ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ศาลเจ้าที่มักมีประเด็นให้พูดถึงกันเสมอ
เมื่อพูดถึงศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) เรามักจะได้เห็นข่าวการประท้วงอยู่เสมอเวลาที่ผู้นำประเทศญี่ปุ่นเดินทางไปสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ โดยเฉพาะการประท้วงในประเทศจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งถือว่าเป็นคู่สงครามโดยตรงกับประเทศญี่ปุ่นในหลายๆ ช่วงเวลา
เนื่องจากศาลเจ้านี้เป็นเสมือนที่สถิตของดวงวิญญาณทหารกล้าของญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่เพียงเท่านี้ศาลเจ้ายาสุกุนิยังมีความน่าสนใจอีกหลายอย่างด้วยกัน ถ้าพร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกับศาลเจ้าแห่งนี้กันเลย
ประวัติของศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine)
อย่างที่บอกเอาไว้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีความสำคัญในหลายมิติด้วยกันทั้งการเมือง และความเชื่อ โดยศาลเจ้ายาสุกุนิ (靖国神社) สร้างขึ้นในช่วงยุคเมจิ หรือปี ค.ศ. 1869
มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่ผู้ที่ต้องเสียชีวิตลงในสงครามกลางเมือง โบชิง (Boshin War), สงคราม Russo-Japanese, สงคราม Sino-Japanese ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2, สงครามแปซิฟิก, สงครามโลกครั้งที่ 1 รวมถึงสงครามอื่นๆ ด้วย เดิมที ศาลเจ้าแห่งนี้ชื่อว่า Tokyo Shokonsha ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น Yasukuni Shrine ซึ่งมีความหมายว่า “ประเทศที่สงบสุข”
ที่นี่จะมีการบันทึกรายชื่อ วันเวลา สถานที่ ของผู้ที่เสียสละชีวิตเพื่อประเทศกว่า 2.5 ล้านคน รวมถึงมีรายชื่อบุคคลสำคัญที่ประเทศอื่นจัดให้เป็นอาชญากรสงครามระดับ A ในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมอยู่ด้วยคือพลเอกโตโจ ฮิเดกิ ที่หลายคนอาจจะคุ้นชื่อกันดีในวิชาประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสงครามที่ถือว่าใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเรานั่นเอง
ทั้งนี้ศาลเจ้ายาสุกุนิถือว่าเป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต ซึ่งเปรียบเหมือนศาสนาพื้นเมืองของคนญี่ปุ่น โดยตามความเชื่อของลัทธิชินโตการสร้างศาลเจ้าขึ้นมาสักแห่งนั้นก็เพื่อเป็นการอุทิศและแสดงความระลึกถึงทหารหรือบุคคลสำคัญที่เสียสละชีวิตในสงครามเพื่อทำให้ประเทศและประชาชนมีความสงบสุขและยังเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความรักชาติของคนญี่ปุ่นอีกด้วย
ชมความงามของดอกซากุระที่ศาลเจ้ายาสุกุนิ
อีกกิจกรรมที่นิยมกันของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน Yasukuni Shrine ก็คือการได้ชื่นชมความงามของดอกซากุระ ที่จะออกดอกสีชมพูเต็มต้นในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี เรียงรายไปตามเส้นทางหลายร้อยต้น
เวลาที่ดอกร่วงลงสู่พื้นก็จะมีสีชมพูสวยงาม ซึ่งการมาดูดอกซากุระบานที่ศาลเจ้าแห่งนี้ต่างจากที่อื่นก็คือจะได้บรรยากาศของความขลังของศาลเจ้า รวมถึงไม่มีผู้คนมานั่งปิกนิกกันใต้ต้นซากุระเหมือนกับเทศกาลดอกซากุระบานอื่นๆ
แต่นอกจากช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระแข่งกันแบ่งบานแล้วชูช่อสวยงามตาแล้ว ยังมีช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ใบแปะก๊วยก็เปลี่ยนสีเหลืองสวยงามใจกลางโตเกียว
พิกัด ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine)
ที่อยู่ | 23-1-1 Kudankita, ชิโยดะ 102-8246, จังหวัดโตเกียว |
วิธีเดินทาง | -เดินทางโดยรสบัส สาย Shibuya-Ochanomizu หรือว่าสาย Kudanshita-Takadanobaba ลงที่ป้าย Kudanue จากนั่นเดินเท้าอีกเล็กน้อยก็จะถึงศาลเจ้านี้แล้ว -เดินทางโดยรถไฟสาย JR Chuo-Sobu Line แล้วเลือกลงที่สถานี Iidabashi หรือ Ichigaya จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาทีก็จะถึงที่หมาย -การเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน สามารถเลือกได้ระหว่าง -สาย Toei Shinjuku, Tokyo Metro Tozai หรือ Hanzomon แล้วลงที่สถานี Kudanshita จากนั้นเดินเล่นชมวิวไม่เกิน 5 -นาทีก็จะถึงศาลเจ้า -สาย Tokyo Metro Namboku ลงที่สถานี Ichigaya จากนั้นเดินเท้าอีกราว 10 นาที สาย Tokyo Metro Yurakucho ลงที่สถานี Iidabashi หรือ Ichigaya จากนั้นเดินเท้าอีกราว 10 นาที |
เวลาทำการ | เดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม 6.00-18.00 น. เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 6.00-17.00 น. |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ ราคา 1,000 เยน นักศึกษา ราคา 500 เยน นักเรียนมัธยม ราคา 300 เยน เด็กประถม และต่ำกว่า ไม่เสียค่าเข้าชม |
Website | https://www.yasukuni.or.jp/english/ |
แวะชมพิพิธภัณฑ์ยูชูคัง (Yushukan)
อีกหนึ่งไฮไลทต์ที่ห้ามเมื่อมาเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิ ก็คือการแวะชมพิพิธภัณฑ์ยูชูคัง (Yushukan) ที่นี่เป็นที่รู้จักในฐานะพิพิธภัณฑ์ทางการทหาร ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ถูกเขียนโดยนักอนุรักษ์นิยม จึงไม่แปลกที่หลายเรื่องยังเป็นข้อถกเถียงถึงข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ ไม่แพ้ศาลเจ้ายาสุกุนิ โดยคำว่า “Yushu” “หมายถึงการเชื่อมโยงและเรียนรู้จากผู้ที่มีหลักการ ส่วนคำว่า “kan” นั้นหมายถึงอาคารหรือห้องโถง
พิพิธภัณฑ์ยูชูคังนี้สร้างขึ้นในปี 1882 เป็นที่สำหรับเก็บวัตถุทางทหารของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น อาวุธ และชุดเกราะไว้มากกว่า 100,000 ชิ้น ซึ่งของที่จัดแสดงนั้นย้อนไปถึงยุคเมจิมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 นิทรรศการภายในมีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ
พิกัด พิพิธภัณฑ์ยูชูคัง (Yushukan)
ที่อยู่ | 102-8246 3-1-1 Kudankita, Chiyoda-ku, Tokyo โทร: 03-3261-8326 |
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสาย Hanzmon ลงที่สถานี Kudanshita ทางออก 1 |
เวลาทำการ | 9.00-16.30 น. |
ค่าเข้า้ชม | ผู้ใหญ่ 800 เยน/นักเรียน 500 เยน |
Website | http://www.yasukuni.jp/~yusyukan/ |
การเดินทางสู่ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine)
ศาลเจ้ายาสุกุนินั้นตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ใกล้กับสถานที่สำคัญอาทิ สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park), นิปปอนบุโดคัง และยังเป็นจุดชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งในโตเกียวอีกด้วย สำหรับการเดินทางมายังที่นี่สามารถทำได้โดย
-เดินทางโดยรสบัส สาย Shibuya-Ochanomizu หรือว่าสาย Kudanshita-Takadanobaba ลงที่ป้าย Kudanue จากนั่นเดินเท้าอีกเล็กน้อยก็จะถึงศาลเจ้านี้แล้ว
-เดินทางโดยรถไฟสาย JR Chuo-Sobu Line แล้วเลือกลงที่สถานี Iidabashi หรือ Ichigaya จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาทีก็จะถึงที่หมาย
-การเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน สามารถเลือกได้ระหว่าง
- สาย Toei Shinjuku, Tokyo Metro Tozai หรือ Hanzomon แล้วลงที่สถานี Kudanshita จากนั้นเดินเล่นชมวิวไม่เกิน 5 นาทีก็จะถึงศาลเจ้า
- สาย Tokyo Metro Namboku ลงที่สถานี Ichigaya จากนั้นเดินเท้าอีกราว 10 นาที
- สาย Tokyo Metro Yurakucho ลงที่สถานี Iidabashi หรือ Ichigaya จากนั้นเดินเท้าอีกราว 10 นาที
เวลาทำการของศาลเจ้ายาสุกุนิ
Yasukuni Shrine เปิดให้เข้าชมตามช่วงเวลาดังนี้คือ
ช่วงเวลา | เวลาทำการ |
---|---|
เดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม | 6.00-18.00 น. |
เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ | 6.00-17.00 น. |
ค่าเข้าชม
ผู้เข้าชม | ราคา |
---|---|
ผู้ใหญ่ | 1,000 เยน |
นักศึกษา | 500 เยน |
นักเรียนมัธยม | 300 เยน |
เด็กประถม และต่ำกว่า | ไม่เสียค่าเข้าชม |
แหล่งท่องเที่ยวใกล้ ศาลเจ้ายาสุกุนิ
1. สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park)
สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจาก Yasukuni Shrine โดยอยู่ในเขตชิโยดะ (Chiyoda) เรียกได้ว่ากลางกรุงโตเกียวเลยก็ว่าได้ ซึ่งสวนจิโดริกะฟุจินั้นเป็นสวนที่อยู่ระหว่างสวนคิตะโนมารุ (Kitanomaru Park) และพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) มีคูน้ำเป็นแนวกั้น ให้บรรยากาศที่ร่มรื่น
นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือชมบบรรยากาศโดยรอบ ยิ่งในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนสวนนี้จะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่งโน้มกิ่งลงมายังคูน้ำ และทางเดินยาว 700 เมตร รวมถึงมีการประดับประดาไฟเอาไว้อย่างสวยงามในยามค่ำคืนอีกด้วยล่ะ
พิกัด สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park)
ที่อยู่ | อยู่ใกล้กับพระราชวังอิมพีเรียล โดยอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toei Shinjuku, Hanzomon หรือ Tokyo Metro Tozai ลงสถานี Kudanshita ออกทางออก 2 แล้วเดินชมวิวไม่เกิน 5 นาทีก็ถึง |
เวลาทำการ | เปิดตลอดเวลา |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | – |
2. นิปปงบูโดกัง (Nippon Budokan)
นิปปงบูโดกัง (Nippon Budokan) หรืออาคารศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชิโยดะ ใจกลางกรุงโตเกียวเช่นเดียวกัน ที่นี้เป็นสนามกีฬาในร่มที่สร้างเอาไว้เพื่อการฝึกฝนและแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มวยสากล, คาราเต้, ยูโด ฯลฯ ใช้ทุนสร้างกว่าสองพันล้านเยน
เริ่มต้นจากใช้แข่งขึนกีฬายูโดในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 18 ตามมาด้วยโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 รวมถึงเคยใช้ในการแข่งขันมวยสากลนัดบันลือโลกระหว่าง ยูริ อาร์บาชาค็อฟ พบ ฉัตรชัย สาสะกุล, วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น กับ โฮซูมิ ฮาเซงาวะ นอกจากนี้ใช้จัดการแสดงต่างๆ ด้วย โดยสามารถจุผู้เข้าชมได้ถึง 14,471 คน เป็นอีกที่ที่ต้องไปเช็กอินเมื่อมาเที่ยวโตเกียว
พิกัด นิปปงบูโดกัง (Nippon Budokan)
ที่อยู่ | 2-3 Kitanomaru Park, Chiyoda-ku, Tokyo |
วิธีเดินทาง | สามารถขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Toei Shinjuku, Tokyo Metro Tozai หรือ สาย Hanzomon จากนั้นเดินต่อ 2 นาทีจากทางออกที่ 5 |
เวลาทำการ | 9.30-17.30 น. |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | https://www.nipponbudokan.or.jp/ |
3. สวนคิตะโนะมารุ (Kitanomaru Park)
ในส่วนของสวนคิตะโนะมารุ (Kitanomaru Park) นั้น จะอยู่ติดกันกับพระราชวังอิมพีเรียล หรือฝั่งตรงข้ามของสวนจิโดริกะฟุจิ ความน่าสนใจของสวนแห่งนี้ก็คือการชมดอกซากุระบานในช่วงเดือนมีนาคม และช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม
สวนนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1969 เคยถูกใช้เป็นที่พักของกองกำลังปลดประจำการก่อนจะบูรณะให้เป็นสวนป่าที่กว้างใหญ่และร่มรื่น ถือเป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยมของคนโตเกียวทุกเพศทุกวัย รวมถึงคู่รัก ครอบครัว และนักท่องเที่ยวจากต่างชาติอีกด้วย
พิกัด สวนคิตะโนะมารุ (Kitanomaru Park)
ที่อยู่ | Tokyo Chiyoda-ku Kitanomarukouen 1-1 พื้นที่ พระราชวังอิมพีเรียล / มารุโนะอุจิ |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toei Shinjuku, สาย Hanzomon หรือสาย Tokyo Metro Tozai ลงที่สถานี Kudanshita ทางออก 2 จากนั้นเดินต่อราว 5 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตลอดเวลา |
ค่าเข้าชม | ไม่เสียค่าเข้าชม |
Website | – |
สรุป
และทั้งหมดนี่ก็คือความน่าสนใจของศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ศาลเจ้าสำคัญของโตเกียวและประเทศญี่ปุ่น ที่ผู้มาเยือนหรือนักท่องเที่ยวต้องนำเอาเข้าลิสต์สถานที่ที่ต้องเช็กอิน ซึ่งนอกจากตัวศาลเจ้าแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ อยู่โดยรอบไม่ว่าจะเป็น สวนคิตะโนะมารุ, นิปปงบูโดกัง, สวนจิโดริกะฟุจิ และ พิพิธภัณฑ์ยูชูคัง
ใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นลองนำไปพิจารณาดูเพราะนอกจากสถานที่ที่เราแนะนำแล้วยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ที่พักสวยๆ รวมถึงเทคโนโลยีอันทันสมัย ไม่เสียชื่อประเทศแห่งนวัตกรรมแถวหน้าของโลกอย่างแน่นอน
อ่านบทความที่น่าสนใจ
เที่ยวโตเกียวอย่างมือโปร รวมไฮไลท์เด็ดและวิธีการเดินทาง บอกละเอียด ไม่มีหลง
ที่เที่ยว โตเกียว (Tokyo) 12 ย่านดัง และ 17 ที่เที่ยวแนะนำอัพเดทใหม่ 2023 ที่ไหนมีอะไรเด็ด ข้อมูลครบทุกพิกัดเช็คอิน
โตเกียว เมืองยอดฮิตติดชาร์ตเที่ยวญี่ปุ่นตลอดกาล มีที่เที่ยวและกิจกรรมครบรสหลากสีสัน ไปกี่ครั้งก็ยังไปซ้ำได้ไม่มีเบื่อ