เรื่องความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับญี่ปุ่นมาช้านาน อย่างเช่น การขอพรกับเทพเจ้าต่างๆเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง ถึงแม้ไม่มีตัวชี้วัดหรือตัดใจได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ผลสำเร็จผลจริงๆหรือไม่ แต่มันคือความเชื่อที่หล่อเลี้ยงจิตใจเพื่อให้เกิดความสบายใจและช่วยเยียวยาทางจิตใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่นำพาเราสู่ความสำเร็จหรือไม่ให้สิ่งไม่ดีนั้นๆเกิดขึ้นกับเราก็เป็นได้
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัดและศาลเจ้าเยอะมากๆ ซึ่งวัดและศาลเจ้าแต่ละที่ก็จะเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้า เรามักจะเห็นคนญี่ปุ่นเดินทางมาขอพรกันเยอะ โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ ถือเป็นขนบธรรมเนียบปฏิบัติของญี่ปุ่นเลยในการขอพรเพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป และเพื่อเป็นสิริมงคลให้ให้กับตัวเองและครอบครัว
รู้ไหมว่าที่โตเกียวเองก็มีวัดและศาลเจ้าดังหลายที่เลยที่เรียกว่าถ้ามีโอกาสได้เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ไม่ควรพลาดที่จะไปขอพรด้วยตัวเองสักครั้ง! และแน่นอนว่าบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับวัดและศาลเจ้าดังในโตเกียว ที่ขึ้นชื่อและโด่งดังเฉพาะด้านจริงๆไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ การงาน ความรัก โชคลาภ เชื่อกันว่าถ้าได้ไปขอพรตามวัดและศาลเจ้าเหล่านี้แล้วจะปั๊วปังเลยค่ะ เอาล่ะค่ะสายมูเตลูถ้าไม่อยากพลาดตามเรามาเลยค่ะ
- โยนเหรียญที่ต้องการทำบุญลงไปในกล่อง
- หากมีกระดิ่งหรือระฆังให้สั่นกระดิ่งหรือระฆังก่อน
- โค้งคำนับ 2 ครั้ง (หากเป็นวัดให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป)
- ปรบมือ 2 ครั้ง (หากเป็นวัดให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป)
- ประนมมืออธิษฐาน เมื่ออฐิษฐานเสร็จให้ให้โค้งคำนับ 1 ครั้ง
วิธีขอพรวัด/ศาลเจ้าญี่ปุ่น
ศาลเจ้าฮานะโซโนะ (Hanazono Shrine)
ศาลเจ้าฮานะโซโนะ (Hanazono Shrine) ศาลเจ้าชินโตที่ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุนี้เอง สร้างขึ้นในสมัยเอะโดะ เป็นอีก 1 ศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ในย่านที่ครึกครื้นแบนนี้ก็มีศาลเจ้าดังแฝงตัวอยู่ เป็นศาลเจ้าที่มีขนาดไม่ใหญ่ แต่ความเคารพและความศรัทธาที่คนญี่ปุ่นมีให้กับศาลเจ้าแห่งนี้ยิ่งใหญ่มาก ที่นี่ยังเป็นอีกศาลเจ้าที่ในช่วงปีใหม่คนนิยมเดินทางมาขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย
“ศาลเจ้าฮานะโซโนะ” โด่งดังและเป็นที่เลื่องลือมากๆในเรื่องของ “หน้าที่การงาน” โดยเฉพาะคนที่ทำงานด้านสายบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นดารา ศิลปิน สายงานศิลปะ รวมไปถึงสายงานด้านอื่นๆด้วยเช่นกัน เชื่อว่าขอแล้วงานปังไม่ไหว ชื่อเสียงโด่งดัง
ศาลเจ้าฮานะโซโนะ เป็นศาลเจ้าที่มีขนาดไม่ใหญ่ แต่ความเคารพและความศรัทธาที่คนญี่ปุ่นมีให้กับศาลเจ้าแห่งนี้ยิ่งใหญ่มาก ที่นี่ยังเป็นอีกศาลเจ้าที่ในช่วงปีใหม่คนนิยมเดินทางมาขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย
เอาจริงๆทุกสายอาชีพสามารถมาขอพรที่นี่ได้หมดเลย ปังๆทุกงานจ้า อย่างเราเองก็ไปขอพรที่นี่ประจำค่ะ บอกได้คำเดียวว่าถ้าไม่เฮง ถ้าไม่ปัง ไม่มาแนะนำแน่นอน!
หลังจากขอพรเสร็จแล้วอย่าลืมบูชาเครื่องรางของทาง ศาลเจ้าโตเกียว แห่งนี้เพื่อเสริมวงให้ปังยิ่งๆขึ้นไปด้วยน๊า
ศาลเจ้าฮานะโซโนะ
ที่อยู่ | 5-17-3 Shinjuku, Shinjuku, Tokyo 160-0022 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Shinjukuเดินประมาณ 6 นาที (เดินมาฝั่งคาบูคิโจ) หรือ จากสถานี Shinjuku-sanchome (ทางออก E2) ถึงเลย |
เวลาทำการ | เปิดตลอด 24 ชั่วโมง |
Website | hanazono-jinja.or.jp |
ศาลเจ้าคาราสุโมริ (Karasumori Shrine)
ศาลเจ้าคาราสุโมริ (Karasumori Shrine) ศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่กลางย่านชิมบาชิ (Shimbashi) ในกรุงโตเกียว ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาช้านานตั้งแต่สมัยยุคเฮอัน เดิมสมัยก่อนนั้นที่นี่เป็นป่าสนทึบและมีอีกามาอาศัยกันอยู่จำนวนมาก จึงได้เรียกที่นี่ว่า ”ป่าอีกา” จึงเป็นที่มาของชื่อ “คาราสุโมริ” ซึ่งชื่อนี้ถูกใช้เป็นชื่อเมืองในสมัยเมจิจนถึงปี 1945 แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็น Shimbashi ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงชื่อเป็นทางออก Karasumori ของสถานี JR Shimbashi อีกด้วย และที่นี่อยู่ห่างจากสถานีชิมบาชิเพียง 2 นาทีเท่านั้น
“ศาลเจ้าคาราสุโมริ” เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังมากๆเรื่องสุขภาพโดยเฉพาะ “โรคมะเร็ง” เชื่อกันว่าใครที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งหากไปขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะช่วยหยุดการลุกลามของมะเร็ง หรือใครยังไม่เป็นก็สามารถไปขอพรเพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกันค่ะ นอกจากนี้แล้วยังขึ้นชื่อเรื่องตราประทับสีแดงอีกด้วยเชื่อว่าตราประทับนี้จะช่วยผนึกโรคมะเร็งไม่ให้ลุกลาม
ใครที่มีญาติ มีเพื่อนที่กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งอยู่แนะนำเลยค่ะ หรือไม่เป็นก็มาขอพรป้องกันได้ ที่นี่ถึงแม้จะเป็นเพียงศาลเจ้าเล็กๆแต่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก บอกได้คำเดียวว่าถ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์คนไม่แห่มาขอพรกันเยอะขนาดนี้แน่นอน
ขอพรเสร็จอย่างลืมแวะบูชาเครื่องรางเพื่อเสริมดวงกันด้วยนะคะ เครื่องรางแนะนำคือ “癌封じ御守” เป็นเครื่องรางกันมะเร็ง ให้ผู้ที่ป่วยมะเร็งเอาชนะมะเร็งทางจิตใจ ป้องกันเป็นมะเร็ง ผนึกและรักษามะเร็งให้หาย
ศาลเจ้าคาราสุโมริ
ที่อยู่ | 2-15-5 Shinbashi, Minato, Tokyo 105-0004 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งสาย JR Yamanote ลงสถานี Shimbashi ทางออก Karasumori เดิน 2 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-16.00 น. |
Website | karasumorijinja.or.jp |
ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (Kanda Myojin Shrine)
ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (Kanda Myojin Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 730 หรือราว 1,292 ปี ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เดิมตั้งอยู่ที่อื่นและเมื่อสมัยเอโดะถูกย้ายมาที่ตั้งปัจจุบัน ที่นี่เป็นที่สถิตของเทพเจ้าไดโกกุเทน (เทพเจ้าแห่งความรัก), เทพเจ้าเอบิสุ (เทพเจ้าแห่งการค้าขาย)และเทพเจ้าไทระโนะมาซาคาโดะ (ผู้ต่อต้านรัฐบาลเฮอัน)
ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านอาคิฮาบาระ สามารถเดินมาได้ประมาณ 700 เมตรเท่านั้น!! แน่นอนว่าที่นี่เป็นอีก 1 ศาลเจ้าที่โด่งดังในโตเกียว ที่ผู้คนชาวโตเกียวให้ความเคารพและศรัทธากันเป็นอย่างมาก ผู้คนมักเดินทางมาสักการะขอพรเรื่องความรัก เนื่องจากที่นี่เป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งความรักด้วย ว่ากันว่าใครที่อยากมีความรักที่ดีมาขอพรที่นี่แล้วจะสมหวังในเรื่องความรัก (ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลค่ะ) และนอกจากนี้คนที่ประกอบอาชีพค้าขายก็แนะนำเช่นกันค่ะ เชื่อว่าถ้าขอพรแล้วจะช่วยให้ค้าขายร่ำรวยและเจริญห้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป
ไม่เพียงเท่านี้ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นศาลเจ้าที่ช่วยพิทักษ์เมืองโตเกียวให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงอีกด้วย ขอพรเสร็จแล้วอย่างลืมแวะดูเครื่องรางก่อนกลับด้วยนะคะ และโดยเฉพาะคนที่ทำงานด้านสายไอทีที่นี่มีเครื่องรางไอทีให้บูชาอีกด้วย เรียกว่าเป็นเครื่องรางยอดฮิตของศาลเจ้านี้เลยค่ะ
ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน
ที่อยู่ | 2-16-2 Sotokanda, Chiyoda, Tokyo 101-0021 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งสาย Chuo-Sobu ลงสถานี Ochanomizu เดินต่อประมาณ 5 นาที หรือเดินจาก Akihabara ประมาณ 7-8 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตลอด 24 ชั่วโมง |
Website | kandamyoujin.or.jp |
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) ศาลเจ้าชินโตขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียว ที่มีพื้นที่มากกว่า 430 ไร่ ตั้งอยู่ที่ย่านฮาราจู ภายในศาลเจ้าถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าต้นไม้น้อยใหญ่ที่ถูกส่งมาจากทั่วญี่ปุ่นมากถึง 1 แสนต้นด้วยกัน
ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิเมจิ และ พระราชินีโชเคง และสร้างขึ้นภายหลังจากที่จักรพรรดิเมจิเสียชีวิตแล้ว คือปี ค.ศ. 1915 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกทำลายและได้รับความเสียหายอย่างหนักและได้รับการบรูณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ศาลเจ้าเมจิ นับเป็นศาลเจ้าที่ความสำคัญมีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ ถึงขั้นบุคคลสำคัญอย่างประธานาธิปดีจอร์จ วอล์กเกอร์ บุช , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน และรัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมัน กีโด เว็สเทอร์เว็ลเลอ ยังเดินทางมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นศาลเจ้าที่คนนิยมมาขอพรกันเยอะมากๆอีกแห่งหนึ่ง และเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าดังที่คนนิยมเดินทางมาขอพรกันในช่วงปีใหม่อีกด้วย แน่นอนว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่นี่คับคั่งด้วยเหล่าฝูงชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งแต่คืนสิ้นปีไปจนถึงวันที่ 3-4 ของเดือนมกราคมเลย
มาศาลเจ้าเมจิต้องขอพรเรื่องอะไร ทุกคนน่าจะอยากรู้กันเนอะ ศาลเจ้าเมจิเป็นเรียกว่าเป็นศาลเจ้าแห่งความรัก คนที่มาที่นี่ต้องมาขอพรเกี่ยวกับความรัก จะได้มีความรักที่ดี มีความรักที่ยืนยาว และมีคู่ครองที่ดี และด้วยความศักดิ์สิทธิ์คนจึงนิยมมาแต่งงานกันที่นี่เยอะเลย นอกจากเรื่องความรักแล้วคนนิยมขอพรเรื่องสุขภาพกันด้วย สายสุขภาพก็ไม่ควรพลาดที่จะมาขอพรที่นี่เช่นเดียวกัน เพื่อเสริมความเป็นความมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว หากมีโอกาสเดินทางมาที่โตเกียวอย่าลืมที่จะแวะมาสักการะสักครั้งนะคะ
ศาลเจ้าเมจิ ขอพร ศาลคู่เมืองโตเกียว ข้อมูลเที่ยวจัดเต็ม
รายละเอียดเพิ่มเติมของศาลเจ้าเมจิอ่านได้ที่บทความนี้
ศาลเจ้าเมจิ
ที่อยู่ | 1-1 Yoyogikamizonocho, Shibuya, Tokyo 151-8557 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งสาย JR Yamanote มาลงสถานี Harajuku ทางออก West (ทางออกฝั่งศาลเจ้าเมจิ) หรือนั่ง หรือนั่งสาย Odakyu มาลงสถานี Sangubashi ทางออก East |
เวลาทำการ | 05.10 – 17.50 น. |
Website | meijijingu.or.jp |
วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple)
วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) หรือวัดโคมแดง สถานที่ที่หลายคนรู้จักกันดี ซึ่งเป็น 1 ในแลนด์มาร์คหลักของโตเกียว ที่ไปใครโตเกียวครั้งแรกก็ต้องหยิบใส่ในแพลนไปด้วย และเป็นที่กล่าวขานกันว่าเสี่ยงเซียมซีที่นี่แม่นสุดๆเลย
วัดเซนโซจิ ตั้งอยู่ในย่าน Asakusa ของโตเกียว ที่นี่เป็นวัดพุทธที่มีความเก่าแก่ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาช้านาน จริงๆแล้ววัดแห่งนี้เคยถูกทำลายไปในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง สถานที่แห่งนี้เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของโตเกียวเลยก็ว่าได้ เมื่อใครเห็นเป็นต้องรู้ว่าคือโตเกียว ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่มีขนาดเพียง 5.5 เซ็นติเมตร
ตรงซุ้มประตูทางเข้าวัดจะพบกับโคมแดงขนาดใหญ่ ที่เรียกว่าเป็นอีกมุมฮอตที่ใครมาจะต้องถ่ายรูปคู่กับโคมแดง เพื่อให้รู้ว่ามาถึงวัดเซนโซจิแล้วนะ และนี่จึงเป็นที่มาที่นักท่องเที่ยวเรียกวัดแห่งนี้ว่า “วัดโคมแดง” นั่นเองค่ะ
ว่ากันว่าเมื่ออดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดที่ไม่ว่าจะประชาชนหรือแม้แต่ท่านโชกุนและซามูไรต่างก็มาสักการะและขอพรที่วัดแห่งนี้กัน และเป็นที่เลื่องลือว่าผู้ที่มาขอพรนั้นต่างก็สมปรารถนา จึงทำให้ชื่อเสียงเรื่องขอการขอพรนั้นกระจายเป็นที่รู้จักกันไปอย่างแพร่หลาย จึงกลายเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นให้ความเคารพและศรัทธาเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาสักการะขอพรที่นี่กันอย่างไม่ขาดสาย แน่นอนว่าด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังมากๆเรื่องการขอพร ที่ไม่ว่าใครมาขอพรอะไรก็มักจะเกิดผลสำเร็จ นอกจากนี้การเสี่ยงเซียมซีที่นี่ก็ไม่น้อยหน้ากันเลยค่ะว่ากันว่าแม่นมาก! แม่นไม่แม่นให้ไปลองกันด้วยตัวเองดูนะคะ สำหรับเราแล้วเคยเสี่ยงเซียมซีและขอพรที่นี่เป็นประจำค่ะ บอกเลยว่าเด็ดจริงค่ะ แนะนำให้ไปค่ะ
หลังจากสักการะขอพรเสร็จอย่าลืมเดินซื้อขนมของฝากของระลึกได้ที่ถนนช้อปปิ้ง “นากามิเซะ (Nakamisedori)” กันด้วยนะคะ มีขออร่อยๆเพียบเลยค่ะ
วัดเซนโซจิ ขอพร เครื่องราง ของฝาก ครบ !
วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเพื่อนๆ สายเก็บแต้มบุญ และขาช้อปทั้งหลาย รับรองว่ามาที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวัง นอกจากการไหว้พระ ขอพร และซื้อเครื่องรางนำโชคพกพาให้อุ่นใจแล้ว ยังมีของกินและแหล่งช้อปปิ้งของฝากอีกด้วย ที่นี่ก็คือ วัดเซนโซจิ โตเกียวนั่นเอง แต่จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างไปดูกันเลย!!
วัดเซนโซจิ
ที่อยู่ | 2-3-1 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งสาย Ginza ลงสถานี Asakusa ออกทางออก 3 เดินประมาณ 2 นาที หรือถ้านั่งสาย Asakusa มาลงสถานี Asakusa ออกทางออก A3, A4 เดินประมาณ 4-5 นาที |
เวลาทำการ | บริเวณรอบๆเปิดตลอด 24 ชั่วโมง, ตัวอาคารหลักของวัดเปิด 06.00 – 17.00 (ต.ค – มี.ค เปิด 06.30) |
Website | senso-ji.jp |
ศาลเจ้าโตเกียวโคเอมิ (Koami-jinja)
ศาลเจ้าโตเกียว ที่ทำขึ้นจากไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Nihonbashi มีชื่อเสียงในการนำพาโชคและลาภมาให้แก่ผู้ที่มาสักการะขอพรจากเทพแห่งความมั่งคั่ง คนที่มาขอพรในศาลเจ้าแห่งนี้จึงมีทั้งคนที่กำลังหางานทำ คนที่เพิ่งซื้อลอตเตอรี่ และเด็กที่กำลังเตรียมตัวสอบ
การเสริมดวงชะตาในศาลเจ้าแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงการสักการะต่อเทพเจ้า เพราะยังมีบ่อน้ำ Zeni arai Benten ไว้สำหรับล้างเหรียญเพื่อเพิ่มโชคลาภด้านการเงิน โดยหลังจากทำการล้างเหรียญนั้นในบ่อน้ำแล้วหากอยากจะมีโชคจะต้องพกเหรียญที่ล้างติดตัวด้วย
นอกจากนั้นที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีเครื่องรางที่ทำจากรังไหมเสริมดวงชะตาในราคา 300 เยนขายอีกด้วย ใครอยากมีโชคมีลาภก็อย่าลืมแวะมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ดูสักครั้ง
ศาลเจ้า Koami
ที่อยู่ | 16-23 Nihonbashikoamicho, Chuo, Tokyo 103-0016 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Asakusa Line มาลงที่สถานี Ningyocho ใช้เวลาเดินอีก 5 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-18.00 น. |
โทรศัพท์ | 03-3668-1080 |
Website | Koami |
ศาลเจ้าไคชูอินาริ (Kaichū Inari Shrine)
อีกหนึ่งศาลเจ้าที่จะสามารถไปขอพรเรื่องโชคลาภการเงินได้ก็คือ Kaichuinari Jinja ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในเรื่องของการให้โชคลาภในการเล่นการพนัน !
นักพนันชาวญี่ปุ่นจึงมักแวะมาที่นี่เพื่อขอพรให้ตนโชคดีก่อนที่จะออกไปเสี่ยงโชคชะตากับการพนัน โดยเฉพาะการพนันแข่งม้าและลอตเตอรี่
ถึงแม้ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่โตแต่รับรองว่ามาแล้วจะโชคดีและได้ของนำโชคพร้อมออกไปเสี่ยงโชคแน่นอน
ศาลเจ้า Kaichuinari
ที่อยู่ | 1-11-16 Hyakunincho, Shinjuku, Tokyo 169-0073 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Yamanote Line มาลงที่สถานี Shin-Ōkubo ใช้เวลาเดินเพียง 1 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. |
Website | Kaichuinari |
ศาลเจ้าคนโนะ ฮาจิมังกุ (Konno Hachimangu)
ในย่านที่คึกคักอย่าง Shibuya ยังมีศาลเจ้าที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพรให้ตนมีโชคตั้งตระหง่านอยู่ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าชินโตที่มีความเรียบง่ายแต่สวยงาม
ศาลเจ้าที่เปรียบเสมือนมุมสงบภายในเมืองที่วุ่นวายแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในด้านของการให้โชคลาภโดยชาวญี่ปุ่นมักจะมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อขอให้มีโชคทางการเงิน และขอให้เจริญรุ่งเรืองทางการค้าขายหรือการทำธุรกิจ ถ้าไป Shibuya แล้วอยากพักจากความวุ่นวายลองมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อขอพรให้มีโชคมีลาภก็ได้นะ
ศาลเจ้า Konno Hachiman-gu
ที่อยู่ | 3-5-12 Shibuya, Tokyo 150-0002 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Ginza Line มาลงที่สถานี Takanawadai ใช้เวลาเดินประมาณ 6 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. |
Website | Konno Hachimangu |
ศาลเจ้าอานะฮาจิมัน (Ana Hachiman Shrine)
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย Waseda สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1636 ถือเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งเลยทีเดียว
เหล่านักศึกษาของมหาวิทยาลัย Waseda ก็มักจะมาขอพรกันที่นี่ เพราะเชื่อกันว่าเทพเจ้าของศาลเจ้าแห่งนี้จะทำให้พวกเขาสมหวัง ในช่วงวันที่ 22 ธันวาคมถึง 4 กุมภาพันธ์นั้นจะมีคนมาเยอะเป็นพิเศษเพราะทางศาลเจ้าจะมีแจกเครื่องรางที่ช่วยทำให้โชคร้ายกลายเป็นดี
ศาลเจ้า Ana Hachiman
ที่อยู่ | 2-1-11 Nishiwaseda, Shinjuku, Tokyo 162-0051 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line มาลงที่สถานี Waseda ใช้เวลาเดินประมาณ 6 นาที |
ศาลเจ้า Tokyo Daijingu : ขอพรความรัก โตเกียวเทพเจ้าผูกรัก
สถานที่ ขอพรความรัก โตเกียว แห่งนี้ ในช่วงวันปีใหม่หรือวันวาเลนไทน์บริเวณศาลเจ้าแห่งนี้จะเต็มไปด้วยคู่รักและหนุ่มสาวคนโสดที่มาขอพรให้ตนสมหวังในเรื่องความรักเป็นจำนวนมาก
ชาวโตเกียวต่างรู้กันดีว่าถ้าอยากสมหวังเรื่องความรัก แล้วได้มาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ละก็สบายใจได้เลยว่าความรักครั้งนี้จะไม่มีผิดหวังเพราะเทพเจ้าที่สถิตอยู่ภายในศาลเจ้าแห่งนี้คือ เทพเจ้าผูกรัก ‘Enmusubi’ นั่นเอง
นอกจากเทพเจ้าของที่นี่จะเป็นเทพแห่งความรักแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงเรื่องเครื่องรางที่ช่วยส่งเสริมเรื่องความรัก ทั้งเรื่องการแต่งงานและคู่ครอง
เซียมซีรูปเด็กผู้หญิงใส่กิโมโนของที่นี่ก็น่ารักมาก ๆ แถมยังทำนายเรื่องความรักได้แม่นด้วย
ที่นี่ยังเริ่มจัดงานแต่งงานแบบชินโตเป็นแห่งแรกในญี่ปุ่น จึงทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานแต่งงานด้วย ใครอยากสมหวังในเรื่องความรักไม่ควรพลาดศาลเจ้าแห่งรักยอดนิยมแห่งนี้เด็ดขาด !
ศาลเจ้า Tokyo Daijingu
ที่อยู่ | 2-4-1, Fujimi, Chiyoda-ku, Tokyo, 102-0071 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Oedo Line มาลงที่สถานี Iidabashi เดินต่ออีก 7 นาทีก็จะถึงศาลเจ้า |
เวลาทำการ | 6.00-21.00 น. |
Website | Tokyo Daijingu |
ศาลเจ้า Tokyo Daijingu : ขอพรความรัก โตเกียวเทพเจ้าผูกรัก
สถานที่ ขอพรความรัก โตเกียว แห่งนี้ ในช่วงวันปีใหม่หรือวันวาเลนไทน์บริเวณศาลเจ้าแห่งนี้จะเต็มไปด้วยคู่รักและหนุ่มสาวคนโสดที่มาขอพรให้ตนสมหวังในเรื่องความรักเป็นจำนวนมาก
ชาวโตเกียวต่างรู้กันดีว่าถ้าอยากสมหวังเรื่องความรัก แล้วได้มาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ละก็สบายใจได้เลยว่าความรักครั้งนี้จะไม่มีผิดหวังเพราะเทพเจ้าที่สถิตอยู่ภายในศาลเจ้าแห่งนี้คือ เทพเจ้าผูกรัก ‘Enmusubi’ นั่นเอง
นอกจากเทพเจ้าของที่นี่จะเป็นเทพแห่งความรักแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงเรื่องเครื่องรางที่ช่วยส่งเสริมเรื่องความรัก ทั้งเรื่องการแต่งงานและคู่ครอง
เซียมซีรูปเด็กผู้หญิงใส่กิโมโนของที่นี่ก็น่ารักมาก ๆ แถมยังทำนายเรื่องความรักได้แม่นด้วย
ที่นี่ยังเริ่มจัดงานแต่งงานแบบชินโตเป็นแห่งแรกในญี่ปุ่น จึงทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานแต่งงานด้วย ใครอยากสมหวังในเรื่องความรักไม่ควรพลาดศาลเจ้าแห่งรักยอดนิยมแห่งนี้เด็ดขาด !
ศาลเจ้า Tokyo Daijingu
ที่อยู่ | 2-4-1, Fujimi, Chiyoda-ku, Tokyo, 102-0071 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Oedo Line มาลงที่สถานี Iidabashi เดินต่ออีก 7 นาทีก็จะถึงศาลเจ้า |
เวลาทำการ | 6.00-21.00 น. |
Website | Tokyo Daijingu |
ข้อสรุป
การขอพรนั้นเป็นเพียงความเชื่อหนึ่งของคนญี่ปุ่น ซึ่งก่อให้เกิดความสบายใจและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำแล้วไม่ก่อให้เกิดความเสียหายอะไร ยิ่งถ้ามันทำให้เราสบายใจหรือเป็นการให้กำลังใจเราก็ทำเถอะค่ะ อย่างน้อยก็ช่วยเยียวยาจิตใจเราได้ สำหรับสายมูหรือไม่มูก็ตาม เดินทางได้เมื่อไหร่ลองเก็บใส่แพลนแล้วไปขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวกันนะคะ แต่ละที่ๆเราแนะนำมาเราคัดมาแล้วและเราได้ไปขอพรกับตัวเองมาแล้วทุกที่ ไม่ดีไม่เด็ดจริงไม่กล้าแนะนำ! รับรองว่าปั๊วะปัง อยากเน้นเรื่องไหนไปที่นั่น และสำคัญเลยแต่ละที่เดินทางง่ายและสะดวกมากค่ะ
ขอพรเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ กันไปแล้ว แวะไปขอพรด้านความรักกันต่อได้ที่ศาลเจ้าแห่งความรักทั้ง 4 แห่งในลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลย
4 ศาลเจ้าญี่ปุ่น ที่สถิตของเทพเจ้าแห่งความรัก
คราวนี้เราขอพาคนที่กำลังกลุ้มใจเรื่องความรักไปขอพรที่ศาลเจ้า 4 แห่งในโตเกียวที่ขึ้นชื่อเรื่องช่วยให้ความรักสมหวังกัน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
มาเที่ยวโตเกียวแบบมือโปร เช็คทุกพิกัดฮิตอัพเดตใหม่ ต้องอ่านบทความนี้เลย
ที่เที่ยว โตเกียว (Tokyo) 12 ย่านดัง และ 17 ที่เที่ยวแนะนำอัพเดทใหม่ 2023
โตเกียว เมืองยอดฮิตติดชาร์ตเที่ยวญี่ปุ่นตลอดกาล มีที่เที่ยวและกิจกรรมครบรสหลากสีสัน ไปกี่ครั้งก็ยังไปซ้ำได้ไม่มีเบื่อ