Ukiha Inari Shrine มีประตูโทริอิที่ทอดยาวไปตามภูเขาพร้อมทัศนียภาพอันน่าทึ่ง
ศาลเจ้าอุกิฮะอินาริ เป็นที่รู้จักจากศาลเจ้าที่มีประตูโทริอิสีแดงสดจำนวน 91 บานที่เรียงรายอยู่ริมทางเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าอุกิฮะอินาริแห่งนี้ โดยตัวศาลเจ้านั้นอยู่เหนือจากระดับน้ำทะเล 130 เมตร ผู้สักการะต้องเดินขึ้นบันไดราวๆ 300 ขั้นเพื่อขึ้นไปยังศาลเจ้าที่อยู่ด้านบน
เมื่อเดินไปถึงด้านบนสุดของศาลเจ้าแล้ว แนะนำให้หันหลังกลับมามองทัศนียภาพโดยรอบแบบพาโนรามาซึ่งเป็นมุมมองอันน่าทึ่งของภูมิประเทศแถบนี้ ที่เห็นเป็นวิวภูเขา บ้านเมือง สลับกับนาข้าว ยิ่งในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส สามารถมองเห็นฮาราซูรุออนเซ็นจากจุดนี้ได้อีกด้วย แนะนำให้สวมรองเท้าที่ใส่สบาย จะเป็นรองเท้าส้นเตี้ย หรือรองเท้าผ้าใบก็จะทำให้การเดินชมศาลเจ้าแห่งนี้เพลิดเพลินยิ่งขึ้นได้
และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเผยแพร่ภาพถ่ายที่น่าดึงดูดใจออกไปในช่องทางโซเชียลต่างๆ เห็นเป็นทัศนียภาพที่แปลกตาแตกต่างจากศาลเจ้าอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
ศาลเจ้าอุกิฮะอินาริแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
เมื่อย้อนกลับไปในอดีตศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1957 เพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้า 3 องค์ใน 3 ศาลเจ้า โดยมีศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริไทชะ (Fushimi Inari Taisha) เป็นเทพด้านความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจ ความอุดมสมบูรณ์ของการเพาะปลูก รวมทั้งความปลอดภัยในการจราจร ศาลเจ้ามัตสึโอะ ไทฉะ (Matsuo-Taisha Shrine) เป็นเทพเรื่องสุขภาพ และอายุยืนยาว และสุดท้ายศาลเจ้าดาไซฟุเทนมังกุ (Dazaifu Tenmangu) เป็นเทพด้านการศึกษา เรียกได้ว่ามาศาลเจ้านี้ที่เดียวก็สามารถขอพรได้หลายข้อเลย
นอกจากการสร้างเพื่ออุทิศแก่เทพเจ้าดังที่กล่าวมาแล้ว ยังสร้างในพื้นที่ของสวนสาธารณะที่อยากให้คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว สามารถใช้เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อน ทำจิตใจให้สงบ และตระหนักได้ว่าเหล่าเทพจะคอยปกป้องผู้มาเยือนที่นี่อยู่เสมอ ดังนั้นแม้ว่าผู้มาเยือนจะรู้สึกตื่นเต้นกับทิวทัศน์ที่ทอดยาวตลอดทางเดินขึ้นไปยังตัวศาลเจ้า และยิ่งเดินผ่านเสาประตูโทริอิไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรู้สึกสงบมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเหล่านักท่องเที่ยวมากมายต่างหลงใหลในความรู้สึกแปลกประหลาดนี้
จุดชมซากุระบานสะพรั่งตามแนวเสาโทริอิเป็นภาพที่สวยงามมาก
ในฤดูใบไม้ผลิเหล่าต้นซากุระที่อยู่รอบๆ ประตูโทริอิตลอดแนวทางเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าแห่งนี้ พร้อมใจกันบานสะพรั่งสวยงามตัดกับสีของท้องฟ้า และเสาโทริอิสีแดงสด ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่นี่ในช่วงเวลานี้กันไม่ขาดสาย จนกลายเป็นจุดชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในเมืองอุกิฮะ
แต่ใช่ว่ามาที่นี่ได้แค่ช่วงใบไม้ผลิเท่านั้น ช่วงฤดูร้อนที่ภูเขาเป็นสีเขียวชอุ่ม และช่วงฤดูใบไม้ร่วงภูเขา และต้นไม้ที่รายล้อมศาลเจ้าแห่งนี้ จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงนี้ก็เป็นทัศนียภาพที่โรแมนติกไม่แพ้กัน
เมืองอุกิฮะมีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องผลไม้
ที่ฟาร์มผลไม้หลายแห่งในเมืองอุกิฮะนั้น นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์เก็บผลไม้ได้ตลอดทั้งปี เช่น สตรอเบอร์รี่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม องุ่นตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม ลูกแพร์ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนตุลาคม กีวีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ แอปเปิ้ลเดือนสิงหาคมถึงมกราคม ลูกพีชเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม และลูกพลับตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนมีนาคม
การที่ผลไม้ในเมืองนี้อุดมสมบูรณ์ก็เพราะเหล่าเกษตรกรเพาะปลูกด้วยน้ำบาดาลอันเต็มเปี่ยมไปด้วยแร่ธาติที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินในเมืองนี้นั่นเอง หากได้แวะเก็บผลไม้ประจำฤดูกาลแล้วบริเวณใกล้กันยังมีคาเฟ่ที่เสิร์ฟเมนูเกี่ยวกับผลไม้ประจำฤดูกาลนั้นๆ ให้ลิ้มลองด้วยนะ
พิกัด ศาลเจ้าอุกิฮะ อินาริ (Ukiha Inari Shrine)
ที่อยู่ | 128 Ukihamachi Nagarekawa, Ukiha, Fukuoka 839-1411 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี JR Hakata มาลงสถานี Ukiha แล้วต่อแท็กซี่ (ประมาณ 5 นาที) |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Ukiha Inari Shrine |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ออกมาเที่ยวชานเมืองฟุกุโอกะทั้งที มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงแนะนำให้ไปตามรอยหลายแห่ง ส่วนใหญ่ถ้าไปช่วงฤดูใบไม้ผลิด้วยจะมีจุดชมซากุระให้ฟินๆ หลายจุดเลย ส่วนจะมีที่ไหนบ้างไปดูกัน
Nagarekawa Cherry Blossom Trees
บริเวณริมแม่น้ำโคเสะในเขตนากาเระกาวะ เมืองอุกิฮะนั้นเรียงรายไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งจะพร้อมใจกันบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ความน่าสนใจมากไปกว่านั้นจะมีการประดับไฟตั้งแต่เวลา 19.00 – 22.00 น. เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระในเวลากลางคืนไปตามทางเดินริมแม่น้ำในช่วงเวลาเดียวกันด้วย
พิกัด จุดชมซากุระนากาเระกาวะ (Nagarekawa Cherry Blossom Trees)
ที่อยู่ | 2Ukihamachi Nagarekawa, Ukiha, Fukuoka 839-1411 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี JR Hakata มาลงสถานี Ukiha แล้วเดินต่อ ประมาณ 24 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Nagarekawa Cherry Blossom Trees |
Kusaba River Cherry Blossom Trees
แนวต้นซากุระยาวประมาณ 2.2 กม. ที่ปลูกริมฝั่งแม่น้ำคุซาบะ ซึ่งเป็นสายน้ำใสที่ไหลผ่านเมืองชิคุเซ็น เป็นจุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในเมือง ท่ามกลางทิวทัศน์ชนบท ทำให้เป็นสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับภาพดอกซากุระและดอกคาโนลาบานสะพรั่งไปพร้อมๆ กันได้
ไฮไลท์ของที่นี่อยู่ที่การประดับไฟที่จะเริ่มหลังพระอาทิตย์ตกดิน ไม่เพียงแต่ดอกซากุระที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟเท่านั้น แต่ภาพสะท้อนของต้นซากุระบนผืนน้ำยังสวยงามมากจนแทบลืมหายใจ ต้นซากุระแถวนี้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพว่าเป็นจุดชมซากุระยามค่ำคืนที่ลงอินสตาแกรมได้
พิกัด จุดชมซากุระคุซาบะ (Kusaba River Cherry Blossom Trees)
ที่อยู่ | Hisamitsu, Chikuzen, Asakura District, Fukuoka 838-0802 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานีHakata Bus Terminal ชั้น 2 มาลงที่ป้ายHisamitsu แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Kusaba River Cherry Blossom Trees |
Akizuki Castle Ruins
ปราสาทอากิซึกินี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1623 เป็นปราสาทขนาดเล็กแต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งของค่ายทหาร ส่วนตัวปราสาทรายล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงาม ทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมและในฤดูใบไม้ผลิปราสาทแห่งนี้ยังเป็นจุดชมซากุระอีกด้วย ความสวยงามขึ้นชื่อของวิวทิวทัศน์ที่นี่ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับอากิระ คูโรซาวะ และจอร์จ ลูคัส ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังในการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องด้วยกัน
พิกัด ปราสาทอากิซึกิ (Akizuki Castle Ruins)
ที่อยู่ | 663 Akizukinotori, Asakura-shi, Fukuoka |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี JR Hakata มาลงที่สถานี Kiyama แล้ว เปลี่ยนรถไฟเป็น Amagi Railway มาลงที่สถานี Amagi แล้วต่อ รถบัสจากสถานีมาลงป้าย Kyodokan Mae ประมาณ 20 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Akizuki Castle Ruins |
สรุป
ชวนมาเพลิดเพลินไปกับการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองเล็กๆ แสนมหัศจรรย์เมืองหนึ่งในภูมิภาคคิวชู แถมยังเดินทางแสนสะดวกจากใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เพื่อมาสัมผัสกับวิวธรรมชาติที่งดงาม ศาลเจ้าที่มีความโดดเด่นทั้งตัวเสาโทริอิที่ทอดยาวไปตามภูเขา และเทพเจ้า 3 องค์ที่เป็นจุด Power Spot ที่ยอดเยี่ยม มีผลไม้แสนอร่อยให้รับประทาน สร้างเสริมประสบการณ์แบบใหม่ๆ ในการเดินทางให้กับคุณได้อย่างแน่นอน