ตม ญี่ปุ่น ถามอะไรบ้าง พร้อมทริกการฟัง และตอบคำถามได้แม้ไม่เก่งภาษา

06/10/2019 (อัพเดทเมื่อ 16/06/2021)
หลายคนที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หรือคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ อาจกังวลกับการตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น อันเป็นด่านแรกที่เราต้องเจอหลังจากลงเครื่อง หลายคนกลัวไม่ผ่าน อดเที่ยว กลัวฟังไม่เข้าใจ และสื่อสารกันไม่ได้ ฯลฯ

วันนี้ชิลล์ชิลล์เจแปนจะพาคุณไปเตรียมตัวติวเข้มก่อนเดินทางด้วยการรวบรวมข้อมูลว่า ตม ญี่ปุ่น ถามอะไรบ้าง แล้วนักท่องเที่ยวอย่างเราจะต้องตอบอะไรบ้าง พร้อมตัวอย่างประโยคคำถามและคำตอบ นอกจากนี้ยังแนะนำทริคการจับ คำถาม ตม ญี่ปุ่น ด้วยคีย์เวิร์ด เพื่อให้เราตอบได้อย่างตรงคำถาม แม้ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากก็สื่อสารกันเข้าใจแบบไร้กังวลแน่นอน

การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น

ตม. ญี่ปุ่น Cr: immi-moj.go.jp

เมื่อลงเครื่องบินด่านแรกที่นักท่องเที่ยวต้องเจอที่สนามบินคือการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งขึ้นตอนการผ่านด่านนี้นักท่องเที่ยวจำต้องทำการกรอกแบบฟอร์ม

กรอกใบตม. ญี่ปุ่น

อัพเดท 2019 กรอกใบตม. ญี่ปุ่น ง่ายๆ พร้อมรายละเอียดที่ควรทราบ

หลายคนที่กำลังเตรียมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรกอาจมีคำถามเดี่ยวกับการ กรอกใบตม. ญี่ปุ่น วันนี้เราจึงจัดเต็มข้อมูลให้คุณ อัพเดทสำหรับปี 2019!

ขั้นตอนต่อไปจะต้องทำการสแกนลายนิ้วมือ จากนั้นก็ยื่นเอกสารตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับพาสปอร์ตให้กับเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนนี้นี่แหละที่จะมีการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทาง ซึ่งการจะถามมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่จะวินิจฉัยว่านักท่องเที่ยวแต่ละคน ดูเป็นนักท่องเที่ยวปกติ หรือเข้าข่ายน่าสงสัยใดหรือไม่

ผ่าน ตม. ญี่ปุ่น

เคล็ดลับ ผ่าน ตม ญี่ปุ่น แบบฉลุย ชิลล์ได้แม้ไปครั้งแรก

ผ่าน ตม ญี่ปุ่น ยากไหม เป็นคำถามที่ได้รับจากเพื่อนๆ หลายๆ คนที่กำลังจะเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรก โดยเฉพาะผู้ที่มีพาสปอร์ต ใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศหรือที่เรียกว่าพาสปอร์ตขาว วันนี้เราเลยรวบรวมข้อมูลมาไขข้อสงสัย

ตม ญี่ปุ่น ถามอะไรบ้าง

ตม ญี่ปุ่น ถามอะไรบ้าง

คำถามที่ ตม. ญี่ปุ่น (รวมถึงด่านศุลการกร) จะถามกับชาวต่างชาตินั้นมักจะเป็นคำถามพื้นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น เมืองที่มาเที่ยว จำนวนวันที่อยู่ญี่ปุ่น รวมไปถึงจุดประสงค์ในการมา พูดง่ายๆ ก็ถามเหมือนใบ ตม. ที่เราได้กรอกไปก่อนหน้า

สำหรับตัวอย่างคำถามจะแบ่งออกเป็นหมวดต่างๆ ดังต่อไปนี้

มาครั้งแรกหรือเปล่า

ถาม : Is this your first time here? (มาที่นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่า)
บางครั้งคำถามอาจไม่ได้เป๊ะตามนี้ เจ้าหน้าที่อาจจะถามว่า you come to Japan for the first time? หรืออาจถามสั้นๆ แต่ใจความคือถามว่ามาที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกหรือเปล่า

ตัวอย่างคำตอบ: Yes, this is my first time. (ใช่ มาเป็นครั้งแรก) หรือตอบ Yes เฉยๆ ก็ได้
This is the third time (ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม) การตอบจำนวนครั้งไม่จำเป็นต้องแป๊ะตามแกรมม่าจะตอบ first time second time, third time ก็ได้ หรือตอบเป็นตัวเลขตามปกติที่เราจำได้เจ้าหน้าที่ก็เข้าใจ

เที่ยวที่ไหน พักที่ไหน

ถาม : Where are you staying? (คุณพักที่ไหน)

ตอบ: ชื่อโรงแรม และชื่อเมือง ถ้าคำถามมีคำว่า and the place’s address ตามมาอาจต้องเอาเอกสารเที่ยวกับที่พักให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย

ถาม : Which city do you travel to? (คุณมาเที่ยวที่เมืองไหน)

ถาม : Where you plan to go? (คุณวางแผนไว้ว่าจะมาเที่ยวที่ไหน)

ตอบ: ชื่อเมืองที่มาเที่ยว

บางครั้งเค้าอาจจะถามนำสั้นๆ ว่า Travel in tokyo? อะไรทำนองนี้ ถ้าใช่แค่ตอบ Yes ถ้าไม่ใช่ก็บอกชื่อเมืองที่คุณจะไป

จุดประสงค์ของการมา

ถาม : What’s the purpose of your visit? (จุดประสงของการมาคืออะไร)

ถาม :Why are you here? (คุณมาทำอะไรที่นี่)

ตอบ: to travel. มาท่องเที่ยว
to study. มาเรียน
to Visit Relatives/my friend. มาเยี่ยมญาติ/มาเยี่ยมเพื่อน

อยู่นานเท่าไหร่

ถาม : How long will you be staying? (คุณมาอยู่กี่วัน)

How many day are you planning to be here?

ตอบ: จำนวนวัน เช่น Seven Days (เจ็ดวัน)

ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจไม่ถามอีก หรืออยากขอดูตั๋วเครื่องบินขากับซึ่งจะถามประมาณว่า

ถาม : Show me your return ticket, please. ขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับหน่อย
ถ้าเจอคำถามประมาณนี้ก็เอาตั๋วเครื่องบินให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลย

มากับใคร

ถาม : Who are you traveling with? (คุณเดินทางมากับใคร)
Are you traveling alone? (คุณเดินทางมาคนเดียวเหรอ)

ตอบ: I’m traveling alone. หรือ I’m alone. (ฉันมาคนเดียว)
กรณีมากับเพื่อนอาจตอบว่า I’m traveling with my friend. (อาจบอกว่ากี่คนด้วย)
หากมากับครอบครัวให้ตอบว่า I’m traveling with my family.

คำถามอื่นๆ

ถาม : What do you do? (คุณมีอาชีพอะไร)

ตอบ : ตอบอาชีพที่ทำ เช่น

  • Employee ลูกจ้าง/พนักงานบริษัท
  • Student นักเรียน นักศึกษา
  • business owner เจ้าของธุรกิจ
  • Doctor หมอ

  • การฟังคำถามให้เข้าใจสำหรับคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ

    Cr: shutterstock.com

    สำหรับคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ฟังไม่คล่องก็ไม่ใช้ปัญหาเพราะเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นไม่ได้ใช้ภาษาที่ซับซ้อน คำถามจะค่อนข้างเรียบง่าย การตอบคำถามนั้นเพียงฟังคำสำคัญ หรือ Keyword ในคำถาม เช่น ถ้าถามว่า Where are you staying? คำสำคัญ คือ Where(ที่ไหน) และ stay(พัก) ก็พอจะเอาได้ว่าเจ้าหน้าที่ถามถึงที่พักนั่นเอง

    หากฟังคำถามไม่ชัดก็สามารถถามให้เจ้าหน้าที่พูดอีกครั้งได้ อาจบอกว่า say again please.(กรุณาพูดอีกครั้ง) ก็ได้ แต่โดยรวมนั้นถือว่าไม่ยาก แค่ตั้งสติให้ดีๆ และเตรียมตัวให้พร้อม

    เที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่เก่งภาษาอังกฤษ รอดไหม

    ข้อสรุป

    ตม ญี่ปุ่น ถามอะไรบ้าง หลายคนพอได้ไปจริงก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ยากอย่างที่คิด แล้วยิ่งได้เช็คคำถามติวเข้มจากเราแล้วก็หวังว่าการผ่านด่านเข้าสู่ญี่ปุ่นของทุกคนจะราบรื่นนะ นอกจากการตอบคำถามเพื่อผ่านตม. การอีกสิ่งที่สำคัญคือการผ่านด่านศุลกากรซึ่งเรามีบทความที่ต้องรู้มานำเสนอด้วย

    ของห้ามเข้าญี่ปุ่น

    ตรวจเข้ม ของห้ามเข้า ญี่ปุ่น พร้อมเปิดรายการที่ต้องระวัง

    ช่วงนี้ทางญี่ปุ่นตรวจเข้มสัมภาระของนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ วันนี้เราเลยรวบรวบรายการ ของห้ามเข้า ญี่ปุ่น มาฝากกัน ใครรู้ตัวว่ามีของดังกล่าวหยิบออกจากกระเป๋าไป มั่นใจที่สุด

    Gashapond

    Blogger : Gashapond

    สาว(ไม่)น้อย ผู้รักใน การถ่ายภาพ ท่องเที่ยว ชิมของอร่อย ซอฟต์ครีม และบ้าเครื่องสำอางชนิดเสพติด ขอทำหน้าที่พาคุณเที่ยว หาโปรเด็ด ให้ทริปญี่ปุ่นของคุณสนุกสบาย ??

    504 Posts

    CCJ Hotel Search

    สถานที่เที่ยว

    | Feature

    กรณีฉุกเฉิน

    | Emergency
    • Police

      110

    • Ambulance

      119

    • AMDA International Medical Information Center

      03-6233-9266

    • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

      090-4435-7812

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

      090-1895-0987

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

      090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515