หนาวนี้ที่ญี่ปุ่น แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องห้ามพลาด!!!! ในฤดูหนาว

16/01/2023 (อัพเดทเมื่อ 21/02/2024)
เมื่อนึกถึงฤดหนาวของญี่ปุ่น เชื่อว่าสิ่งที่หลายคนคิดถึงคือหิมะหนาๆฟูๆ กิจกรรมต่างๆช่วงฤดูหนาว เป็นต้น ซึ่งช่วงหน้าหนาวของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ถือว่าเป็นที่นิยมของคนไทยด้วยเช่นกันเพราะจะตรงกับช่วงหยุดยาวอย่างเช่นปีใหม่ เป็นต้น โดยวันนี้นั้นผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยว เทศกาล งานต่างๆ ในช่วงหน้าหนาวของญี่ปุ่น ที่เพื่อนจะต้องห้ามพลาด และที่สำคัญคือช่วงเวลาที่ควรไปของสถานที่นั้นๆ ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย !!!
Meiji Step RakuRaku Cube LP R1
Meiji Step RakuRaku Cube LP R2

สถานที่ท่องที่ต้องห้ามพลาดในฤดูหนาว

จะมีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง 15 ที่ไปดูกัน และหากใครสนใจปักหมุดพิกัดที่เที่ยวอื่นๆ และข้อมูลที่คัดสรรมาอย่างน่าสนใจของจังหวัดในบทความนี้สามารถกดอ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย

  • บทความเที่ยว Kyoto
  • บทความเที่ยว Hokkaido
  • บทความเที่ยว Sapporo 
  • บทความเที่ยว Nagano
  • บทความเที่ยว Gifu 
  • บทความเที่ยว Yamagata 
  • บทความเที่ยว Aomori 
  • บทความเที่ยว Yokohama 
  • บทความเที่ยว Tokyo

 

1. ศาลเจ้าคิฟุเนะ Kifune Shrine จังหวัด Kyoto

Kyoto Kifune Shrine in winter

ศาลเจ้า Kifune ศาลเจ้าที่มีอายุมากกว่า 1000 ปี ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้าน Kibune ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Kyoto

โดยศาลเจ้า Kifune นั้นเป็นศาลเจ้าที่ผู้คนมักจะมาสักการะเทพแห่งน้ำรวมถึงการขอพรเกี่ยวกับการแต่งงานอีกด้วยโดยจะมีการใช้กระดาษเซียมซีแล้วนำไปลอยน้ำ ก็จะเห็นคำทำนาย

ที่นี่มีคำทำนายแบบภาษาอังกฤษด้วยนะครับ จุดเด่นของศาลเจ้านี้คือบันไดหินที่มีโคมไฟสีแดงอยู่ 2 ข้างทาง

ในช่วงหน้าหนาวนั้น หมู่บ้าน Kubune จะมีอากาศเย็นมากกว่าตัวเมือง Kyoto ทำให้ช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะค่อนข้างน้อย ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้จึงมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการจุดไฟในโคมที่ตั้งอยู่ 2 ข้างของบันไดหินในทุกๆวันเสาร์ที่มีหิมะตกในเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะเริ่มจุดไฟตั้งแต่เวลา 15.00 น.

ซึ่งถ้าเพื่อนๆมาเที่ยวเกียวโตช่วงเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ลองหาเวลาไปชมความงามของไฟช่วงหิมะตกให้ได้

ศาลเจ้าคิฟุเนะ Kifune Shrine

ที่อยู่ 180 Kuramakibunecho, Sakyo Ward, Kyoto, 601-1112
วิธีเดินทาง ให้นั่งรถไฟ Eizan Railway มาลงสถานี Kibuneguchi แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถบัสหมายเลข 33 ไปลงป้าย Kibune จากนั้นเดินอีก 5 นาที
เวลาทำการ เปิดตั้งแต่ 6.00 น. – 18.00 น หากเป็นวันที่จุดไฟช่วงหิมะตกจะเปิดถึง 20.00 น.
ราคา ฟรี
Website ศาลเจ้าคิฟุเนะ

ดูแผนที่ ศาลเจ้าคิฟุเนะ

2. Lake Shikotsu Ice Festival จังหวัด Hokkaido

Lake Shikotsu Ice Festival

เมื่อนึกถึงการเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาว ชื่อของเกาะฮอกไกโดจะต้องชื่อแรกๆที่นักท่องเที่ยวจะนึกถึง เพราะที่นี่มักจะงานเทศกาลฤดูหนาวจัดอยู่บ่อยครั้ง งาน Lake Shikotsu Ice Festival คือ 1 ในเทศกาลหน้าหนาวบนเกาะฮอกไกโดที่ห้ามพลาด ซึ่งงานนี้จัดที่บริเวณทะเลสาบ Shikotsu ที่เมือง Chitose โดยภายตัวงานนั้น ก็จะมีประติมากรรมน้ำแข็งต่างๆมากมายที่แกะสลักมาจากน้ำของทะเลสาบ Shikotsu นอกจากนั้นแล้วยังมีการประดับประดาไฟสีต่างๆ ให้ดูสวยงาม

นอกจากงานประติมากรรมน้ำแข็งแล้วภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆให้นักท่องเที่ยวได้ลองสัมผัส เช่น ลานสเก็ตน้ำแข็ง, สไลเดอร์น้ำแข็ง, ขี่ม้า เป็นต้น

ไม่เพียงแต่มีแค่กิจกรรมเท่านั้นภายในงานยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ขายผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นอีกด้วย

ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีการโชว์การตีกลอง Taiko และมีการจุดดอกไม้ไฟ

โดยในปี 2023 นั้นงานจะจัดขึ้นในวันที่ 28 มกราคม – 23 กุมภาพันธ์

Lake Shikotsu Ice Festival

ที่อยู่ Shikotsukoonsen, Chitose, Hokkaido 066-0281
วิธีเดินทาง นั่งรถ Taxi จากสนามบิน New Chitose หรือ นั่งรถบัสจากสถานบินในราคา 1050 เยน
วันเวลาจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 23 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 20.00 น. การประดับไฟจะเริ่มตั้งแต่ 16.30 น.
ราคา 500 เยน
Website Lake Shikotsu

ดูแผนที่ Lake Shikotsu Ice Festival

3. ลิงแช่ออนเซ็น Snow Monkey Park(Jigokudani Yaen Koen) จังหวัด Nagano

Snow Monkey Park

เพื่อนๆหลายคนน่าจะรู้จักการแช่ออนเซนใช่มั้ยครับ แต่วันนี้ผมจะแนะนำการแช่ออนเซนแบบไม่เหมือนใคร นั่นก็คือ ออนเซนที่ไม่ใช่มนุษย์แช่แต่เป็นลิง

การดูลิงแช่ออนเซนนั้น ถือว่าเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ต้องหาดูให้ได้ซักครั้งในชีวิต ซึ่งเพื่อนๆสามารถไปดูลิงแช่ออนเซนได้ที่ Jigokudani Yaen Koen โดยลิงที่แช่ออนเซนนั้นเป็นลิงที่เรียกว่าลิงกังซึ่งเป็นลิงพื้นเมือง จะมีใบหน้าสีแดง

ก่อนอื่นผมจะขอแนะนำให้รู้จัก Jigokudani Yaen koen กันคร่าวๆก่อนนะครับ

Jigokudani Yaen koen ตั้งอยู่ที่ความสูง 850 เมตร ภายในหุบเขาของแม่น้ำ Yokoyu River ซึ่งมีที่มาจาก Shiga Kogen ของอุทธยานแห่งชาติ Joshinetsu Kogen
ที่นี่จะถูกหิมะปกคลุมถึง 1ใน3 ของปีเลยทีเดียว และมีพื้นดินที่ขรุขระจึงเป็นที่มาของชื่อ หุบเขานรก

โดยช่วงฤดูหนาวนั้นเหล่าลิงกังที่นี่ก็มักจะลงไปแช่ในบ่อน้ำร้อนมากกว่าช่วงฤดูอื่นๆ ซึ่งสร้างความน่ารักให้แก่นักท่องเที่ยว

โดยการขึ้นไปดูลิงแช่ออนเซนนั้น จะต้องเดินประมาณ 30 นาที เป็นการเดินในภูเขา ดังนั้นแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องใส่รองเท้าสำหรับเดินหิมะเพื่อไม่ให้ลื่นล้มเวลาเดินขี้นไปชมลิงแช่ออนเซน

ก่อนอื่นจะต้องบอกก่อนว่า ลิงจะไม่ได้มาแช่ออนเซนในทุกๆวัน ดังนั้นแล้ว เพื่อนๆควรเช็คจากกล้องวงจรปิดของเว็บทางการของที่นี่กันก่อน
เพื่อนๆสามารถเช็คได้ที่นี่ >>

www.jigokudani-yaenkoen.co.jp

นอกจากนั้นแล้วหากนักเที่ยวอยากจะนอนค้างที่นี่ ก็มีเรียวกังที่ชื่อว่า Korakukan Ryokan ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ลิงแช่ออนเซ็น Snow Monkey Park(Jigokudani Yaen Koen)

ที่อยู่ 6845 Hirao, Yamanochi, Shimotakai, Nagano 381-0401
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟของ Nagano Dentetsu จากสถานี Nagano มาลงสถานี Yudanaka จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถบัสลงป้าย Kanbayashi Onsen หรือ Shibu Onsen
วันเวลาทำการ เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดตั้งแต่ 8 .30 – 17.00 น.

เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดตั้งแต่ 9.00 น. -16.00 น.ปิดเฉพาะวันที่สภาพอากาศไม่ดี
ราคา ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 400 เยน
Website Jigokudani Yaen Koen

ดูแผนที่ Snow Monkey Park

4. เทศกาล Otaru Snow Light Path Festival เมือง Otaru จังหวัด Hokkaido

Otaru Snow Light Path

เมือง Otaru สถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวยามมาเที่ยวเกาะ Hokkaido โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว

ในฤดูหนาวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่คลอง Otaru ก็จะมีการประดับประดาด้วยโคมไฟและจุดเทียนในรูปปั้นหิมะเล็กๆ ซึ่งสร้างบรรยากาศอบอุ่นในฤดูหนาว ซึ่งจัดประมาณ 10 วัน

โดยเทศกาล Otaru Snow Light Path Festival นั้นเริ่มมีครั้งแรกในปี ค.ศ. 1999 เนื่องจากว่าในช่วงฤดูหนาวทางเมือง Otaru ได้ประสบปัญหานักท่องเที่ยวน้อย จึงจะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาว จึงได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ห้างร้านต่างๆ จนมีเทศกาลนี้ขึ้นมา

แต่สถานที่จัดงานหลักจะอยู่บริเวณคลอง Otaru
ในปี 2023 นั้น งานจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ – 18 ภุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 21.00 น.

งานประดับไฟจะจัดอยู่ 3 แห่งในเมือง Otaru คือ

  • บริเวณคลอง Otaru
  • ทางรถไฟเก่า Former Temiya Railway Line Site
  • ทางรถไฟเก่า Former Temiya Railway Line Site

  • Asarigawa Onsen
  • ดูแผนที่ Asarigawa Onsen

    เทศกาล Otaru Snow Light Path Festival

    ที่อยู่ 5 Minatomachi, Otaru, Hokkaido 047-0007 Japan
    วิธีเดินทาง จากสถานี Otaru เดินอีก 10 นาที
    เวลาทำการ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ – 18 ภุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 21.00 น.
    ราคา ฟรี
    Website Otaru Snow Light Path Festival

    ดูแผนที่ Otaru Snow Light Path

    5. Shirakawago Winter Light-Up จังหวัด Gifu

    Shirakawago Winter Light-Up

    Shirakawako หมู่บ้านมรดกโลกแห่งจัง Gifu นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งในฤดูหนาวนั้นที่หมู่บ้าน Shirakawago นั้นจะเต็มไปด้วยหิมะขาวฟูบรรยากาศน่าท่องเที่ยวสุดๆ และยิ่งไปกว่านั้นในช่วงมีการจัดงานแสดงไฟเรียกว่า Shirakawago Winter Light-Up โดยงานนี้จะจัดเฉพาะวันอาทิตย์ในช่วงหัวค่ำในเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์

    ซึ่งกำหนดการจัดงานของปี 2023 ก็ได้ออกมาเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เวลา 17.30 น. – 19.30 น. โดยจะจัดงานในวันดังนี้
    เดือนมกราคมจัดวันที่ 15,22,29
    เดือนกุมภาพันธ์จัดวันที่ 5,12,19

    โดยผู้ที่จะเข้ามาร่วมงาน Shirakawago Winter Light-Up นั้นจะต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น

    ซึ่งมีวิธีการจองนั้นมีหลายวิธีอย่างเช่น

    • สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถบัส

    สามารถจองผ่านเอเจนซี่ของบริษัทรถบัสต่างๆได้ อย่างเช่นบริษัท Nohi Bus และ Kaetsuno Bus ซึ่งจะมีโปรแกรมในช่วงเทศกาลนี้ด้วย

    • ผู้ที่ขับรถมาเอง

    จะต้องจองที่จอดรถผ่านช่องทางออนไลน์ online reservation โดยมีค่าใช้จ่าย 4000 เยนต่อคัน โดยเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2022 ที่ผ่านมา

    • สำหรับผู้ที่นอนค้างคืนที่หมู่บ้าน

    ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าชมเทศกาลนี้ เนื่องจากว่าที่พักนั้นมีจำนวนจำกัด จึงจะใช้ระบบล็อตโต้ สุ่มผู้โชคดี

    ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลการจองได้ที่นี่ >>
    shirakawa-go.gr.jp

    สำหรับผู้ที่ไม่ได้จองก็สามารถเข้ามาเที่ยวหมู่บ้านได้ตามปกติ แต่จะต้องเดินทางออกจากหมู่บ้านก่อนเวลา 17.00 น.

    Shirakawago Winter Light-Up

    ที่อยู่ 1086 Ogimachi Shirakawa-mura Ono-gun, Gifu 501-5627
    วิธีเดินทาง จากสถานี Kanazawa นั่งรถบัส 1.30 ชั่วโมง ลงป้าย Shirakawago Bus Terminal
    จากสถานี Takayama นั่งรถบัส 50 นาที ลงป้าย Shirakawago Bus Terminal
    วันเวลาจัดงาน เดือนมกราคมจัดวันที่ 15,22,29
    เดือนกุมภาพันธ์จัดวันที่ 5,12,19
    ตั้งแต่เวลา 17.30 น. – 19.30 น.
    ราคา ถ้าเดินทางโดยรถบัสขึ้นอยู่กับ Course ที่บริษัทกำหนด ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ 4000 เยนต่อคัน
    Website Shirakawago Winter Light-Up

    ดูแผนที่ Shirakawago Winter Light-Up

    6. เทศกาลหิมะซัปโปโร Sapporo Snow Festival เมือง Sapporo

    Sapporo Snow Festival

    หากพูดถึงการเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาวนั้นจะไม่พูดถึงเทศกาลหิมะซัปโปโร่ไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะเทศกาลนี้ถือว่าเป็นเทศกาลยอดนิยมที่รู้จักกันทั่วโลก

    เทศกาลนี้ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1950 มีจุดเริ่มต้นมาจากนักเรียนมัธยมปลาย 6 คน ได้สร้างรูปปั้นนำแข็งจำนวนหกตัวในสวน Odori

    ซึ่งภายในเทศกาลหิมะนั้น ก็จะมีการแกะสลักน้ำแข็งเป็นรูปต่างๆที่สวยงาม ซึ่งเป็นผลงานจากศิลปินจากหลายประเทศ รวมถึงศิลปินจากไทยด้วย และมีการประกวดการแกะสลักน้ำแข็งซึ่งนักแกะสลักชาวไทยก็เคยได้รับรางวัลชนะเลิศด้วย นอกจากผลงานการแกะสลักหิมะแล้ว ก็มีการประดับไฟให้ดูสวยงามอีกด้วย

    โดยในปีนี้นั้น ( ค.ศ. 2023 ) ก็จะมีการจัดงานนี้ขึ้นที่สวน Odori และย่าน Susukino โดยมีกำหนดจัดงานในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ – 11 กุมภาพันธ์

    เทศกาลหิมะซัปโปโร Sapporo Snow Festival

    ที่อยู่ สวน Odori 4 Chome Odorinishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido
    ย่าน Susukino 3,Minami 5 Jonishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido, 064-0805
    วิธีเดินทาง สวน Odori และย่าน Susukino สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงได้ที่สถานี Odori หรือ สถานี Susukino ได้เลย
    เวลาทำการ 4 กุมภาพันธ์ – 11 กุมภาพันธ์ 2023
    ราคา ฟรี
    Website Sapporo Snow Festival

    ดูแผนที่ Sapporo Snow Festival

    7. สวนสัตว์ Asahiyama Zoo เมือง Asahiyama

    Asahiyama Zoo

    เมือง Asahiyama ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง Sapporo ซึ่งเมืองนี้เป็นที่ตั้งของสวนสัตว์ Asahiyama ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองนี้ ซึ่งสวนสัตว์ Asahiyama นั้นก็จะมีสัตว์หลายชนิดมากมาย มาจากทวีปต่างๆของโลก อย่างเช่นแถบ Arctic ก็มีหมี Polar, ทวีปแอฟริกาก็มี ยีราฟ หรือ สิงโต เป็นต้น รวมไปถึงสัตว์จากทวีปเอเชีย, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้ และขั้วโลกใต้ และทีนี่ยังมีโดมเล็กๆให้นักท่องเที่ยวโผล่ขึ้นมาชมหมีขั้วโลกแบบใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว สวนสัตว์ Asahiyama นั้นจะมีไฮไลท์สำคัญคือ ทางสวนสัตว์ได้มีการนำนกเพนกวินออกมาเดินพาเหรดสร้างความน่ารักได้กับนักท่องเที่ยวด้วย

    การเดินพาเหรดของนกเพนกวินจะมีตั้งแต่วันที่ ปลายเดือนธันวาคม – กลางเดือนมีนาคม
    วันละ 2 รอบคือเวลา 11.00 น. และ 14.30 น
    เฉพาะเดือนมีนาคมจะมีแค่รอบ 11.00 น.

    สวนสัตว์ Asahiyama Zoo

    ที่อยู่ Kuranuma Higashiasahikawacho, Asahikawa, Hokkaido 078-8205
    วิธีเดินทาง จากสถานี Asahikawa นั่งรถบัสมาลงป้าย Asahikawa Zoo ประมาณ 40 นาที
    วันเวลาทำการ ช่วงวันที่ 11 พฤศจิกายน – 9 เมษายน เปิดตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 15.30 น.

    วันที่ 29 เมษายน – 15 ตุลาคม เปิดตั้งแต่เวลา 9.30 น. – 17.15 น.

    วันที่ 16 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน เปิดตั้งแต่เวลา 9.30 น. – 16.30 น.

    วันที่ 10 สิงหาคม – 16 สิงหาคม เปิดตั้งแต่เวลา 9.30 น. – 21.00 น.

    วันหยุด 10 เมษายน – 28 เมษายน, 4 พฤศจิกายน – 10 พฤศจิกายน
    , 30 ธันวาคม – 1 มกราคม
    ราคา ผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 15 ฟรี
    Website สวนสัตว์ Asahiyama Zoo

    ดูแผนที่ สวนสัตว์ Asahiyama Zoo

    8. Yamagata Zao Onsen Ski Resort Snow monster

    Yamagata Zao Onsen Ski Resort

    อีก 1 ไฮไลท์สำหรับการเที่ยวช่วงหน้าหนาวของญี่ปุ่นนั่นก็คือการเที่ยวภูเขา Zao
    ซึ่งในฤดูหนาวนั้นบริเวณภูเขา Zao นั้นจะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน จึงเป็นที่เที่ยวยอดฮิตในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น
    โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจขอฃภูเขา Zao คือ

  • การชมปีศาจหิมะ ( Snow Monster )
  • ปีศาจหิมะก็คือ การที่หิมะได้ตกลงมาทับถมปกคลุมบนต้นสนจนมีรูปร่างคล้ายกับปีศาจ จึงเป็นที่มาของ ปีศาจหิมะ ( Snow Monster ) ซึ่งปีศาจหิมะจะเรียงรายกันนับไม่ถ้วน และตอนก็คืนก็มีการไฟให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก
    การชมปีศาจหิมะนั้นแนะนำให้ขึ้นกระเช้า ( Zao Ropeway ) แล้วชมวิวจากกระเช้า ซึ่งถ้าวันไหนอากาศเป็นใจจะได้เห็นความสวยงามของปีศาจหิมะแบบเต็มๆ
    ข้อมูลเกี่ยวกับ กระเช้าสำหรับขึ้นภูเขา Zao
    วันเวลาทำการ
    1 เมษายน – 31 ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 17.00 น.
    1 ตุลาคม – 20 ธันวาคม เปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 16.00 น.
    ราคาอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 1500 เยน เด็ก 750 เยน ( ไป-กลับ)

  • การเล่นสกี
  • อีกกิจกรรมยอดฮิตของการมาเที่ยวภูเขา Zao นั่นก็คือการเล่นสกี
    โดยที่ภูเขา Zao นั้นก็มี Zao Onsen Ski Resort ไว้ให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเล่นสกีได้เล่นสกี
    ซึ่งที่ภูเขา Zao นั้นมีเส้นทางการเล่นสกีหลายระดับ ตั้งผู้ที่เพิ่งหัดเล่น จนถึงผู้เล่นระดับกลาง
    โดยสกีรสอร์ทจะเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม – 1 เมษายน
    ค่าบริการ ผู้ใหญ่ 1 วัน 4000 เยน เด็ก 1 วัน 2000 เยน

  • การแช่ออนเซน
  • นอกจากการชมปีศาจหิมะและเล่นสกีแล้ว การแช่ออนเซนก็นับว่าเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของภูเขา Zao โดยที่นี่จะมีเรียวกังไว้บริการนักท่องเที่ยวหลายแห่ง และบ่อออนเซ็นกลางแจ้งอีกด้วย

    Yamagata Zao Onsen Ski Resort Snow monster

    ที่อยู่ 794 Zaoonsen, Yamagata, 990-2301
    วิธีเดินทาง จากสถานี Yamagata นั่งรถบัส 40 นาที
    วันเวลาทำการ สำหรับกระเช้านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เพื่อนๆสามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์นี้ https://www.zao-ski.or.jp/ropeway-lift-information/
    ราคา Yamagata Zao Onsen Ski Resort ผู้ใหญ่ 1 วัน 4000 เยน เด็ก 1 วัน 2000 เยน
    Website Yamagata Zao Onsen Ski Resort

    ดูแผนที่ Yamagata Zao Onsen Ski Resort

    9. ธารน้ำแข็งอะบาชิริ Abashiri Drift Ice จังหวัด Hokkaido

    Abashiri Drift Ice

    เมือง Abashiri เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะ Hokkaido โดยการเที่ยวเมืองนี้ช่วงฤดูหนาวนั้นจะขึ้นชื่อในเรื่องธารน้ำแข็ง ซึ่งจะมีเรือตัดน้ำแข็งไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวได้ประสบการณ์แบบแปลกใหม่ในการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาว
    เรือตัดน้ำแข็งนั้นมีชื่อว่า Aurora โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือ Abashiri

    นอกจากการล่องเรือตัดน้ำแข็งแล้ว การชมธารน้ำแข็ง Abashiri ยังสามารถชมได้จากการนั่งรถไฟขบวน Ryuhyo Monogatari ซึ่งเป็นรถไฟที่วิ่งระหว่าง Abashiri
    กับ Shiretoko-Shari โดยมีค่าโดยสารเที่ยวละ 970 เยน ( สามารถใช้ JR Pass ได้ )
    เพื่อนๆสามารถชมบรรยากาศรถไฟได้จากที่นี่

    เรือตัดน้ำแข็ง Aurora

    ที่อยู่ 093-0003 Minami 3, Higashi 4-5-1, Abashiri , Hokkaido
    วิธีเดินทาง จากสถานี Abashiri นั่งรถบัส 10 นาที
    วันเวลาทำการ เรือออกช่วงวันที่ 20 มกราคม – 31 มีนาคม
    ตารางออกเรือดูได้จากที่นี่
    ตารางออกเรือ

    ราคา ผู้ใหญ่ 4000 เยน เด็ก 2000 เยน
    Website เรือตัดน้ำแข็ง Aurora

    ดูแผนที่ เรือตัดน้ำแข็ง Aurora

    10. บ่อน้ำสีฟ้า The Blue Pond จังหวัด Hokkaido

    The Blue Pond

    บ่อน้ำสีฟ้า ตั้งอยู่ที่เมือง Biei ใกล้ๆกับภูเขาไฟ Tokachi เป็นแอ่งน้ำที่มีน้ำเป็นสีฟ้าสวยงาม โดยบ่อน้ำสีฟ้านั้นมีหน้าที่ป้องกันลาวาในยามที่ภูเขาไฟ Tokachi เกิดปะทุขึ้น ซึ่งบ่อน้ำสีฟ้านั้นจริงๆแล้วเกิดมาจากการกั้นเขื่อน จนเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่

    ที่มาของน้ำสีฟ้านั้นเกิดจากแร่ธาตุ Aluminium hydroxide ที่มาจากภูเขาไฟ Tokachi
    บ่อน้ำสีฟ้านั้นสามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้ามาในฤดูหนาวจะมีความสวยงามที่สุดเพราะน้ำสีฟ้าจะกลายเป็นน้ำแข็ง เท่านั้นไม่พอ
    ที่นี่ยังมีการจัดงาน Winter Illumination อีกด้วย ซึ่งเป็นการเปิดไฟสีฟ้าในช่วงกลางคืน ซึ่งสร้างความสวยงามแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

    ระยะเวลาของการประดับไฟบ่อน้ำสีฟ้าคือ 1 พฤศจิกายน – 30 เมษายน

    บ่อน้ำสีฟ้า The Blue Pond

    ที่อยู่ Shirogane, Biei, Kamikawa District, Hokkaido 071-0235
    วิธีเดินทาง จากสถานี Biei นั่งรถบัส 20 นาทีมาลงป้าย Shirogane Blue Pond Entrance
    วันเวลาทำการ การประดับไฟบ่อน้ำสีฟ้าเปิดไฟตั้ง 1 พฤศจิกายน – 30 เมษายน

    เดือนพฤศจิกายนเปิดไฟตั้งแต่ 17.00 น. – 21.00 น.

    เดือนธันวาคมเปิดไฟตั้งแต่ 16.30 น. – 21.00 น.

    เดือนมกราคมเปิดไฟตั้งแต่ 17.00น. – 21.00 น.

    เดือนกุมภาพันธ์เปิดไฟตั้งแต่ 17.30 น. – 21.00 น.

    เดือนมีนาคมเปิดไฟตั้งแต่ 18.00 น. – 21.00 น .

    เดือนเมษายนเปิดไฟตั้งแต่ 18.30 น. – 21.00 น.
    ราคา ฟรี
    Website บ่อน้ำสีฟ้า The Blue Pond

    ดูแผนที่ บ่อน้ำสีฟ้า The Blue Pond

    11. หมู่บ้านน้ำแข็งชิคะริเบ็ทสึ-โคะทัง Shikaribetsu-Kotan

    Shikaribetsu-Kotan

    ยังอยู่กันที่ Hokkaido ครับ สถานที่ต่อไปที่ผมจะแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักคือ หมู่บ้านน้ำแข็ง Shikaribetsu Kotan ที่นี่ตั้งอยู่ที่ ทะเลสาบ Shikaribestu เมือง Shikaoi ซึ่งในช่วงหน้าหนาวนั้นบริเวณนี้จะอุณภูมิติดลบถึง 30 องศา เลยทีเดียว

    ทำให้น้ำในทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง และในช่วงฤดูหนาวนี่เอง ที่บริเวณนี้ก็จะมีการจัดงานที่เรียกว่า Shikaribest Igloo Village ซึ่งเป็นเทศกาลสร้างหมู่บ้านจากน้ำแข็ง โดยสร้างกระท่อมน้ำแข็งที่เรียกว่า Igloo เป็นกระท่อมสไตล์เอสกีโม และยังมีบาร์น้ำแข็งด้วย ซึ่งเสิร์ฟเครื่องดื่มโดยใช้แก้วที่ทำมาจากน้ำแข็ง รวมไปถึงออนเซ็น, โบสถ์ และเวทีคอนเสิร์ตซึ่งแสดงดนตรีสดอีกด้วย
    และในเวลากลางคืนนั้น ที่นี่จะมืดสนิทสามารถดูดาวได้สวยงามอีกด้วย

    เทศการนี้นั้นจัดขึ้นในทุกๆปี ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม – กลางเดือนมีนาคม

    โดยในปีนี้จะจัดตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 12 มีนาคม 2023

    หมู่บ้านน้ำแข็งชิคะริเบ็ทสึ-โคะทัง Shikaribetsu-Kotan

    ที่อยู่ Kitaurimaku, Shikaoi, Kato District, Hokkaido 081-0344
    วิธีเดินทาง สามารถนั่งรถบัสจากสถานี Obihiro ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชั่วโมง
    วันเวลาทำการ จัดตั้งแต่ 28 มกราคม – 12 มีนาคม 2023
    ราคา ฟรี
    Website Shikaribetsu-Kotan

    ดูแผนที่ Shikaribetsu-Kotan

    12. สะพานทสึรุโนะไม Tsuru no mai Bridge จังหวัด Aomori

    Tsuru no mai Bridge

    สะพาน Tsuru no mai นั้นเป็นสะพานที่ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบ Tsugaru Fujimi โดยมีความยาวทั้งหมด 300 เมตร โดยเป็นสะพานไม้สามโค้งที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น และด้านหลังของสะพานนั้นนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวภูเขา Iwaki ได้อย่างสวยงามได้อีกด้วย
    โดยอายุของสะพาน Tsuru no mai นั้นสร้างมาจากไม้ที่มาจากต้น Aomori Hiba และตัวสะพานนั้นมีอายุมากกว่า 150 ปีเลยทีเดียว

    ที่มาของชื่อ Tsuru นั้น เนื่องจากสะพานแห่งนี้ถ้ามองดีๆจะเหมือนกับปีกของนกกระเรียน ซึ่งคำว่า Tsuru ในภาษาญี่ปุ่นคือนกกระเรียน
    โดยฤดูที่คนนิยมมาเที่ยวสะพานแห่งนี้คือ ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

    โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวนั้นสะพพานจะถูกปิดไม่ให้ข้าม แต่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวสะพานที่มีหิมะปกคลุมตัดกับผิวทะเลสาบ ได้อย่างสวยงาม

    ช่วงเวลาแนะนำที่ควรไปชมสะพานแห่งนี้คือ ธันวาคม – ปลายกุมภาพันธ์

    สะพานทสึรุโนะไม Tsuru no mai

    ที่อยู่ Osawa Mawarizeki, Tsuruta, Kitatsugaru, Aomori 038-3542
    วิธีเดินทาง จากสถานี Aomori นั่งรถไฟมาลงสถานี Mutsu Tsuruda ( มีเปลี่ยนขบวนที่ Kawabe ) แล้วนั่งแท็กซี่อีก 10 นาที
    วันเวลาทำการ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
    ราคา ฟรี
    Website Tsuru no mai

    ดูแผนที่ สะพานทสึรุโนะไม Tsuru no mai

    13. Niseko จังหวัด Hoakkaido

    Looking at snowy volcano and slopes on a clear day in early spri

    เมือง Niseko เมืองที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Sapporo ซึ่งในการเที่ยวช่วงฤดูหนาวนั้น Niseko มักจะเป็นที่แรกๆที่นักท่องเที่ยวนึกถึง การเดินทางมายัง Niseko นั้น นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟจาก Sapporo มาสถานี Niseko ได้เลย

    สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเล่นสกี โดยลานสกีที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Niseko คือ Grand Hirafu
    โดยลานสกีแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกระดับไม่ว่าจะคนที่กำลังฝึกเล่นจนไปถึงระดับเซียน และที่นี่ยังสามารถถ่ายรูปภูเขา Yotei ได้สวยงามอีกด้วย โดยภูเขา Yotei นั้นมีความคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก

     

    ช่วงเวลาที่ควรมาเที่ยวลานสกีที่ดีที่สุดคือ ช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์

     

    Niseko Grand Hirafu

    ที่อยู่ 180-1, Niseko Hirafu 1-jo 2-chome, Kutchan, Abuta, Hokkaido 044-0080
    วิธีเดินทาง จากสถานี Kutchan นั่งรถบัส 20 นาที
    เวลาทำการ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เพื่อนๆเช็คได้จากที่นี่
    https://www.grand-hirafu.jp/winter/en/gelande/business_hours/
    Website Niseko Grand Hirafu

    ดูแผนที่ Niseko Grand Hirafu

    นอกจากการเล่นสกีแล้ว กิจกรรมอย่างอื่นที่น่าสนใจของการมาเที่ยว Niseko คือ การกินขนมหวานที่ทำจากนมสดๆของฟาร์ม Takahashi Daily Farm โดยร้านนี้มีชื่อว่า Milk Kobo’s Cafe est ซึ่งภายในร้านนั้นมีขนมหวานให้เลือกรับประทานมากมายเช่น ซอฟท์ครีม ชีสเค้ก พุดดิ้ง เป็นต้น เรียกว่าพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด

    Milk Kobo’s Cafe est

    ที่อยู่ 888-1 Soga, Niseko, Abuta, Hokkaido 048-1522
    วิธีเดินทาง จากสถานี Niseko นั่งรถบัสมาลงป้าย Milk Kobo แล้วเดินอีก 1 นาที
    เวลาทำการ เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 น. – 17.30 น.
    Website Milk Kobo’s Cafe est

    14. โกดังอิฐสีแดงโยโกฮามา (Yokohama Red Brick Warehouse)

    Yokohama Red Brick Warehouse1

    โกดังอิฐแดงโยโกฮาม่า ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก โดยมีทั้งหมด 2 อาคารด้วย อาคารที่ 1 สร้างขึ้นในปี ค..ศ. 1913 อาคารที่ 2 สร้างในปี ค.ศ. 1911
    เดิมทีนั้นอาคารทั้ง 2 ใช้เป็นอาคารศุลกากรก่อนที่ในปัจจุบันจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย

    ในช่วงฤดูหนาวนั้น บริเวณอาคารอิฐแดงถูกใช้เป็นลานสเก็ตแบบ Outdoor ซึ่งถ้ามาเที่ยวในช่วงฤดูหนาวจะพลาดการมาที่นี่ไม่ได้โดยเด็ดขาด
    ซึ่งปีนี้จะจัดงานในวันที่ 3 ธันวาคม 2022 – 19 กุมภาพันธ์ 2023

    และในช่วงวันที่ 25 พฤศจิกา – 25 ธันวาคม ที่นี่ยังจัด Event ชื่อว่า Christmas Market อีกด้วย ซึ่งมีร้านค้ามากมายมาให้เลือกซื้อ

    โกดังอิฐสีแดงโยโกฮามา (Yokohama Red Brick Warehouse)

    ที่อยู่ 1 Chome-1 Shinko, Naka Ward, Yokohama, Kanagawa 231-0001
    วิธีเดินทาง จากสถานี Sakuragicho เดิน 15 นาที
    เวลาทำการ อาคาร 1 เปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 19.00 น.
    อาคาร 2 เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 20.00 น.
    ลานสเก็ต เดือนธันวาคม วันธรรมดาเปิดตั้งแต่ 13.00 น. – 21.00 น.
    วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 21.00 น.
    เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 13.00 น. – 20.00 น.
    วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00 น. – 20.00 น.
    Website Yokohama Red Brick Warehouse

    ดูแผนที่ Yokohama Red Brick Warehouse

    15. ย่านมารุโนอูจิ (Marunouchi) โตเกียว

    Marunouchi

    ย่านมารุโนอุจิเป็นย่านอยู่ระหว่างสถานี Tokyo และ พระราชวังอิมพีเรียล โดยย่านนี้นั้นนับว่าเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญย่านหนึ่งของโตเกียว และมีสำนักงานใหญ่ของธนาคาร 3 แห่งอยู่ที่นั่น และสำนักงานใหญ่ของ
    บริษัทมากมายก็อยู่ที่ย่านนี้ด้วยเช่นกัน
    และย่านนี้ยังเป็นแหล่งช็อปปิ้งอีกด้วย มีร้านค้ามากมายในย่านนี้ รวมถึงร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร อีกด้วย

    และในช่วงฤดูหนาวนั้น ที่ย่านแห่งนี้ก็มีการจัดอีเวนท์ชื่อว่า Marunouchi Illuminations โดยมีการประดับด้วยไฟ LED มากกว่าล้านดวง โดยมีการประดับไฟตามกิ่งไม้ ทางเท้า ลานสเก็ต
    โดยทำให้มีความรู้สึกแบบพิเศษ อบอุ่น ในช่วงฤดูหนาว
    นอกจากนั้นแล้วในอาคาร Marunouchi ยังมีต้นคริสมาสต์ที่สูงถึง 8 เมตรอีกด้วย

    โดยปีนี้นั้นงานจะจัดตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2022 – 19 กุมภาพันธ์ 2023
    งานนี้ต้องมาให้ได้โดยเด็ดขาด

    ย่านมารุโนอูจิ (Marunouchi)

    วิธีเดินทาง สามารถนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tokyo ได้เลย
    Website ย่านมารุโนอูจิ (Marunouchi)

    ดูแผนที่ ย่านมารุโนอูจิ (Marunouchi)

    บทสรุป

    การเที่ยวญี่ปุ่นในช่วฤดูหนาวนั้นก็นับว่าเป็นไฮไลท์ของการเที่ยวญี่ปุ่น โดยจากสถานที่ที่ผมแนะนำในบทความจะเห็นได้ว่า มีสถานที่หลายประเภทอย่างทะเลสาบ หมู่บ้าน เมือง รวมไปถึงสวนสัตว์ ซึ่งทำให้เห็นว่าการมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาวนั้นเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยแต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป และที่สำคัญคือเดินทางไปเที่ยวได้ไม่ยาก ซึ่งในบทความผมก็แนะนำวิธีเดินทางไว้ ซึ่งสามารถทำตามได้เลย

    Japan winter sum

    Meiji Step RakuRaku Cube LP R3
    Meiji Step RakuRaku Cube LP R4
    Kitslaughter666

    Blogger : Kitslaughter666

    ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

    39 Posts

    Meiji Step RakuRaku Cube LP R5

    สถานที่เที่ยว

    | Feature
    Meiji Step RakuRaku Cube LP R6

    กรณีฉุกเฉิน

    | Emergency
    • Police

      110

    • Ambulance

      119

    • AMDA International Medical Information Center

      03-6233-9266

    • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

      090-4435-7812

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

      090-1895-0987

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

      090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

    Meiji Step RakuRaku Cube LP R7