ปัญหาเที่ยวต่างประเทศแล้วเหรียญเต็มกระเป๋านั้นเป็นเรื่องเบสิคสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเราๆ ส่วนใหญ่จึงมักแก้ปัญหาด้วยการซื้อของเล็กๆน้อยๆไปให้เหลือเหรียญน้อยที่สุด แต่นอกจากวิธีนี้เราก็มีวิธีการวางแผนการใช้เหรียญอื่นๆมาแนะนำ เพื่อให้คุณได้กลับบ้านแบบตัวปลิว และเบาที่สุด
ระหว่างทริปให้ใช้เหรียญชำระเงิน
เข้าใจว่าช่วงวันแรกๆใครก็อยากแตกแบงค์ใหญ่ พกแบงค์ย่อยและเหรียญไว้เยอะๆ เพื่อที่จะได้ชำระเงินง่ายๆ แบ่งเงินเป็นสัดเป็นส่วน แต่ยิ่งหลายวันเข้า เหรียญชักเริ่มจะเยอะกว่าแบงค์ซะงั้น แนะนำว่าช่วงปลายๆทริปใกล้วันจะกลับ ควรเริ่มวางแผนการใช้เหรียญเพื่อกระจายเหรียญออกไปให้ได้มากที่สุด สิ่งของบางอย่างที่มีราคาไม่ถึง 1,000 เยน ก็ใช้เหรียญจ่าย ไม่ว่าจะหยอดตู้ซื้อน้ำ 100 กว่าเยน ซื้อของกินในมินิมาร์ท หรือจะหยอดกาชาปองก็ลองควานๆหาเหรียญดูก่อนจะตัดสินใจใช้แบงค์ จะได้ไม่หนักกระเป๋าขากลับจ้าาาา
เติมบัตร IC ที่มินิมาร์ท
หากใครพกบัตร IC Card เพื่อใช้จับจ่ายซื้อสินค้า ขึ้นรถบัสรถไฟ ก็รู้กันอยู่แล้วว่าบัตรแทนเงินสดนี้เมื่อเงินในบัตรใกล้หมดก็ต้องเติมเงินเข้าบัตรอยู่เรื่อยๆ นอกจากจะเติมเงินได้ที่เครื่องซื้อบัตรตามสถานีรถไฟแล้ว ก็สามารถเติมได้ที่เคาท์เตอร์ที่มินิมาร์ทเช่นกัน การเติมเงินเข้าบัตรขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 เยน จังหวะนี้แหละ นับเหรียญที่มีในกระเป๋า เทลงไปให้ครบ 1,000 เยน หรือถ้ามีมากกว่านั้นก็จัดเลย นับไปให้พอ ถือว่าเคลียร์เหรียญไปได้เยอะทีเดียว ไม่ต้องเอะอะควักแบงค์ เก็บไปใช้อย่างอื่นแทนดีกว่า
ทำบุญที่วัด / ศาลเจ้า หรือบริจาค
พวกเศษเหรียญเล็กๆน้อยๆอย่าง 1 เยน 5 เยน ที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็สามารถเอาไปบริจาค หรือหยอดตามตู้ที่ศาลเจ้าและวัดได้ นอกจากนี้บางสถานที่ยังมีให้เสี่ยงโชค เสี่ยงดวงด้วยการโยนเหรียญอีกด้วย ก็ถือว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจดีเหมือนกัน หรือถ้าหากไปเจอกล่องบริจาคตามร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ก็สามารถหยอดเหรียญใส่ได้ตามศรัทธา เงินพวกนี้ที่คุณได้ร่วมบริจาคและทำบุญไปเค้าจะนำไปช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อนและด้อยโอกาส บางที่มีสำหรับเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลกด้วยนะ อย่างน้อยเงินที่คุณไม่ได้ใช้แล้วก็เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป
แลกเงินที่เครื่อง Pocket change
เครื่อง Pocket change เป็นเครื่องที่ใช้แลกเหรียญไปเป็นเงินดิจิตอล หรือ gift vouchers สำหรับเอาไว้ใช้ที่ญี่ปุ่น หรือต่างประเทศ เราสามารถเลือกได้ว่าจะเปลี่ยนเงินไปใส่บัตรแบบไหน ไม่ว่าจะเติมเงินในบัตร IC, บัตรกำนัลของ Amazon, เติมเงินให้ e-wallet ของ Rakuten, บัตร Pasmo และอื่นๆอีกมากมาย เพียงเปลี่ยนเหรียญให้เป็นบัตรใบเดียว พกง่ายๆ ไม่หนักกระเป๋าด้วย ซึ่งเครื่องนี้มีวางอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ๆ,โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า และสนามบินในญี่ปุ่น
ซื้อของที่ Duty free
ด่านสุดท้ายของการกระจาย เงินเหรียญญี่ปุ่น จ้าแม่ ใครที่ยังแบกความช้ำจากปริมาณเงินเหรียญในกระเป๋ามา ทางเลือกสุดท้ายของคุณคือที่นี่ Duty free สวรรค์แห่งนักช้อปประจำ Airport ซื้อมันเข้าไป เทให้หมดกระเป๋า ให้เคาท์เตอร์จ่ายเงินเต็มไปด้วยเสียงกรุ๊งกริ๊งของเหรียญ มีนักช้อปรุ่นใหญ่หลายคนเสนอวิธีการขจัดเงินเหรียญด้วยการจ่ายเหรียญทั้งหมดที่มี และส่วนต่างที่เหลือให้จ่ายด้วยบัตรเครดิต แบบนี้หมดแน่นอน หอบของกลับบ้านตัวปลิว ไม่หนักตัว แต่ไปปวดหัวตอนบิลบัตรเครดิตมาแทน ผ่าม !
เก็บไว้ใช้รอบต่อไป
ถึงแม้จะเรียกว่าวิธีไม่ได้ แต่ก็เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทั่วไปหลีกหนีไม่ค่อยจะพ้น ต้องมีเหรียญเล็กเหรียญน้อยติดสอยห้อยตามกลับมาทุกที แต่ไม่เป็นไร ถือซะว่าเป็นโชคชะตาที่เราต้องมาเจอกัน อยู่ด้วยกันจนกว่าจะมีทริปใหม่ ยังไงก็ต้องเอาเหรียญไปคืนที่ญี่ปุ่นให้ได้ ! บางคนเก็บไว้รอใช้ในทริปหน้า จะได้ไม่ต้องไปหาที่แตกแบงค์ แลกเหรียญใหม่ แต่พอถึงเวลาจริงๆเหรียญก็หายก่อนทุกที …
ข้อสรุป
จริงๆแล้วการมี เงินเหรียญญี่ปุ่น ติดตัวก็ไม่ได้ทำให้ลำบากอะไรขนาดนั้น และไม่อยากให้คุณโฟกัสเรื่องการใช้เหรียญจนเที่ยวไม่สนุก แต่ถ้ากลัวว่าเหรียญจะเหลือเยอะเกินไปก็ทยอยใช้เท่าที่มีโอกาส เหลือกลับมานิดๆก็ไม่เป็นไร หรือจะหยอดตามตู้บริจาคก็ได้ สิ่งสำคัญของทริปก็คือ เที่ยวให้เต็มที่ ช้อปดิวตี้ฟรีให้เงินหมด !