24 จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ทั่วประเทศ เสน่ห์แห่งฤดูใบไม้ร่วง

27/10/2016 (อัพเดทเมื่อ 21/02/2022)
ขอเสียง #ทีมใบไม้แดง หน่อยค่า !! จะไปญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องไปช่วงเวลาพีค ๆ สักหน่อย ซึ่งช่วง ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ก็คือหนึ่งในช่วงพีคที่ควรไปชมกันสักครั้ง และเราได้ทำการรวบรวมสถานที่ชมใบไม้แดงยอดฮิตทั่วญี่ปุ่นมาฝากเพื่อน ๆ แล้ว ใครไปภูมิภาคไหนควรไปช่วงเดือนไหน และมีที่ไหนน่าปักหมุดบ้าง ไปดูกัน

เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของประเทศญี่ปุ่นที่อากาศเริ่มหนาวเย็น เหล่าใบไม้สีสันสดใสจะเริ่มทำหน้าที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาชื่นชมความงดงาม เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดง ส้ม เหลือง สวยทั่วไปหมดในหลายพื้นที่ ซึ่งตามปกติแล้ว ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น จะเริ่มจากทางตอนเหนือของประเทศไล่มาเรื่อย ๆ จนถึงภาคใต้ในช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคมของทุกปี อาจมีการคลาดเคลื่อนไปบ้างตามสภาพอากาศ ถือเป็นช่วงที่สวยงามที่สุดช่วงหนึ่ง เหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวชื่นชมความงามของธรรมชาติ วันนี้เรารวมรวมข้อมูล จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ทั่วประเทศ พร้อมพิกัดและการเดินทางมาให้คุณแล้ว

1Hokkaido : ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ช่วงกลางเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม

1. Daisetsuzan National Park (大雪山国立公園)

ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น จุดแรกที่เราขอแนะนำคือ Daisetsuzan National Park คือ อุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น พื้นที่รอบสวนนั้นประกอบไปด้วยเหล่าภูเขาน้อยใหญ่จำนวนมากมาย ที่นี่ยังคงความสมบูรณ์ของป่าไว้ได้อย่างดีจึงทำให้บรรยากาศนั้นสวยงามมาก ๆ

Daisetsuzan National Park

ที่อยู่Sounkyo, Kamikawa, Kamikawa , Hokkaido 078-1701
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Furano Line มาลงสถานี Asahikawa แล้วนั่งรถบัสที่ไป Asahi-dake Onsen Village มาลงที่นี่
โทรศัพท์01-658-2-2574
WebsiteDaisetsuzan National Park

ดูแผนที่ Daisetsuzan National Park

2. Noboribetsu (登別温泉)

ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

Noboribetsu เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะฮอกไกโด มีน้ำพุร้อนหลายประเภทให้นักท่องเที่ยวได้แช่เพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ซึ่งนอกจากบ่อน้ำพุร้อนแล้ว ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่นี่ก็สวยงามทีเดียว ทั้งควันร้อนที่พวยพุ่งมาจากบ่อน้ำร้อนและใบไม้สีแดง เป็นอีกภาพความประทับใจ

Noboribetsu

ที่อยู่Noboribetsu onsencho, Noboribetsu, Hokkaido
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Hokuto Line มาลงสถานี Noboribetsu แล้วนั่งรถบัสไปลงป้าย N11 : Nobori Onsen
WebsiteNoboribetsu Onsen

ดูแผนที่ Noboribetsu

3. Onuma Park (大沼公園)

ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

Onuma Park ตั้งอยู่ทางเหนือของฮอกไกโด ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทะเลสาปสองแห่ง เป็นสวนที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาเยือนเมื่อมาเที่ยวย่าน Hakodate เหมือนเป็นทางผ่านให้เราสามารถชื่นชมธรรมชาติได้ และเมื่อฤดูใบไม้ร่วงเวียนมาถึงอีกครั้ง เหล่าบรรดาต้นเมเปิ้ลภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ก็จะเปลี่ยนสีสันจากสีเขียวชอุ่มเป็นส้มแดงสวยงาม ร่มรื่นเพลินใจสุด ๆ

Onuma Park

ที่อยู่1023-1 Onumacho, Nanae, Kameda District, Hokkaido 041-1354
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Hakodate Line มาลงสถานี Onumakoen แล้วเดินอีก 1 นาที
เวลาทำการช่วงเช้าถึงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน
ราคาไม่เสียค่าเข้า

ดูแผนที่ Onuma Park

2Tohoku : ช่วงต้นเดือนไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม

1. Hachimantai (八幡平)

ภูเขา Hachimantai เป็นภูเขาที่มียอดเขาในลักษณะแบนราบ มีความสูง 1,613 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวสามารถชมภูมิทัศน์อันสวยงามได้จากถนนที่มีชื่อว่า Hachimantai Aspite ซึ่งเป็นถนนรอบเขาที่เชื่อมระหว่างจังหวัดอากิตะและจังหวัดอิวาเตะไว้ด้วยกัน ผืนป่าบนภูเขานั้นจะเขียวชอุ่มตลอดปี ซึ่งเราสามารถปีนเขาเพื่อขึ้นไปสู่ยอดอันเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมา ๆ ได้ แต่ถ้าไม่ถนัดผาดโผนแค่ชื่นชมจากด้านล่างก็สวยงามมากแล้วล่ะ

Mt. Hachimantai

ที่อยู่Hachimantai, Iwate 028-7100
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Tazawako Line มาลงสถานี Morioka แล้วนั่งรถบัสที่วิ่งตรงไป Hachimantai-chojo ซึ่งจะมีสายตรงแค่วันละรอบเท่านั้น ถ้าพลาดรอบนี้ก็จะมีอีกแต่ต้องแวะเปลี่ยนรถที่ Higashi Hachimantai Kotsu Center ก่อนไปต่อยังสถานี Hachimantai-chojo
ราคาไม่เสียค่าใช้จ่าย
WebsiteMount Hachimantai

ดูแผนที่ Mt. Hachimantai

2. ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) และลำธาร Oirase

ทะเลสาบ Towada และลำธาร Oirase สำหรับทะเลสาบนี้เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 12 ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ซึ่งหากลองวัดจากแผนที่แล้วจะพบว่าอยู่กึ่งกลางเกาะพอดี เป็นทะเลสาบที่อยู่กลางป่าเขาอย่างแท้จริงจึงไม่มีทางรถไฟวิ่งผ่าน มีเพียงรถบัสเท่านั้นที่จะพาเรามาถึงที่นี่ได้ แต่แม้การเดินทางจะลำบากไปสักหน่อยแต่บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ โดยเฉพาะใบไม้แดงที่เลอค่าสุด ๆ เห็นแล้วรับประกันว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ส่วนลำธาร Oirase นั้นเป็นจุดที่เราสามารถลงรถแล้วเดินเลียบลำธารชมบรรยากาศได้ แต่อาจจะเดินเหนื่อยสักหน่อยเพื่อให้ไปถึงยังสถานีปลายทางก็คือทะเลสาบ Towada นั่นเอง

ทะเลสาบ Towada และลำธาร Oirase

ที่อยู่Okuse, Towada, Aomori 034-0301
วิธีเดินทางนั่งรถบัส JR Bus Tohoku จากสถานีรถไฟ Aomori มายังป้าย Towadako
เวลาทำการควรกลับก่อนเวลารถเที่ยวสุดท้ายหมดคือ 16.00 น.
ราคาไม่เสียค่าเข้าชม

ดูแผนที่ ทะเลสาบ Towada และลำธาร Oirase

3Kanto : ช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นเดือนธันวาคม

1. Rikugi-en (六義園)

สวน Rikugi-en เป็นสวนที่มีความสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น สวยจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติเชียวล่ะ เป็นสวนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ ที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 6 ส่วนที่มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่างกัน เมื่อเราเดินชมไปเรื่อย ๆ ก็จะพบว่าแต่ละส่วนนั้นมีทัศนียภาพที่ต่างกัน และความสวยจะทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเข้าสู่ช่วง ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ทั่วทั้งสวนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยสดงดงามเกินคำบรรยาย

Rikugi-en (六義園)

ที่อยู่6 Honkomagome, Tokyo
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Kamagome แล้วเดินอีก 5 นาที
เวลาทำการ09.00-17.00 น.
ราคาค่าเข้า 300 เยน
โทรศัพท์03-3941-2222

ดูแผนที่ Rikugi-en (六義園)

2. Koishikawa Korakuen (小石川後楽園)

สวน Koishikawa Korakuen คืออีกหนึ่งสวนที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นสวนที่ได้รับการยกย่องเรื่องความงาม โดยจะมีจุดเด่นอยู่ที่สะพานสีแดงสดที่เรียกว่า Tsuten ซึ่งมีความหมายว่าสะพานข้ามท้องฟ้านั่นเอง สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวเลยล่ะ เรียกได้ว่าพื้นที่ของสวนติดกับรั้วโตเกียวโดม แบบว่าใกล้มาก ๆ ทัศนียภาพของสวนถูกออกแบบมาในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ มีสระน้ำตั้งอยู่กลางสวนที่ถูกรายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลจำนวนมากมายที่รอเปลี่ยนสีอยู่แล้วในช่วงฤดูกาลใบไม้ร่วงนี้

Koishikawa Korakuen (小石川後楽園)

ที่อยู่1-6-6 Koraku, Bunkyo, Tokyo 112-0004,
วิธีเดินทางนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Namboku Line มาลงสถานี Korakuen แล้วเดินอีก 7 นาที
เวลาทำการ09.00-17.00 น.
ราคาค่าเข้าชม 300 เยน

ดูแผนที่ Koishikawa Korakuen (小石川後楽園)

3. Shinjuku Gyoen (新宿御苑)

Shinjuku Gyoen คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ฮอตที่สุดในกรุงโตเกียว มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อนหนีความวุ่นวายของคนในเมือง เราจะเริ่มเห็นสีแดงสวยสดของใบเมเปิ้ลได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ความสวยงามของที่นี่จะตราตรึงใจนักท่องเที่ยวอย่างเราไปอีกนาน ทัศนียภาพของสวนถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน โดยมีทั้งสวนสไตล์ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอังกฤษ มาที่เดียวก็จะได้ชมหลายบรรยากาศ เดินเล่นในย่านชินจูกุมาเรื่อย ๆ ก็ลองแวะเข้ามาพักผ่อนที่สวนแห่งนี้ได้

Shinjuku Gyoen (新宿御苑)

ที่อยู่11 Naito, Shinjuku, Tokyo
วิธีเดินทางนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Marunouchi Line มาลงสถานี Shinjukugyoen-Mae แล้วเดินอีกประมาณ 5 นาที
เวลาทำการ09.00-16.30 น.
ราคาค่าเข้า 200 เยน

ดูแผนที่ Shinjuku Gyoen (新宿御苑)

4. Takao Mount

Cr: ChillChillTrip1

ภูเขาทาคาโอะ (Takaosan) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ใจกลางโตเกียว ทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับเดินป่าอีกด้วย ใช้ระยะเวลาประมาณ 90 นาทีก็จะถึงจุดหมาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินทางแนวผจญภัย ซึ่งตลอดสองข้างทางจะได้ชื่นชมกับใบไม้แดงไปเรื่อย ๆ อีกด้วย รับรองว่าไม่มีเหนื่อย หรือถ้าไม่ใช่สายลุย เค้าก็มีบริการเคเบิ้ลคาร์ให้เรานั่งสบาย ๆ ขึ้นไปยังจุดชมวิวบริเวณยอดเขาเหมือนกันนะ และด้านล่างของเคเบิ้ลคาร์ก็เป็นเหล่าใบไม้แดงที่เรารอคอยที่จะได้เห็นนั่นเอง หรือถ้าหากอยากสัมผัสอีกบรรยากาศเค้าก็มีบริการรถรางด้วยนะ เหมาะกับใครที่มากับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ จะได้ชมความสวยงามของใบไม้แดงได้อย่างไม่ลำบาก และเมื่อไปถึงยังสถานีสุดท้ายของเคเบิ้ลคาร์ที่ด้านบนภูเขาแล้วก็จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของกรุงโตเกียวได้ทั้งหมด และในวันฟ้าเปิดเรายังสามารถมองเห็นยอดของภูเขาไฟฟูจิซังได้อีกด้วย นับเป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ

Takaosanguchi Station

ที่อยู่2241 Takaomachi, Hachiōji, Tōkyō 193-0844
วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย Keio-Takao มาลงสถานี Takaosanguchi แล้วต่อรถรางหรือเคเบิ้ลคาร์เพื่อขึ้นสู่ยอดเขา
เวลาทำการ08.00-17.45 น.
ราคาเคเบิ้ลคาร์และรถราง : เที่ยวเดียว 480 เยน, ไป-กลับ : 930 เยน

ดูแผนที่ Takaosanguchi Station

5. Imperial Palace East Gardens (皇居東御苑)

ทางด้านตะวันออกของของพระราชวังอิมพีเรียลนั้นเป็นพื้นที่ของสวนที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ ซึ่งในอดีตสวนแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของวงกลมหลักและวงกลมรองซึ่งมีไว้เพื่อป้องกันก่อนถึงตัวปราสาท แต่ปัจจุบันเหลือไว้เพียงผนังกำแพง ประตูทางเข้า และป้อมรักษาความปลอดภัยเท่านั้น พื้นที่สวนฝั่งตะวันออกแห่งนี้มีขนาดกว้างขวาง เป็นสวนหย่อมสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงาม บรรยากาศร่มเย็น และเมื่อถึงช่วงใบไม้ร่วงแล้ว ที่นี่ก็จะมีความสวยงามเป็นพิเศษ ใบไม้เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงสวยสดใสกระจายทั่วพื้นที่ไปหมด สวนที่สวยอยู่แล้วก็สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก บรรยากาศโรแมนติกรอให้เราได้ไปสัมผัส

Imperial Palace East Gardens

ที่อยู่100-8111 1-1 East Gardens of the Imperial Palace, Chiyoda, Tokyo
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Tokyo แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
เวลาทำการ09.00-16.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันศุกร์)

ดูแผนที่ Imperial Palace East Gardens

6. Ryuzu Waterfall (竜頭ノ滝)

น้ำตก Ryuzu Waterfall แห่งนี้เป็นน้ำตกที่ไหลพาดผ่าน Oku-Nikko Senjogahara ลงสู่ทะเลสาบ Chuzenji ลักษณะหินที่รวมตัวกันเป็นน้ำตกนั้นมีลักษณะคล้ายกับหัวของมังกร จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกนั่นเอง มีความสูง 210 เมตร และถูกล้อมรอบไปด้วยต้นเมเปิ้ลจำนวนมาก ถือเป็นจุดถ่ายรูปใบไม้แดงยอดนิยม

Ryuzu Waterfall (竜頭ノ滝)

ที่อยู่Chugushi, Nikko, Tochigi 321-1661
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Nikko Line มาลงสถานี Nikko แล้วนั่งรถบัส Tobu ที่มุ่งตรงไปยัง Yumoto Onsen เพื่อมาลงที่ป้ายรถบัส Ryuzu no taki
ราคาไม่เสียค่าเข้าชม

ดูแผนที่ Ryuzu Waterfall (竜頭ノ滝)

7. Kumoba-ike Pond(雲場池)

Kumoba-ike Pond เป็นสระน้ำที่สร้างจำลองขึ้นให้มีความสวยงามคล้ายกับป่าจริง ๆ ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นในการเดินเล่นรอบสระ พร้อม ๆ ไปกับการชื่นชมความงดงามของใบไม้แดงจากต้นเมเปิ้ลที่เรียงรายกันอย่างสวยงามตรึงใจ เป็นพิกัด ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่น่ามาเยือน

Kumoba-ike Pond(雲場池)

ที่อยู่Karuizawa, Kitasaku , Nagano 389-0103
วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย Shinano Tatsudo Line มาลงสถานี Karuizawa แล้วนั่งรถ Loop Bus ประจำเมือง มาลงที่ป้ายรถบัส Roppontsuji
เวลาทำการเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ราคาไม่เสียค่าเข้าชม

ดูแผนที่ Kumoba-ike Pond(雲場池)

8. Fukuroda Waterfall

น้ำตกฟุคุโรดะ เป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น น้ำตกจะไหลผ่านหน้าผาหินยักษ์ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ ซึ่งเป็นลักษณะของชั้นหินที่ไล่ระดับลงมา 4 ชั้น จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘น้ำตก 4 ชั้น’ นักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถชมวิวทัศนียภาพและเห็นน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด เป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่เต็มไปด้วยใบไม้แดงนั้นสวยสุด ๆ ไปเลย

น้ำตก Fukuroda

ที่อยู่3-19, Fukuroda, Daigo-machi,Ibaraki
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Suigun Line มาลงสถานี Fukuroda แล้วนั่งรถบัสต่อไปอีก 10 นาที
เวลาทำการ09.00-17.00 น.
ราคาค่าเข้าชม 300 เยน
โทรศัพท์0295-72-4036
Websiteคู่มือการท่องเที่ยวอิบารากิ

ดูแผนที่ น้ำตก Fukuroda

4 Kyoto : กลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม

1. Eikan-dō Zenrin-ji (永觀堂)

วัด Eikan-do ตั้งอยู่ในจังหวัดเกียวโต เป็นวัดเก่าแก่กว่าพันปีและเป็นสถานที่ที่ชาวเกียวโตนิยมมาชมใบไม้แดงกันมาตั้งแต่ในอดีตกาล มีความสวยงามด้วยต้นเมเปิ้ลที่มีอายุยืนนานจำนวนมากมายที่พร้อมใจกันเปลี่ยนจากสีเขียวชอุ่มเป็นสีแดงสวยงาม เราสามารถเดินเล่นชมบรรยากาศไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อเลยล่ะ รวมทั้งช่วงกลางคืนก็จะมีการประดับไฟตามต้นเมเปิ้ล สวยงามมาก ๆ

Eikan-dō Zenrin-ji (永觀堂)

ที่อยู่48 Eikandocho, Sakyo, Kyoto, 606-8445
วิธีเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line มาลงสถานี Keage แล้วเดินอีก 14 นาที
เวลาทำการ09.00-17.00 น.
ราคาค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 400 เยน
WebsiteEikan-do Temple

ดูแผนที่ Eikan-dō Zenrin-ji (永觀堂)

2. Togetsukyo Bridge (渡月橋)

เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลใบไม้ร่วง Arashiyama ก็ถูกย้อมสีเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสทั่วทั้งพื้นที่ด้วยใบของต้นเมเปิ้ลที่พร้อมใจกันเปลี่ยนสี สลับกับสีเหลืองของต้นไม้อื่น กลายเป็นสีสันแห่งธรรมชาติที่งดงามไม่มีวันลืมเลือน โดยเฉพาะมุมจากสะพาน Togetsu-kyo ยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ ซึ่งเค้ามีบริการล่องเรือในแม่น้ำโฮสึให้เราได้ชมใบไม้แดงไปด้วย ห้ามพลาดเชียวล่ะ

Togetsukyo Bridge (渡月橋)

ที่อยู่Saganakanoshimacho, Ukyo, Kyoto, Kyoto 616-8383
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Hashidate Line มาลงสถานี Saga-Arashiyama แล้วเดินอีกประมาณ 12 นาที
เวลาทำการ09.00-15.30 น.
ราคาค่าล่องเรือ : ผู้ใหญ่ 4,100 เยน, เด็ก 2,700 เยน

ดูแผนที่ Togetsukyo Bridge (渡月橋)

3. วัด Tofukuji (東福寺)

วัด Tofukuji เป็นหนึ่งจุดชมใบไม้แดงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก ทุกคนเดินทางมาเพื่อใบไม้แดงโดยเฉพาะ เพราะเป็นจุดที่เรียกได้ว่าพีคสุด ๆ จำนวนนักท่องเที่ยวล้นหลามมาก แต่จำนวนของต้นเมเปิ้ลก็มีมากไม่แพ้กัน ต่างแย่งกันขึ้นมากมายพร้อมเผยโฉมความงามให้ประจักษ์แก่สายตานักท่องเที่ยว จากด้านบนของอาคารวัด เราสามารถขึ้นไปยืนแล้วจะได้มองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก ๆ จากด้านบนลงไปด้านล่างที่เต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลสีแดงชูกิ่งใบมาทักทาย แต่ไม่ใช่แค่วิวจากด้านบนเท่านั้น ที่ด้านล่างในพื้นที่วัดยังมีความสวยงามอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะหันไปทางใดก็แดงสวยไปหมด

Tofukuji (東福寺)

ที่อยู่15-778 Honmachi, Higashiyama, Kyoto, 605-0981
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Nara Line มาลงสถานี Tofukuji แล้วเดินอีก 12 นาที
เวลาทำการ08.30-16.30 น.
ราคาค่าเข้า 400 เยน

ดูแผนที่ Tofukuji (東福寺)

4. Sanzenin (三千院三千院門跡)

Sanzenin เป็นวัดในนิกายเทนไดที่สร้างขึ้นโดยพระคุณเจ้า Saicho ซึ่งเป็นผู้ที่นำนิกายนี้เค้ามาสู่ญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 804 ภายในวัดแบ่งออกเป็นหลานส่วน ซึ่งพื้นที่ในแต่ละส่วนก็จะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ที่เหมือนกันคือความร่มรื่นของต้นไม้ที่ขึ้นเต็มพื้นที่ เหมาะแก่การเดินเล่นพักผ่อนและชมใบไม้แดงเป็นอย่างยิ่ง

Sanzenin (三千院三千院門跡)

ที่อยู่540 Ohararaikoincho, Sakyo, Kyoto, Kyoto 601-1242
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Haruka Line มาลงสถานี Kyoto แล้วนั่งรถบัสหมายเลข 17 ต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง (รถจะออกทุก 20 นาที)
เวลาทำการ8.30-17.30 น.
FacebookSanzenin

ดูแผนที่ Sanzenin (三千院三千院門跡)

5. วัด Kiyomizudera (清水寺)

ที่เที่ยวญี่ปุ่น

วัด Kiyomizu หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกว่าวัดน้ำใสนั้นถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก วัดสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 780 วัดแห่งนี้มีแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นเองธรรมชาติ โดยเป็นน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกโอโตวะ และกลายเป็นที่มาของชื่อวัดน้ำใส ความสวยงามของวัดนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO เลยทีเดียว ด้านบนอาคารขนาดใหญ่ของวัดที่มีความสูงถึง 13 เมตรนั้นเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุด สามารถมองเห็นวิวของเมืองเกียวโตในช่วงใบไม้แดงได้สวยงามตรึงใจสุด ๆ

Kiyomizudera Temple

ที่อยู่1-294 Kiyomizu, Higashiyama, Kyoto, 605-0862
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Haruka Line มาลงสถานี Kyoto แล้วนั่งรถบัสสาย 100 หรือ 206 มาลงที่ป้าย Kiyomizu-michi แล้วเดินอีก 15 นาที
เวลาทำการ06.00-17.30 น.
ราคาค่าเข้าชม 300 เยน
โทรศัพท์075-551-1234
FacebookKiyomizudera Temple

ดูแผนที่ Kiyomizudera Temple

6. Mino Park

หุบเขามิโนะ (Minoh Park) เป็นหุบเขาที่มีลักษณะคล้ายภูเขาทาคาโอะที่อยู่ในโตเกียว แต่หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัดโอซาก้า ซึ่งที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ดีที่สุดของภูมิภาคคันไซเลยล่ะ เราสามารถเดินเที่ยวลัดเลาะไปรอบ ๆ เขาได้เพื่อชื่นชมกับธรรมชาติอันสวยงาม ซึ่งเป็นเส้นทางที่จัดทำขึ้นอย่างปลอดภัย สะอาด เดินง่าย ไม่ต้องห่วงเรื่องกลัวลื่นล้มเลย

หุบเขามิโนะ (Minoh park)

ที่อยู่1-18 Minookoen, Minoo, Osaka 562-0002
วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย Hankyu-Mino Line มาลงสถานี Minoo แล้วเริ่มเส้นทางเดินเขาชมธรรมชาติได้เลย
เวลาทำการควรไปก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
ราคาไม่เสียค่าเข้าชม
โทรศัพท์072-723-0649

5Chubu : สิ้นเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

1. ทะเลสาบ Kawaguchiko (河口湖)

ทะเลสาบ Kawaguchiko เป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิเอาไว้ที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายที่สุด มาจากโตเกียวได้โดยรถไฟและรถบัส ซึ่งในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนั้นเราจะชื่นชมความงดงามของ ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ได้ด้วย พร้อมกับวิวฟูจิซังที่โผล่มาทักทายนักท่องเที่ยว นับว่าเป็นอีกสถานที่ชมวิวที่งดงามที่สุด

ทะเลสาบ Kawaguchiko (河口湖)

ที่อยู่3641 Funatsu, Fujikawaguchiko, Minamitsuru District, Yamanashi 401-0301
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Chuo Line มาลงสถานี Otsuki แล้วต่อรถไฟสาย Fujikyu Railway มาลงที่สถานี Kawaguchiko
ราคาไม่เสียค่าเข้าชม

ดูแผนที่ Kawaguchiko Lake

2. หุบเขา Korankei (香嵐渓)

หุบเขา Korankei แห่งนี้เป็นจุดชมใบไม้แดงที่ที่ได้รับความนิยมที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคชูบุจากการอันดับของเว็บไซต์ koyo.walkerplus.com ในทุกปีจะมีผู้คนหลั่งไหลกันมาที่นี่เพื่อชื่นชมความงดงามของใบไม้สีแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง การเดินทางอาจลำบากไปบ้างแต่ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับความงามนี้อย่างแน่นอน เราสามารถมานั่งปิกนิกริมลำธารที่ไหลเอื่อย ๆ สบาย ๆ ท่ามกลางอากาศเย็น วิวสวย ๆ แบบนี้ได้อีกด้วย

หุบเขา Korankei (香嵐渓)

ที่อยู่34−1 Miyadaira, Asukechō, Toyota, Aichi 444-2424
วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย Meitetsu Line มาลงสถานี Higashi Okazaki แล้วนั่งรถบัสต่อไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
เวลาทำการ09.00-17.00 น.
ราคาค่าเข้าชม 300 เยน

ดูแผนที่ หุบเขา Korankei (香嵐渓)

6Kyushu : กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

1. Kuju Mountains (九重山)

เทือกเขา Kuju นั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัด Oita ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะคิวชู เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Aso Kuju National Park ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เนินเขาที่เกิดจากภูเขาไฟ มีลักษณะเป็นลานหินแบบโล่งกว้าง ซึ่งเเราจะสามารถเห็นควันที่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่อีกด้วย ถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราก็จะได้ชื่นชมบรรยากาศของใบไม้แดงในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งน่าสนใจไม่แพ้ที่ใดเลย

Kuju Mountains (九重山)

ที่อยู่Taketa, Oita
วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย Nippou Line มาลงสถานี Beppu แล้วนั่งรถบัส Kyushu Odan Bus มาที่ป้าย Kuju-Tozanguchi Bus Stop
เวลาทำการ09.00-16.00 น.
ราคาไม่เสียค่าเข้าชม

ดูแผนที่ Kuju Mountains (九重山)

2. เกาะ Miyajima (宮島)

เกาะ Miyajima นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของฮิโรชิมา มีทั้งศาลเจ้าลอยน้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและถือเป็นจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่สวยงามมาก ๆ เพราะพื้นที่เกือบทั่วทั้งเกาะนั้นจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงที่สวยสดงดงาม เมื่อเงยหน้ามองก็เห็นใบไม้สีแดงบนต้นไม้ใหญ่ และเมื่อก้มหน้าก็จะเห็นพื้นดินที่ถูกคลุมไปด้วยใบไม้สีแดง ดูราวกับธรรมชาติกำลังปูพรมแดงให้เราเดินผ่านไป

เกาะ Miyajima

ที่อยู่Miyajima, Hatsukaichi, Hiroshima
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย San-yo Line มาลงสถานี Miyajimaguchi แล้วเดินอีก 5 นาทีไปยังท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะมิยาจิมา
ราคาค่าเข้าชมศาลเจ้า : ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 100 เยน
FacebookWelcome to Miyajima

ดูแผนที่ เกาะ Miyajima

ข้อสรุป

ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น เป็นช่วงที่สวยงามที่สุดและเหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะสวยงามในเรื่องทัศนียภาพแล้วยังมีสภาพอากาศที่ดีด้วย เพราะเป็นช่วงที่อากาศเริ่มหนาวเย็นที่ประเทศไทยเราไม่เคยพบเจออีกด้วย เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาเข้าสู่ #ทีมใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยกันเถอะ สำหรับใครที่สนใจข้อมูลฤดูอ่ื่น ๆ ลองอ่านบทความนี้นะ

IMAGE NAME HERE

4 ฤดูกาลท่องเที่ยว ญี่ปุ่น ทำความรู้จักสภาพอากาศ และสิ่งที่น่าสนใจในแต่ละฤดู

ประเทศญี่ปุ่น หรือ ดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่ทุกคนรู้จักนั้น มีทั้งหมด 4 ฤดูกาล โดยแต่ละฤดูจะแตกต่างกันออกไป ทั้งสภาพอากาศ อาหารหรือแม้กระทั่งสถานที่ท่องเที่ยว วันนี้เราเลยจะมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจมากยิ่งขึ้น

Mytarn

Blogger : Mytarn

เราเองก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่หลงใหลในประเทศญี่ปุ่น ?? และรู้สึกเหมือนกับหลาย ๆ คนที่ไม่เคยเบื่อการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศแห่งนี้ สิ่งที่ชอบที่สุดคงจะเป็นขนม เบียร์ และการช้อปปิ้ง อิ้ง อิ้ง อิ้ง~ ???

177 Posts

Banner Link to Miyazaki Special Page

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-5285-8088

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    03-5789-2449

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    06-6262-9226-7

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    092-686-8775

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุ๊กกี้ของเราผ่านทาง นโยบายความเป็นส่วนตัว