป็นที่ตั้งของวัดคิโยมิสึหรือวัดน้ำใส เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต ถูกสร้างขึ้นบนหน้าผาหินสูงบนเขาโอโตวะ และมีห้องโถงหลัก ตั้งอยู่บนระเบียงที่มีเสาขนาดใหญ่สูง 12 เมตร มีความสวยงามมากจนได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น เหล่านักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวเมืองในมุมกว้างจากที่นี่ และไม่ว่าจะมาเยือนในฤดูกาลใดคุณก็สามารถชื่นชมทัศนียภาพที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้
วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Dera)
ที่อยู่ | 1-294 Kiyomizu, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0862 |
วิธีเดินทาง | จากสถานีรถไฟ JR Kyoto Station นั่ง City Bus ขึ้นรถสาย No.206 bus มุ่งหน้าสู่ Kitaoji bus terminal via Higasihama-dori หรือสาย No.100 มุ่งหน้าสู่ Ginkaku-ji via Kiyomizu-dera Gion ลงที่ป้าย Gojozaka stop และเดินอีก 10 นาที |
เวลาทำการ | 6.00 – 18.00 น. (เดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเปิดถึง 18.30 น.) จนถึง 21.30 น. ในช่วงที่มีการประดับไฟพิเศษยามเย็น |
ราคา | บริเวณวัดเข้าชมฟรี / ค่าเข้าบริเวณอาคารหลัก ผู้ใหญ่ 300 เยน / ประถมและมัธยมต้น 200 เยน |
Website | Kiyomizu Dera |
สรุป
สะพานโทเก็ตสึเคียวตั้งอยู่ในเมืองหลวงเก่าของเกียวโต ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในพื้นที่ และเนื่องจากสะพานตั้งอยู่ในเมืองบนภูเขา สภาพแวดล้อมจึงเต็มไปด้วยต้นไม้และไม้พุ่ม ที่มีฉากหลังที่สะท้อนให้เห็นถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์แบบ หลายคนมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงเป็นภาพบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกเผยให้เห็นทัศนียภาพเมืองเก่าในญี่ปุ่นที่งดงาม ในบรรยากาศที่เล่ามานี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยว อาหารเลิศรส และกิจกรรมต่างๆ ได้อีกมากมาย