โปรแกรม เที่ยว ฮาโกดาเตะ เมืองเดียว ง่ายๆ ด้วย Tram & Bus 1 Day Pass

02/07/2020 (อัพเดทเมื่อ 06/02/2024)
เมืองฮาโกะดาเตะ เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ซึ่งในอดีตนั้นเมืองฮาโกะดาเตะ ถือว่าเป็นท่าที่สำคัญในการติดต่อกับชาวตะวันตก โดยเมืองฮาโกะดาเตะ ถูกเลือกให้เป็นสถานที่ลงนามสนธิสัญญาทางการค้า
เมืองฮาโกะดาเตะนั้นมีสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ได้แค่ ป้อมโกะเรียวคาคุ หรือ ที่รู้จักกันในป้อมดาว 5 แฉก, ภูเขาฮาโกะดาเตะ, โกดังอิฐแดง, และตลาดปลาอะสะอิจิ

การเดินทางสู่ฮาโกะดาเตะ

ปัจจุบัน เมืองฮาโกะดาเตะ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ซึ่งการเดินทางมายังเมืองฮาโกะดาเตะนั้น สามารถเดินทางมาได้โดยง่ายได้

  • ด้วยการโดยสายรถไฟชินคันเซนจากโตเกียว มายังสถานี ชิน ฮาโกะดาเตะ โฮคุโต แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟธรรมดาไปยังสถานีฮาโกะดาเตะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ4ชั่วโมง
  • นั่งรถไฟขบวน ซุปเปอร์โฮคุโตะ จากสถานีซัปโปโร มายังฮาโกะดาเตะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษๆเท่านั้น
  • เดินทางโดยการนั่งเครื่องบินมาลงสนามบินฮาโกะดาเตะ
  • บัตรโดยสาร Tram & Bus 1 Day Pass

    โดยช่วงที่ผมไปคือวันที่ 25 ตุลาคม 2019 ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่โรปเวย์ขึ้นภูเขาฮาโกะดาเตะ ได้ปิดให้บริการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 – 27 ตุลาคม ดังนั้นแล้วการใช้บัตร Tram & Bus 1 Day Pass จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยบทความนี้ผมจะแนะนำการใช้บัตรโดยสาร Tram & Bus 1 Day Pass และ การขึ้นภูเขาฮาโกะดาเตะในช่วงที่โรปเวย์ปิดให้บริการ
    ***** รถบัสขึ้นภูเขาฮาโกะดาเตะ จะไม่วิ่งบริการช่วงฤดูหนาวเพราะหิมะตก

    ฮาโกะดาเตะ

    บัตรโดยสารชนิดนี้สามารถใช้โดยสารรถราง รถบัส ภายในเมืองฮาโกะดาเตะแบบไม่จำกัดเที่ยว โดยมีราคา 1000 เยนเท่านั้น
    บัตรโดยสารชนิดนี้สามารถซื้อได้ที่ Tourist information ที่สถานีฮาโกะดาเตะ

    ฮาโกะดาเตะ

    เมื่อซื้อบัตรมาแล้วก็ให้เหรียญขูด วัน เดือน ปี ที่ใช้บัตร โดยให้โชว์ให้พนักงานขับรถดูก่อนที่จะลงจากรถบัส หรือ รถราง
    หลังจากที่ได้รู้จักบัตรชนิดนี้แล้ว เราก็มาเริ่มเที่ยวกันเลย โดยที่แรกจะแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักก็คือ ตลาดปลาอาสะอิจิ

    ตลาดปลาอาสะอิจิ

    ฮาโกะดาเตะ

    ตลาดปลาแห่งนี้สามารถเดินมาจากสถานีฮาโกะดาเตะได้ใน 3 นาที หรือ ถ้าพักที่โรงแรม APA Hotel Hakodate Ekimae ก็สามารถเดินไปตลาดปลาแห่งนี้ได้ง่ายๆ
    โดยในตลาดปลาแห่งนี้จะมีอาหารสดๆและแห้งให้เลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะเป็นปูยักษ์, ปลา, หอยสดๆ และร้านไอซ์ครีมชื่อดังอย่าง Hokkaido Farmรวมถึงร้านอาหารมากมายให้เลือกรับประทาน ซึ่งบางร้านจะมีปลาหมึกให้ตกแล้วหั่นให้กินกันแบบสดๆอีกด้วย

    ฮาโกะดาเตะ

    โดยผมจะขอแนะนำร้านที่ชื่อว่า Donburiya ซึ่งถ้าเดินมาจากสถานีฮาโกะดาเตะ จนถึงทางเข้าตลาดร้านจะอยู่ทางขวามือ

    ฮาโกะดาเตะ

    เมนูอาหารของร้านนี้ครับ นอกเหนือจากรายการในเมนูแล้วที่ร้านยังสามารถให้ลูกค้าเลือกวัตถุดิบมาโปะบนข้าวได้ด้วย

    ฮาโกะดาเตะ

    หน้าตาอาหารของร้านนี้ครับ ดูน่ารับประทานมากๆ

    ฮาโกะดาเตะ

    อีก 1 เมนูแนะนำของร้านนี้ครับ ปูย่าง ราคาจะอยู่ที่ชิ้นละ 3000 เยน

    ฮาโกะดาเตะ

    ตลาดปลาอาสะอิจิ

    ที่อยู่ 9-19 Wakamatsu, Hakodate, Hokkaido 040-0063
    วิธีเดินทาง เดิน 3 นาทีจากสถานีฮาโกะดาเตะ
    เวลาทำการ เปิดตั้งแต่ 06.00 น. – 14.00 น.

    หอคอยโกะเรียวคาคุ

    ฮาโกะดาเตะ

    หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันที่ตลาดปลาจนอิ่มเรียบร้อยแล้วสถานที่ต่อไปที่ผมจะพาไปรู้จักก็คือ ป้อมโกะเรียวคาคุ โดยวิธีการเดินทางไปนั้น ให้ไปขึ้นรถรางที่ถนนด้านหน้าสถานีไปลงยังป้าย goryokaku-koen-mae โดยสามารถใช้บัตร Tram & Bus 1 Day Pass ได้ หลังจากที่ลงจากรถรางแล้วก็ให้เดินไปตามป้ายประมาณ10นาที (ให้สังเกตหอคอยสูงไว้) ก็จะถึงป้อมโกเรียวคาคุ แต่ก่อนจะเข้าไปยังป้อมโกะเรียวคาคุ แนะนำให้เพื่อนๆลองแวะไปหอคอยโกะเรียวคาคุก่อนครับ

    ฮาโกะดาเตะ

    โดยจะมีค่าเข้าอยู่ที่ 900 เยน หลังจากที่ซื้อบัตรเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะพาท่านขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวด้านบนของหอคอย

    ฮาโกะดาเตะ

    ด้านบนจะสามารถมองเห็นวิวป้อมโกะเรียวคาคุได้สวยงามถนัดตา รวมถึงวิวเมืองฮาโกะดาเตะด้วย นอกจากจะเป็นจุดชมวิวแล้วที่นี่ยังจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองฮาโกะดาเตะอีกด้วย และยังมีรูปปั้นของ Hijikata Toshizo อดีตรองหัวหน้าของกลุ่ม ชินเซงกุมิ ซึ่งในสมัยเขาถูกยกย่องว่า เป็นนักดาบที่เก่งกาจคนหนึ่งของญี่ปุ่น

    ฮาโกะดาเตะ

    ฮาโกะดาเตะ

    ถ้าเดินลงมาอีกชั้นก็จะพบกับร้านขายเครื่องและของฝากเล็กๆ โดยสามารถซื้อกาแฟมาจิบพลางชมวิวไปด้วย ก็จะบรรยากาศฟินน์ไปอีกแบบหนึ่ง
    สำหรับผู้ที่ไม่ได้ขึ้นไปชมวิวด้านบน บริเวณชั้นล่างของหอคอยนั้นก็จะมีร้านอาหารไว้บริการ และก็มีร้านขายของฝากไว้ให้เลือกซื้อด้วย

    หอคอยโกะเรียวคาคุ

    ที่อยู่ 43-9 Goryokako, Hakodate, Hokkaido 040-0001
    วิธีเดินทาง นั่งรถรางจากหน้าสถานีฮาโกะดาเตะ ลงป้าย Goryokaku-koen-mae แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
    เวลาทำการ วันที่ 21 เมษยา – 20 ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 19.00 น.
    วันที่ 21 ตุลาคม – 20 เมษายน เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 18.00 น.
    ช่วงเทศกาล Hoshi no Yume เปิดตั้งแต่ 09.00 น.- 19.00 น
    วันที่ 1 มกราคม เปิดตั้งแต่ 06.00 น. – 18.00 น
    ราคา ผู้ใหญ่ 900 เยน เด็กมัธยม 680 เยน เด็กประถม 450 เยน
    Website goryokaku-tower.co.jp

    ป้อมโกะเรียวคาคุ

    ฮาโกะดาเตะ

    เดินเลยหอคอยโกะเรียวคาคุมาอีกนิด ก็จะพบกับป้อมรูปทรงดาว 5 แฉก
    ในอดีตนั้นป้อมโกะเรียวคาคุนี้เคยเป็นป้อมปราการสไตล์ตะวันตกมาก่อน โดยที่นี่ถ้ามาช่วงซากุระก็ถือว่าเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด หรือถ้าจะมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยไม่แพ้ที่อื่น

    ฮาโกะดาเตะ

    บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีของป้อมดาว 5 แฉก (ถ่ายเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2562)

    ป้อมโกะเรียวคาคุ

    ที่อยู่ 4 Goryokaku, Hakodate, Hokkaido 040-0001
    วิธีเดินทาง วิธีเดียวกับหอคอยโกะเรียวคาคุ ตัวป้อมจะอยู่เลยหอคอยมาเล็กน้อย
    เวลาทำการ เมษายน – ตุลาคม 5.00 น. – 19.00 น.
    พฤศจิกายน – มีนาคม 5.00 น. – 6.00 น.
    ราคา ฟรี
    Website hakodate.travel

    สำนักงานปกครองฮาโกะดาเตะ

    ฮาโกะดาเตะ

    บริเวณตรงกลางของป้อมโกะเรียวคาคุจะมีอาคารทรงโบราณอยู่หลังหนึ่งซึ่งในอดีตเคยเป็นสำนักงานปกครองฮาโกะดาเตะ จะมีค่าเข้าอยู่ที่ 500 เยน โดยด้านในจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายให้ผู้เข้าชมให้ฟังเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนใครที่ไม่เห่งภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่จะมีแผ่นพับเป็นภาษาไทยแจกด้วย ส่วนต้นไม้ด้านหน้าในรูปคือต้นบ๊วยที่อยู่คู่กับสำนักงานแห่งนี้มาช้านาน

    ฮาโกะดาเตะ

    บรรยากาศด้านในอาคาร

    ฮาโกะดาเตะ

    แผ่นพับภาษาไทย

    สำนักงานปกครองฮาโกะดาเตะ

    ที่อยู่ 44-3 Goryokakucho, Hakodate, Hokkaido 040-0001
    เวลาทำการ 1 เมษายน – 31 ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 18.00 น. เข้าได้ถึง 17.45 น.
    1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 17.00 น. เข้าได้ถึง 16.45 น.
    ราคา ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน

    Website hakodate-bugyosho.jp

    การเดินทางไปภูเขาฮาโกะดาเตะ

    ฮาโกะดาเตะ

    การเดินทางไปภูเขาฮาโกะดาเตะนั้นเนื่องจากว่าช่วงที่ผมไป (วันที่ 25 ตุลาคม) เป็นช่วงที่กระเช้าขึ้นภูเขานั้นได้หยุดให้บริการชั่วคราวดังนั้นการที่จะขึ้นไปชมวิวบภูเขาฮาโกะดาเตะจึงเหลือ 2 วิธีสำหรับผู้ที่ไม่ได้เช่ารถ คือ เดินขึ้น กับ นั่งรถบัสขึ้นไปซึ่งมีค่าเดินทางอยู่ที่เที่ยวละ 400 เยน แต่สามารถใช้บัตร Tram & Bus 1 Day Pass ขึ้นได้
    จากป้อมโกะเรียวคาคุให้กลับไปเริ่มต้นที่สถานีฮาโกะดาเตะ โดยสามารถเลือกวิธีการเดินทางได้ 2 แบบ คือ เดินกลับไปขึ้นรถรางที่สถานีเดิมตอนลงเมื่อขามา หรือ นั่งรถบัสกลับซึ่งป้ายรอรถบัสจะอยู่บริเวณถนนด้านหน้าหอคอยไม่ไกลจากตัวหอคอยโกะเรียวคาคุ (ถ้าหันหน้าออกจากหอคอยไปทาง 4 แยก ให้เดินไปตามถนนทางซ้ายมือ) สามารถใช้ Tram & Bus 1 Day Pass ได้ทั้งรถบัส และ รถราง

    เมื่อมาถึงสถานีฮาโกะดาเตะแล้ว เพื่อนๆสามารถไปรอบัสได้ที่ป้ายรถหมายเลข 4 โดยจะมีรถบัสาย 1 ไว้บริการพานักท่องเที่ยวไปยังภูเขาฮาโกะดาเตะ โดยรถบัสเที่ยวแรกจะเริ่มให้บริการตอน 13.30 น.เพื่อนๆสามารถดูตารางหมายเลข 1 ในรูปด้านบนได้ (ด้านซ้ายบนของรูป)

    ฮาโกะดาเตะ

    โดยรถบัสจะไปสุดสายตรงด้านบนของภูเขาฮาโกะดาเตะ เมื่อมาถึงแล้วก็สามารถเดินไปจุดชมวิวได้เลย

    ฮาโกะดาเตะ

    จุดชมวิวภูเขาฮาโกะดาเตะถือว่าเป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ร่วมกับภูเขา อินาซะ ที่จังหวัดนางาซากิ และ ภูเขารอคโค จังหวัดเฮียวโงะ โดยภูเขามีความสูงอยู่ที่ 334 เมตร ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวบนภูเขาฮาโกะดาเตะคือช่วงเวลากลางคืน

    ฮาโกะดาเตะ

    บริเวณจุดชมวิวด้านบนภูเขายังมีร้านขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อสินค้า และ มีร้านอาหารด้วย

    ฮาโกะดาเตะ

    ส่วนขากลับนั้นสามารถกลับมาขึ้นรถบัสป้ายเดิมกับตอนขามาได้เลย

    จุดชมวิวภูเขาฮาโกะดาเตะ

    วิธีเดินทาง ช่วงที่กระเช้าหยุดบริการสามารถนั่งรถบัสได้จากสถานีฮาโกะดาเตะ
    ช่วงที่กระเช้าเปิดบริการตามปกติสามารถนั่งรถรางมาลงสถานี Jujigai
    แล้วเดินต่ออีก 10 นาทีจนถึงสถานีโรปเวย์แล้วนั่งโรปเวย์ต่อไปถึงจุด
    ชมวิว

    เวลาทำการ 25 เมษายน – 15 ตุลาคม โรปเวย์ให้บริการตั้งแต่ 10.00 น. – 22.00 น.
    16 ตุลาคม – 24 เมษายน โรปเวย์ให้บริการตั้งแต่ 10.00 น. – 21.00 น.
    วันที่ 16 – 27 ตุลาคม จะมีรถบัสบริการจากสถานีฮาโกะดาเตะเที่ยวแรก
    เวลา 13.30 น. เที่ยวสุดท้ายจากภูเขาฮาโกะดาเตะ 21.10 น.
    ราคา ค่าโดยสารโรปเวย์ ผู้ใหญ่ ไป-กลับ 1500 เยน เที่ยวเดียว 1000 เยน
    เด็ก ไป-กลับ 700 เยน เที่ยวเดียว 500 เยน

    Website 334.co.jp

    Kanemori red brick warehouse

    ฮาโกะดาเตะ

    จากภูเขาฮาโกะดาเตะให้นั่งรถบัสมาลงป้าย Jujigai หรือ Meijikan ก็ได้ แต่ลง Meijikan จะเดินใกล้กว่า
    ที่นี่เรียกว่า Kanemori red brick warehouse หรือที่เรียกกันว่า โกดังอิฐแดง
    โกดังแห่งนี้ปัจจุบันถูกดัดแปลงแหล่งชอปปิ้ง ร้านกาแฟ โรงเบียร์ และ ร้านอาหาร ซึ่งด้านในจะมีของฝากมากมายหลายชนิดให้เลือกซื้อ

    Kanemori red brick warehouse

    ที่อยู่ 14-12 Suehiro, Hakodate, Hokkaido 040-0053
    วิธีเดินทาง นั่งรถบัสมาลงป้าย Jujigai หรือ Meijikan ก็ได้
    นั่งรถรางมาลงป้าย Jujigai แล้วเดินต่ออีก5นาที

    เวลาทำการ เปิดทุกวัน ยกเว้นสิ้นปี และ วันปีใหม่
    ร้านค้า เปิดตั้งแต่ 9.30 น.-19.00 น.
    โรงเบียร์ฮาโกดาเตะ เปิดตั้งแต่ 11.30 น. – 22.00 น.
    วันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 22.00 น.
    Website hakodate-kanemori.com

    ฮาโกะดาเตะ

    ใกล้ๆโกดังอิฐแดงก็มีห้างสรรพสินค้าที่ชื่อว่า Hakodate Meijikan เดิมทีนั้นที่นี่เคยเป็นที่ทำการไปรษณีย์มาก่อน แต่ภายหลังถูกดัดแปลงเป็นห้างสรรพสินค้าซึ่งด้านในก็มีสินค้าของฝาก อย่างเช่น กล่องดนตรี เป็นต้น (ถ้านั่งรถบัสมาลงป้าย Meijikan ก็จะลงหน้าห้างนี้พอดี)

    ฮาโกะดาเตะ

    ส่วนขากลับสถานีนั้นเพื่อนๆ สามารถขึ้นรถบัสได้ที่ป้ายรถเมล์หน้าห้าง Meijikan ได้เลย โดยรถรอบสุดท้ายคือ 18.05 น. ซึ่งสามารถใช้บัตร Tram & Bus 1 Day Pass ได้

    Hakodate Meijikan

    ที่อยู่ Toyokawa, Hakodate, Hokkaido 040-0065
    วิธีเดินทาง เหมือนการเดินทางมา โกดังอิฐแดง
    เวลาทำการ เปิดตั้งแต่ 09.30 น – 18.00 น.

    ข้อสรุป

    เมืองฮาโกดาเตะนั้นถือว่าเป็น 1 ในไฮไลท์สำคัญของการเที่ยวเกาะฮอกไกโด โดยเมืองนี้เป็นที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นหิมะ, ใบไม้เปลี่ยนสี หรือ ซากุระ ซึ่งในแต่ละฤดูก็จะมีสเน่ห์แตกต่างกันไป ซึ่งถ้าได้มาเมืองนี้แล้วผมเชื่อว่าทุกคนจะหลงรักเมืองนี้ และ อยากกลับมาอีกครั้ง…

    เที่ยวเพลินแล้ว แต่ยังไม่เต็มอิ่มก็หาข้อมูลเที่ยว ฮอกไกโด กันต่อเลย

    ข้อมูลเที่ยว ฮอกไกโด

    เที่ยวฮอกไกโดน่าเที่ยวทุกฤดู ว่าแต่จะมีอะไรน่าสนใจบ้างลองไปดูเลย

    IMAGE NAME HERE

    ที่เที่ยวฮอกไกโด 10 แลนด์มาร์ก สวยตะลึง น่าตะลุย

    ถ้าพูดถึงฮอกไกโดหลายๆ คนคงนึกถึงสภาพอากาศที่เย็นจนสุดขั้วหัวใจแน่นอน แถมยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและสถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนจะธรรมชาติ ทั้งภูเขา น้ำพุร้อน หรือกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่าง การเล่นสกี ก็มีให้เลือกหลายระดับ และไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายกายและสบายใจ เพราะอากาศดีสุดๆ

    Kitslaughter666

    Blogger : Kitslaughter666

    ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

    72 Posts

    สถานที่เที่ยว

    | Feature

    กรณีฉุกเฉิน

    | Emergency
    • Police

      110

    • Ambulance

      119

    • AMDA International Medical Information Center

      03-6233-9266

    • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

      090-4435-7812

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

      090-1895-0987

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

      090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515