TAVINOS Hamamatsucho โรงแรมล้ำสมัยแห่งใหม่สุดชิคกลางกรุงสำหรับทริปตะลุยโตเกียว

วิธีเดินทางไปโรงแรม Tavinos ที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ใช้รถไฟสาย JR คือนั่งมาลงที่สถานี Hamamatsucho แล้วมาทางด้านทางออก North Exit ตามป้ายแบบนี้

แล้วไปทางขวา เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะมาหยุดรอที่ไฟแดงตรงนี้ พอข้ามไฟแดงแล้วเดินตรงต่อไปเลย

เมื่อเดินมาราว 8 นาทีจะเกือบสุดทางถนน (ฝั่งตรงข้ามคือท่าเรือข้ามไปเกาะต่างๆของโตเกียว) แต่เรามาถึงโรงแรมแล้วนะ เลี้ยวขวาหัวมุมตามป้ายโรงแรมนี้ก็ถึงเลย

ป้ายใหญ่โตมาก เดินเข้าไปข้างใน กดลิฟต์ขึ้นชั้น 2 เพื่อไปยังล็อบบี้ของโรงแรม

เดินเข้ามาด้านในแล้วถึงกับต้องร้อง ว้าว! เพราะความสดใสของลวดลายจิตรกรรมฝาผนังอันสุดล้ำสมัยนี้ ยังไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย อาร์ทดีไซน์เนอร์เป็นผู้หญิงด้วยนะ ชื่อคุณ Tsutai Mika เป็นศิลปินชื่อดังมากๆ

เราสามารถเช็คอินด้วยตัวเองได้ ตั้งแต่เวลา 15.00 แล้วเค้าก็เปิดโอกาสให้เราเช็คอินด้วยตัวเองได้จนถึงเวลา 24.00 โน้นเลย เพราะเค้าเข้าใจความเป็นธุรกิจและนักเดินทางที่ไม่สามารถกำหนดเวลาได้แน่นอน เราก็เลือกภาษาอังกฤษและทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ( การจอง:จากเวบไซต์ของโรงแรมเองหรือทางเวบไซต์ที่รับจองโรงแรมทั่วไปก็ได้ )

ข้อดีของที่นี่คือ เราสามารถเลือกห้องด้วยตัวเอง จะนอนชั้นไหน ห้องเลขที่อะไร วิวเมืองหรือวิวทะเลก็กดเลือกไป โอ๊ย สนุกมาก ฮ่าๆ แต่ละชั้นก็คนละลวดลายด้วยนะ ถ้าไปกันหลายคนแนะนำนอนกันคนละชั้นแล้วแบ่งกันถ่ายรูปเลย ฮา

เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว จะได้คีย์การ์ดห้องมาพร้อมใบเสร็จ ไม่ต้องห่วงเรื่องขั้นตอนการเช็คอิน เพราะที่นี่มีพนักงานคอยช่วยอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี และสื่อสารอังกฤษได้

ประโยชน์ของคีย์การ์ดใบนี้คือ เราจะใช้ในการฝากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ฟรี เช่นใบไหนที่ไม่จำเป็นต้องเปิดแล้วก็ไม่ต้องขนขึ้นไปบนห้อง ก็เอาไว้ข้างล่างนี่แหล่ะ มีภาพให้เราทำตามนะ คือเอาสายคล้องมาเกี่ยวที่จับกระเป๋าไว้ตามภาพ แล้วกดปุ่มพร้อมเอาคีย์การ์ดห้องแตะที่แป้น หรือจะเรียกพนักงานมาช่วยก็ได้

เวลาจะถอดออก ก็ทำย้อนตามขั้นตอนเดิม

ใกล้เคียงกันก็ยังมีล็อกเกอร์ขนาดเล็กไว้ใส่ของมีค่าเล็กๆน้อยๆ ใช้คีย์การ์ดห้องเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือต้องกดปุ่มเบอร์ล็อกเกอร์ด้วย

ส่วนล็อกเกอร์แบบที่เอาของรวมๆใส่ อันนี้ใช้บัตร IC Card ทั่วไปได้ ไม่เสียเงินแต่อย่างใด ในภาพคือใช้บัตร Suica

ใครที่เดินทางไกลมาจากหลายที่ ที่นี่ยังมีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญไว้บริการด้วยนะ มาพักสัก 1 อาทิตย์ก็สบายเลย ซักผ้าสะอาดหอมฉุย ออกเที่ยวทุกวันได้ เพราะที่นี่เค้าสนับสนุนการพักระยะยาวด้วยนะ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

ก่อนจะขึ้นห้องพัก เราจะต้องเดินเลือกหยิบเครื่องประทินโฉมและอื่นๆกันก่อน วั้ย สนุกๆ เค้ามีถุงให้เราใส่นะ แขวนไว้ใกล้กัน เราก็หยิบๆที่เราต้องใช้ เช่น แชมพู ครีมนวดผม สบู่ ครีมทาผิว หวี แปรงสีฟันพร้อมยาสีฟัน ชุดนอน เป็นต้น

ควรแก่เวลาขึ้นห้องแล้ว ต้องเอาคีย์การ์ดไปใช้ในลิฟต์ด้วยนะ เพราะเราต้องแตะคีย์การ์ดที่แป้นก่อนถึงจะกดเลขชั้นได้ ยังไงความปลอดภัยก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ชั้นของเราคือชั้น 10 จ้า ประตูลิฟต์เปิดออกมาเจอเลขนี้

โหววว ทางเดินราวกับลายในหนังสือการ์ตูน หาห้องตัวเอง แล้วใช้คีย์การ์ดแตะเปิดประตูเข้าไปเลย

เลือกห้องนี้แหล่ะ วิว Sea Side มองเห็นทะเลโซนโอไดบะด้วยนะ … กรี๊ดดดดด สวยมาก

แล้วดิชั้นก็กระโจนขึ้นไปนั่งทำมิวสิคทันที พร้อมเปิดเพลงยุค 90 เบาๆ

ถ้าใครจะต่อ Free wifi ก็ต้องเปิดทีวีก่อนนะ แล้วมุมบนขวาของจอจะขึ้นรายละเอียดให้ กดตามเลย

มุมจากบนเตียงนอน มองไปที่ทีวีและประตูหน้าห้อง นอนสวยๆจิ้มมือถือเล่นไป
ขนาดเตียงแบบทวิน คือ 85 ซม*195 ซม. (สองเตียงชิดกัน) ส่วนเตียงแบบดับเบิ้ลคือ 170 ซม.*195 ซม

วางแผ่ดูว่าเราหยิบอะไรมาบ้าง

ชุดนอนของที่นี่ เท่มาก คือ ใส่ออกเที่ยวก็ได้นะ ฮา

ส่วนครีมทาผิว เค้าใช้ของ DHC ประทับใจคลีนซิ่งออยล์ล้างเครื่องสำอางที่สุด

ห้องน้ำก็ใช้งานสะดวกสบาย นอกจากยาสระผม ครีมนวดที่มีคุณภาพดีแล้ว ฝักบัวก็เลอค่า น้ำไหลแรงอาบน้ำได้สะใจมาก มีไดร์เป่าผมแขวนให้ด้วย

วิวนอกหน้าต่างยามค่ำคืน สวยเนอะ เนื่องจากด้านหน้าที่เห็นคือท่าขึ้นเรือ เลยมีเรือใหญ่เวียนมาจอดมากมาย รวมถึงเรือที่ให้บริการแค่บุฟเฟต์ดินเนอร์ก็มีนะ

หลับสบายมากๆเลย เตียงนุ่ม หมอนนุ่ม ห้องใหม่สะอาด วิวนี้เลยจ้าเปิดผ้าม่านขึ้นรับแสงๆ ซึ่งพอเราปิดประตูห้องน้ำ ฝาประตูจะกลายเป็นกระจกบานใหญ่เลย จะแต่งหน้าหรือแต่งตัวก็สะดวก

ก่อนออกจากห้อง ถ้าอยากแปะป้ายห้ามรบกวน หรือให้ช่วยทำความสะอาดก็ได้ (แถบแม่เหล็ก) แต่การทำความสะอาดนั้นต้องเสียค่าบริการเพิ่ม 2000 เยนนะเพราะเป็นงานนอกเหนือจากตารางทำความสะอาดประจำของเค้า (ปกติเค้าจะทำให้ฟรีทุกๆ4วันของทริปที่แขกห้องนั้นพัก) ถ้าไม่จำเป็นเราก็ไม่ต้องทำก็ได้

เช้านี้มาหาอะไรทานกันเถอะ นอกจากกาแฟ (สังเกตหลอด ทำมาจากกระดาษเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยนะ) และชาร้อนแล้ว ที่นี่ก็มีบริการอาหารเช้าเมนูขนมปังแบบง่ายๆให้ทานด้วย เวลาจะทานต้องเอามาอุ่นก่อน เครื่องดื่มมีบริการ 6.30 -24.00 ส่วนขนมปังจะมีให้ทานเฉพาะช่วงเช้า

แล้วเราก็มาหามุมนั่งทานกัน เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอามุมไหน ฮ่าๆ เพราะน่าถ่ายรูปไปหมด

เอ๊ะหรือจะมุมด้านนอกนี้ดีนะ นั่งจิบกาแฟไปดูรถไฟโมโนเรลวิ่งผ่านไปมา ได้ความเป็นเรียลมากๆ สถานีนี้คือ Takeshiba Station เป็นรถไฟของสาย Yurikamome ซึ่งเป็นรถไฟสายหลักที่พาไปโอไดบะเลย

ใครยังต้องทำงาน มุมนี้ก็เหมาะมากเลยนะ เพราะมีที่ชาร์จแบตด้วย

การเช็คเอาท์ก็ง่ายมากๆ เดินไปที่ตู้เช็คอิน-เช็คเอาท์ แล้วเลือกปุ่มเช็คเอาท์พร้อมเสียบคีย์การ์ดห้องกลับคืน ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ใครจะแพลนเที่ยวต่อ สามารถใช้จอสกรีนขนาดยักษ์ที่ล็อบบี้ได้เลย มีภาษาอังกฤษด้วย เป็นจอแบบระบบสัมผัส แสดงทั้งจุดท่องเที่ยว ร้านอาหาร งานเทศกาล และรูท 1 day trip แบบง่ายๆด้วยนะ

สถานที่เที่ยวใกล้เคียงก็มีทั้งแบบสายบุญ ก็ไปเที่ยววัด วัดโซโจจิ (Zōjō-ji : 三縁山増上寺) วัดเก่าแก่ประจำตระกูล Tokugawa เลยนะ ตระกูลนี้คือผู้ก่อตั้งรัฐบาลเอโดะ หรือยุคเอโดะที่ยิ่งใหญ่รุ่งเรืองแห่งประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เป็นวัดที่เห็นวิวโตเกียวทาวเวอร์ได้ใกล้มากๆ ถ้านั่งแท็กซี่จากโรงแรมไปก็เสียค่าแท็กซี่ราว 570 เยน เวลาเปิด 9.00-17.00 เข้าฟรี

แถวนี้ยังมีสวนญี่ปุ่นชื่อดัง คือ Hama-rikyu Gardens ซึ่งเป็นสวนที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุคเอโดะ
Hours: Open from 9:00 to 17:00 มีค่าเข้า 300 เยน สามารถเดินจากโรงแรมไปได้

ถ้าค่ำหน่อยเราก็ไปรอดูโตเกียวทาวเวอร์ที่ตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ชั้น 40 กันเลย เรียกว่าชั้น Observatory ใกล้สถานี Hamamatsucho เสียค่าขึ้นไปชมวิวข้างบนคนละ 620 เยน แต่วิวสวยมาก เห็นแบบพาโนรามาเลย

อีกด้านของการชมวิวบนตึกนี้คือมีวิวของสวน Kyu Shiba Rikyu Garden ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นสวนคลาสสิกแห่งยุคเอโดะ และยังมองเห็นสะพานสายรุ้งของโอไดบะด้วย

แต่ถ้าใครอยากเห็นโตเกียวสกายทรี ก็กลับมาวิวใกล้โรงแรมเลย ฝั่งตรงข้ามไปทางท่าเรือจะมีชั้นลอยที่เป็นสวนมีต้นไม้ มีที่ให้เดินเล่น โหวว ดีงามมากมาย พักที่เดียวแต่เห็นสัญลักษณ์ของกรุงโตเกียวได้ทั้งหมด

HOTEL TAVINOS Hamamatsucho

ข้อสรุป

HOTEL TAVINOS Hamamatsucho เป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับปักหลักเป็นทริปเที่ยวโตเกียวมากๆ ด้วยราคาห้องพักที่สมเหตุสมผล การตกแต่งที่ทำให้เรารู้สึกทันสมัยสมกับเป็นประเทศแห่งมังกะ สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมช่วยให้การใช้ชีวิตแบบวิถีนักเดินทางของเราง่ายขึ้นอยู่ใกล้สถานีรถไฟโมโนเรลเพียงแค่เดินเชื่อมถึงกันภายใน 1 นาทีและสถานีเจอาร์ Hamamatsuchoที่เดินไปไม่ถึง 10นาที จะกลับทางสนามบินฮาเนดะก็ใกล้มากหรือไปต่อยังจุดเช็คอินทั้งหลายในกรุงโตเกียวก็ไปได้อย่างง่ายดาย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

นอนพักที่โตเกียว แล้วไปเที่ยวกันต่อให้จุใจกับ 17 พิกัด อัพเดตใหม่

ที่เที่ยว โตเกียว (Tokyo) 12 ย่านดัง และ 17 ที่เที่ยวแนะนำอัพเดทใหม่ 2023

โตเกียว เมืองยอดฮิตติดชาร์ตเที่ยวญี่ปุ่นตลอดกาล มีที่เที่ยวและกิจกรรมครบรสหลากสีสัน ไปกี่ครั้งก็ยังไปซ้ำได้ไม่มีเบื่อ