10 ที่ เที่ยวโอกินาว่า (Okinawa) เมืองทะเลสวย พร้อมข้อมูลสำคัญที่ควรรู้

ทำความรู้จัก โอกินาว่า (Okinawa)

โอกินาว่า คือประตูทางตอนใต้ ที่เราสามารถเข้าสู่ญี่ปุ่นได้จากทางนี้ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลใส เกาะสวย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันเป็นที่รู้จัก ก็คือ ริวกิว หรือ Ryukyu หลายๆ คนอาจสงสัยว่าแล้วคนที่นี่เค้าพูดภาษาอะไรกัน ที่นี่ใช้ภาษาญี่ปุ่นอยู่เพียงแต่สำเนียงอาจจะเพี้ยนไปบ้างเหมือนกับทางภาคใต้ของบ้านเรานั่นเอง

นอกจากนี้ค่าเงินก็ยังใช้เงินเยนเช่นกัน แต่ความพิเศษของที่นี่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอากาศหนาวมากๆ เพราะสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยในช่วงที่อากาศหนาวนั้นก็ยังอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเท่านั้นเอง

วิธีการเดินทางมา โอกินาว่า (Okinawa)

ตามปกติแล้วเราสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนาฮะได้เลย แต่ถ้าหากไม่สามารถหาไฟล์ทบินตรงได้ แนะนำให้มองหาเครื่องที่ต้องแวะพัก หรือบินต่อจากในประเทศญี่ปุ่นแทน

แนะนำที่เที่ยวใน โอกินาว่า (Okinawa) ห้ามพลาด

แต่ละที่สวยเด็ดน่าไป รับรองว่าไปแล้วถูกใจแน่นอน มาร์คแล้วไปเลยโอกินาว่าแบบดั้งเดิมอยู่ด้วยนะ คือ มีให้เราได้นั่งเกวียนเพื่อเที่ยวชมบ้านเรือนที่ยังสร้างแบบหลังคาโบราณอยู่ แถมยังมีจักรยานให้เราเช่าและปั่นเล่นรอบๆ เกาะได้อีกด้วย น่าไปสุดๆ เลย

Naminoue Shrine

ศาลเจ้าริมผาติดทะเล ศาลเจ้านี้มีความน่าสนใจอย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเป็นศาลเจ้าที่อยู่ริมผา คือศาลเจ้านี้ตั้งอยู่บริเวณภูเขาลูกเล็กๆ ที่ยื่นออกไปในทะเล แต่เป็นหน้าผา เป็นอีกหนึ่งอันซีนที่ควรไปดูให้เห็นกับตา นอกจากนี้ยังสามารถขอพรให้สมหวัง สำเร็จ เดินทางปลอดภัย และอื่นๆ อีกด้วยนะ เป็นศาลเจ้าที่ชาวประมงมักมาขอพรก่อนออกเรือ

เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island)

เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นเกาะท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในหมู่เกาะยาเอยามะ (Yaeyama Islands) เกาะแห่งนี้มีทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ตลอดจนปะการังหลากสีสันสวยงาม เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบชิล ๆ

อ่านข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island) ได้เลย

เที่ยวเกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island) เกาะสวยน้ำทะเลใสแห่งโอกินาว่า

อ่านต่อที่นี่เลย

บุเซนะ มารีนพาร์ค (Busena Marine Park)

Cr: busena-marinepark

ต่อมาจะพาทุกคนไปดำดิ่งสู่ใต้ทะเลลึก ที่จะได้พบกับสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปลาการ์ตูน หรือปลานีโม่ที่เราชอบเรียกกัน ปลาโนรเทวรูป (Moorish idol) และปลาอีกหลากหลายสายพันธุ์

แถมที่นี่ยังมีกิจกรรมและสถานที่ชมโลกใต้ทะเลสุดแปลกไม่เหมือนที่ไหนเลยก็คือ หอชมวิวใต้สมุทร (The underwater observatory) และ เรือ
กระจก (The Glass-bottom boat) ที่สามารถมองเห็นน้ำทะเลใสได้จากใต้ท้องเรือ

Cr: /busena.marinepark

ส่วนที่เราเรียกว่า หอชมวิวใต้มหาสมุทรนั้น จะเป็นเหมือนอาคารที่ยื่นออกไปในทะเล มีบันไดให้เราได้เดินลงไปสู่ใต้ทะเล จะได้เห็นกระจกจำนวนมากที่ใสสุดๆ จนสามารถเห็นปลาแหวกว่ายอยู่ ซึ่งปลาพวกนี้จะเป็นปลาเขตร้อน มีสีสันสดใส

Cr: busena.marinepark

และอีกหนึ่งสิ่งคือ เรือกระจก โดยตัวท้องเรือนั้นจะเป็นกระจกใส ให้ได้ชมวิวใต้น้ำระหว่างที่ร่องเรืออยู่ ทุกคนที่ได้นั่งเรือลำนี้ก็ต้องตื่นตาตื่นใจแน่นอน เพราะได้ใก้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เด็กและผู้ใหญ่ ต้องชื่นชอบแน่นอนเลย

บุเซนะ มารีนพาร์ค (Busena Marine Park)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิ (Churaumi Aquarium)

Cr: kaiyohaku.churaumi

ถัดจาก บุเซนะ มารีนพาร์ค มาก็จะเจอ อีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติใต้ท้องทะเลอย่าง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิ ที่ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น มีแทงก์น้ำขนาดใหญ่มากๆ ที่จะทำให้เราได้เห็นเจ้าฉลามวาฬตัวยักษ์ ฝูงปลากระเบน และปลาเล็กปลาน้อยอีกหลากหลายสายพันธ์ แหวกว่ายให้เราได้ชมอย่างเพลิดเพลิน โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 5 โซน ซึ่งโซนแรกจะเป็นโซนทางเข้า เราจะได้พบกับ อนุสาวรีย์ฉลามวาฬ ขนาดใหญ่ ต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ โซนนี้ก็จะมีร้านอาหารอยู่ด้วย หาอาหารทานรองท้องเแล้วก็ไปลุยกันเลย

Cr: kaiyohaku.churaumi

โซนที่ 2 จะมีสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกกว่า 100 ชนิดด้วยกัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นสัวต์ที่เราไม่ค่อยรู้จัก แต่เราสามรถมารู้จักได้ที่นี่นะ เพราะเขาจะมีป้ายบอกรายละเอียดต่างๆ หมดเลย ต่อที่โซน 3 จะได้พบกับ “Shark’s Room” ห้องที่จะทำให้เราเข้าใจระบบนิเวศของฉลามได้อย่างละเอียด และยังมี “Aqua Room” สามารถมองเห็นฝูงปลาแบบใกล้ชิดสุดๆ

Cr: churaumi.okinawa

มาโซน 4 เป็นชั้นที่เราจะมองเห็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่รอบๆ แนวปะการังได้อย่างชัดแจ๋ว และยังสัมผัสกับปลาดาว หรือปลิงทะเลได้แบบไม่ต้องกลัวเป็นอันตรายได้ด้วยนะ และโซนที่ 5 จะเป็นโซนที่มีการจัดแสดงความสามารถของสัตว์น้ำ อย่างเช่น การแสดงปลาโลมา นอกจากนี้ยังมี สนามเด็กเล่นที่เหมาะสำหรับเด็กๆ อีกด้วย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิ (Churaumi Aquarium)

ผามันซาโมะ (Manzamo Cape)

ผามันซาโมะ จุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโอกินาว่า เป็นผาหินที่มีความสูงกว่า 30 เมตร ถูกกัดเซาะด้วยน้ำทะเลจนมีลักษณะคล้ายกับงวงช้าง บนหน้าผาจะมีพืชธรรมชาติปกคลุมอยู่ ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ Okinawa Kaigan Quasi-National Park

ผู้คนที่มาทีนี่ส่วนมาก จะมาในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น หรือไม่ก็พระอาทิตย์ตกดิน เพราะจะสามารถมองเห็นความสวยงามของทะเลกับพระอาทิตย์ได้อย่างชัดเจน ยิ่งช่วงพระอาิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าล่ะก็ แสงสีส้มอมแดงที่ตกกระทบกับทะเลส่องประกายวิบวับ นับเป็นช่วงเวลาต้องมนต์ สวยแทบหยุดหายใจเลยแหละ

ผามันซาโมะ (Manzamo Cape)

หมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ (Mihama American Village)

หมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ หมู่บ้านสไตล์อเมริกาที่อยู่ในศตวรรษที่ 20 ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ของฐานทัพสหรัฐฯ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งความบันเทิงขนาดใหญ่ สามารถเดินเที่ยวเล่นได้ตั้งแต่เช้าถึงดึกเลยทีเดียว มีห้างสรรพสินค้า ร้านขายของ ร้านอาหาร โรงหนัง ร้านเสื้อผ้า เยอะแยะไปหมด

Cr: mihamaamericanvillage

จุดเด่นของหมู่บ้านแห่งนี้คือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้จากความสูงกว่า 60 เมตรขอกระซิบบอกว่าการได้มองพระอาทิตย์ตกจากที่สูงเนี่ย เป็นประสบการณ์ที่จะประทับติดตรึงอยู่ในใจไปได้อีกนานเลย

หมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ (Mihama American Village)

โอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World)

Cr: OKINAWAWORLD

โอกินาว่าเวิลด์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ หมู่บ้านเกียวคุเซนโดะ คิงดอม (Gyokusendo Kingdom Village)
ที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์ของโอกินาว่าสุดๆ โดยที่นี่จะมีทั้งถ้ำ โรงเบียร์นันโต ศูนย์วัฒนธรรม และอีกหายสถานที่ที่น่าสนใจ แถมยังมีกิจกรรมให้ได้ทำอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น การเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวโอกินาว่า วิธีการชงชา การใส่ชุดชาวริวกิว เป็นต้น

Cr: OKINAWAWORLD

ที่นี่ยังมีถ้ำเกียวคุเซ็นโด (Gyokusendo Cave) ถ้ำที่มีขนาดใหญ่ลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น เข้าไปในตัวถ้ำก็จะได้สัมผัสกับความเย็น และความสวยงามของธรรมชาติ มีหินย้อยลงมาระหว่างทางเดินเข้าถ้ำ และไม่ต้องกลัวว่าจะมืดนะ เพราะเขาจะมีไฟให้ความสว่างตลอดทางเลย

โอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World)

สวนสับปะรดนาโกะ (Nago Pineapple Park)

Cr: nagopine

แหวกแนวมาเที่ยวสวนสับปะรดกันบ้าง ที่ สวนสับปะรดนาโกะ ถือว่าเป็นสวนผลไม้ที่ได้รับความสนใจจาก
นักท่องเที่ยวมากทีเดียว ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมการขายสับปะรดในท้องถิ่น เพราะสับปะรดเป็นเหมือนตัวแทนของจังหวัดโอกินาว่า ทุกอย่างในสวนนี้เลยกลายเป็นสับปะรดหมด

Cr: nagopine

ทั้งรถไฟสับปะรด ที่จะพาเราชมบรรยากาศของสวน รวมถึงขนมและของฝากต่างๆ ก็ทำมาจากสับปะรดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ไวน์ เค้ก สับปะรดอบแห้ง และอีกหลากหลายเมนูรอให้เราไปได้ลิ้มลอง

Cr: nagopine

ถ้าพาเด็กๆ มาล่ะก็ ต้องหลงรักที่นี่แน่นอน เพราะเขาจะได้เจอกับเจ้าไดโนเสาร์ขนาดใหญ่หน้าตาน่ารัก และสับปะรดขนาดใหญ่ยักษ์ ส่วนผู้ใหญ่ก็ต้องถูกใจ Skywalk​ ​ของที่นี่ เพราะระหว่างทางเดินจะมองเห็นต้นสับปะรดเต็มไปหมดเลย ถ้ามีโอกาสได้มาโอกินาว่าล่ะก็ นอกจากทะเลแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาที่นี่นะ มาลองชิมสับปะรดของญี่ปุ่นกัน

สวนสับปะรดนาโกะ (Nago Pineapple Park)

ซากปราสาทนาคิจิน (Nakijin Castle Ruins)

Cr: nakijinjohseki

ไหนๆ ก็ไปสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่าง หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาโยมิตัน มาแล้ว ก็ขอพามาที่ ซากปราสาทนาคิจิน ที่นี่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรริวกิว ซึ่งเป็นมรดกโลก UNESCO ด้วยนะ ซากปราสาทที่นี่จะเงียบสงบมากๆ เพราะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่า ทำให้ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ใครชอบมาสถานที่เงียบๆ ก็ต้องมาที่นี่เลย

จุดเด่นของที่นี่ก็คือ กำแพงหินสูงและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งกำแพงปราสาทนั้นได้รับรูปแบบมาจากจีน ทำให้แตกต่างจากกำแพงปราสาทในญี่ปุ่นทั่วไปที่เรามักพบเจอ นอกจากซากปราสาทแล้วที่นี่ก็ยังมี หมู่บ้านนาคิจิน และพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่มีของฝากเป็นเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก และเท่านั้นยังไม่พอ เพราะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ตลอดสองข้างทางก็จะมีดอกซากุระบานสะพรั่งให้ได้ชมความสวยงามอีกด้วย

ซากปราสาทนาคิจิน (Nakijin Castle Ruins)

ปราสาทชูริ (Shuri Castle)

ปราสาทชูริ อย่างที่รู้กันดีว่าเป็นสัญลักษณ์และความภาคภูมิใจของชาวโอกินาว่า ใครที่มาเยือนโอกินาว่าก็ต้องแวะมาที่นี่ ในอดีต โอกินาว่านั้นเคยเป็นอาณาจักรริวกิวมาก่อน และมีเมืองหลวงชื่อ ชูริ (ปัจจุบันคือเมืองนาฮะ) ปราสาทชูริแห่งนี้จึงเป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมและการปกครองของริวกิว และเนื่องจากตัวปราสาทอยู่บนเนินเขา ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านล่างที่งดงามได้อีกด้วย

ที่นี่จะมีห้องโถง Seiden ที่มีการตกแต่งแบบดั้งเดิมอยู่ และอีกสองที่คือ Hokuden และ Nanden จะเป็นสไตล์ทันสมัยขึ้น หากเดินไปชมที่หอ Nanden ก็จะมีการจัดแสดงนิทรรศการให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของอาณาจักรริวกิว ใครชอบศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และอยากมาสัมผัสอย่างใกล้ชิดก็ต้องมาที่ ปราสาทชูริ แห่งนี้เลย

แอบเสียดายตรงที่เคยได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก แต่เนื่องจากเกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้ปัจจุบันมีการบูรณะอยู่ ยังไงรอติดตามกันทางเว็บไซต์ออฟฟิเชียลนะ

ปราสาทชูริ (Shuri Castle)

วิธีการเดินทางใน โอกินาว่า (Okinawa)

วิธีการเดินทางใน โอกินาว่า นั้น ก็จะแบ่งออกเป็น 6 วิธีด้วยกัน ดังนี้

รถไฟโมโนเรล

Cr: yui-rai

Yui Rai รถไฟโมโนเรลสายแรก และสายเดียวของโอกินาว่า โดยเชื่อต่อระหว่างสนามบินนะฮะ กับ 19 สถานี เข้าด้วยกัน โดยต้นสายก็คือ Naha Airport และปลายสายคือ Tedako-Uranishi ใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ต้นสายจนสุดสาย 40 นาที โดยสามารถใช้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้เช่น ถนนโคกูไซโดริ ใจกลางเมืองนาฮะ ปราสาทชูริโจ

ราคาค่าตั๋วเดินทาง

เงื่อนไขการใช้งาน

• ซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว
• ระยะเวลาการใช้งาน 24 หรือ 48 ชั่วโมงนับจากเวลาที่ได้รับตั๋ว
• สามารถใช้ได้ทุกสถานี

กดเพื่ออ่านรายละเอียด

นอกจากนี้เรายังสามารถซื้อ 1 Day-Pass หรือ 2 Day-Pass

วิธีการซื้ออ่านที่นี่
Click

Cr: visitokinawa

หรือเราจะใช้บัตร OKICA (prepaid IC card) ในการเดินทางก็ได้เช่นกัน

รถเช่า

ในส่วนของการเดินทางอีกแบบที่คนนิยมกันเพราะทำให้เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ง่ายขึ้น อยากไปไหนยังไงก็ได้ คือการเช่ารถขับ แต่คุณสมบัติของคนที่จะเช่ารถขับได้ก็คือต้องมีใบขับขี่สากล ส่วนร้านเช่ารถก็มีมากมายหลายแบบ

จักรยานเช่า หรือมอเตอร์ไซต์เช่า

การเช่าจักรยานหรือมอเตอร์ไซต์ที่นี่ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการไปเที่ยวไหนไกลมาก เที่ยวแค่ในตัวเมืองของโอกินาว่า ข้อดีของการเช่ามอเตอร์ไซต์หรือจักรยานคือเราสามารถหลีกเลี่ยงสภาพจราจรที่แออัดได้ นอกจากนั้นสำหรับใครที่ขับรถไม่เป็นก็สามารถใช้จักรยานได้นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ Click

แท็กซี่

สำหรับแท๊กซี่นี่เรียกได้ว่ามีทุกที่จริงๆ เพียงแต่ต้องกระเป๋าหนักหน่อยถึงจะขึ้นได้ โดยหลักการคิดค่าโดยสารมีดังนี้

• เกาะหลักโอกินาว่า : แท็กซี่ทั่วไป 560 เยน (ค่าโดยสารส่วนเพิ่ม : เพิ่ม 70 เยน ทุก ๆ 365 เมตร)
• เกาะอื่น ๆ ในโอกินาว่า : แท็กซี่ทั่วไป 470 เยน (ค่าโดยสารส่วนเพิ่ม : เพิ่ม 60 เยน ทุก ๆ 336 เมตร)

หากนั่งช่วงเวลา 22:00-05:00 น. ค่าโดยสารจะถูกคิดเพิ่ม 20% เป็นค่าล่วงเวลา

Application แนะนำสำหรับใช้แท๊กซี่

รถบัส

Airport Limousine Bus

จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 สาย ดังนี้

Cr: okinawabus

ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่

Route Map Airport Limusine Bus

โดยการเดินทางด้วยลีมูนซีนบัสเนี่ย เราามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังจุดต่างๆ ในโอกินาว่าได้อย่างสะดวกสบาย

ราคาเช็คที่นี่ Click
สามารถจองตั๋วรถได้ที่นี่ Click

Yanbaru Express Bus

Yanbaru Express Bus

การเดินทางในโอกินาว่า

เป็นรถบัสที่วิ่งระหว่าง Naha airport – Churaumi aquarium – Unten portโดยสามารถใช้โดยสารไปและกลับได้เลย

Naha Airport / Chatan Route Bus

เป็นอีกสายที่น่าสนใจมาก สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวหมู่บ้านอเมริกา ต้องไปสายนี้เลย

โดยสามารถเช็ค Route และ ราคา ได้ที่นี่ Click

Okinawa Airport Shuttle Bus

รถบัสด่วนวิ่งรอบโอกินาว่า โดยมีรอบรถวิ่งมากถึงวันละ 26 เที่ยว โดยบัสนี้จะวิ่งตั้งแต่สนามบินไปจนถึงตอนกลางของโอกินาว่า ซึ่งจะจอดสถานที่ท่องเที่ยวหลักถึง 8 ที่ด้วยกัน แต่รถบัสนี้จะไม่จอดในตัวเมืองนะฮะจนถึงหน้าสวนสาธารณะคิเนนโกเอ็นมาเอะ

รถบัสนี้จะจอดทั้งหมด 8 สถานที่ท่องเที่ยวด้วยกันคือ

รถบัสนี้มีแบบพาสด้วย โดยแบ่งออกเป็นแบบ 3 วัน 3,900 เยน และ 5 วัน 4,900 เยน

Cr: okinawa-shuttle

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสถานที่ซื้อพาส Click

รถบัสประจำทาง

สามารถชำระได้ด้วยเงินสดหรือชำระผ่านบัตร IC Card “OKICA” เท่านั้น โดยบัสจะแบ่งสายดังนี้

สถานที่หลัก: พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิโอกินาว่า
สายรถ: 20, 120, (จาก Nago Bus Terminal) 65, 66, 70

สถานที่หลัก: Chatan American Village
สายรถ: 20, 28, 29, 43, 120

สถานที่หลัก: AEON MALL Okinawa Rycom
สายรถ: 21, 25, 23, 27, 31, 77, 80, 90, 92, 110, 223, 227

สถานที่หลัก: ปราสาทชูริ
สายรถ: 1, 7, 8, 9, 13, 14, 17, 25, 46, 97

สถานที่หลัก: Okinawa Outlet Mall ASHIBINAA
สายรถ: 55, 56, 88, 98

สถานที่หลัก: เซฟาอูตากี
สายรถ: 38

สถานที่หลัก: โอกินาว่าเวิลด์
สายรถ: 54, 83

สถานที่หลัก: สวนอนุสรณ์สถานเพื่อสันติภาพ
สายรถ: 34, 89, (จาก Itoman Bus Terminal) 82, 107, 108

Okinawa Pass

นากจากนี้ยังมี Okinawa Pass ที่เราสามารถซื้อและเลือกใช้ได้ตามความต้องการ โดยพาสจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก และ 4 แบบย่อยคือ พาสสำหรับรถบัสอย่างเดียวและ พาสสำหรับรถบัส + Yui Rail โดยทั้งสองประเภทนั้นจะมีแบบ 1 DAY PASS และ 3 DAY PASS

Cr: Okinawa Pass

ส่วนรูทสำหรับการใช้พาสดูได้ดังนี้

Cr: Okinawa Pass

ดาวน์โหลดไฟล์ Okinawa Pass ขนาดใหญ่

Route Map Okinawa Pass

เรือด่วนเฟอร์รี่

สำหรับใครที่ต้องการหลีกดลี่ยงการจราจร หรือต้องการไปทางตอนเหนือของโอกินาว่าที่ไม่ค่อยมีรถบัสเราแนะนำให้นั่งเรือด่วยเฟอร์รี่ เพราะใช้เวลาเพียง 75 นาที กจากใจกลางนาฮะ ก็จะถึงทางตอนเหนือของโอกนาว่า ที่เมืองโมโตบุแล้ว

ส่วนราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เพราะหากเราเลือกแบบไปรอบเดียวราคาจะอยู่ที่ 3000 เยน และหากเราเลือกแบบไป-กลับจะอยู๋ที่ 5400 เยน

รายละเอียดเพิ่มเติม Click

ฤดูกาลท่องเที่ยว โอกินาว่า (Okinawa)

ฤดูกาลท่องเที่ยวในโอกินาว่า จะมีฤดูที่แตกต่างจะเกาหลักของญี่ปุ่นเหมือนกัน เนื่องจากเป็นเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่นแล้วนั่นเอง จึงทำให้ที่นี่มีอุณหภูมิที่ค่อนข้างอุ่นกว่าที่อื่น แต่ก็ยังคงมี 4 ฤดูเช่นเดิม

ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูนี้จะเริ่มตั้งแต่ มีนาคม จนถึง พฤษภาคม อากาศจะค่อนข้างสบาย เฉลี่ยนอยู่ที่ 19-25 องศา และถึงแม้ว่าเราจะเรียกฤดูนี้ว่าฤดูใบไม้ผลิแต่ในช่วงเวลานี้ไม่ได้มีดอกซากุระแต่อย่างใด เพราะซากุระจะบานในช่วงฤดูหนาวไปแล้วนั้นเอง

การแต่งกายในช่วงฤดูนี้ก็ให้เน้นเป็นการแต่งด้วยเสื้อแขนยาวขายาว หรือชุดสบายๆ ในช่วงพฤษภาคม

ฤดูร้อน

ฤดูร้อนนั้นเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงสิงหาคม โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 23-33 องศา ในช่วงนี้อากาศจะร้อนมากเป็นพิเศษ แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคม จะมีพายุไต้ฝุ่นทำให้เกิดฝนตกและพายุได้จึงควรวางแผนให้ดีก่อนการเดินทาง

การแต่งกายช่วงเดือนนี้แนะนำว่าให้เน้นแต่งตัวด้วยชุดเบาๆ สบาย เพราะอากาศที่นี่จะร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

เริ่มตั้งแต่ กันยายนไปจนถึงพฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 16-32 องศา ในช่วงนี้อากาศจะเริ่มเปลี่ยนค่อยๆ เย็นลงและมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างแจ่มใส ในช่วงนี้เราสามารถเลือกมาชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ช่วงเดือนตุลาคม

การแต่งกายในช่วงนี้เน้นเป็นเสื้อแขนยาว แต่ยังคงความเบาสบายอยู่ใคร แต่หากใครเป็นคนขี้หนาวแนะนำให้พกเสื้อคลุมไหมพรมมาสักตัวก็จะพอดี

ฤดูหนาว

เริ่มตั้งแต่ธันวาคมไปจนถึงกุมภาพันธ์ อุณณหภูมิเฉลี่ยนอยู่ที่ 9-26 องศา เป็นช่วงที่มีอากาศเย็นกว่าปกติ แต่ไม่มีหิมะอย่างแน่นอน หากใครคาดหวังว่าจะได้เจอหิมะที่โอกินาว่าคงต้องเปลี่ยนเข็ฒทิศอย่างไว แต่อากาศในช่วงนี้จะเย็นๆ

การแต่งกายช่วงนี้เน้นให้ใสแขนยาวขายาวจะดีที่สุด ถึงแม้จะเป็นเกาะแต่ช่วงนี้อากาศลดลงค่อยข้างต่ำเลยทีเดียว อาจจะไม่สบายได้

ก่อนเดินทางไปเที่ยวโอกินาว่าอย่าลืมเช็คสภาพอากาศก่อนนะ จะได้เตรียมเที่ยวพร้อมเสื้อผ้าที่ต้องใส่ถูกClick

การแต่งตัวเที่ยวใน โอกินาว่า (Okinawa)

ใครที่อยากรู้ว่าช่วงฤดูหนาวแต่งตัวยังไง ต้องหนาแค่ไหนถึงจะพอ อ่านที่นี่เลย

เทคนิค แต่งตัวไปญี่ปุ่นหน้าหนาว ให้อุ่นสบาย ไม่อ้วนกลม!

บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!

แต่สำหรับใครที่มองหาการแต่งตัวไปเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น ก็มาทางนี้เลย

แนะนำการ แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หน้าร้อน จาก 3 แบรนด์ฮิต

หน้าร้อนไม่ร้อนใจ แต่งตัวเข้ากันฤดูเที่ยวเพลิน

อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง จังหวัด โอกินาว่า (Okinawa)

โซกิโซบะ (Soki Soba)

คำว่า โซกิ (Soki) เป็นคำในภาษาถิ่นโอกินาวะหมายถึง เนื้อส่วนซี่โครงหมู ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่นำมาวางไว้ด้านบนบะหมี่น้ำหรือโซบะ (Soba) โดยมีลักษณะน้ำซุปใสรสชาติเบาๆ เส้นบะหมี่จากแป้งสาลีลวกออกแข็งเล็กน้อย และเนื้อหมูเคี่ยวจนนุ่มที่วางอยู่ด้านบน

โกยะชัมปุรุ (Goya Champuru)

หน้าตาคล้ายมะระผัดไข่บ้านเรา โดยเป็นเมนูผัดที่นำเต้าหู้และวัตถุดิบชนิดอื่นๆ มากมายโดยโยนทุกอย่างลงไปผัดรวมกัน เซิร์ฟคู่กับเครื่องเคียง

สถานที่ท่องเที่ยว 10 ที่แนะนำ จะมีที่ไหนบ้างลองดูบทความนี้กัน

10 ที่เที่ยว โอกินาว่า เที่ยวเดือนไหน เดินทางยังไง ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนไป!!

รวมที่เที่ยวโอกินาว่า เกาะน้อยของญี่ปุ่น ที่เดินทางไปไม่ยากอย่างที่คิด แถมราคาไม่แพง จัดทริปเที่ยวง่ายๆ ว่าแต่ว่า จะไปโอกินาว่าทั้งทีต้องไปเดินไหนนะ แล้วเดินทางในโอกินาว่ายังไง ไม่รถไปได้หรือเปล่า แล้วที่โอกินาว่ามีอะไรให้เที่ยวบ้างนะ หากสงสัยกันอยู่ไปดูเลย

ข้อสรุป

จบไปแล้วกับ 10 ที่เที่ยวที่น่าสนใจในโอกินาว่า ทะเลสวยหาดขาวเหมือนที่คิดไว้เลย แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเยอะสุดๆ ได้ใกล้ชิดกับสัตว์น้ำที่เหมือนว่าเรานั้นอยู่ใต้มหาสมุทรอีกด้วย มีครบทุกรูปแบบเลยนะโอกินว่าเนี่ย ใครสนใจที่ไหนก็อย่าลืมจดพิกัด วิธีการเดินทางกันให้ดีๆ ล่ะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน

เที่ยวโอกินาว่าสุดฟินเที่ยวจุใจ ทะเลน้ำใส หาดทรายดาว