ชวนเที่ยว สวนเมริเคน “Meriken Park” ท่าเรือที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลใจกลางเมืองโกเบ

มารู้จัก “Meriken Park” กันสักนิด

Meriken Park เป็นสวนสาธารณะริมทะเลที่มีชื่อเสียงและเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านท่าเรือโกเบที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 19 ด้วยความที่โกเบเคยเป็นหนึ่งในท่าเรือหลักที่เปิดรับการค้ากับต่างประเทศ เมืองนี้จึงมีบรรยากาศที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกและญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว

ชื่อ “Meriken” นั้นมาจากคำว่า “American” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลจากต่างประเทศที่มีต่อเมืองนี้ สวนแห่งนี้เริ่มเปิดตัวในช่วงปี 1987 เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดท่าเรือโกเบครบ 120 ปี โดย Meriken Park ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและเป็นที่นิยมทั้งสำหรับชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ชวนรู้จักเมืองโกเบกันสักหน่อย 

โกเบ (Kobe) เป็นเมืองท่าเรือสำคัญในภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาร็อคโค (Mount Rokko) และทะเลเซโตะใน ทำให้โกเบมีทิวทัศน์ที่งดงามและภูมิอากาศที่สดชื่น เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองท่าที่เปิดให้มีการค้าขายกับต่างประเทศตั้งแต่ปี 1868 พร้อมกับเมืองสำคัญอื่นๆ อย่างโยโกฮาม่า ฮาโกดาเตะ และนาโกย่า เมืองโกเบเริ่มมีบทบาทสำคัญในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเมืองนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่และกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำคัญของญี่ปุ่น แต่ในปี 1995 โกเบประสบเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน-อาวาจิ (Hanshin-Awaji Earthquake) ซึ่งทำให้เมืองเสียหายอย่างมาก แต่ด้วยความแข็งแกร่งของประชาชน เมืองได้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและกลับมาเป็นศูนย์กลางของคันไซอีกครั้ง

สำหรับไฮไลท์ที่น่าสนใจ

Kobe Port Tower

หอคอยสีแดง ๆ รูปทรงเหมือนแก้วเบียร์ที่เราเห็นจนชินตาในโพสนี้นี่ละ คือ “Kobe Port Tower” หรือหอคอยท่าเรือโกเบ เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองโกเบ หอคอยสูง 108 เมตรนี้มีโครงสร้างเป็นทรงกระบอกที่บิดโค้งเล็กน้อยคล้ายกับกลองไทโกะของญี่ปุ่น อีกหนึ่งจุดเด่นของ Kobe Port Tower คือลานชมวิวแบบหมุนได้ที่ความสูง 90 เมตร ซึ่งทำให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ในมุมต่าง ๆ ของโกเบได้โดยไม่ต้องเดิน นอกจากนี้ ในเวลากลางคืนหอคอยยังส่องประกายไฟสีสันสวยงามทั่วเมือง เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวและชาวเมืองมักจะมาเพลิดเพลินไปกับแสงไฟยามค่ำคืนที่สวยงาม

Kobe Maritime Museum

Kobe Maritime Museum หรือพิพิธภัณฑ์การเดินเรือโกเบ ตั้งอยู่ในบริเวณ Meriken Park เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเดินเรือของญี่ปุ่นและการค้าทางทะเล โดยมีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การเปิดประเทศญี่ปุ่นในช่วงสมัยเอโดะ ไปจนถึงการพัฒนาท่าเรือและการขนส่งสมัยใหม่

ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเรือจำลอง โมเดลเรือขนาดต่าง ๆ และข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการเดินเรือ นอกจากนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีส่วนจัดแสดง “Kawasaki Good Times World” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท Kawasaki Heavy Industries เช่น รถไฟหัวกระสุน (ชินคันเซ็น) และมอเตอร์ไซค์ชื่อดังจาก Kawasaki

BE KOBE Monument

BE KOBE Monument เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคู่รัก จะนิยมมาถ่ายภาพสัญลักษณ์นี้เป็นคำว่า “BE KOBE” ตัวอักษรสีขาวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของ Meriken Park ประติมากรรมนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2017 เพื่อรำลึกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาวโกเบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในปี 1995

Earthquake Memorial Monument

อนุสรณ์แผ่นดินไหว (Earthquake Memorial Monument) เป็นสถานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว Hanshin-Awaji เมื่อวันที่ 17 มกราคม 1995 ที่ทำให้เมืองโกเบเสียหายอย่างรุนแรง และมีผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 คน สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณ Meriken Park มีการจัดแสดงชิ้นส่วนที่เหลือจากแผ่นดินไหว เช่น พื้นดินที่พังทลาย และมีข้อความรำลึกถึงผู้เสียชีวิตและความสูญเสียครั้งนั้น

หุ่นขนาดยักษ์ Tetsujin 28 (Gigantor)

หุ่น Tetsujin 28 หรือ Gigantor เป็นหุ่นยนต์ขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ในย่านนางาตะ (Nagata Ward) ของโกเบ หุ่นยนต์นี้มีความสูงถึง 18 เมตร สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงศิลปินโกเบผู้สร้าง Tetsujin 28 อันเป็นหนึ่งในอนิเมะและมังงะที่ได้รับความนิยมมากในช่วงยุค 1950

Meriken Park

ดูแผนที่ Meriken Park

วิธีการเดินทาง

วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดเราขอแนะนำให้ใช้รถไฟมายังสถานี Sannomiya หรือ JR Kobe Station ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองโกเบ โดยใช้รถไฟสาย JR, Hankyu และ Hanshin จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

1. อาริมะ ออนเซ็น (Arima Onsen)

อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) คือแหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังของภูมิภาคคันไซ ได้ชื่อเป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น กล่าวกันว่าเป็นออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ที่แม้แต่ไดเมียวคนสำคัญอย่างโทโยโทมิ ฮิเดโยชิยังเคยมาแช่บ่อยๆ ความพิเศษของ อาริมะออนเซ็น คือเป็นน้ำพุร้อนหายากที่มีแร่ธาตุถึง 7 ชนิดที่กำหนดให้เป็นส่วนประกอบของน้ำพุร้อนทางการแพทย์!

อาริมะ ออนเซ็น (Arima Onsen)

ดูแผนที่ อาริมะ ออนเซ็น (Arima Onsen)

2. ฮิเมจิ (Himeji)

ปราสาทฮิเมจิ  (Himeji Castle) ประวัติ ความเป็นมาเริ่มตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1333 โดย Akamatsu Norimura ได้ริเริ่มสร้างป้อมปราการใว้บนภูเขา Himeyama โดยปราสาทฮิเมจิได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในวันที่ 11 ธันวาคม 1993 นับเป็นแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ได้ขึ้นทะเบียน อีกทั้งยังเป็นสมบัติชาติชิ้นสำคัญของญี่ปุ่น ปราสาทแห่งนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาท ที่มีความงดงามที่สุดของญี่ปุ่น

ฮิเมจิ (Himeji)

ดูแผนที่ ฮิเมจิ (Himeji)

3. โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland)

Kobe Harborland คือย่านท่องเที่ยวติดท่าเรือที่ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟ JR Kobe และบริเวณท่าเรือโกเบ ที่เพรียบพร้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเมือง พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงจุดชมวิวที่เราสามารถชมความงดงามจากทิวทัศน์ของเมืองโกเบและสัมผัสความโรแมนติกของเมืองนี้ไปพร้อม ๆ กัน

Kobe Harborland

ดูแผนที่ Kobe Harborland

สรุป

หากเพื่อน ๆ ที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกมาเที่ยวที่เมืองโกเบดีไหม พราะหลายท่านอาจไม่ได้ทานเนื้ออยู่แล้ว เราขอแนะนำว่า เมืองโกเบไม่ได้มีดีแค่เนื้อที่นุ่มละลายในปากเพียงอย่างเดียว แต่มีทั้งออนเซ็น สวนสาธารณะในเมืองท่ามกลางหุบเขาและทะเลที่สวยงาม พิพิธภัณฑ์ให้เรารับชมประวัติศาสตร์ของเมืองและเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สำคัญของเมือง เรียกได้ว่าได้สัมผัสทั้งความเป็นเมือง อาหารและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแบบครบรสแน่นอน