แนะนำ เกียวโต (Kyoto)
นครเกียวโต เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเกียวโต (Kyoto) ซึ่งที่นี่เป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และจัดว่าเป็นศูนย์กลางของเกาะฮนชู นอกจากนี้ นครเกียวโตยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ กลุ่มเมืองใหญ่ “เคฮันชิง” มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องวัฒนธรรมที่ประณีตงดงาม อาหาร และมนต์เสน่ห์แห่งชนบทญี่ปุ่น
การเดินทางไปยัง เกียวโต (Kyoto)
เกียวโตเป็นจังหวัดที่ไม่มีสนามบินเป็นของตัวเอง แต่สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือสนามบินนานาชาติคันไซ ดังนั้นจึงแนะนำให้ขึ้นรถไฟด่วนจากสนามบินคันไซตรงสู่เกียวโต Haruka Express ใช้เวลาเพียงแค่1ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
ที่เที่ยว เกียวโต (Kyoto)
ต่อไปเราจะมาแนะนำ 15 สถานที่ท่องเที่ยว เกียวโต (Kyoto)
ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ หรือศาลเจ้าแดง (Fushimi Inari Shrine)
สถานที่เที่ยวยอดฮิตเวลาไปเที่ยวเกียวโตของใครหลายๆ คนก็คงหนี้ไม่พ้นศาลเจ้าเทพอินาริ หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกนั่นเอง ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นฟูชิมิอินารินี้ถือว่าเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดและมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเสาโทริอิเป็นหมื่นๆ ต้น เรียกกันโดยทั่วไปว่า “โออินาริซัง” ซึ่งเป็น Signature และสิ่งนี้แหละที่ทำให้ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวมาเช็คอินกันอย่างไม่ขาดสาย ถ้าใครเป็นสายตามรอยอนิเมะนี่ห้ามพลาดเลย เพราะที่นี่ถูกนำไปเป็นฉากในอนิเมะบ่อยมากกกก
ไหว้พระ เที่ยวชมความสวยงามแล้วก็อย่าลืมมาเขียนป้ายขอพรที่เป็นรูปสุนัขจิ้งจอกกันด้วยน้า
และเมื่อมาถึงที่นี่แล้วสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ ของฝากนั่นเอง ซึ่งที่นี่มีของฝากเยอะมากให้เราได้เลือกซื้อ สินค้าส่วนมากก็จะเป็นสุนัขจิ้งจอกประจำศาลนี่แหละ ราคาไม่ต้องพูดถึง ทุกคนสามารถซื้อได้แน่นอน เพราะเริ่มต้นแค่ 500 เยน หรือ 150 บาทไทยเท่านั้น!
ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ (fushimi inari shrine)
ที่อยู่ | 68 Fukakusa Yabunouchicho, Fushimi, Kyoto 612-0882 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถจากสถานี Tambabashi ตรงชานชาลาที่ 1 มาลงสถานี Fushimi-Inari และเดินต่ออีกประมาณ 4 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง |
Website | fushimi inari shrine |
วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส (Kiyomizu-dera)
วัดคิโยมิซุ หรือวัดน้ำใสที่เรารู้จักกัน เป็นวัดเก่าแก่อายุมากกว่า 1,200 ปีเลยทีเดียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ได้โด่งดังในแค่เมืองเกียวโตนะจ๊ะ แต่โด่งดังมากในญี่ปุ่นเลยแหละ และยังเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ว้าวว ที่เที่ยว เกียวโต สวยๆ แบบนี้ไม่มาไม่ได้แล้วน้า
จุดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาที่นี่ก็คงไม่พ้นอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่แค่การสร้างก็น่าทึ่งแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะการสร้างทั้งหมดนี้ไม่มีการใช้ตะปูใดๆ ทั้งสิ้น! น่าทึ่งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ และเสาของอาคารก็มีความสูงถึง 13 เมตรจากพื้นดิน
โถงอาคารก็ถูกสร้างให้ยื่นออกไปภายนอกทำให้บริเวณนี้เป็นจุดชมวิว มองเห็นเมืองเกียวโตในฤดูต่างๆ และเป็นจุดชมซากุระและชมใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของเกียวโตอีกด้วย นี่แหละจุดเด่นที่ควรมาเช็คอินเลย
และไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ น้ำตกโอโตวะ (ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า น้ำใส ที่เป็นชื่อวัด) ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า หากใครที่ได้ดื่มน้ำใสที่วัดแล้วล่ะก็จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้ ซึ่งน้ำที่ว่ามี 3 สาย และมีความศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันออกไป ได้แก่ อายุยืน ประสบความสำเร็จในการเรียน และ ชีวิตคู่ ถ้ามีโอกาสได้ไปก็เหมารวมดื่มทั้ง 3 สายไปเลยจ้า ได้พรครบๆ จุกๆ ไปเล้ย
หลังจากดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ภายในบริเวณวัดน้ำใสยังมีศาลเจ้าจิชู เป็นเทพแห่งความรักและเนื้อคู่ ภายในศาลเจ้าจะมีก้อนหินแห่งความรัก 2 ก้อน อยู่ห่างกัน 18 เมตร โดยเชื่อกันว่าหากใครสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนแรก ไปยังหินอีกก้อนหนึ่งได้โดยไม่หลงทิศทางได้เนี่ย คนๆ นั้นก็จะสมปรารถนาในความรัก เอาล่ะสายเก็บแต้มบุญ สายขอคู่ห้ามพลาดเลยนะ
วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera)
ที่อยู่ | 294 Shimizu, Higashiyama, Kyoto, Kyoto 605-0862 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ไม่มีรถไฟไปถึงตัววัดโดยตรง ต้องลงที่สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดซึ่งเป็นสถานี Kiyomizu-Gojo และต่อรถบัส หรือเดินประมาณ 25 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น.(เวลาทำการอ่านเปลี่ยนไปตามฤดู) |
ราคา | บริเวณวัดเข้าชมฟรี / ค่าเข้าบริเวณอาคารหลัก ผู้ใหญ่ 300 เยน / ประถมและมัธยมต้น 200 เยน |
Website | kiyomizudera |
วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง (Kinkakuji Temple)
ไหนมีใครรู้จัก วัดทอง กันบ้าง? และรู้ไหมว่าวัดทองที่เราเรียกกันมีชื่อจริงๆ ว่าอะไร! ชื่อจริงๆ ก็คือ วัดคินคะคุจิ นั่นเองจ้า
สาเหตุที่คนส่วนมากเรียกวัดนี้ว่าวัดทองก็เพราะว่าตัวอาคารหลักของวัดนี้มีสีทองเหลืองอร่ามตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางน้ำ เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น และด้วยตัวอาคารที่งดงามจึงทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้วย
และช่วงที่วัดทองสวยงามที่สุดก็คงไม่พ้นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็คือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน และยังเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด (เพราะมาชมความสวยของใบไม้นี่แหละจ้า) แต่ถึงจะไปช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ถ่ายรูปนะ เพราะวัดมีมุมสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปตลอด เอาเป็นว่าเดินไปที่ไหนถ่ายรูปออกมาก็สวยทุกรูปแน่นอนเลย
ที่นี่ยังมีการจำหน่ายเครื่องรางของวัด รวมไปถึงการเขียนแผ่นป้ายให้เราได้ขอพร แถมแผ่นป้ายก็น่ารักมากๆ แวะไปแล้วก็อย่าลืมไปเขียนแล้วก็ซื้อเครื่องรางกลับไปด้วยน้า
วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)
ที่อยู่ | 1 Kinkakuji, Kita, Kyoto 603-8361 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถบัส ลงป้าย Kinkakujimichi แล้วเดินเข้าวัดประมาณ 2 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 9.00 – 17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 400 เยน / นักเรียนประถมและมัธยมต้น 300 เยน |
Website | shokoku-ji |
เมืองชนบทอาราชิยาม่า (Arashiyama)
เมืองชนบทอาราชิยาม่าเป็นเมืองเล็กๆ (แต่สถานที่ท่องเที่ยวไม่เล็กนะจ๊ะ) อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองเกียวโต เสน่ห์ของที่นี่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจก็คือ ธรรมชาติและบ้านเมืองชนบทของญี่ปุ่น แล้วก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่ถ้ามาเมืองนี้แล้วพลาดไม่ได้เลยก็คือ ป่าไผ่ สวนลิง และอีกอย่างคือการนั่งรถไฟชมวิวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่เรียกกันว่า Sagano Romantic Train ดูจากภาพแล้วอยากไปกันล่ะสิ สวยมากๆ เลย
ไหนๆ ก็พูดถึงรถไฟชมทิวทัศน์แล้วก็ขอพูดเพิ่มเติมหน่อยว่า รถไฟสายนี้จะวิ่งตลอดเส้นทาง Sagano Scenic Railway ตามแนวแม่น้ำ Hozugawa ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาทีผ่านอุโมงค์ป่าทุ่งหญ้า จะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติ ซึ่งรถไฟวิ่งทุกวันตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 16.00 น. ยกเว้นวันพุธ (จะไปก็เช็ควันกันดีๆ น้า) และมีค่าใช้จ่าย 630 เยนต่อคน แนะนำว่าถ้าใครสนใจเนี่ย ควรจองล่วงหน้า
สวนลิงอาราชิยาม่า เจ้าลิงน้อยแสนน่ารักกำลังรอทุกคนไปหาอยู่นะ
ป่าไผ่อาราชิยาม่า ก็คือจุดท่องเที่ยวทีมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เหมือนกันนะ ด้วยบรรยากาศอันสงบร่มรื่น และความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของแนวต้นไผ่จำนวนมากตลอดสองข้างทาง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างมาถ่ายรูปและเช็คอินกันอย่างไม่ขาดสายเลยแหละ
ยังไงถ้ามีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมแวะมาเมืองชนบทเล็กๆ แต่ที่เที่ยวครบ อย่างเมืองอาราชิยาม่าแห่งนี้กันด้วยน้า
เมืองชนบทอาราชิยาม่า (Arashiyama)
ที่อยู่ | Ukyo, Kyoto, Kyoto, 616-0000 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Saga-Arashiyama เดินไปยัง Arashiyama Bamboo Forest ใช้ เวลาประมาณ 15 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตลอด 24 ชั่วโมง |
วัดไซโฮจิ (Saihoji Temple) หรือวัดโคเคเดระ (วัดมอส)
วัดโคเคเดระ วัดไซโฮจิ วัดมอส ตกลงชื่ออะไรกันแน่นะ? ไม่ต้องงงจ้า ก็ทั้งสามชื่อนั่นแหละคือชื่อวัดหมดเลย แล้วแต่ว่าใครสะดวกเรียกแบบไหนก็เรียกไปเนอะ แต่ที่เขานิยมกันเนี่ยก็คือ วัดมอส เพราะว่าที่วัดนี้มีมอสปกคลุมพื้นที่สวนของวัดเกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ น่าจะมีประมาณ 120 สายพันธุ์เลยนะ อีกอย่างวัดมอสแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโกด้วย
ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มาเที่ยวได้ร่วมทำกิจกรรมทางศาสนาบางอย่างของทางวัดด้วย อย่างเช่น พิธีกิโต (kito) ก็อารมณ์ประมาณว่าจะให้เรากินอาหารที่เน้นไขมันสูง รองมาด้วยพวกโปรตีน โดยลดคาร์โบไฮเดรตให้เหลือในปริมาณที่น้อยมากๆ ลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลให้น้อย แต่ให้แทนที่ด้วยไขมันทั้งจากพืชและสัตว์แทน
และอีกอย่างคือ ชาเคียว (shakyo) ซึ่งเป็นการสวดมนต์และคัดลอกพระคัมภีร์หรือพระสูตร (Sutra) อะไรทำนองนี้ ใครสายนี้ก็แวะไปกันได้นะ
แต่การไปเที่ยวชมวัดมอสเนี่ย เราจะต้องจองก่อน! โดยการส่งจดหมายแจ้งรายละเอียด ชื่อ ที่อยู่ของเรา และก็วันที่ต้องการจะเข้าชม พร้อมกับโปสการ์ดที่ติดแสตมป์เรียบร้อยแล้วให้ไปทางวัด ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันทำการ เสร็จแล้วเราก็ต้องมารอลุ้นกันว่าวันที่เราจะไปเต็มไหม จากนั้นทางวัดก็จะส่งจดหมายตอบรับกลับมาให้เรา แล้ววันที่ไปก็ห้ามลืมนำใบตอบรับไปด้วยนะ ห้ามลืมเด็ดขาดเลย!
วัดไซโฮจิ (Saihoji Temple) หรือวัดโคเคเดระ (วัดมอส)
ที่อยู่ | 56 Matsuo, Jingatani, Nishikyo, Kyoto, 615-8286 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากป้ายรถบัส Kokedera bus stop [รถบัสสาย 73] เดินประมาณ 2 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 13.00 น. ยกเว้นเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม เปิดให้เข้า 10.00 น. (ในแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) |
ราคา | 3,000 เยน (จองล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์) |
Website | saihoji-kokedera |
วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple)
วัดเรียวอันจิเป็นวัดพุทธนิกายเซนสายรินไซ และจุดเด่นของวัดก็คงเป็นสวนหินที่สวยงาม ที่แอบมีความลับซ่อนอยู่ด้วย ก็คือในสวนหินจะมีหินก้อนใหญ่อยู่ 15 ก้อน จัดเรียงเป็น 5 กลุ่ม รอบๆ แต่! คนที่ไปส่วนมากเนี่ยนับหินได้ไม่เคยครบ 15 ก้อนเลย จะมองมุมไหนก็ไม่ครบ เพราะอะไรอันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เหมือนกัน (แต่เขาบอกว่าถ้ามองจากโดรนจะครบนะ)
สระน้ำเคียวโยจิ (Kyoyochi Pond) เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 พื้นที่ของสระน้ำเป็นที่อยู่ของตระกูลฟูจิวาระ รอบๆ สระน้ำในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้เห็นบ้าง
นอกจากสวนหินกับสระน้ำเคียวโยจิแล้ว วัดเรียวอันจิยังมีทางเดินให้ได้เดินชมรอบๆ วัด โดยสองข้างทางก็เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีสีสันสวยงามให้ชื่นชมอีกด้วยจ้า
วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple)
ที่อยู่ | 13 Ryoanji Goryonoshita, Ukyo, Kyoto 616-8001 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Ryouan ประมาณ 16 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 08.00 – 16.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 500 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 300 เยน |
Website | ryoanji |
วัดโยชิมิเนะเดะระ (Yoshiminedera Temple)
วัดโยชิมิเนะเดะระ เป็นวัดของพุทธศาสนานิกายเท็นได ตั้งอยู่ในภูเขาทางทิศตะวันตกของเกียวโต อาคารหลักของวัด คือ Hondo ตั้งอยู่หลังประตูทางเข้าหลักซานม่อน ถัดมาเป็นห้องสมบัติ สำหรับจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
วัดนี้มีต้นเมเปิ้ลอายุกว่า 300 ปี ซึ่งมีความสวยงามมากๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้จะค่อยๆ เปลี่ยนสี จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยไม่แพ้ที่ไหนเลยแหละ
ไฮไลท์อีกอย่างที่แนะนำเลยว่าต้องมาชมให้ได้นั่นก็คือ ต้นสนมังกรที่อายุกว่า 600 ปี มีความสูงเพียง 2 เมตร แต่ลำต้นกว้างถึง 40 เมตร ได้ชื่อว่าเป็นสนมังกรที่ความยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยนะ
และในช่วงหน้าร้อน ที่นีมีสวนดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่งสวยงาม สีสันสดใส มีมากกว่า 10,000 ต้น (ก็คือตลอดทางเดินที่เห็นตามภาพเลย) วัดโยชิมิเนะเดะระรอให้ทุกๆ คน ไปเช็คอินกันอยู่น้า
วัดโยชิมิเนะเดะระ (Yoshiminedera Temple)
ที่อยู่ | 1372, Oharano, Oshio, Nishikyo, Kyoto, 610-1133 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสจากสถานี Hankyu-Higashimuko ใช้เวลาประมาณ 37 นาที ลง ที่ป้ายสุดท้าย แล้วเดินขึ้นเขาต่ออีกประมาณ 2 นาที |
เวลาทำการ | 8.00 – 17.00 เปิดให้เข้าชมได้ถึง 16.45 (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณา ตรวจสอบอีกครั้งก่อนไป) |
ราคา | ผู้ใหญ่ 500 เยน / เด็กมัธยมปลาย 300 เยน / เด็กมัธยมต้น – ประถม 200 เยน |
Website | yoshiminedera |
ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama)
พูดถึงวัดกันไปเยอะแล้ว เรามาพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งใน ที่เที่ยว เกียวโต กันบ้างดีกว่า ที่นี่เลย ย่านฮิกาชิยาม่า! เป็นย่านที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขนมมากมาย โดยย่านนี้จะอยู่บนเนินเขาทางตะวันออกของเกียวโต ก็จะเห็นว่ามีคนใส่ชุดกิโมโนมาเดินเที่ยว เดินถ่ายรูปกัน ถือว่าเป็น signature สุดๆ
นอกจากนี้ตัวอาคารบ้านเรือน ร้านค้าที่อยู่ตามข้างทางยังคงความเก่าแก่เอาไว้ ทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์มากๆ แระหว่างวัดน้ำใสไปจนถึงศาลเจ้ายาซากะ จะเป็นถนนทางเดินแคบๆ มีอาคารไม้ทรงโบราณแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งเป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขนม เวลาเดินก็จะให้ความรู้สึกถึงญี่ปุ่นสมัยก่อน พอเดินจากย่านนี้เสร็จก็สามารถไปเที่ยวชมความสวยงามของวัดน้ำใสได้ต่อเลย มาที่เดียวแต่คุ้มสุดๆ เลยแหละ
ถ้าแวะมาที่ย่านฮิกาชิยาม่าในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็จะได้พบกับดอกซากุระที่บานสะพรั่ง สีสันสวยงามตามทาง สวยสุดๆ ไปเลย
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ร้านขายของกินอย่างเดียวนะ แต่ยังมีร้านขายของที่ระลึกให้เลือกซื้ออีกมากมาย ที่เด่นๆ ก็จะเป็นเครื่องถ้วยชามที่เรียกกันว่า คิโยะมิสุ-ยากิ เป็นถ้วยเซรามิกที่วาดลวดลายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม (หาซื้อที่อื่นได้ยากนะบอกไว้ก่อน) แล้วก็ยังมีพัดลายซากุระ ลายน่ารักๆ ให้ได้เลือกซื้ออีกด้วย ถ้ายังไงก็ลองซื้อไปฝากคนที่บ้านกันนะ คงถูกใจน่าดูเลย
ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama)
ที่อยู่ | 6-130 Shimizu, Higashiyama, Kyoto, Kyoto 605-8511 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถบัส ที่สถานีรถไฟเกียวโต ให้ขึ้นรถเมล์ สาย 100 หรือ 206 ลงป้าย Kiyomizu-michi แล้วเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง เพื่อเดินไป วัดน้ำใส ระหว่างทางเดินจะผ่าน ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) |
เวลาทำการ | เวลาทำการจะต่างกันไป ขึ้นอยู่กับร้านค้า |
ราคา | ไม่มีค่าใช้จ่าย |
หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine)
และสถานที่สุดท้าย! ข้ามมาเที่ยวชมหมู่บ้านชาวประมงกันบ้าง ที่นี่หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมืองเลย แต่สิ่งที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวก็คงจะเป็นความสวยงามของบ้านเรือนที่เป็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และด้วยความที่ห่างไกลจากตัวเมืองจึงทำให้เป็นสถานที่ที่มาพักผ่อนย่อนใจได้ดีเลยแหละ
เดิมทีที่นี่เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในด้านการประมง แต่ก็อย่างว่าแหละ เดี๋ยวนี้การทำการประมงไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่ไหมล่ะ ก็เลยต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแทน โดยถือเป็นหมู่บ้านที่งดงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
อิเนะเนี่ยเขามีชื่อเสียงจากฟุนายะ ซึ่งก็คืออู่เรือนั่นเอง สิ่งก่อสร้างจากไม้เหล่านี้ตั้งอยู่บนผิวน้ำและเป็นทั้งอู่เรือและบ้านของชาวประมงในหมู่บ้าน ที่เก็บเรือจะอยู่ที่ชั้นหนึ่ง และชั้นสองใช้เป็นที่อยู่อาศัย
โดยที่นี่มีก็มีบ้านพักที่มีบ่อออนเซ็นให้บริการ และบ้านพักทุกที่จะมีบริการเรือแท็กซี่ (แท็กซี่บนน้ำดีๆ นี่เองจ้า) และเราสามารถตกปลาได้ด้วยนะ มาพักค้างคืนในหมู่บ้านชาวประมงสักคืนสองคืนให้หายเหนื่อยกันเถอะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine)
ที่อยู่ | 491, Hirata, Ine, Yoza, Kyoto 626-0423 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสจากสถานี Amanohashidate ไปลงที่หมู่บ้านอิเนะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง |
เวลาทำการ | 9.00 – 16.00 น. (เที่ยวเรือที่ให้บริการ) |
ราคา | ไม่มีค่าใช้จ่าย (แต่มีค่าเรือ ผู้ใหญ่ 680 เยน / เด็กต่ำกว่าชั้นประถมลงไป 340 เยน เรือออกทุกครึ่งชั่วโมง) |
Website | ine-kankou |
ย่านกิออน (Gion)
ย่านกิออน ตั้งอยู่ในเขตฮิกาชิยามะ จังหวัดเกียวโต เป็นย่านที่มีเกอิโกะ (หรือเกอิชา) อยู่เป็นจำนวนมาก เป็นย่านที่มีเสน่ห์ของบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ
บรรยากาศในย่านกิออนจะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นหลังเล็กๆ อยู่ติดกัน จะเปิดให้บริการช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว เราจะสามารถเห็นเกอิชาเดินไปมาในบริเวณนี้ได้
หมู่บ้านโบราณ (Kayabuki no sato)
Kayabuki no sato เป็นหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่ที่เมือง Miyama ห่างจากจังหวัดเกียวโตไปประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นหมู่บ้านแบบเกษตรกรรมในชนบทที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
บ้านทรงโบราณที่มีหลังคาเป็นทรงสูงเช่นเดียวกับหมู่บ้าน Shirakawa-go เรียงรายอยู่กว่า 40 หลัง และบ้านเรือนอีกกว่า 200 หลังกระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ตามบริเวณหุบเขา ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในญี่ปุ่นยุคโบราณเลยล่ะ
Kayabuki no Sato
ที่อยู่ | Miyamachokita, Nantan-shi, Kyoto 601-0712 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่ง JR Bus สายที่ไป Takao จาก Kyoto Station ลงที่ป้าย Shuzan (ประมาณ 90 นาที) จากนั้นรถบัส Nantan Bus ไปลงที่ Miyama (ประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับปลายทางที่ลง) |
เวลาทำการ | ตัวหมู่บ้านเข้าชมได้ตลอด |
ค่าเข้าชม | เข้าชมฟรี |
Website | Kayabuki no Sato |
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge)
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge) หรือ Moon Crossing Bridgeนี่ สะพานข้ามแม่น้ำเก่าแก่ตั้งแต่ในสมัยเฮอันสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอาราชิยาม่า ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม การเดินเล่นบนสะพานชมภูเขาที่กำลังเปลี่ยนสีตามชนิดใบไม้ และต้นไม้ที่สองข้างทางเรียบแม่น้ำเป็นภาพที่ประทับใจทีเดียว
หรืออยากอิ่มเอมบรรยากาศย้อนยุคเบาๆ ก็ลองนั่งเรือชมบรรยากาศริมฝั่งในแม่น้ำสีสวย ก็เป็นอะไรที่ลงตัวเลยล่ะ
Togetsu-kyo Bridge
ที่อยู่ | Saga-ku, Kyoto Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั้งรถ Hankyu-Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama Station เดินอีก 8 นาที |
ช่วงเวลาที่แนะนำ | เดือนพฤศจิกายน |
รถไฟสายโรแมนติก (Sagano Romantic Train)
รถไฟสายโรแมนติก Sagano Torokko เป็นสถานที่ท่องเที่ยวลับที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะได้ดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สวยงามผ่านรถไฟสายตะวันตกเฉียงเหนือเมืองเกียวโต
รถไฟจะวิ่งผ่านหุบเขาของซากาโนะ จะได้รับชมทิวทัศน์สวยทั้ง 4 ฤดูและได้ใช้เวลาผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ปลดปล่อยจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน
The Sagano Romantic Train
ที่อยู่ | Sagatenryuji Kurumamichicho, Ukyo Ward, Kyoto, 616-8373 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถไฟจากสถานี JR Osaka สาย Thunderbird 43 Limited Express Kanazawa ไปลงที่สถานี JR Kyoto แล้วเปลี่ยนสายรถไฟ เป็น San-In Line ไปลงยัง สถานี JR Saga-Arashiyama Station ใช้เวลาประมาณ 44 นาที แล้วเดินต่ออีก 1 นาทีไปที่สถานี Torokko-Saga Station |
ราคา | ค่ารถไฟ ซื้อที่ญี่ปุ่น ผู้ใหญ่ 630 เยน เด็ก 320 เยน ซื้อผ่าน Klook 1,400 เยน ค่าเรือสำหรับล่องกลับมาที่ Torokko-Saga 4,100 เยน |
Website | The Sagano Romantic Train |
วัดเท็นริวจิ (Tenryuji Temple)
วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) วัดเก่าแก่และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของเกียวโต วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1339 เพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิ โกไดโกะ แม้ว่าบางช่วงตัววัดจะถูกทำลายแต่ก็ได้รับการบูรณะอย่างเรื่อยมา
Tenryuji Temple ถือเป็นหนึ่งในห้าวัดที่สำคัญของนิกายเซ็นในญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ล้อมรอบด้วยสวนสวยเป็นเอกลักษณ์ทำให้วัดแห่งนี้ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้
Tenryuji Temple
ที่อยู่ | 68 Sagatenryuji Susukinobabacho, Ukyo Ward, Kyoto 616-8385 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดิน 3 นาทีจากสถานีรถรางArashiyama สาย Randen |
เวลาทำการ | 8.30–17.30 น. |
ค่าเข้าชม | ชมสวน 500 เยน/ชมวัดจ่ายเพิ่ม 300 เยน |
Website | tenryuji.com |
วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)
วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเกียวโต หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่า “วัดเงินแห่งเกียวโต” เป็นวัดในนิกายเซนถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ที่ถูกยกให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งเมืองเกียวโต และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1994
ด้านหลังติดเทือกเขามีและมีสายน้ำไหลผ่านซึ่งเป็นน้ำที่นำมาใช้ชงชาในพิธีชงชาของญี่ปุ่น นอกจากนี้ด้านในยังมีห้องชงชาที่คาดว่าเป็นต้นแบบของห้องชงชาในยุคหลังๆ อีกด้วย
วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)
ที่อยู่ | 2 Ginkakujicho, Sakyo Ward, Kyoto |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถบัสสาย 100 มาลงที่ป้าย Ginkakuji-Mae |
เวลาทำการ | 8:30 – 17:00 |
ราคา | 500 เยน |
Website | Ginkakuji Temple |
การเดินทางใน เกียวโต (Kyoto)
การเดินทางใน เกียวโต (Kyoto) มีหลากหลายแบบเช่น
วิธีการเดินทาง | รายละเอียด |
---|---|
รถไฟ | เราสามารถเดินทางด้วยรถไฟ JR เข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ |
รถบัส | จะมีรถบัสต่างๆ เพื่อเดินทางเข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยว |
รถแท็กซี่ | หรือจะนั่งรถแท็กซี่เพื่อเข้าสู่สถานที่ที่ยังไม่มีรถประจำทางไปถึง |
JR Pass ที่แนะนำใน เกียวโต (Kyoto)
PASS | ราคา | จำนวนวัน | รายละเอียด |
---|---|---|---|
Kyoto-Osaka Sightseeing Pass 1 วัน/2 วัน | 489 บาท | 1-2 วัน | บัตรชมเมืองเกียวโตและโอซาก้า 1 หรือ 2 วัน (รับที่โอซาก้าหรือเกียวโต) |
Kansai Area Pass | 2,400 เยน, 4,600 เยน, 5,600 เยน, 6,800 เยน | 1 วัน 2 วัน 3 วัน และ 4 วัน | ใช้เดินทางในพื้นที่คันไซทั้งหมด |
Sanyo-San’in Area | 20,000 เยน | 7 วัน | ใช้เดินทางในพื้นที่ตั้งแต่คิวชูไปจนถึงโอซาก้า |
Kansai WIDE Area Pass | 11,000 เยน | 5 วัน | ใช้ในพื้นที่โอซาก้า และรอบๆ ไปจนถึงทตโตริ |
Kansai Thru Pass | 4,380 เยน , 5,400 เยน | 2 หรือ 3 วัน | สามารถใช้ได้ในพื้นที่ภูมิภาคคันไซ |
ช่องทางการซื้อพาส
Kyoto-Osaka Sightseeing Pass 1 วัน/2 วัน
ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!
บัตร JR Pass สำหรับภูมิภาคคันไซ (1, 2, 3 หรือ 4 วัน)
ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!
บัตร JR Pass สำหรับซันโยและซันอิน (7 วัน)
ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!
ตั๋ว JR Kansai WIDE Area Pass สำหรับ 5 วัน (รับที่สนามบินคันไซ)
ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!
บัตรคันไซทรูพาส (Kansai Thru Pass)
ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!
ตั๋วรถไฟ JR West พื้นที่เขตคันไซ ควบบัตรเข้าสวนสนุกอนิเมะนิจิเกน โนะ โมริ
ซื้อเลย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทาง
ตั๋วรถไฟญี่ปุ่น JR West ภูมิภาคคันไซและฮิโรชิม่า
ซื้อเลย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทาง
JR PASS ภูมิภาคคันไซ (JR West Kansai Area)
ซื้อเลย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทาง
สภาพอากาศที่ต้องรู้ใน เกียวโต (Kyoto)
เกียวโต เป็นเมืองที่อากาศร้อนชื้นในฤดูร้อน และหนาวสุดขั้วในฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนที่อบอุ่นมีมากกว่า 22 องศา ซึ่งสภาพอากาศก็จะคล้ายๆกับโอซาก้า ดังนั้นลองไปอ่านบทความละเอียดๆทางนี้ได้เลย
เที่ยวโอซาก้า เดือนไหนดี อากาศเป็นไง ครบข้อมูลเตรียมเที่ยวเลย
บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!
การแต่งตัวเที่ยวใน เกียวโต (Kyoto)
สำหรับใครที่มองหาว่าไปที่นี่จะแต่งตัวยังไง เที่ยวเกียวโต เดือนไหนดี อากาศเป็นไง ลองมาดูนี่กันเลย ข้อมูลครบในบาทความนี้
เทคนิค แต่งตัวไปญี่ปุ่นหน้าหนาว ให้อุ่นสบาย ไม่อ้วนกลม!
บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!
แต่สำหรับใครที่มองหาการแต่งตัวไปเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น แบบสบายๆ แต่งชิลๆ ในช่วงร้อนของญี่ปุ่นที่เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าร้อนมากๆ จะต้องแต่งยังไง หนาบางแค่ไหนก็มาทางนี้เลย
แนะนำการ แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หน้าร้อน จาก 3 แบรนด์ฮิต
หน้าร้อนไม่ร้อนใจ แต่งตัวเข้ากันฤดูเที่ยวเพลิน
อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง เกียวโต (Kyoto)
เคียวไคเซกิ
“ไคเซกิ” เป็นอาหารสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นนี้มาสามารถรับประทานได้ทั้งสี่ฤดู เป็นอาหารชุดยอดนิยมของเกียวโต
ยุโดฟุ (Yudofu)
ยูโดฟุ หรือเต้าหู้ต้ม เป็นอาหารที่มีความเรียบง่ายแต่ทรงความหรูหรา เน้นรสชาติแท้ๆ ของถั่วเหลือง เครื่องปรุงมีแค่เต้าหู้ น้ำเปล่า สาหร่าย และซอสพอนสึรสเปรี้ยวจางๆ
Matcha Green Tea
เกียวโตถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการปลูกชาเขียว และเป็นเมืองที่สามารถปลูกชาเขียวที่ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
บทความท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องใน เกียวโต (Kyoto)
ส่วนใครที่อยากรู้ว่าเกียวโตนั้นมีที่เที่ยวเด็ดๆ ที่ไหนบ้าง อยากให้ลองดูที่บทความนี้
เที่ยวเกียวโต ย้อนเวลาสู่สมัยเอโดะ สัมผัสวิถีชีวิตเมืองหลวงเก่า
รวมบทความแนะนำเกียวโต ข้อมูลการเดินทาง สถานที่ท่องเทียว ห้ามพลาด!
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างล่ะ ที่เที่ยว เกียวโต ที่เราเอามาแนะนำถูกใจทุกคนกันไหมเอ่ยย สมกับที่เป็นจังหวัดแห่งธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่พูดได้ว่า ถ้ามาแล้วอิ่มเอมใจแน่นอนเลยใช่ไหมล่ะ ก็อย่างว่าแหละทั้งธรรมชาติ ความร่มรื่น ความสวยงามของสถานที่ แถมบางที่ยังได้เป็น 1 ในมรดกโลกด้วย ใครที่ยังไม่เคยได้ไป ถ้าได้ลองไปมีหวังติดใจไม่อยากกลับแน่นอนเลย