Vitamin B วิตามินบีญี่ปุ่นตัวช่วยลดเหนื่อยล้าและบำรุงระบบประสาทต่างๆ

วิตามินบีคือสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดี โดยเฉพาะเรื่อง “พลังงาน” และ “ระบบประสาท” ร่างกายใช้วิตามินบีจากการเปลี่ยนอาหารที่เรากิน ให้กลายเป็นพลังงาน และช่วยให้สมองทำงานได้ดี ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เครียด ไม่เป็นเหน็บชาหรือเป็นตะคริวอีกด้วย อีกทั้งวิตามิน บีมีหลายชนิด (B1 ถึง B12) ซึ่งแต่ละตัวก็เหมือนผู้ช่วยที่มีหน้าที่เฉพาะ เช่น บางตัวช่วยเรื่องสมอง บางตัวช่วยในการสร้างเม็ดเลือด หรือช่วยให้ผิวและผมแข็งแรงนั่นเอง เนื่องจากร่างกายสร้างวิตามินบีเองไม่ได้ ต้องแปรเปลี่ยนจากอาหารที่เรารับประทานในแต่ละวัน เช่น ข้าวไม่ขัดสี ไข่ นม เนื้อสัตว์ และผักใบเขียว ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ อาจรู้สึกเหนื่อยซึม หรือมีอาการเหน็บชาตามมาได้

วิตามินบีคืออะไร และช่วยเรื่องอะไรบ้าง

วิตามินบีคือกลุ่มของวิตามินที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพร่างกาย โดยมีทั้งหมด 8 ชนิดหลัก เรียกรวมกันว่าวิตามินบีรวม (Vitamin B-complex) ได้แก่ B1, B2, B3, B5, B6, B7, B9 และ B12 ซึ่งวิตามินแต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะ แต่ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

วิตามินบี เป็นกลุ่มวิตามินที่ละลายน้ำมีหลายชนิด

วิตามินบีเป็นกลุ่มวิตามินที่มีหลายชนิด เช่น B1, B2, B3, B5, B6, B7, B9, B12 ซึ่งแต่ละชนิดมีหน้าที่ต่างกัน โดยรวมช่วยเรื่องกระบวนการเผาผลาญพลังงานและบำรุงระบบประสาทของร่างกาย โดยวิตามินบีแต่ละชนิดมีดังต่อไปนี้

• วิตามิน B1 หรือ ไทอามีน (Thiamine) เป็นวิตามินที่ละลายน้ำ จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบีรวม มีหน้าที่สำคัญในการช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหาร (โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต) ให้เป็นพลังงาน และยังมีบทบาทต่อการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจ
• วิตามิน B2 หรือ ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ อยู่ในกลุ่มวิตามินบีรวม มีหน้าที่สำคัญในการช่วยเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน และช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ รวมถึงบำรุงผิวพรรณ ดวงตา และระบบประสาท
• วิตามิน B3 หรือ ไนอะซิน (Niacin) เป็นหนึ่งในวิตามินบีรวม ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน บำรุงระบบประสาท ผิวหนัง และระบบย่อยอาหาร
• วิตามิน B5 หรือ แพนโทธีนิกแอซิด (Pantothenic Acid) เป็นวิตามินในกลุ่มบีที่ละลายในน้ำ มีบทบาทสำคัญในการช่วยร่างกายเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน และช่วยสร้างสารหลายชนิดที่จำเป็นในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน เม็ดเลือดแดงและสารสื่อประสาทต่างๆ 
• วิตามิน B6 หรือ ไพริดอกซีน (Pyridoxine) เป็นวิตามินในกลุ่มบีที่ละลายในน้ำ มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายสร้างสารสื่อประสาท บำรุงสมอง และช่วยในกระบวนการเมตาบอไลซ์ของโปรตีนและกรดอะมิโน รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย
• วิตามิน B7 หรือไบโอติน (Biotin) เป็นวิตามินในกลุ่มบีที่ละลายน้ำ มีบทบาทสำคัญในการช่วยร่างกายเผาผลาญไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีนให้กลายเป็นพลังงาน รวมถึงช่วยบำรุงผิว ผม และเล็บให้แข็งแรง
• วิตามิน B9 หรือ โฟเลต (Folate) หรือ โฟลิกแอซิด (Folic Acid) เป็นวิตามินบีที่ละลายในน้ำ มีบทบาทสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมดีเอ็นเอ รวมถึงช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ เป็นวิตามินที่สำคัญต่อหญิงที่กำลังตั้งครรภ์
• วิตามิน B12 หรือ โคบาลามิน (Cobalamin) เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่ละลายในน้ำ มีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงระบบประสาท และช่วยในกระบวนการสร้างดีเอ็นเอในเซลล์
  

วิตามินบีเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงานได้ดี

วิตามินบีช่วยในการเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ (Coenzyme) ในกระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายใช้ในการผลิตพลังงาน โดยแต่ละชนิดของวิตามินบีมีบทบาทเฉพาะในขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการทำงานของเมตาบอลิซึม (Metabolism) 

บำรุงสมองและระบบประสาท ลดความเครียด วิตกกังวล

วิตามินบีกลุ่ม หรือที่คุ้นเคยกันว่าวิตามินบีรวม นั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการบำรุงสมองและระบบประสาท รวมถึงช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล เพราะแต่ละชนิดมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง สารสื่อประสาท และการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกาย

ลดอาการเหน็บชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือสมองเบลอจากการพักผ่อนไม่พอ

นอกจากนั้นวิตามินบีกลุ่มยังมีบทบาทสำคัญในการบำรุงระบบประสาทและสมองโดยตรง จึงสามารถช่วยลดอาการเหน็บชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาการสมองเบลอได้โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจากความเครียดเรื้อรัง พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือภาวะขาดวิตามินบางชนิด โดยมีเหตุผลและกลไกต่างๆ ร่วมด้วย

วิตามินบีบางตัวช่วยเรื่องผิว ผม เล็บ และระบบเลือด

วิตามินบีกลุ่มมีหลายชนิด และแต่ละชนิดมีบทบาทเฉพาะในการดูแล ผิว ผม เล็บ และระบบเลือดต่างๆ ของร่างกาย เพราะวิตามินบีนั้นมีบทบาทสำคัญเกี่ยวข้องกับการสร้างเซลล์ใหม่ เมตาบอลิซึม และการไหลเวียนของเลือด ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพภายนอกโดยตรง เช่น ผิวพรรณที่สดใส ผมไม่ร่วง เล็บไม่เปราะ และเลือดไหลเวียนดี

วิตามินบีในญี่ปุ่นต่างจากที่อื่นยังไง

วิตามินบีที่ผลิตหรือจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น มักมีลักษณะเฉพาะบางประการที่แตกต่างจากวิตามินบีในประเทศอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา หรือยุโรป โดยจุดเด่นหลักๆ ของวิตามินบีในญี่ปุ่นมีข้อดีดังต่อไปนี้

สูตรเข้มข้น ดูดซึมได้ดี ใช้ส่วนผสมบริสุทธิ์

สูตรวิตามินบีจากญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะออกแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เน้นเรื่องของคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินบีรวม (Vitamin B-complex) มักมีปริมาณที่สูงเพียงพอ ต่อความต้องการในแต่ละวัน อีกข้อดีของวิตามินบีคือมีรูปแบบที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย นอกจากนั้นในวิตามินบียังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

ผสมหลายชนิดในเม็ดเดียว เช่น B1, B6, B12 หรือรวมทั้งกลุ่ม B-complex

วิตามินบีในญี่ปุ่นมักรวมกับสมุนไพรญี่ปุ่น หรือสารบำรุงเสริมอื่นๆ ไว้ด้วย เช่น CoQ10, Zinc, วิตามินซี, Collagen, หรือ L-cysteine เพื่อบำรุงผิว ตัวอย่างที่นิยมคือวิตามินบีรวมสำหรับ “ลดความเครียด-บำรุงผิว-ลดสิว” ในเม็ดเดียวกัน

เน้นสูตรที่ช่วยลดความอ่อนล้าและบำรุงร่างกายสำหรับคนทำงานหนัก

วิตามินบีจากญี่ปุ่นถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อฟื้นฟูพลังงาน สนับสนุนระบบประสาท และเสริมความแข็งแรงของร่างกายโดยรวม โดยจะมีจุดเด่นในการฟื้นฟูพลังงาน ลดความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอ่อนแรง ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า อีกทั้งช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ลดความเครียด นอนหลับได้ดีขึ้น ที่สำคัญเลยคือมั่นใจเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพ บางแบรนด์ยังถูกออกแบบมาให้ร่างกายดูดซึมเร็วในช่วงที่ต้องการพลังงานเร่งด่วนอีกด้วย

มีทั้งแบบเม็ดและแบบน้ำ รสชาติดี ทานง่าย

วิตามินบีจากญี่ปุ่นที่มาในรูปแบบเม็ดและแบบน้ำ นั้นมีจุดเด่นในเรื่อง “รสชาติดี ทานง่าย ดูดซึมเร็ว” เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนทำงานหนัก นักเรียน หรือผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ โดยเฉพาะแบบน้ำจะดูดซึมเร็ว ผ่านระบบทางเดินอาหารรสชาติหวานอมเปรี้ยว ดื่มง่าย ไม่เหมือนยาขมเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลืนยา หรือเวลาเหนื่อยล้าเฉียบพลัน ส่วนแบบเม็ดหรือแคปซูล จุดเด่นคือพกพาสะดวก รับประทานง่าย มีปริมาณวิตามินบีที่เข้มข้น บางสูตรเป็นเม็ดเคลือบรสหวาน เคี้ยวได้ หรือ เม็ดอมใต้ลิ้นก็มี

รูปแบบของวิตามินบีญี่ปุ่น

วิตามินบีจากญี่ปุ่นมีให้เลือกหลาย รูปแบบตามความสะดวกในการใช้งาน ไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะด้าน เช่น การดูดซึมเร็ว บำรุงลึก หรือพกพาง่าย โดยสามารถแบ่งออกตามรูปแบบต่างๆ ได้ดังนี้

แบบเม็ด (Tablets) : เน้นความสะดวก พกพาง่าย

เป็นรูปแบบของวิตามินที่พกง่าย เก็บง่าย  เน้นความสะดวก ราคาประหยัด ปริมาณวิตามินแน่นอนเหมาะกับการรับประทานเป็นประจำทุกวัน โดยมีแบรนด์ยอดนิยมอย่าง DHC Vitamin B Mix, Fancl B-Complex และ Chocola BB Plus หรือ Chocola BB Lucent

แบบน้ำดื่ม (Drink / B-Drink) : ดูดซึมไว ร่างกายรับพลังได้เร็ว

วิตามินในรูปแบบนี้มีจุดเด่นตรงที่ดูดซึมเร็ว เห็นผลไวรสชาติดี เหมาะกับคนไม่ชอบกลืนยามักเสริมพลังงานทันที เช่น มี คาเฟอีน, ทอรีน, โสม ตัวอย่าง Chocola BB Royal 2,  Lipovitan D / Lipovitan Fine และ Oronamin C Drink

แบบผสมวิตามินซี หรือแร่ธาตุอื่น: เสริมประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายโดยรวม

การผสมวิตามินบีกับวิตามินซี และแร่ธาตุอื่นๆ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายโดยรวมได้เป็นอย่างดี โดยมีประโยชน์หลักๆ เลยคือเรื่องช่วยเพิ่มพลังงาน วิตามินบีช่วยเผาผลาญอาหารเป็นพลังงาน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน วิตามินบีและแมกนีเซียมยังช่วยในเรื่องการลดความเครียด และช่วยต้านอนุมูลอิสระ ส่วนวิตามินซีและแร่ธาตุช่วยป้องกันการติดเชื้อ ช่วยในการบำรุงระบบประสาท วิตามินซีและซีลีเนียมช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบรอบด้าน ทั้งร่างกาย สมอง และภูมิคุ้มกัน

แบบฉีด (Vitamin B Injection): ใช้ในคลินิกเพื่อบำรุงเฉพาะทาง (ไม่นิยมในกลุ่มทั่วไป)

วิตามินบีแบบฉีด เป็นรูปแบบการให้วิตามินเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือด (ฉีดเข้าเส้นเลือด) หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ มักใช้ในสถานพยาบาล เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกความงาม หรือโรงพยาบาล เพื่อจุดประสงค์เฉพาะทาง เช่น คนที่มีภาวะขาดวิตามินบีรุนแรง เช่น ขาด B1 ในผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรัง ขาด B12 ในผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง หรือดูดซึมวิตามินบีไม่ดี ช่วยในการบำรุงระบบประสาท เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการปลายประสาทอักเสบ ชาตามมือเท้า หรืออ่อนแรงจากการขาดวิตามินบี ช่วยเรื่องฟื้นฟูร่างกายเร็วขึ้น ในบางคลินิกให้วิตามินบีร่วมกับวิตามินซีหรือสารอื่นเพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้า และใช้ร่วมกันในโปรแกรมความงาม เช่น โปรแกรมฉีดวิตามินเพื่อบำรุงผิวพรรณ 

วิตามินบีญี่ปุ่นยอดนิยม 10 แบรนด์

วิตามินบีนั้นเป็นวิตามินที่มีประโยชน์มากมาย และมีหลากหลายแบรนด์ หากมีโอกาสไปญี่ปุ่น แล้วอยากจะซื้อวิตามินบีติดไม้ติดมือกลับมา ขอแนะนำแบรนด์วิตามินบีหลากหลายรูปแบบดังนี้

Alinamin EX Plus – เน้นลดอาการอ่อนล้า บำรุงระบบประสาท มี B1 B6 B12

Alinamin EX Plus เป็นวิตามินบีรวมจากญี่ปุ่นที่เน้นลดอาการอ่อนล้า บำรุงระบบประสาท และฟื้นฟูพลังงาน ด้วยส่วนผสมหลักอย่างวิตามิน B1 (Fursultiamine), B6, B12, วิตามิน E และ Calcium Pantothenate ช่วยลดอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง ชามือและเท้า อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานหนัก นอนน้อย หรือมีอาการอ่อนล้าจากการใช้ร่างกายและสมองมาก โดยแนะนำให้รับประทานวันละ 1–2 เม็ดพร้อมอาหารเช้าเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

Chocola BB Plus – ผิวพรรณ ผื่น สิว อ่อนเพลีย เหมาะกับผู้หญิงทำงานหนัก

Chocola BB Plus เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากญี่ปุ่นในรูปแบบเม็ด มีจุดเด่นในการบำรุงผิวและร่างกายจากภายใน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่มีภาวะเครียด พักผ่อนน้อย หรือทำงานหนัก เนื่องจากส่วนประกอบก็มีตั้งแต่วิตามินบี 2 ช่วยลดการอักเสบของผิว เช่น ผื่นหรือสิว วิตามินบี 6 ช่วยควบคุมความมันของผิว ลดโอกาสเกิดสิว มีส่วนผสมของวิตามินบี1 และบี12 ช่วยเสริมพลังงาน ลดอาการอ่อนล้า มีนิโคตินาไมด์ (Vitamin B3)  ช่วยให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใส แคลเซียมแพนโทเทเนต (Vitamin B5) ช่วยในการสร้างฮอร์โมน และลดความเครียดที่มักจะแสดงออกทางร่างกายอีกด้วย

DHC Vitamin B-Mix – วิตามินบีรวม ราคาประหยัด ทานได้ทุกวัน

DHC Vitamin B-Mix เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากญี่ปุ่น ที่รวมวิตามินบีหลายชนิดไว้ในเม็ดเดียว เหมาะสำหรับการดูแลสุขภาพประจำวัน โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ หรือขาดสารอาหารบางประเภทจากการรับประทานอาหารไม่ครบหมู่โดยส่วนประกอบหลัก วิตามิน B1, B2, B6, B12 เสริมการเผาผลาญพลังงาน บำรุงระบบประสาท ลดความอ่อนล้า มีไนอาซิน (B3), มีกรดโฟลิก (B9) กรดแพนโทเทนิก (B5) บำรุงผิว ลดสิว เสริมการทำงานของสมองและไบโอติน (B7)  ส่งเสริมสุขภาพผม เล็บ และผิวพรรณได้ดี

Asahi Dear-Natura B-Complex – มีทั้ง B1–B12 พร้อมโฟเลต เสริมสมอง

เป็นวิตามินบีรวมจากแบรนด์คุณภาพของญี่ปุ่น ที่เน้นความครบถ้วนและปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสมอง ระบบประสาท และร่างกายโดยรวม ด้วยการเสริมวิตามินบีหลากหลายชนิดในเม็ดเดียว โดยส่วนประกอบก็มีตั้งแต่วิตามิน B1–B12 (ครบทุกชนิด) ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาท สมอง กล้ามเนื้อ และระบบเผาผลาญ โฟเลต (Folic Acid / B9)  ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง เสริมความจำ ป้องกันภาวะสมองล้า ไบโอติน (B7) และกรดแพนโทเทนิก (B5) ช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และลดความเครียดได้

Eisai Chocola BB Royal T – แบบดื่ม สูตรเข้มข้นสำหรับคนพักผ่อนน้อย

เป็นเครื่องดื่มวิตามินสูตรเข้มข้นจากแบรนด์ Eisai ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก หรือมีอาการอ่อนล้าเรื้อรัง โดยเน้นการฟื้นฟูร่างกายและเพิ่มพลังงานอย่างรวดเร็ว โดยมีส่วนประกอบตั้งแต่วิตามินบีรวม (B1, B2, B6, B12) ช่วยเผาผลาญพลังงาน บำรุงสมองและระบบประสาท โคเอนไซม์ Q10 ช่วยเสริมการสร้างพลังงานระดับเซลล์ ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย อาร์จินีน (Amino Acid) ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และเร่งการฟื้นตัวของร่างกาย นิโคตินาไมด์ และไพริดอกซีน ช่วยลดความเหนื่อยล้าและความเครียดสะสม และสุดท้ายคือไม่มีส่วรผสมของน้ำตาล  เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง

Orihiro Chewable Multi Vitamin & Mineral  – เม็ดเคี้ยว รสผลไม้ ทานง่าย

วิตามิน 11 ชนิดและแร่ธาตุ 6 ชนิด มีวิตามิน B1  วิตามิน B2  วิตามินซี ใช้ชดเชยการขาดวิตามินของร่างกาย สนับสนุนและช่วยเพิ่มความต้านทานโรคได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ เช่น ผิวพรรณ เสริมสร้างสมรรถภาพการทำงานของร่างกายและสมอง ถือเป็นวิตามินที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกกลืนเม็ดอาหารเสริม หรืออยากรับประทานวิตามินแบบขนมรสอร่อย โดยไม่เสียคุณค่าทางโภชนาการ ถือเป็นวิตามินเสริมการทำงานของสมอง ผิวพรรณ เส้นผม และพลังงาน เนื่องจากเป็นรสผลไม้ทำให้กลิ่นหอม ทานง่าย เด็กโตหรือผู้ใหญ่ก็ทานได้

Unimat Riken – กัมมี่วิตามินเด็กอาหารเสริม พร้อมวิตามินรวม

เยลลี่ผสมวิตามินรวมรสกล้วย รับประทานง่าย รสชาติอร่อย อุดมด้วยวิตามินรวมหลายชนิด ได้แก่ วิตามิน A, B2, B6, C และ D บำรุงร่างกาย บำรุงสายตา บำรุงสมองและประสาทเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต เหมาะสำหรับเด็กที่รับประทานอาหารยาก ไม่ชอบรับประทานผลไม้ ควรเสริมวิตามินทดแทนสารอาหารที่ขาดไป แนะนำสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป ถือเป็นอีกวิตามินที่นิยมมากในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

Otsuka Nature Made B-Complex – เน้นดูแลระบบประสาท

เป็นอาหารเสริมวิตามินบีจากประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการทำงานของระบบประสาทและการผลิตพลังงานในร่างกาย โดยคุณสมบัติเด่นคือมีวิตามินบีครบทั้ง 8 ชนิดประกอบด้วยวิตามิน B1, B2, B6, B12, Niacin (B3), Pantothenic acid (B5), Folic acid (B9) และ Biotin (B7) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน และการทำงานของระบบประสาท สนับสนุนการทำงานของระบบประสาท วิตามินบีช่วยในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทและการส่งสัญญาณประสาท ช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้า เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วน และเป็นผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น โดยบริษัท Otsuka Pharmaceutical ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการผลิตอาหารเสริมคุณภาพสูง

Fancl B-Group – สูตรไม่มีสารกันเสีย เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย และต้องการดูแลสุขภาพผิวจากภายใน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเสริมวิตามิน B-Complex (วิตามินบีรวม) เพื่อสนับสนุนการทำงานของระบบประสาทและผิวพรรณ คุณสมบัติเด่นคือเป็นสูตรไม่มีสารกันเสีย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการระคายเคือง หรือแพ้สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีแนวโน้มแพ้สารเคมีต่างๆ

TIOVITA Drink –  เครื่องดื่มที่ช่วยฟื้นฟูและป้องกันความเหนื่อยล้า

เครื่องดื่มชูกำลังเพื่อสุขภาพที่เป็นที่ชื่นชอบมายาวนานของคนญี่ปุ่น ที่ช่วยบรรเทาความอ่อนล้าทางร่างกายได้ดี ประกอบด้วยทอรีน 1,000 มก. กลุ่มวิตามินบี และคาร์นิทีนไฮโดรคลอไรด์เป็นส่วนประกอบสำคัญรสผลไม้รวม รับประทานง่ายมีพลังงานเพียงแค่ “70 กิโลแคลอรี” เท่านั้น ประสิทธิผลและประสิทธิภาพของเครื่องดื่มนี้คือการฟื้นฟูและป้องกันความเหนื่อยล้า การปรับปรุงและป้องกันความล้มเหลวทางร่างกายที่เกี่ยวข้องกับสารอาหารที่ไม่เพียงพอในชีวิตประจำวัน

วิธีเลือกวิตามินบีให้เหมาะกับตัวเอง

การเลือกวิตามินบีให้เหมาะกับตัวเอง มีความสำคัญมาก เพราะวิตามินบีแต่ละชนิดนั้นล้วนมีบทบาทเฉพาะในร่างกาย หากขาดหรือเกิน บางชนิดอาจมีผลต่อสุขภาพได้ เพราะวิตามินบี ไม่ได้มีเพียงชนิดเดียว และร่างกายแต่ละคนก็มีความต้องการวิตามันบีไม่เท่ากัน หากเลือกให้ตรงกับอาการและความต้องการ จะช่วยเสริมสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และคุ้มค่าต่อร่างกายมากที่สุด

ถ้ารู้สึกเพลีย พักผ่อนไม่พอ: เลือกสูตรที่มี B1, B6, B12

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ “รู้สึกเพลีย พักผ่อนไม่พอ” ควรเน้นวิตามินสูตรที่มีวิตามิน B1, B6 และ B12 เพราะวิตามินเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อระบบประสาทและการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย  เนื่องจากวิตามิน B1 (ไทอะมีน) ช่วยในการเปลี่ยนกลูโคสเป็นพลังงาน ช่วยให้สมองทำงานดี ลดอาการเหนื่อยล้า วิตามิน B6 (ไพริดอกซีน) มีบทบาทในการสร้างสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน และโดปามีน ช่วยให้สมองผ่อนคลาย ลดความเครียด วิตามิน B12 (โคบาลามิน) ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงปลายประสาท หากขาดอาจทำให้รู้สึกอ่อนแรง ชา หรือเหนื่อยง่าย 

ถ้าเครียด สมองล้า: เน้น B5, B9, B12 ที่ช่วยเรื่องสมอง

การเลือกวิตามินบีให้เหมาะกับตัวเองในกรณีที่ สึกเครียด สมองล้า โดยเน้นวิตามิน B5, B9, และ B12 ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีและมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ เพราะวิตามินบีเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำงานของสมอง ระบบประสาท และภาวะอารมณ์ ยกตัวอย่างวิตามิน B5 (แพนโทเทนิก แอซิด) ช่วยในการสังเคราะห์ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด เช่น คอร์ติซอล มีบทบาทในการสร้างพลังงานให้เซลล์สมองและร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้ต่อมหมวกไตทำงานดีขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรับมือกับความเครียดด้วยนั่นเอง 

วิตามิน B9 (โฟเลต) จำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาทเช่น เซโรโทนินและโดปามีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอารมณ์ มีผลต่อการป้องกันภาวะซึมเศร้าและลดความเครียด เรียกว่าใครขาดวิตามิน B9 อาจทำให้รู้สึกเฉื่อยชา เบื่อหน่าย และสมองตื้อได้ ส่วนวิตามินB12 (โคบาลามิน) จะช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบประสาท ใครที่ขาดวิตามิน B12 อาจทำให้เกิดภาวะสมองล้า เหนื่อยง่าย และมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความจำ

ถ้าเป็นสิวบ่อยหรือผิวมัน: เลือกสูตรที่มี B2, B6

การเลือกรับประทานวิตามิน B2 และ B6 ถือว่าเหมาะกับคนที่มีประสบปัญหาเกี่ยวกับผิวโดยเฉพาะเลย เนื่องจากวิตามินบี 2 ชนิดนี้ มีบทบาทในการช่วยควบคุมความมัน ลดการอักเสบ และสนับสนุนความสมดุลของฮอร์โมน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิวนั่นเอง ซึ่งวิตามินสูตรนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวผิวมันเรื้อรังโดยเฉพาะสิวฮอร์โมน ผู้ที่มีความเครียดหรือพักผ่อนน้อย ซึ่งอาจทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน และผู้ที่มีประวัติว่ามีปัญหาผิวแตกแห้งลอก ริมฝีปากลอกง่าย อาจเกิดจากการขาดวิตามิน B2 ก็เป็นได้

ถ้าอยากดูแลรอบด้าน: เลือกแบบ B-complex ที่รวมหลายตัวในเม็ดเดียว

การเลือกวิตามินบีในกลุ่มนี้ ในกรณีที่อยากดูแลสุขภาพอย่างรอบด้าน โดยเลือกแบบ Vitamin B-Complex (วิตามินบีรวม) ที่รวมหลายชนิดไว้ในเม็ดเดียว ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ปลอดภัย และคุ้มค่า โดยเฉพาะคนทั่วไปที่ไม่ได้มีอาการจำเพาะเจาะจง แต่ต้องการดูแลร่างกายให้สมดุลและมีพลังงานในชีวิตประจำวัน สำหรับคนที่กำลังมองหาวิตามินที่ครอบคลุม ควรเลือกสูตรรวม B-complex ซึ่งมีครบทั้ง B1–B12 (ยกเว้นบางตัวเช่น B7, B9 อาจมีปริมาณน้อย) ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะวิตามินบีแต่ละตัวมีบทบาทสนับสนุนกัน

วิธีรับประทานวิตามินบีให้ได้ผล

การรับประทานวิตามินบีให้ได้ผล ต้องคำนึงถึงเวลาในการรับประทาน การดูดซึมความต่อเนื่อง และการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถทำได้ตามแนวทางดังต่อไปนี้

รับประทานพร้อมอาหารเช้าหรือกลางวัน เพื่อให้ร่างกายเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ทันที

รับประทานหลังอาหารเช้าหรือกลางวัน เนื่องจากวิตามินบีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ จึงดูดซึมได้ดีหลังอาหารซึ่งเหมาะที่สุด เพราะวิตามินบีช่วยให้สดชื่น กระตุ้นระบบประสาทและการเผาผลาญหลีกเลี่ยงการกินตอนเย็นหรือก่อนนอน เพราะอาจทำให้นอนไม่หลับ โดยเฉพาะ B1, B6, B12 ที่กระตุ้นระบบประสาท

รับประทานต่อเนื่องประมาณ 1–2 เดือน แล้วหยุดพัก 1–2 สัปดาห์

วิตามินบีไม่สะสมในร่างกาย (ยกเว้น B12 บางส่วน) ควรกินอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผล เช่น ลดอาการเพลีย เครียด หรือผิวมัน หากใช้วิตามิน B-Complex (วิตามินบีรวม) สามารถกินวันเว้นวันได้ในบางกรณี (ขึ้นอยู่กับปริมาณในเม็ด)

ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อช่วยการดูดซึมและการขับออก

ดื่มน้ำตามมากๆ จะส่งผลต่อร่างกายได้ดี เพราะวิตามินบีจะถูกขับออกทางปัสสาวะถ้าเกินความต้องการ นอกจากนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน (อย่างน้อย 6–8 แก้ว) เพื่อให้ระบบร่างกายทำงานดี และพยายามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน เพราะหากดื่มในจำนวนมากจนเกินไป จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินบีได้

ใครควรระวังในการับประทานวิตามินบีเสริม

ผู้ที่ควรระวังในการรับประทานวิตามินบีเสริมบ้าง ก็มีกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง หรือคนที่ใช้ยาบางชนิดที่อาจมีผลต่อการดูดซึม หรือการดูดซึมวิตามินบีในร่างกาย การรับวิตามินเกินความจำเป็น หรือในรูปแบบที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดผลข้างเคียงหรือโทษต่อร่างกายได้

ผู้ป่วยโรคตับหรือไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

ผู้ป่วยโรคตับหรือโรคไตควรระวังการรับประทานวิตามินบี เนื่องจากตับและไตเป็นอวัยวะหลักที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญ การดูดซึม และการขับวิตามินออกจากร่างกาย หากตับหรือไตทำงานผิดปกติ อาจทำให้เกิดการสะสมหรือตอบสนองที่ผิดปกติต่อวิตามินบางชนิดได้ วิตามินบีส่วนใหญ่ละลายในน้ำ แต่ไม่ปลอดภัย 100% สำหรับทุกคน ถึงแม้วิตามินบีมักปลอดภัยในคนทั่วไป เพราะร่างกายขับส่วนเกินออกทางปัสสาวะแต่ในผู้ป่วย โรคไตที่การกรองของเสียลดลง  การขับวิตามินส่วนเกินก็อาจผิดปกติ ทำให้เกิดการสะสมเกินความจำเป็น ส่วนในผู้ป่วยโรคตับ ตับอาจเผาผลาญและเปลี่ยนรูปวิตามินได้ช้าลง ทำให้เกิดการสะสมหรือออกฤทธิ์ช้าได้

หญิงตั้งครรภ์/ให้นมบุตร ควรเลือกสูตรที่ปลอดภัยหรือได้รับคำแนะนำจากแพทย์

หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่กำลังให้นมบุตรการรับประทานวิตามินบีนั้น ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรโดยตรง เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และคุณลูก เพราะแม้ว่าวิตามินบีจะมีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่การใช้วิตามินเกินความจำเป็น หรือใช้ในประเภทที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อคนในกลุ่มนี้ได้ สิ่งที่สำคัญเลยคือหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรเลือกวิตามินบีสูตรที่ปลอดภัยจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ หรือที่สำคัญไปกว่านั้นคือการได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อการรับประทานวิตามินบีในปริมาณที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อพัฒนาการของทารก รวมถึงสุขภาพของคุณแม่เองด้วย

หากมีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรงเรื้อรัง ควรตรวจหาสาเหตุจริงก่อนใช้เสริม

สำหรับใครที่มีอาการเหล่านี้ สิ่งที่สำคัญเลยคือต้องตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงก่อน  ก่อนจะตัดสินใจรับประทานวิตามินบีเสริมเอง เพราะอาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมากกว่าการขาดวิตามินบีเพียงอย่างเดียว เนื่องจากถ้าคุณเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ ภาวะขาดวิตามิน B1, B6 หรือ B12 เป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เช่น หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท หรือแม้แต่โรคกล้ามเนื้อเสื่อม โรคไทรอยด์ หรือระบบภูมิคุ้มกัน ก็ล้วนเกิดอาการชา รวมทั้งกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ทั้งนั้นสิ่งที่ควรทำคือพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด หรือหากจำเป็นต้องเสริมวิตามินบี แพทย์จะเลือกให้ตามชนิดและขนาดที่เหมาะกับคนนั้นๆ เพื่อให้เกิดการใช้วิตามินบีในปริมาณที่ ปลอดภัยต่อร่างกายมากที่สุด 

แหล่งซื้อวิตามินบีญี่ปุ่น

การเลือกซื้อวิตามินบีจากญี่ปุ่น ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคไทย เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องของคุณภาพ มาตรฐานการผลิต และความปลอดภัยอยู่แล้ว ดังนั้นการเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นวิตามินบีของแท้ ไม่หมดอายุ และเป็นวิตามินที่ถูกเก็บรักษาอย่างถูกวิธีมาแล้ว จึงเป็นอีกเรื่องที่ใครจะไปซื้อวิตามินที่ญี่ปุ่นควรศึกษาข้อมูลไว้ก่อน

ร้านดรักสโตร์เช่น Matsumoto Kiyoshi, Sugi Pharmacy

ร้านดรักสโตร์ชื่อดังจากญี่ปุ่น เช่น Matsumoto Kiyoshi และ Sugi Pharmacy เป็นแหล่งซื้อวิตามินบีและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับความนิยมมากทั้งจากคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงผู้บริโภคชาวไทยด้วย เพราะมีจุดเด่นหลายอย่างที่ช่วยให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า แถมยังมีสาขามากมายกระจายทั่วประเทศญี่ปุ่นสามารถเดินเลือกซื้อวิตามินได้อย่างเพลิดเพลิน

ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Donki, AEON

อีกแหล่งช้อปปิ้งวิตามินบีแนะนำเวลาไปญี่ปุ่น เป็นร้านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบสินค้าญี่ปุ่น เพราะเป็นห้างมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลาย ราคาเข้าถึงง่าย มักจัดโปรโมชั่นลดราคา และส่งเสริมผลิตภัณฑ์อยู่บ่อยๆ  สำหรับที่นี่จึงถือเป็นแหล่งซื้อวิตามินบีญี่ปุ่นที่สะดวกและครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวิตามินคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า เรียกว่าถ้าต้องการแบรนด์ญี่ปุ่นแท้ที่หาซื้อได้ง่าย และมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้มาที่นี่เลย

ซื้อออนไลน์จากร้านนำเข้า ควรเช็คฉลาก รีวิว และวันหมดอายุเสมอ

การซื้อวิตามินบี หรืออาหารเสริมใดๆผ่านร้านค้าออนไลน์ที่นำเข้าสินค้าญี่ปุ่น ถือว่าสะดวกและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงเรื่องของปลอม สินค้าใกล้หมดอายุ หรือฉลากไม่ชัดเจนเช่นกัน ดังนั้นการตรวจสอบข้อมูลก่อนสั่งซื้อเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยสิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อวิตามินบีออนไลน์จากร้านนำเข้าก็มีดังต่อไปนี้

1. ฉลากผลิตภัณฑ์ (Label) ต้องมีชื่อสินค้า ส่วนประกอบ ปริมาณต่อหน่วยบริโภคและคำแนะนำในการใช้อย่างชัดเจน และตรวจสอบว่ามีภาษาไทย หรือไม่โดยเฉพาะถ้าเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย หลีกเลี่ยงสินค้าที่ไม่ระบุฉลากญี่ปุ่นแท้ หรือไม่มีแหล่งนำเข้าที่แน่ชัด
   
2. วันผลิตและวันหมดอายุ (MFG/EXP) อย่าซื้อผลิตภัณฑ์ที่ใกล้หมดอายุ หรือไม่มีฉลากระบุวันที่ชัดเจน วิตามินบางชนิดเสื่อมคุณภาพได้ก่อนวันหมดอายุ หากเก็บรักษาไม่ดี หรืออยู่ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม
   
3. รีวิวผู้ใช้จริง (Review) อ่านรีวิวจากผู้ซื้อเดิม โดยเฉพาะในเรื่องของผลลัพธ์ การจัดส่งและความน่าเชื่อถือของร้าน ระวังการรีวิวสินค้าปลอม หรือรีวิวที่เห็นซ้ำๆ กันมากจนผิดปกติ
   
4. แหล่งที่มาและความน่าเชื่อถือของร้าน ตรวจสอบว่าร้านมีใบรับรอง ทะเบียนพาณิชย์หรือเคยมีปัญหาเรื่องสินค้าปลอมหรือไม่ เลือกร้านที่มีช่องทางติดต่อชัดเจนและตอบคำถามลูกค้า
   
5. บรรจุภัณฑ์ วิตามินควรมาพร้อมซีลปิดสนิท ไม่มีรอยฉีกขาดหรือเสียหาย บรรจุภัณฑ์ควรดูใหม่ และไม่ดูเก่าเก็บจนเกินไป

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับวิตามินบี (FAQ)

วิตามินบีเป็นอีกวิตามินที่มีคนนิยมไม่แพ้วิตามินซีเลย และที่ญี่ปุ่นเองก็มีการผลิตวิตามินบีที่หลากหลายรูปแบบคำตอบและเหตุผลที่อาจทำให้หลายคนสงสัยไปด้วย 

วิตามินบีรับประทานแล้วง่วงไหม? 

วิตามิน B-Complex (วิตามินบีรวม) โดยทั่วไปไม่ก่อให้เกิดอาการง่วงนอนหรือเหนื่อยล้า แต่ในบางกรณีอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงได้เช่นกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เป็นส่วนประกอบด้วย ยกตัวอย่าง การรับประทานวิตามินบีในปริมาณที่สูงเกินไป เช่น วิตามิน B6 หรือ B12 อาจส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยล้าได้  หรือในบางคนร่างกายอาจมีการตอบสนองต่อวิตามินบีที่แตกต่างกัน เช่น รับประทานไปแล้วจะรู้สึกง่วง หรือเหนื่อยล้าได้ หรือในบางราย ความง่วงอาจเกิดจากการขาดแร่ธาตุหรือวิตามินอื่นๆ ร่วมด้วย สิ่งที่ดีที่สุดจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อหาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป

รับประทานวิตามินบีทุกวันได้ไหม?

การรับประทานวิตามินบีทุกวันสามารถทำได้และมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ที่มีความต้องการวิตามินบีสูง เช่น ผู้ที่มีความเครียด ผู้ที่พักผ่อนน้อย ผู้ที่รับประทานอาหารไม่ครบหมู่ หรือผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินบีบางชนิด ซึ่งประโยชน์ของการรับประทานวิตามินบีทุกวัน ก็มีส่วนช่วยสนับสนุนระบบการทำงานของประสาทและสมอง อีกทั้งยังช่วยในการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายมีพลังงานสำหรับกิจกรรมต่างๆ นอกจากนั้นยังโดดเด่นในเรื่องการบำรุงผิวพรรณและเส้นผมวิตามินบีบางชนิด เช่น ไบโอติน (B7) มีบทบาทในการบำรุงผิวพรรณและเส้นผมได้เป็นอย่างดี แต่ควรรับประทานวิตามินบีในปริมาณที่แนะนำ และหลีกเลี่ยงการรับประทานวิตามินบีก่อนนอน  

วิตามินบีช่วยให้สิวหายไหม?

ในวิตามิน B-Complex (วิตามินบีรวม) โดยเฉพาะวิตามิน B2 (ไรโบฟลาวิน) และ B6 (ไพริดอกซีน) นั้น มีบทบาทสำคัญในการดูแลผิวพรรณและช่วยลดการเกิดสิว การอักเสบ ที่เกิดจากความมันส่วนเกินหรือความไม่สมดุลของฮอร์โมน ทั้งยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานในปริมาณที่แนะนำและสังเกตอาการของผิวหนัง หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรงจะดีที่สุด

เด็กหรือผู้สูงอายุรับประทานวิตามินบีได้ไหม?

วิตามิน B-Complex (วิตามินบีรวม)  โดยเฉพาะวิตามิน B2 (ไรโบฟลาวิน) และ B6 (ไพริดอกซีน) สามารถรับประทานได้โดยทั่วไปทั้งในเด็กและผู้สูงอายุ แต่ควรพิจารณาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนการใช้  โดยเฉพาะในเด็ก วิตามินบีสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของสมอง ระบบประสาท และการเผาผลาญพลังงานในร่างกายของเด็ก แต่ต้องรับประทานตามปริมาณที่แนะนำสำหรับเด็ก และควรหลีกเลี่ยงการให้วิตามินบีเสริมในเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี  ส่วนในผู้สูงอายุ วิตามินบีสามารถช่วยบำรุงระบบประสาท ป้องกันภาวะโลหิตจาง และเสริมสร้างพลังงานในร่างกายของผู้สูงอายุ จึงควรรับประทานวิตามินบีในปริมาณที่แนะนำ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้

สรุป

วิตามินบีเป็นกลุ่มของวิตามินที่ละลายน้ำและจำเป็นต่อร่างกาย แถมยังมีหลายชนิด เช่น B1, B2, B3, B5, B6, B7, B9 และ B12 ซึ่งแต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะของตัวเอง เช่น ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน บำรุงระบบประสาท สร้างเม็ดเลือดแดง และส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมไว้ได้มาก จึงต้องได้รับเป็นประจำจากอาหาร เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ ไข่ นม และผักใบเขียว การขาดวิตามินบีอาจทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือโลหิตจางได้ การเสริมด้วยวิตามินจึงเป็นเรื่องที่หลายคนหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น และกลายเป็นสินค้ายอดนิยมหากมีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย