หากมีใครถามหาพื้นที่สีเขียว หรือโอเอซิสใจกลางกรุงโตเกียว เราขอแนะนำสวนชินจูกุเกียว เอน (Shinjuku Gyoen) หรือชื่อเต็มๆ ว่า Shinjuku Gyoen National Garden แห่งนี้ อย่างไม่ลังเล แถมยังเดินทางสะดวกอยู่ไม่ไกลจากย่านท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างชินจูกุ และชิบูย่า ก็สามารถพบกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล
Shinjuku Gyoen สวนสไตล์ตะวันตกที่สำคัญที่สุดในยุคเมจิ
สวนชินจูกุเกียว เอนแห่งนี้เป็นตัวแทนของสวนสไตล์ตะวันตกสมัยใหม่ในยุคเมจิ มีขนาดใหญ่ราวๆ 144 เอเคอร์ และเส้นรอบวง 3.5 กม. มีการผสมผสาน 3 โซนในการตกแต่งสวนที่แตกต่างกัน ได้แก่สวนแบบญี่ปุ่น สวนอังกฤษ และสวนฝรั่งเศส โดยสวนแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบภูมิทัศน์ชาวฝรั่งเศส และถือเป็นหนึ่งในสวนที่สำคัญที่สุดในยุคเมจิเลยก็ว่าได้
โดยหากเล่าย้อนกลับไป สวนชินจูกุเกียว เอนมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (ค.ศ.1603-1868) แต่เดิมสวนนี้ตั้งอยู่บนที่ดินของตระกูลไนโต (Kiyonari Naito) ขุนนางศักดินาแห่งยุคเอโดะ ในเวลาต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นสวนพฤกษศาสตร์ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนมาให้อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักพระราชวังญี่ปุ่นในปีค.ศ.1903 ซึ่งใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของราชวงศ์ และแขกผู้ได้รับเชิญ ในเวลาต่อมาสวนสาธารณะแห่งนี้ถูกทำลายเกือบทั้งหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในที่สุดก็ได้ถูกปรับปรุง และเปิดให้สาธารณชนเข้าชมอีกครั้งในปี ค.ศ.1949 จวบจนถึงทุกวันนี้ และปัจจุบันเป็นอุทยานแห่งชาติที่บริหารโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น
ดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ สวนแห่งนี้มีการแบ่งโซนของสวนออกมาได้อย่างน่าสนใจ เริ่มจากโซน
สวนญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นที่ตั้งของสระน้ำขนาดใหญ่รายล้อมไปด้วยหิน สะพาน พุ่มไม้และต้นไม้ นานา พรรณที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และยังมีศาลาให้แวะพักชมความงามของธรรมชาติอยู่หลายหลัง ช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปีจะมีการจัดนิทรรศการดอกเบญจมาศในบริเวณนี้ด้วย
สวนอังกฤษ
กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของสวนเพราะมีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นพื้นที่ที่มีผู้คนนิยมเดินทางมาชมใบไม้ผลิ เพราะมีต้นซากุระมากกว่า 12 สายพันธุ์ โดยจะบานสะพรั่งอย่างพร้อมเพรียงกันช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายนของทุกปีจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาปูผ้านั่งปิคนิค และพักผ่อน
สวนฝรั่งเศส
ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของชินจูกุเกียวเอนมีการออกแบบสวนสไตล์พระราชวังที่มีความสมมาตรลงตัว ในบริเวณนี้ยังมีดอกกุหลาบมากกว่า 500 ต้น และดอกไม้หลากสีสันจะพร้อมใจกันบานสะพรั่งในฤดูกาลต่างๆ
ชวนมาเปลี่ยนบรรยากาศเดินในร่มกันบ้าง เพราะในสวนแห่งนี้ ยังมีเรือนกระจกที่สวยงามพร้อมจัดแสดงพืชเขตร้อน และกึ่งเขตร้อนมากมาย รวมถึงกล้วยไม้ให้ชมอย่างเพลิดเพลิน
Shinjuku Gyoen ความสวยงาม 4 ฤดู
ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม)
ภาพดอกซากุระกว่า 1,000 ต้นบานสะพรั่งพร้อมพรมกลีบดอกไม้ที่กระจายอยู่ทั่วสนามหญ้า และปกคลุมสระน้ำเป็นทัศนียภาพที่งดงามเกินบรรยาย จนกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมซากุระอีกแห่งหนึ่งในโตเกียว นอกจากดอกซากุระแล้ว ยังมีดอกไม้อื่นๆ ผลิดอกสีสันสดใสออกมาในฤดูกาลนี้
ช่วงเวลาแนะนำในการชมดอกซากุระ : ช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี ต้นซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะจะผลิดอกบานสะพรั่ง โดยกลีบดอกบางส่วนจะร่วงลงพื้นราวกับมีพรมกลีบดอกไม้ที่กระจัดกระจายไปทั่วสนามหญ้า และปกคลุมไปทั่วสระน้ำ กลายเป็นภาพที่สวยงามมาก
ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – สิงหาคม)
ความเขียวขจีของพรรณไม้นานาชนิดในช่วงฤดูร้อนช่วยสร้างความผ่อนคลาย และเป็นอีกช่วงเวลาที่ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ส่วนดอกไม้ที่สร้างสีสันในช่วงฤดูร้อนของที่นี่คือดอกไฮเดรนเยียและดอกกุหลาบจะบานสะพรั่งสวยงามมาก
ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – พฤศจิกายน)
เป็นอีกช่วงเวลาที่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยนิยมเดินทางมาชื่นชมความงดงามของสวนแห่งนี้ ด้วยสีสันที่สวยงามทั้งสีแดง ส้ม เหลืองและเขียวที่แซมๆ กันอยู่ และมีมุมถ่ายรูปเยอะมาก อีกทั้งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย สามารถเดินเพลินๆ หรือใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่ในสวนแห่งนี้ได้ทั้งวัน
ช่วงเวลาแนะนำในการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคมของทุกปี โดยที่สวนญี่ปุ่นจะทำให้คุณหลงใหลด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงเข้ม ในขณะที่สวนอังกฤษ จะเปล่งประกายด้วยใบแปะก๊วยเหลืองอร่าม ส่วนที่สวนฝรั่งเศสก็เห็นเป็นภาพความโรแมนติกของสวนสวยสไตล์ยุโรปไปอีกแบบ
ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์)
แม้จะไม่เป็นที่นิยมเท่าฤดูกาลอื่น แต่ที่สวนแห่งนี้ช่วงฤดูหนาวที่มีแสงแดดส่องผ่านต้นไม้รำไร ทำให้สวนแห่งนี้อบอุ่นและเงียบสงบ หรือในบางปีก็มีหิมะปกคลุมทำให้สวนเป็นสีขาวโพลนสวยงามไปอีกแบบ
กิจกรรมที่สามารถทำได้ที่นี่
ใครว่ามาเที่ยวสวนสาธารณะใจกลางเมืองแบบนี้ จะแค่เดินชมสวนเฉยๆ ล่ะ ที่นี่มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ตลอดทั้งปี เช่น นิทรรศการพิเศษของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ นิทรรศการดอกเบญจมาศและนิทรรศการกล้วยไม้ในฤดูใบไม้ร่วง การแสดงละครโน การเวิร์คช็อปประดิษฐ์ดอกไม้ หรือเรซิ่นต่างๆ และการประกวดภาพถ่าย เป็นต้น
พิกัด สวนชิจูกุเกียวเอ็น (ShinjukuGyoen )
ที่อยู่ | 1-35 Sendagaya, Shibuya, Tokyo 151-0051 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Shinjuku-Gyoenmae เดินต่อประมาณ 2 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 18.30 น. |
ราคา | บุคคลทั่วไป 500 เยน ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) และนักเรียน 250 เยน เด็ก (นักเรียนมัธยมต้น / อายุไม่เกิน 15 ปี) เข้าชมฟรี |
Website | Shinjuku Gyoen |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ศาลเจ้าฮานะโซโนะ (Hanazono Shrine)
เป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ขนาดใหญ่ใจกลางย่านชินจูกุ ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะถือเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของชาวเมืองเลยก็ว่าได้ เพราะมีเทพเจ้าด้านการงานคอยปกป้องพื้นที่ ผู้อยู่อาศัย พ่อค้า ช่างฝีมือ และเหล่าศิลปิน ประกอบกับในพื้นที่ของศาลเจ้ามีต้นซากุระอยู่ด้วย หากได้แวะมาไหว้พระขอพรที่นี่ช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ก็สามารถชมซากุระบานสะพรั่งในพื้นที่ของศาลเจ้าได้ และในช่วงค่ำก็มีการประดับประดาไฟสีสันสวยงามให้ชม
พิกัด ศาลเจ้าฮานะโซโนะ (Hanazono Shrine)
ที่อยู่ | 5-17-3 Shinjuku, Shinjuku, Tokyo 160-0022 |
วิธีเดินทาง | จากสวนชินจูกุเกียวเอนประมาณ 9 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
เว็บไซต์ | Hanazono Shrine |
พิพิธภัณฑ์ของเล่นโตเกียว (Tokyo Toy Museum)
พิพิธภัณฑ์ของเล่นโตเกียว เป็นสนามเด็กเล่นในร่มสำหรับเด็กเพศทุกวัย โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในอาคารโรงเรียนประถมเก่า มีของเล่นกว่า 10,000 ชิ้นจากทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก แต่ละพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 ชั้นก็มีธีมที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีชั้นเรียนที่เหมาะสำหรับทุกวัย เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวสามารถสร้างของเล่นจากวัสดุรีไซเคิลด้วยตัวเองได้
พิกัด พิพิธภัณฑ์ของเล่นโตเกียว (Tokyo Toy Museum)
ที่อยู่ | 4-20 Yotsuya, Shinjuku-ku, Tokyo 160-0004 |
วิธีเดินทาง | เดินจากสวนชินจูกุเกียวเอนประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | 10.00 – 16.00 น. *หยุดทุกวันพฤหัสบดี |
ราคา | นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาขึ้นไป ราคา 800 เยน นักเรียนประถม ราคา 500 เยน (ต่ำกว่านั้นเข้าฟรี) ผู้ใหญ่และเด็ก ราคา 1,200 เยน |
เว็บไซต์ | Tokyo Toy Museum |
ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ (Omoide Yokocho)
เดินเที่ยวเล่นในย่านชินจูกุมาทั้งวัน แนะนำให้มาปิดท้ายวันที่ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ ตรอกกินดื่มโบราณบรรยากาศแสนคึกคัก ที่คลาคล่ำไปด้วยร้านกินดื่มแห่งนี้ แม้จะมีทางเดินค่อนข้างแคบ แต่เมื่อคุณได้กลิ่นหอมๆ ของเมนูเสียบไม้ย่างต่างๆ ท้องก็จะเริ่มร้องในทันที ที่นี่มีทั้งพนักงานออฟฟิศ และเหล่านักท่องเที่ยว ที่อยากทำความรู้จักวัฒนธรรมกินดื่มของญี่ปุ่น เป็นอีกประสบการณ์การเดินทางที่แนะนำให้ลอง
พิกัด ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ (Omoide Yokocho)
ที่อยู่ | 1 Chome-2 Nishishinjuku, Shinjuku City, Tokyo 160-0023 |
วิธีเดินทาง | เดินจากสวนชินจูกุเกียวเอนประมาณ 14 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
เว็บไซต์ | Omoide Yokocho |
สรุป
สำหรับคนที่ชื่นชอบการเที่ยวชมธรรมชาติแล้ว หากเดินทางท่องเที่ยวอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ระหว่างชินจูกุ และชิบูย่า ลองแวะเที่ยวชม Shinjuku Gyoen สวนสาธารณะแห่งนี้ ที่มีความสำคัญและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่น่าสนใจ พร้อมทั้งมีความสวยงามทั้ง 4 ฤดู ไม่ว่าจะมาช่วงฤดูกาลไหน ก็สามารถเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลิน เหมือนได้มาแวะพักเติมพลังกับธรรมชาติ ก่อนจะไปลุยช้อปปิ้งและเดินเที่ยวทำความรู้จักกับโตเกียวในมุมอื่นๆ กันต่อไป
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
หากเพลิดเพลินกับสวนสีเขียวอย่างเต็มอิ่มแล้ว ขอแนะนำโตเกียวในมุมอื่น ๆ บ้าง อ่านต่อได้ที่บทความนี้เลย
ที่เที่ยว โตเกียว (Tokyo) 12 ย่านดัง และ 17 ที่เที่ยวแนะนำอัพเดทใหม่ 2023
โตเกียว เมืองยอดฮิตติดชาร์ตเที่ยวญี่ปุ่นตลอดกาล มีที่เที่ยวและกิจกรรมครบรสหลากสีสัน ไปกี่ครั้งก็ยังไปซ้ำได้ไม่มีเบื่อ