สุดยอด พาสญี่ปุ่น สุดประหยัดแห่งปี YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS เที่ยวยาว 4 วัน จากโตเกียว-ฟุคุชิมะ-ไอสุ แบบคุ้มสุดคุ้ม

ไม่มีการเดินทางครั้งไหนที่ไปเที่ยวภูมิภาคไอสุ จ.ฟุคุชิมะแล้วจะคุ้มกว่านี้อีกแล้ว เพราะครั้งนี้เรามีเพื่อนคู่ใจที่จะพาเราออกเดินทางท่องเที่ยวจากโตเกียวไปยังดินแดนประวัติศาสตร์แห่งซามูไรจะเป็นที่ไหนไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ไอสุ ส่วนพาสที่ทำให้รู้สึกคุ้มมากๆ ที่ใช้ครั้งนี้ก็คือพาส YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS

ความพิเศษของ YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS สำหรับทริปนี้ คือเดินทางจากอาซากุสะไปจนถึงคิตาคาตะ +รถไฟโลคอล Aizu line +ส่วนลดค่าเข้าสถานที่ต่างๆ โดยที่พาสมีอายุถึง 4 วัน ว้าววว สถานที่ๆใช้พาสนี้ลดค่าเข้า เช่น The Aizu Bukeyashiki , Aizu Clan School Nisshinkan เป็นต้น ส่วนตั๋วด่วนพิเศษแบบสำรองที่นั่งต้องแยกซื้อต่างหากนะ

แต่เราเลือกการเดินทางด้วยรถไฟจากโตเกียวสกายทรี – ไอสุ – อาซาคุสะ และอยู่เที่ยว 4 วัน ด้วยพาสในราคาแค่ 7390 เยนเท่านั้นเอง! ว้าว

อ่านรายละเอียดการซื้อพาสเพิ่มเติม ที่นี่

การใช้พาส

– ใช้ยื่นเข้าออกทุกสถานีรถไฟที่กำหนดตามพาส โดยยื่นที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้ง

– วันจบพาสวันที่ 4 ตอนขาออก เจ้าหน้าที่จะเก็บพาสเราไป

วันที่ 1 : ขึ้นชมวิวเมืองที่โตเกียวสกายทรี -เดินเล่นห้าง Solamachi – เดินทางสู่ Aizu – เข้าที่พัก Aizu Astrea Hotel – เล่นสโนว์บอร์ด

โตเกียวสกายทรี

ถ้ามีเวลาก่อนขึ้นรถไฟสักหน่อย มาชมวิวกันที่โตเกียวสกายทรีกันก่อนดีกว่า ภาพบ้านเมืองที่มองลงมาจากด้านบนนั้นสวยจนดูได้ไม่เบื่อ

มีร้านเครื่องดื่มที่ชั้นนี้ด้วย เลือกเครื่องดื่มแก้วโปรดและนั่งชมวิวไปด้วย…คือที่สุดของวิวยามเช้า

ชั้นแรกที่เราจะขึ้นมาชมวิวคือ ชั้นที่มีความสูง 350 m จากบนนี้ จะเห็นบ้านเรือนในโตเกียวได้อย่างชัดแจ๋วเลย มองไกลลิบๆ นั่นคือ ภูเขาฟูจิ

จากนั้นไปชมวิวที่ชั้นที่มีความสูง 450 m กันต่อ ยิ่งสูงวิวก็ยิ่งสวยตาม ซึ่งที่นี่ในวันที่อากาศดีจะสามารถเห็นภูเขาฟูจิได้อย่างชัดเจนเลย

Tokyo Sky Tree

ที่อยู่	1-1-2 Oshiage, Sumida, Tokyo 131-0045
วิธีเดินทาง	ลงที่สถานี Oshiage Station โดยรถไฟสาย Hanzomon Line (รถไฟใต้ดิน) / ลงที่สถานี Tokyo Skytree โดยรถไฟสาย Tobu Skytree Line / ตรวจเช็คเส้นทางอื่นได้จาก ที่นี่
เวลาทำการ	8.00 น. – 22.00 น.
ราคา	ราคาตั๋ว มีทั้งราคาวันธรรมดาและวันหยุดและแยกดังนี้ : ขั้นไปทั้งชั้น 350 + ชั้น 450 / ขึ้นไปเฉพาะชั้น 350

ห้าง Solamachi

ออกจากโตเกียวสกายทรีแล้ว สามารถมาเดินเล่นห้าง Solamachi ที่อยู่ติดกันต่อเลย สะดวกสบายจริงๆ

ใครอยากลองทานเบนโตะบนรถไฟก็ได้นะสามารถแวะซื้อเบนโตะด้านในห้างเพื่อไปทานบนรถไฟกันเพราะมีเวลาเดินทางเกือบสามชั่วโมง และถ้าออกมาเดินเล่นชมวิวโตเกียวสกายทรีด้านนอกสักหน่อย ด้านนอกจะเห็นต้นซากุระฟูลบลูมสีชมพู ปกติพันธุ์นี้บานช่วงหน้าหนาวในปลายกุมภาพันธ์

Solamachi

ที่อยู่	1-1-2 Oshiage, Sumida, Tokyo 131-0045
วิธีเดินทาง	10:00 น. – 21:00 น. (ร้านอาหารจะมีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกัน)
Facebook	tokyo-solamachi

เดินทางสู่ Aizu

ที่สถานี Tokyo sky tree เข้าเกทด้วยการยื่นตั๋วพาสให้พนักงานดูนะ แล้วยืน รอรถไฟตามเวลาเดี๋ยวรถไฟจะมาจอดเทียบแบบนี้

ภายในรถไฟขบวน Riverty เบาะสวย สะอาด มีประกาศภาษาอังกฤษ มีห้องน้ำและมี Free Wifi

เราลงรถไฟที่สถานี Aizu kogen ozeguchi ด้านล่างจะมีลานจอดรถรับส่งของโรงแรมต่างๆ และ shuttle bus ที่จะมาจอดรับแขกที่ได้นัดจองเวลารถไว้ (กรุณาสำรองที่นั่งกับโรงแรมล่วงหน้า)

โรงแรม Aizu Astrea

จากนั้นเดินทางต่อไปยังโรงแรม Aizu Astrea ที่นี่เป็นโรงแรมสำหรับผู้ที่ชอบการเล่นสกี สโนว์บอร์ดและชอบเล่นหิมะ มีจุดเช่าอุปกรณ์ ชุด ที่ในโรงแรมเลย ค่าลิฟต์สกีของที่นี่ถือว่าราคาไม่แพงมาก ที่นี่มีลานกว้างมากๆ และไม่ชันมาก ผู้เล่นมือใหม่ก็มาเล่นได้ เพราะมีโรงเรียนสอนสกีด้วย ลานสกีวิวสวยมาก

Aizu Astraea Hotel

ที่อยู่	535 takatsuehara, Minamiaizugun Minamiaizumachi, Fukushima 967-0315
วิธีเดินทาง	มีบริการรถบัสรับ-ส่งฟรีจากสถานี Aizu Kogen Ozeguchi
Facebook	aizu-kougen

วันที่ 2 นั่งสโนว์โมบิลขึ้นเขาสูง ชมวิว – ออกจากโรงแรม – ไปชมผาหินล้านปี Tonohetsuri – ทานเบอร์เกอร์ชื่อดัง- เดินเล่นเมืองโบราณ Ouchijuku – แช่ออนเซ็นเท้า – เข้าพักเรียวกังสวย Ookawaso และชมดนตรีชามิเซ็น

กิจกรรมเช้าวันนี้ คือการนั่งสโนว์โมบิลไปด้านบนเขาเพื่อถ่ายภาพวิวสวยๆ (กิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณหิมะในช่วงนั้นด้วยนะ)

ทานอาหารเช้าแล้วเดินทางต่อด้วยรถรับส่งฟรีของโรงแรมหรือใครอยากออกแต่เช้าตรู่ก็ให้โรงแรมเรียกรถแท็กซี่ให้ก่อนตั้งแต่ตอนวันเช็คอินเลย ค่าแท็กซี่ไปสถานี Aizu Kogen Ozeguchi 6000-7000 เยน

จากนั้นเราก็ให้รถของทางโรงแรมขับมาส่งที่สถานีรถไฟ นั่งมาลงที่สถานี Tajima แล้วเปลี่ยนขบวนเป็น Aizu line

ไปลงที่สถานี Tonohetsuri โดยที่เรายังใช้ YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS เหมือนเดิม สถานี Tonohetsuri เป็นสถานีที่เล็กมากและไม่มีนายสถานี ด้านในนี้เปิดเข้าไปมีล็อกเกอร์ ฝากสัมภาระ กระเป๋าใบใหญ่ได้นะ แล้วค่อยออกเที่ยวก็ได้

ผาหินล้านปี Tonohetsuri

รูปสะพานกับผาหินล้านปีชื่อดังที่ธรรมชาติสร้างขึ้น สายลมและเกลียวคลื่นกัดเซาะเป็นเวลายาวนานจนกลายเป็นสถาปัตยกรรมทางธรรมชาติที่งดงามขนาดนี้

Tonohetsuri

ที่อยู่	Shitabayashi, Yagoshima, Minamiaizugun Shimogomachi, Fukushima 969-5204
Website	shimogo

ร้าน Country kitchen Doronko

จากนั้นเราข้ามมาอีกฝั่งสถานีรถไฟ ขึ้นไปทางถนนใหญ่ ร้านที่เราจะไปทาน เป็นร้านเบอร์เกอร์ที่ค่อนข้างแปลก เพราะเป็นเบอร์เกอร์สีดำ ด้านนอกร้านมองมาจะเห็นเป็นแนวคันทรี่ น่ารักๆ คือร้าน Country kitchen Doronko เซ็ทนี้ ราคา 950 เยน

Country kitchen Doronko

ที่อยู่	3299-1 Michiue Yagoshima, Minamiaizugun Shimogomachi, Fukushima 969-5204
เวลาทำการ	11.00 น. – 15.00 น.(วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุด เปิดถึง 16.00น.)
Facebook	kitchen.doronko

หมู่บ้านโบราณโออุจิจุกุ- Ouchijuku

จากนั้นนั่งรถไฟไปเที่ยวต่อ โดยคราวนี้เราแวะที่สถานี Yunokami onsen เพื่อนั่งรถบัส 1000 เยน (ตั๋วไป-กลับ) เพื่อไปเที่ยวหมู่บ้านโบราณโออุจิจุกุ ตั๋วรถบัสนี้ซื้อตอนขึ้นรถได้เลยจ้า

ลงรถบัสแล้วเดินเที่ยวต่อ (ขากลับก็ข้ามมายืนรอบัสอีกฝั่ง) ที่นี่เป็นวิวทิวทัศน์แบบยุคเอโดะเลยนะ ช่วงหลังๆ จะเห็นวัยรุ่นก็มาเดินหมู่บ้านโออุจิจุกุเยอะขึ้นด้วย อาจเป็นเพราะความงามของที่นี่บวกกับเอกลักษณ์ที่ดีงาม รวมถึงการเดินทางที่ง่ายมากขึ้น

ร้านงานฝีมือที่นี่มีแต่ของน่ารักจริงๆ ช่างเป็นงานฝีมือที่น่าชื่นชม

Ouchijuku

ที่อยู่	Ouchi Yamamoto, Minamiaizugun Shimogomachi, Fukushima 969-5207
เวลาทำการ	9.00 น.- 17.00 น.
โทรศัพท์	0241−68−3611 (Ouchi-juku Tourist Association)
Website	ouchi-juku

สถานี Yunokami Onsen

ได้เวลาเดินทางต่อละ ขึ้นรถบัสกลับมาสถานี Yunokami onsen ตามเดิม ถ้าใครพอมีเวลาก่อนรถไฟจะมา มานั่งแช่เท้าที่บ่อออนเซ็นดีกว่า

เช็คตารางรถบัสอัพเดท ไป-กลับ จากสถานี Yunokami onsen -หมู่บ้านโออุจิจุกุ และการเดินทางอื่นๆได้ ที่นี่ มีไปวันละ 6 รอบ

大内宿入口　- Ouchijuku Entrance

湯野上温泉駅　- Yunokami Onsen Station

Yunokami Onsen Station (Aizu Railway Aizu Line）

ที่อยู่	Oshima, Yunokami, Minamiaizugun Shimogomachi, Fukushima, 969-5206
วิธีเดินทาง	มันจะใช้เวลา 10 นาทีเพื่อเดินจากสถานีเกียวโต
เวลาทำการ	เวลาทำการเจ้าหน้าที่ 8:30-17:00
Website	aizutetsudo

เรียวกังโอคาวาโซ – Ookawaso

ขึ้นรถไฟต่อเพื่อไปพักที่เรียวกังชื่อดังแห่งย่านบ่อน้ำพุร้อนอาชิโนะมากิ ออนเซ็น ที่เรียวกัง โอคาวาโซ ( Ookawaso ) เป็นเรียวกังที่ใหญ่มากและสิ่งที่ทำให้ต้องมาพักที่นี่คือได้ชมการแสดงดนตรีสดชามิเซ็นที่หาชมได้ยาก รวมถึงอยากแช่ออนเซ็นแบบกลางแจ้งของที่นี่ การแสดงดนตรีชามิเซ็นนั้น มีทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00 น.-18.00 น.

ห้องมื้ออาหารค่ำที่สุดแสนอลังการมาก บุฟเฟต์ที่โอคาวาโซนี้คัดแต่ของอร่อยจริงๆ โดยเฉพาะเนื้อสเต็กที่ขึ้นชื่อลือชามาก และซูชิเนื้อม้าที่ไม่ควรพลาด

เราสามารถเลือกตอนจองได้ว่าอยากทานแบบบุฟเฟต์หรืออาหารชุดไคเซกิ และนี่คือชุดไคเซกิของโอคาวาโซที่จัดมาเสิร์ฟด้วยความปราณีตทุกขั้นตอนการปรุง

ห้องนี้คือ Yoimachitei Standard Room กว้างมาก หน้าหนาวมีโต๊ะแบบญี่ปุ่นให้หย่อนขา ใต้โต๊ะจะอุ่น นั่งจิบชาร้อนๆ ชมวิวนอกหน้าต่างและด้านล่างเป็นแม่น้ำโอกาวะ

ห้องอาหารเช้าเปิด 07:00 น. – 09:00 น. หากใครห่วงเรื่องการเดินทาง ทางโรงแรมมีบริการรับส่งฟรี ที่สถานี Aizuwakamatsu ในเวลา 10:00 น. ทานข้าวแล้วเดินทางต่อ

Ookawaso

ที่อยู่	984, Shimodaira, Otomachiashinomaki, Aizuwakamatsu, Fukushima 969-5147
วิธีเดินทาง	มี Free Shuttle Bus ไปรับจากสถานี Aizuwakamatsu(รอบ 15.30น.) และ สถานี Ashinomaki Onsen( กี่โมงก็ได้) โปรดติดต่อจองล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 1 วันก่อนวันเช็คอิน
Website	ookawaso
Facebook	ookawaso

วันที่ 3 : เที่ยวชมปราสาทสึรุกะ – มื้อเที่ยงชิมซอสคัตสึด้ง อาหารขึ้นชื่อของเมือง – บ่ายจิบกาแฟ ทานขนมญี่ปุ่น – เดินช้อปปิ้งย่านเก่าแก่ Nanokamachi – เข้าพักที่ Shousuke no Yado Takinoyu

ปราสาทสึรุกะ- Tsuruga Castle

จากนั้น ฝากกระเป๋าที่ล็อกเกอร์ในสถานีแล้วเที่ยวในเมืองต่อ ซื้อ Free pass ราคา 600 เยน สำหรับ นั่ง รถ Aizu loop bus ที่หน้าสถานีก่อน แล้วขึ้นรถบัสเที่ยวเมืองได้ทั้งวันไม่จำกัดรอบ

ปราสาทสึรุกะ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดหนึ่งในร้อยปราสาทของญี่ปุ่น ของจริงสวยงามมาก

Tsuruga Castle

ที่อยู่	1-1 Otemachi, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0873
วิธีเดินทาง	Aizu Loop Bus ลงที่ป้าย Tsurugajo Iriguchi
เวลาทำการ	8.30 น. – 17.00 น.
ราคา	ผู้ใหญ่ 410 เยน (ถ้ารวมชงชาด้วย 520 เยน) เด็ก 150 เยน
Website	tsurugajo

ร้าน Nakajima

สำหรับมื้อเที่ยงนี้ ไปกันที่ร้าน Nakajima ตัวร้านจะเป็นตึกแบบนี้ แต่จุดสังเกตคือผ้าม่านสีคราม เข้าไปแล้วจะมีแผ่นกระดาษให้เขียนชื่อจองคิวก่อน เขียนภาษาอังกฤษเอาสั้นๆ ก็ได้ แล้วรอเวลาเค้าเรียก ซอสคัตสึด้ง เป็นเมนูหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดแล้วราดซอสแบบสูตรของไอสุเฉพาะของร้านนี้เท่านั้น

Nakajima

ที่อยู่	2-39 Uwamachi, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0034
วิธีเดินทาง	นั่งรถ Aizu Loop Bus ลงป้าย Aizuwakamatsu Shiyakusho-mae
เวลาทำการ	11.00 น. -14.30 น. และ 17.30 น. -20.00 น. / วันหยุด วันอังคาร ( *วันจันทร์ หยุดช่วงค่ำ)
ราคา	1100 เยน – 1800 เยน
Facebook	nakanoshima-aizu

ร้าน Mochi Cafe Yui

ช่วงบ่าย เดินเล่นออกกำลังกายกันต่อที่ถนน Nanukamachi นอกจากจะใช้เวลาดูของฝากแบบพื้นเมืองแล้ว เรายังแวะดื่มกาแฟที่ร้านนานุกะมาจิซาโบยูอิก่อน

ร้านนี้ มีเมนูเครื่องดื่ม ขนมหวานญี่ปุ่นและอาหารเป็นแบบใส่โมจิที่เป็นแป้งนุ่มๆ และเต้าหู้ เราลองสั่งเมนูของหวานมา เรียกว่า Oshiruko set (รวมเครื่องดื่ม) ราคา 748 เยน ที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษด้วยนะ

Mochi Cafe Yui

ที่อยู่	Nanukamachi Sabou Yui, 1-28 , Nanokamachi, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0044
เวลาทำการ	10.00 น. – 17.00 น. / วันหยุด วันอังคาร
Website	mochicafe-yui
Facebook	mochi.cafe.yui

ย่านเก่าแก่ Nanokamachi

เดินเล่นมาเรื่อยจนถึงป้าย Nanokamachi Ekimae ที่นี่จะมีบริการห้องน้ำ เป็นสถานีรถไฟ และเป็นป้ายรถบัส ด้านในมีสินค้าพื้นเมืองที่ระลึกจำหน่าย

Nanokamachi street

ที่อยู่	5-1 Nanokamachi, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0044
วิธีเดินทาง	Aizu Loop Bus

โรงแรม Shousuke no Yado Takinoyu

เรียวกังคืนนี้ของเรา อยู่ที่โซน Higashiyama onsen ชื่อโรงแรม Shousuke no Yado Takinoyu เป็นโรงแรมที่ใหญ่มากๆ และอยู่ติดกับลำธารที่ได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดคืน

อาหารค่ำของโรงแรมที่จัดวางให้แขกตามโต๊ะ ก่อนทานพนักงานจะอธิบายอาหารแต่ละเมนูว่ามาจากแหล่งไหน

กิจกรรมยามค่ำของโรงแรมนี้ คือการเล่าเรื่องแบบนิทานโดยหญิงสูงวัย ถึงแม้เราฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แต่ด้วยน้ำเสียงและภาพจากฝั่งภูเขาตรงข้ามทำให้เราเข้าใจเรื่องราวได้นะ

วิวยามเช้าของโรงแรม ตื่นมาด้วยความสดชื่น

ที่นี่ยังมีการแสดงตำโมจิที่ห้องอาหารเช้าด้วยจ้า ต้องขอลองประสบการณ์ซะแล้ว ตำไปสองสามที ยอมรับว่ายากจริงๆ แต่สนุกนะ

Shousuke no Yado Takinoyu

ที่อยู่	108 Yumoto Takinoyu, Higashiyama, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0814
วิธีเดินทาง	นั่งรถบัส Aizu Loop Bus (Akabe bus ลงที่ป้าย A15, Haikara-san ลงที่ป้าย H 28 ชื่อป้าย Higashiyama Onsen Iriguchi Takinoyu-mae) ค่าโดยสาร 210 เยน/รอบ
Facebook	hpdsp.jp

เที่ยวเมือง Kitakata – ชมโกดังเก่าแก่ เก็บวัตถุโบราณที่ Kurano Sato – ชิมคิตาคาตะราเมงชื่อดัง ที่ร้าน kurukuru-ken – ชิมสาเกฟรี พร้อมชมการผลิตสาเกอย่างใกล้ชิดที่ Ohara Sake – เดินทางกลับโตเกียว – ถึงสถานีโทบุอาซาคุสะ

สถานี Kitakata

เช้านี้จะเที่ยวกันต่อด้วยพาส YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS เหมือนเดิม เพื่อมุ่งหน้าไปเที่ยวเมือง Kitakata กัน สถานีนี้ สร้างด้วยอิฐสีสวยงาม

Kitakata Kura no Sato ( 喜多方　蔵の里 )

ทริปแรกคือไปเยี่ยมชมโกดังโบราณและแหล่งสะสมของเก่าแก่ เรียกว่า Kurano Sato (蔵の里) ในยุคสมัยเอโดะ ที่นี่เคยเจริญรุ่งเรืองเป็นศูนย์กลางการจัดจำหน่ายเสบียงและเป็นเมืองบนทางหลวงที่เชื่อมต่อปราสาท Aizu-Wakamatsu และ Yonezawa เมือง Kitakata

เป็นการอนุรักษ์เพื่อส่งต่อวัฒนธรรมสู่รุ่นต่อไปในอนาคต มีของใช้แบบภูมิปัญญาโบราณและด้านในมีก่อกองไฟแบบยุคเก่า น่ามาเยี่ยมชมสักครั้ง

Kitakata Kura no Sato ( 喜多方　蔵の里 )

ที่อยู่	2-109 Oshikiri, Kitakata, Fukushima 966-0094
เวลาทำการ	9.00 น. – 17.00 น.(ปิดรับ 16.30 น.) / วันหยุด 29 ธันวาคม – 1 มกราคม
ราคา	ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก(ประถม ม.ต้น ม.ปลาย) 200 เยน
Website	furusatosinkou

Kuru Kuru Ken (くるくる軒)

จากนั้นเราไปชิมความอิ่มอร่อยในระดับต้นฉบับตำนานราเมงเมืองคิตาคาตะกันที่ร้าน kurukuru-ken ร้านที่คนท้องถิ่นแวะเวียนมาไม่ขาดสาย และบอกเล่ากันมาว่าอร่อยจริงๆ
เมนูภาษาญี่ปุ่น แต่มีให้เลือกเช่น
แบบน้ำซุปโชยุ(น้ำใส)
⁃ โชยุ ราเมง
⁃ โชยุ ชาชูเมง
⁃ โชยุ เนกิ ราเมง(ใส่ต้นหอมซอย)
⁃ โชยุ โมยาชิ ราเมง (ใส่ถั่วงอกเยอะ)
แบบน้ำซุปข้นมิโสะ
⁃ มิโสะราเมง
⁃ มิโสะชาชูเมง
⁃ มิโสะ ตันเมน (เน้นผักรวม)
ชาฮั่ง หรือ ข้าวผัด

Kuru Kuru Ken (くるくる軒)

ที่อยู่	7364-2 Oshimizu minami, Kitakata, Fukushima 966-0825
วิธีเดินทาง	จากสถานี Kitakata เดิน 10 นาที
เวลาทำการ	อังคาร – ศุกร์ 11.00 น.-15.00 น. และ 17.00 น.-20.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 11.00 น. – 20.00 น. / วันหยุด วันจันทร์
ราคา	650 – 999 เยน
โทรศัพท์	0241-22-3896

โรงผลิตสาเก Ohara (小原酒造)

อิ่มแล้วเดินต่อไปชิมสาเก (เหล้า) กันที่โรงงานผลิตเหล้าสาเกพร้อมชมการผลิต ที่ Ohara Sake คือที่นี่จะเปิดเพลงคลาสสิกให้สาเกฟังด้วยนะ เจ้าของบอกว่า ลองทำแล้วได้ผล รสชาติอร่อยขึ้นจริงๆ

เข้ามาภายใน เป็นร้านขายของฝากซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สาเกของที่นี่ มีหลายรุ่น และผลิตออกมาใหม่ตามฤดูกาล มีสาเกให้เราลองชิมด้วย แนะนำว่าต้องลองๆ

อยากลองชิมขวดไหนบอกไปจ้า ขวดสีชมพูมีเนื้อสัมผัสเวลาดื่มด้วยนะ

ด้านหลังเป็นโรงงานผลิตสาเก คือสาเกจะทำมาจากข้าวที่ปลูกมาโดยเฉพาะเพื่อทำสาเก ที่นี่ใช้ข้าวที่สั่งมาจาก จ.เฮียวโกะ นำมาสีข้าวให้ขาวและเม็ดเล็กลง จากนั้นถึงนำมาหมัก และผ่านกระบวนการต่างๆ

มีการเปิดเพลงคลาสสิกให้สาเกฟัง เค้าบอกว่า สาเกก็คือของสด (สิ่งมีชีวิต) ฟังเพลงแล้วก็มีผลตอบรับ รสชาติดีขึ้นต่างกับทำสาเกแบบที่ไม่เปิดเพลงจริงๆ (เปิดเพลงวันละ 2 รอบ รอบละ 1 ชั่วโมง เช้าและค่ำ)

ด้านในถังหมัก (ขนาดหลายร้อยกิโลกรัม) มีภาษาอังกฤษแปะไว้ เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนมาชมขั้นตอนการผลิตบ่อยๆ

โรงผลิตสาเก Ohara (小原酒造)

ที่อยู่	2846 Minamimachi, Kitakata, Fukushima 966-0074
เวลาทำการ	9.00 น. – 17.00 น.
โทรศัพท์	0241-22-0074
Facebook (ชมคลิปการทำสาเก)	oharashuzo
Website	oharashuzo

เดินทางกลับโตเกียว

แล้วนั่งรถบัสจากป้ายใกล้ร้าน Ohara รถจะมาจอดข้างสถานี เดินมาขึ้นรถไฟเพื่อกลับคืน สถานี Aizuwakamatsu กัน

จากนั้นนั่งรถไฟสาย Aizu line จากสถานี Aizuwakamatsu (ชานชาลา 5) ไปลงสุดสายที่สถานี Tajima กันต่อ วิวในยามหิมะตกลงมาสุดแสนจะโรแมนติก

มาถึงสุดสายแล้วเปลี่ยนขบวนเป็น Riverty 148 เพื่อกลับสถานีโทบุอาซาคุสะ (สุดสาย) ด้วยพาสใบเดิมที่ถือมาตั้งแต่ 4 วันก่อน ยื่นที่เจ้าหน้าที่เหมือนเดิม คุ้มแสนคุ้ม 4 วันกับการเที่ยวในงบของค่าเดินทางสุดประหยัด กับ YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS

สรุป

YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS เป็นพาสเพื่อให้เราได้มีโอกาสออกเดินทางเที่ยวธรรมชาติแบบง่ายๆ มีค่าเดินทางไม่แพงมาก ได้พักผ่อนในสถานที่ดีๆ สวยงาม และได้ใกล้ชิดธรรมชาติมาก แถมเรายังได้ชมความงามของเมืองโตเกียวจากด้านบนหอคอยโตเกียวสกายทรีได้อย่างสะดวก เพราะสถานีรถไฟสายโทบุก็อยู่ด้านล่างเลย นับเป็นพาสที่เหมาะและคุ้มค่าแก่การเที่ยวเส้นทาง Tokyo – Aizu (ฟุคุชิมะ) มากๆ