ใครที่เป็น 1 ในคนที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะประเพณีวัฒนธรรม อาหารการกิน หรือนิสัยใจคอของชาวญี่ปุ่น ก็ล้วนแต่เป็นช่างเป็นอะไรที่น่าประทับจิตประทับใจ
Cr: cegoh
แถมนอกจากการไปท่องเที่ยวทั้งวันจนขาลาก ช้อปปิ้งให้เงินหมด ถ่ายภาพจนหน้าไหม้ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ สุดคูลในประเทศญี่ปุ่นแล้ว อยากจะลองใช้ชีวิตรวมกับคนญี่ปุ่นดูบ้าง และก็อยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วคนญี่ปุ่นเค้าอยู่กันยังไง วัน ๆ ทำอะไรบ้าง จะไร้สาระเหมือนเราบ้างมั้ยนะ หรืออยากจะลองช่วยงานคนญี่ปุ่นดูซักครั้ง ขอบอกเลยว่าความฝันของคุณจะเป็นจริงได้ หากคุณได้รู้จักกับ โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม WWOOF JAPAN !
ทำความรู้จัก WWOOF JAPAN
Cr: lumix2004
WWOOF JAPAN เป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่าง Host และ WWOOFers (ผู้สมัคร) โดยผู้สมัครโครงการนี้จะต้องทำการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของ WWOOF JAPAN เพื่อเลือกภูมิภาค จังหวัด โฮส และประเภทของงานที่อยากจะทำ ซึ่งก็จะมีหลายประเภทมากเลยล่ะ เช่น งานประเภทต้อนรับลูกค้า งานเกี่ยวกับการทำอาหารหรือขนม งานทำฟาร์ม งานสอนหนังสือเด็ก งานเลี้ยงสัตว์ ซึ่งงานส่วนใหญ่ของโครงการมักจะเป็นงานด้านเกษตรกรรม
แต่ต้องบอกไว้ตรงนี้ว่าสำหรับโครงการนี้ เราต้องทำงานช่วยคนญี่ปุ่นเพื่อแลกกับที่อยู่อาศัย และอาหารการกิน นั่นหมายความว่าเค้าไม่มีค่าแรงให้เด้อจ้า แต่โฮสเค้าก็จะทำอาหารให้เราทานทุกวันทุกมื้อ แล้วแต่ว่าโฮสจะทำอะไรให้ทาน
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารที่ปุ่นที่ถ้าทานที่ไทยล่ะก็ แพงมากๆ (งู้ยยยย ดีชรุงงง) หรือโฮสบางคนอาจจะพาคุณไปทานร้านอาหารบ้างเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่โฮสก็จะจ่ายให้ พร้อมทั้งจัดเตรียมห้องพักให้คุณอีกด้วย แล้วถ้ามีเวลาว่างโฮสก็อาจจะพาคุณไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ในเมืองนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องทำงานจนหลังขดหลังแข็งจน ไม่ได้พักผ่อนหรอกนะ เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องเสียเงินในการทำอะไรเลยล่ะ
Cr: rawpixel
ดังนั้น โครงการนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมญี่ปุ่น อยากลองใช้ชีวิตร่วมกับคนญี่ปุ่นจริงๆ แถมคุณยังจะได้มีเพื่อนใหม่เป็นคนญี่ปุ่นอีกด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องกำแพงทางภาษา เพราะคุณสามารถเลือกได้ว่าจะอยู่กับโฮสคนไหนที่สามารถสื่อสารภาษาอะไรได้บ้าง เพราะจะมีรายละเอียดของโฮสบอกอยู่ในโปรไฟล์อยู่แล้วจ้า
สำหรับใครที่ไม่กล้าไปคนเดียว คุณก็สามารถหนีบเพื่อนซี้ของคุณไปสมัครด้วยกันได้ แต่ก็ต้องดูเงื่อนไขของโฮสแต่ละคนด้วยนะว่าเค้าต้องการรับสมัคร WWOOFers จำนวนกี่คน หากไม่มั่นใจก็สามารถอีเมลไปถามได้เลย เดินออกจาก Comfort zone แล้วไปเผชิญโลกใหม่ที่ญี่ปุ่นด้วยกันเถอะ !!
เว็บไซต์ของ WWOOF JAPAN
ก่อนอื่นให้เข้าเว็บไซต์ wwoofjapan.com เพื่อทำการสมัคร >>> คลิ๊กที่นี่ WWOOF JAPAN
สามารถเข้าไปดู Host preview และเลือก AREA ที่ต้องการได้ (แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้ชำระเงินค่าสมาชิกจะไม่สามารถดู feedback ได้)
ตัวอย่างภูมิภาค Kansai ในจังหวัด Kyoto จะมีรหัสของโฮส ช่วงเวลาที่รับสมัคร และประเภทของงาน
คุณสามารถคลิกที่รหัสของโฮสเพื่อเข้าไปดูโปรไฟล์อย่างละเอียด และรูปภาพต่างๆเพื่อประกอบการตัดสินใจได้
หากว่าคุณเริ่มสนใจโครงการนี้ขึ้นมา และเริ่มอยากลองสมัครดูบ้างแล้ว ก็ตามมาทางนี้เลย
ปัจจัยสำคัญในการเลือก Host
หลังจากเลือกสถานที่ และอ่านโปรไฟล์ของโฮสแต่ละคนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องมั่นใจว่ายอมรับกับเงื่อนไขการทำงานนั้น ๆ ได้ ซึ่งควรพิจารณาอย่างรอบคอบดังนี้
Cr: StockSnap
ควรตรวจสอบให้ดีว่าโฮสที่คุณเลือกนั้นสามารถสื่อสารภาษาที่คุณเข้าใจได้ ซึ่งมีบอกอยู่ในโปรไฟล์ของโฮสอยู่แล้ว แต่หากว่าใครต้องการฝึกภาษาญี่ปุ่น ก็ควรจะสอบถามโฮสก่อนว่างานที่คุณจะได้ทำนั้น ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นระดับไหน ถ้าเป็นงานที่ไม่ได้พูดคุยกับลูกค้าชาวญี่ปุ่นมากก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากคุณสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่วก็ลุยโลดดดด
Cr: sharonang
หากคุณเป็นสายมังสวิรัติ หรือไม่สามารถทานเนื้อสัตว์บางอย่างได้ หรือแพ้อาหารบางอย่าง ก็ควรจะกรอกข้อมูลตอนสมัครให้ชัดเจน เพราะส่วนใหญ่โฮสจะเป็นคนทำอาหารให้ทาน หรือหากคุณทำอาหารไม่เป็น ก็สามารถแจ้งโฮสได้นะ เพราะในบางที่คุณอาจจะต้องทำอาหารทานเอง ก็คงจะลำบากไม่น้อย ดังนั้นควรจะสอบถามกับโฮสเอาไว้ก่อน
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ บางคนอยากลุยงานให้สุด บางคนไม่อยากทำงานหนักเกิน 6 ชั่วโมง ควรสอบถามโฮสให้ละเอียดถึงขอบเขต และชั่วโมงการทำงาน จะได้พิจารณาว่าคุณทำไหวมั้ย และสามารถทำได้จริงๆหรือเปล่า
Cr: Pexels
สาวๆบางคนอาจจะไม่สบายใจ หากต้องไปพักร่วมชายคากับครอบครัวที่มีผู้ชายเยอะ หรือไม่มีผู้หญิงด้วยกันอยู่เลย บางคนอาจจะไม่ชอบคนเยอะ เข้าสังคมไม่เก่ง หรือไม่ค่อยถูกกับเด็กอะไรแบบนี้ ก็สามารถตรวจสอบจากโปรไฟล์ของโฮสได้ว่ามีจำนวนสมาชิกในครอบครัว หรือคนที่อาศัยอยู่ด้วยกี่คน ซึ่งค่อนข้างจะบอกอย่างละเอียด หรือถ้าจะให้ชัวร์ก็สอบถามโฮสโดยตรงได้เลย
วิธีการสมัคร WWOOF JAPAN
สมัคร Online ได้ที่นี่ WWOOF JAPAN
การสมัครเป็น WWOOFer นั้น มีขั้นตอนที่ค่อนข้างละเอียด แต่ก็ไม่ยุ่งยากมากนัก คุณต้องกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณให้ครบ พอกรอกเสร็จด้านล่างจะมีให้เลือกว่าเราจะเป็นสมาชิก WWOOF แบบไหน ซึ่งมีหลายแบบมากๆ ( อายุสมาชิกวูฟ 1 ปี เริ่มนับตามวันที่เราเลือกว่าจะให้เริ่มภายในกี่อาทิตย์ ไม่ได้เริ่มนับวันที่เราสมัคร ) โดยในระยะเวลา 1 ปี สามารถไปวูฟกี่ครั้งก็ได้ แต่ก็ต้องติดต่อกับโฮสก่อนทุกครั้งนะ ซึ่งค่าสมัครคือ 5500 เยนต่อ 1 ปี
ข้อมูลบางส่วนไม่ได้บังคับให้กรอกก็จริง แต่ก็ควรกรอกให้เป็นข้อมูลสำหรับให้โฮสทราบคร่าวๆ เช่น มีใบขับขี่หรือไม่ สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์หรือเปล่า และควรตอบตามความจริงจ้า
เมื่อสมัครสมาชิกแล้ว เราจะสามารถอีเมลคุยกับโฮสได้ นอกจากเราจะเป็นคนเลือกโฮสแล้ว โฮสก็จะเป็นคนพิจารณาด้วยว่าจะรับเรามั้ย โดยพิจารณาจากโปรไฟล์ของเรานั่นเอง
เมื่อได้รับอีเมลตอบรับจากโฮสแล้ว ก็แค่นัดวันเวลาที่คุณจะเดินทางไป และช่วงเวลาที่คุณต้องการทำวูฟ นัดสถานที่ และเวลาที่จะเจอโฮสให้เรียบร้อย โฮสบางคนอาจจะมารับคุณที่สนามบิน หรือสถานีรถไฟก็ได้ เห็นมั้ย สมัครวูฟง่ายนิดเดียวเอง เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ก็เตรียมตัวไปสนุกกับการเป็นวูฟเฟอร์ได้เลย
ข้อสรุป
น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ สำหรับโครงการแลกปลี่ยนวัฒนธรรมนี้ หลายคนที่กลับมาจากการไป WWOOF JAPAN ต่างบอกว่าประทับใจจนลืมไม่ลงเลยล่ะ เรามักได้เคยได้ยินว่าคนญี่ปุ่นนั้นใจดี นอบน้อม และมีระเบียบ ทำอะไรก็จริงจัง หากคุณอยากรู้ว่าจริงมั้ย ลองเข้าร่วมกับโครงการนี้ดูสิ !