10 ที่เที่ยว ฟุกุอิ (Fukui) เมืองไดโนเสาร์ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ สถานตากอากาศ ริมทะเลสุดโรแมนติก

แนะนำ ฟุกุอิ (Fukui)

จังหวัดฟูกูอิตั้งอยู่ในภูมิภาค Chubu และภูมิภาค Hokuriku ติดฝั่งทะเลญี่ปุ่น (Nihonkai) และอ่าววากาสะ (Wakasa) รายล้อมด้วยธรรมชาติ และโอมล้อมด้วยขุนเขา เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งด้วยสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และสถานที่ท่องเที่ยวที่อบอวลด้วยกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์

การเดินทางไปยัง ฟุกุอิ (Fukui)

สนามบิน

ฟุกุอิมีสนามบินขนาดเล็ก เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจึงนิยมนั่งเครื่องบินมาลงที่โอซาก้าและต่อรถไฟ ประมาร 2 ชั่วโมงมายังที่นี่

รถไฟ

จากโตเกียว จากสถานี Tokyo -> สถานี Kanazawa -> สถานี Fukui ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
จากโอซาก้า จากสถานี Osaka -> สถานี Fukui ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

10 ที่เที่ยว ฟุกุอิ (Fukui)

ต่อไปเราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ฟุกุอิ (Fukui) ถ้าใครที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อจะมาพักผ่อนแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้มาที่นี่เพราะไม่ว่าจะเป็นที่พัก หรือสถานที่ท่องเที่ยวก็จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความสงบ และชาร์ทพลังได้อย่างเต็มที่ไปพร้อมกับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง สายลมที่โชยมา ชวนให้อบอุ่นหัวใจ นึกไปถึงบรรยากาศฤดูร้อนของญี่ปุ่นสมัยก่อนเลย

คุมากาวะ-จูคุ (Kumagawa-juku)

คุมากาวะ จูคุ เมืองเก่าซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างเขต Wakasa (วาคาสะ) กับ Kyoto (เกียวโต) หมู่บ้านเก่าแก่แปลกตาขนาดด้วยคูชลประทานที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างดีถูกขึ้นเป็นมรดกของญี่ปุ่น เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบเมืองเก่าหรืออยากจะมาถ่ายรูปสวยๆ บรรยากาศย้อนยุคแนะนำเลยให้มาที่นี่

Kumagawa-juku

ที่อยู่	Kumagawa, Wakasa, Mikatakaminaka , Fukui 919-1532
วิธีเดินทาง	นั่งรถบัสจากสถานี Kaminaka Station ไปอีก 12 นาที
โทรศัพท์	+81-770-62-2711

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไดโนเสาร์ (Fukui Dinosaur Museum)

หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ไดโนเสาร์แล้วล่ะก็ ต้องมาที่นี่ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ สงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่าแล้วทำไมต้องเป็นที่นี่ด้วย นั่นก็เพราะว่า ที่จังหวัด Fukui ได้มีการขุดค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นจำนวนมาก และยังมีการนำชื่อจังหวัดมาตั้งเป็นชื่อได้โนเสาร์อีกด้วยล่ะ นั่นก็คือ “Fukuisaurus” หรือชื่อทางการ Fukuisaurus tetoriensis และถึงแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วทุกวันนี้ที่นี่ก็ยังคงมีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์อยู่นั่นเอง

เมื่อเดินทางมาถึงที่นี่แล้วก็ต้องมาถึงประวัติศาสตร์ของไดโนเสาร์ และยังมีโครงกระดูกไดโนเสาร์จัดแสดงไว้ถึง 40 สายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่ง 2 สายพันธุ์ที่จัดโชว์อยู่นั้นก็คือ Fukuisaurus และ Fukui Rapter ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบในจังหวัดนี้ และนอกจากชมการจัดแสดงโครกระดูของไดโนเสาร์แล้ว ก็ยังมีการฉายถึงประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดของไดโนเสาร์ และยังให้คุณได้สัมผัสฟอสซิลไดโนเสาร์จริงๆ อีกด้วย

*ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรีโนเวท จะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 14 กรกฎาคม 2023

Fukui Dinosaur Museum

ที่อยู่	51-11 Terao, Muroko, Katsuyama, Fukui 911-8601
วิธีเดินทาง	นั่งรถจากสถานี Katsuyama Station ไปอีก 9 นาที
เวลาทำการ	9:00-17:00 น.
ราคา	720 เยน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
โทรศัพท์	+81-779-88-0001
Website	Fukui Dinosaur Museum

ผาโทจินโบ (Tojinbo Cliff)

หน้าผาแห่งนี้เป็นหน้าผาที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ ที่ถูกน้ำทะเลและคลื่นลมซัดเซาะ กัดกร่อนจนเกิดเป็นหน้าผาหินบะซอลต์ที่สวยงาม ซึ่งหน้าผานี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เนื่องจากหน้าผาแบบนี้นั้น มีเพียง 3 แห่งในโลก โดยหน้าผา Tojinbo มีความยาว 1 กิโลเมตร สูง 25 เมตร

นอกจากการเดินชมวิวบริเวณรอบหน้าผา ก็สามารถนั่งเรือชมความสวยงามของหน้าผาได้เช่นกัน และถ้าหากจะไปเที่ยวที่นี่ เราแนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบไป จะปลอดภัยที่สุด เนื่องจากพื้นบริเวณนั้นเป็นหินค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว

Tojinbo Cliff

ที่อยู่	1-16 Mikunichōshuku, Sakai, Fukui 913-0056
วิธีเดินทาง	นั่งรถจากสถานี Mikuniminato Station ไปอีก 9 นาที
เวลาทำการ	หอคอย Tojinbo เปิด 9:00 น.ปิด 17:00 น ในช่วงฤดูหนาวปิดเวลา 16.30 น. Tojinbo Sightseeing Boat เปิด 9:00 น.ปิด 16:00 น เดือน 11 ถึง เดือน 3 ปิดเวลา 15.30 น.
ราคา	หอคอย Tojinbo ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 300 เยน Tojinbo Sightseeing Boat ผู้ใหญ่ 1,400 เยน เด็ก 700 เยน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
โทรศัพท์	หอคอย Tojinbo +81-776-81-3700 Tojinbo Sightseeing Boat +81-776-81-3808
Website	Tojinbo Cliff

ซากโบราณสถานตระกูล อิจิโจดานิ อาซากุระ (Ichijodani Asakura Clan Ruins)

ซากเมืองปราสาทเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ยุคสงครามกลางเมืองที่ถูก ตระกูล Asakura ปกครองมามากกว่า 5 รุ่น หรือเป็นระยะเวลากว่า 103 ปี

ที่แห่งนี้ยังคงมีสิ่งก่อสร้างเก่าๆ หลงเหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่อาศัยของนักรบ, วัด, บ้านพ่อค้า, บ้านช่างฝีมือและแม้แต่ถนนก็ได้ขุดขึ้นมาเกือบสมบูรณ์ โดยรัฐาบาลได้กำหนดให้ที่นี่เเป็นสถานที่พิเศษทางประวัติศาสตร์อีกทั้งยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงาม

Ichijodani Asakura Clan Ruins

ที่อยู่	Kidonouchicho, Fukui, 910-2153, Japan
วิธีเดินทาง	นั่งรถจากสถานี Ichijodani Station ไปอีก 5 นาที
เวลาทำการ	9:00 – 17:00 น.(เข้าได้ถึง 16:30 น.)
ราคา	210 เยน สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี, ผู้พิการทางร่างกายและผู้สูงอายุเกิน 70 ปี ฟรี *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
Website	Ichijodani Asakura Clan Ruins

พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งเอชิเซ็น (Echizen Daibutsu)

Cr: chillchill-trip

Cr: chillchill-trip

สถานที่แห่งนี้เป็นพุทธสถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีพระพุทธรูปเอชิเซ็น ไดบุดสึ ที่มีความสูงถึง 17 เมตรด้วยกัน นอกจากนี้ด้านข้างยังมีพระพุทธรูปที่ใหญ่รองลงมาตามลำดับอีก 4 องค์

Cr: chillchill-trip

Cr: chillchill-trip

ยังมีพระพุทธรูปขนาดเล็กวางเรียงกันอีก 1,281 องค์ ภายในวัดยังมีเจดีย์ห้าชั้นที่มีความสูง 75 เมตร และเจดีย์แห่งนี้ยังถูกล้อมรอบด้วย คิวริวเฮย์กิ หรือรั้วหินที่ประดับด้วยภาพวาดมังกรอันงดงาม รวมถึงสวนหย่อมแบบญี่ปุ่น ทำให้ผู้คนที่มาเที่ยววัดแห่งนี้ตื่นตาตื่นใจไปกับสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ของวัดแห่งนี้อีกด้วย

Cr: chillchill-trip

Cr: chillchill-trip

Echizen Daibutsu

ที่อยู่	50-1-1 Katase, Katsuyama, Fukui 911-0811
วิธีเดินทาง	นั่งรถจากสถานี Katsuyama Station ไปอีก 9 นาที
เวลาทำการ	08:00 ถึง 17:00 (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงในช่วงฤดูหนาว)
Website	Echizen Daibutsu

ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle)

ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle) หรือที่เรียกกันอีกชื่อนึงคือปราสาทหมอกควัน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2119 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดา 12 ปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น

ที่นี่เป็นจุดชมซากุระที่สวยงาม 1 ใน 100 ของจุดชมดอกซากุระญี่ปุ่น มีซากุระประมาณ 400 ต้น

ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle)

ที่อยู่	1-59 Kasumi-cho, Maruoka-cho, Sakai city, Fukui
วิธีเดินทาง	สถานี JR Fukui→[รถบัส Keifuku Bus สาย Kenritsu Byoin Maruoka หรือสาย Owada Maruoka] ประมาณ 50 นาที→ป้าย Maruoka-jo แล้วเดิน 1 นาที
เวลาทำการ	8:30 น. – 17:00 น. (คิวเข้าชมสุดท้าย 16:30 น.)
ค่าเข้าชม	ผู้ใหญ่ 450 เยน / นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 150 เยน
Website	ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle)

หาดชิโรยามะ (Shiroyama Beach)

หาดชิโรยามะ (Shiroyama Beach) มีไฮไลต์สำคัญคือถ้ำ Meikyodo ที่นี่มีชายหาดโค้ง ทรายขาวรูปพระจันทร์เสี้ยว ชายหาดแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น

ถ้ำ Meikyodo ตรงนี้เป็นจุดชมวิวอ่าววาคาสะที่สวยที่สุดจุดหนึ่งติด 1 ใน 100 จุดชมพระอาทิตย์ตกดินของญี่ปุ่น

หาดชิโรยามะ (Shiroyama Beach)

ที่อยู่	Shiroyama Beach, Kotoshiro, Takahama, Oi District, Fukui 919-2221
วิธีเดินทาง	เดิน 15 นาทีจากสถานี Wakasa-Takahama
เวลาทำการ	เปิดทำการทุกวัน ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าเข้าชม
Website	หาดชิโรยามะ (Shiroyama Beach)

สวนนิชิยามะ (Nishiyama Park)

สวน Nishiyama ที่มีชื่อเสียงในความงามในทุกฤดูกาล ตั้งอยู่ที่เมือง Sabae ใน Fukui มีความสวยงามเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ผลิเมื่อต้นอาซาเลียหลายร้อยต้นบานสะพรั่งบนเนินเขา สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเข้าชมเป็นอย่างมาก

ที่นี่ยังมีสวนสัตว์ขนาดย่อม ที่มีแพนด้าแดงสุดน่ารักรอตอนรับคุณอยู่ หากใครชอบแพนด้าแดงแล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะมาทักทายน้องๆกันได้ที่นี่

สวนนิชิยามะ (Nishiyama Park)

ที่อยู่	Nishiyama Park, 3 Chome-8-10 Sakuramachi, Sabae, Fukui 916-0027
วิธีเดินทาง	จากสถานี Fukui นั่งรถราง Fukui Castle Ruins-daimyomachi ไปลงที่สถานี Nishiyamakoen
เวลาทำการ	เปิดทุกวัน/สวนสัตว์เปิดเวลา 9:00 – 16:30 น.
ค่าเข้าชม	ฟรี
Website	สวนนิชิยามะ (Nishiyama Park)

ทะเลสาบคุซุริว (Kuzuryu Lake)

ทะเลสาบคุซุริว (Kuzuryu Lake)เป็นอีกหนึ่งจุดชมสำหรับทิวทัศน์ภูเขาลูกใหญ่ที่จะเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงอย่างงดงาม ทะเลสาบคุซึริวเป็นทะเลสาบเทียมที่มีความสูง 128 เมตร และกว้าง 355 เมตร

คำว่า คุซุริว หมายถึง “เทพมังกรเก้าหัว” มีที่มาจากตำนานเทพมังกรเก้าหัวที่ว่ากันว่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพระรูปหนึ่งในช่วงศตวรรษที่ 9

ทะเลสาบคุซุริว (Kuzuryu Lake)

ที่อยู่	Kuzuryu Lake, Ono, Fukui 912-0212
วิธีเดินทาง	ขับรถ 15 นาทีจากสถานี JR Kuzuryuko
เวลาทำการ	ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม	ฟรี
Website	ทะเลสาบคุซุริว (Kuzuryu Lake)

วัดไดฮนซัง เอเฮจิ (Daihonzan Eihei-ji Temple)

วัด Daihonzan Eihei-ji เป็นวัดของศาสนาพุทธนิกายโซโต และเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานราว 750 ปีแล้ว ประกอบด้วยอาคารเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินเล็กๆ ซึ่งรวมถึงประตูใหญ่และหอธรรมต่างๆ รวม 7 หลัง

เป็นวัดสำคัญที่เป็นสถานปฏิบัติธรรมซึ่งมีพระภิกษุผู้ปฏิบัติจำนวนมากมาฝึกปฏิบัติกันอยู่แม้แต่ในปัจจุบัน ในปีค.ศ. 2015 ได้รับการจัดให้อยู่ในระดับสองดาวในคู่มือการท่องเที่ยวของฝรั่งเศส “Michelin Green Guide Japon” และกลายเป็นที่กล่าวถึงกันมาก

วัดไดฮนซัง เอเฮจิ (Daihonzan Eihei-ji Temple)

ที่อยู่	5-15 Shihi, Eiheiji, Yoshida District, Fukui 910-1228
วิธีเดินทาง	JR Limited Express Shirasagi (สาย 4) สถานี Nagoya – Fukui ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที ใช้ทางออกด้านตะวันออกของสถานีFukui ไปยังป้ายรถเมล์สำหรับวัดEihei สถานี Keifuku Bus Eiheiji Liner Fukui – วัดEihei ประมาณ 30
เวลาทำการ	8.30 – 17.00 น. (มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
ค่าเข้าชม	500เยน
Website	วัดไดฮนซัง เอเฮจิ (Daihonzan Eihei-ji Temple)

การเดินทางภายใน ฟุกุอิ (Fukui)

Pass ที่แนะนำใน ฟุกุอิ (Fukui)

JR Hokuriku Area Pass เป็นพาสท่องเที่ยวที่รวมการเดินทางทั้ง รถไฟ Jr และ Local สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ สามารถใช้ได้ติดต่อกัน 4 วัน ครอบคลุมการเดินทางโดยรถไฟ JR (รวมถึงรถไฟ limited express trains แบบไม่สำรองที่นั่งด้วย) ในพื้นที่ภูมิภาค Hokuriku ได้โดยไม่จำกัดครั้ง

ข้อมูลพาสเพิ่มเติม

JR-Hokuriku Area Pass

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pass ได้ที่นี่

ช่องทางการซื้อพาส

สภาพอากาศที่ต้องรู้ในฟุกุอิ

ใน Fukui ฤดูร้อนมีลักษณะ สั้น อุ่น ร้อนและไม่มีลม และมีเมฆเป็นส่วนมาก ฤดูหนาวมีลักษณะ หนาวจัด ลมแรง และมีเมฆบางส่วน โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 0°C ถึง 31°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -3°C หรือสูงกว่า 34°C

การแต่งกายที่ ฟุกุอิ (Fukui)

เนื่องจากฟุกุอิเป็นจังหวัดที่ไม่ได้หนาวเย็นมาก จึงสามารถสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ ได้ อาจจะพกแค่โค้ทหรือเสื้อคลุมเพื่อนกันหนาวหรือกันลมบ้าง แต่ถ้าหากเป็นช่วงหน้าหนาวแล้วล่ะก็ อาจจะต้องแต่งตัวหนาๆสักนิด เพื่อนๆสามารถอ่านบทความแนะนำการแต่งตัวด้านล่างนี้ได้เลย

การแต่งกายช่วงฤดูหนาว แต่งยังไงให้ดูดีลองอ่านนี่เลย

เทคนิค แต่งตัวไปญี่ปุ่นหน้าหนาว ให้อุ่นสบาย ไม่อ้วนกลม!

บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!

และสำหรับช่วงฤดูร้อน แต่งตัวสบายๆ ไม่ดูหนาเกินจริง ก็มาทางนี้เลย

แนะนำการ แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หน้าร้อน จาก 3 แบรนด์ฮิต

หน้าร้อนไม่ร้อนใจ แต่งตัวเข้ากันฤดูเที่ยวเพลิน

อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง ฟุกุอิ (Fukui)

ฟุกุอิเป็นจังหวัดที่มีอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดหลากหลายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเล

Wakasa Unagi

ปลาไหลเมืองวากาสะที่จับขึ้นมาจากทะเลสาบมิกาตะนั้น นับว่าเป็นหนึ่งในปลาไหลที่ได้ชื่อว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

Yaki Saba Sushi

Yaki Saba Sushi หรือ ซูชิปลาซาบะย่าง เป็นซูชิพื้นเมืองของจังหวัดฟุกุอิ (Fukui) แหล่งปลาซาบะที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ปลาซาบะหมักซอสย่างหอมๆ

ปูเอจิเซ็น (Fukui Prefecture)

ได้รับฉายาว่าเป็น ‘ราชาแห่งอาหารรสเลิศในฤดูหนาว’ สามารถทานแบบซาชิมิสดๆ แบบปิ้งย่าง หรือแบบชาบูหม้อไฟก็อร่อยเลิศ

ข้าวหน้าไข่และทงคัตสึราดแกงกะหรี่ (Volga Rice)

Volga Rice เป็นชื่อเรียกข้าวหน้าไข่ออนท็อปด้วยทงคัตสึ แล้วราดด้วยแกงกระหรี่

บทความท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง

สำหรับใครที่อ่านบทความนี้แล้วอยากไปเที่ยวฟุกุอิ (Fukui)ลองอ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องในการท่องเที่ยวกันเลย

ตะลุยโซนมรดกโลก ชมใบไม้เปลี่ยนสี EP5 Fukui แดนไดโนเสาร์ ผาสุดอลังการ ช๊อปแหลก นาโกย่า

อ่านบทความท่องเที่ยวที่เที่ยวข้องได้เลย

หน้าผาโทจินโบ : Tojinbo Cliffs จากตำนานอันมืดหม่นสู่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

อ่านบทความท่องเที่ยวที่เที่ยวข้องได้เลย

สรุป

ฟุกุอิ เมืองชิคๆ เล็กๆ ที่ควรค่าแก่การไปสักครั้ง เพราะทั้งบรรยากาศที่เหมือนกับเมืองท่าเล็กๆ จุดชมวิวริมทะเล ที่ให้คุณได้ลิ้มลองอาหารทะเลและซึมซับบรรยากาศชิลๆ นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่หาชมได้ยากอีกด้วย ถ้าหากใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วมีเวลา ลองแวะไปเที่ยวเมืองเล็กๆ ที่หัวใจไม่เล็กแห่งนี้ด้วยนะ