Contents Index
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของประเทศญี่ปุ่นที่อากาศเริ่มหนาวเย็น เหล่าใบไม้สีสันสดใสจะเริ่มทำหน้าที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาชื่นชมความงดงาม เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดง ส้ม เหลือง สวยทั่วไปหมดในหลายพื้นที่ ซึ่งตามปกติแล้ว ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น จะเริ่มจากทางตอนเหนือของประเทศไล่มาเรื่อย ๆ จนถึงภาคใต้ในช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคมของทุกปี อาจมีการคลาดเคลื่อนไปบ้างตามสภาพอากาศ ถือเป็นช่วงที่สวยงามที่สุดช่วงหนึ่ง เหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวชื่นชมความงามของธรรมชาติ วันนี้เรารวมรวมข้อมูล จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ทั่วประเทศ พร้อมพิกัดและการเดินทางมาให้คุณแล้ว
ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น จุดแรกที่เราขอแนะนำคือ Daisetsuzan National Park คือ อุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น พื้นที่รอบสวนนั้นประกอบไปด้วยเหล่าภูเขาน้อยใหญ่จำนวนมากมาย ที่นี่ยังคงความสมบูรณ์ของป่าไว้ได้อย่างดีจึงทำให้บรรยากาศนั้นสวยงามมาก ๆ
ที่อยู่ | Sounkyo, Kamikawa, Kamikawa , Hokkaido 078-1701 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Furano Line มาลงสถานี Asahikawa แล้วนั่งรถบัสที่ไป Asahi-dake Onsen Village มาลงที่นี่ |
โทรศัพท์ | 01-658-2-2574 |
Website | Daisetsuzan National Park |
Noboribetsu เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะฮอกไกโด มีน้ำพุร้อนหลายประเภทให้นักท่องเที่ยวได้แช่เพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ซึ่งนอกจากบ่อน้ำพุร้อนแล้ว ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่นี่ก็สวยงามทีเดียว ทั้งควันร้อนที่พวยพุ่งมาจากบ่อน้ำร้อนและใบไม้สีแดง เป็นอีกภาพความประทับใจ
ที่อยู่ | Noboribetsu onsencho, Noboribetsu, Hokkaido |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Hokuto Line มาลงสถานี Noboribetsu แล้วนั่งรถบัสไปลงป้าย N11 : Nobori Onsen |
Website | Noboribetsu Onsen |
Onuma Park ตั้งอยู่ทางเหนือของฮอกไกโด ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทะเลสาปสองแห่ง เป็นสวนที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาเยือนเมื่อมาเที่ยวย่าน Hakodate เหมือนเป็นทางผ่านให้เราสามารถชื่นชมธรรมชาติได้ และเมื่อฤดูใบไม้ร่วงเวียนมาถึงอีกครั้ง เหล่าบรรดาต้นเมเปิ้ลภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ก็จะเปลี่ยนสีสันจากสีเขียวชอุ่มเป็นส้มแดงสวยงาม ร่มรื่นเพลินใจสุด ๆ
ที่อยู่ | 1023-1 Onumacho, Nanae, Kameda District, Hokkaido 041-1354 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Hakodate Line มาลงสถานี Onumakoen แล้วเดินอีก 1 นาที |
เวลาทำการ | ช่วงเช้าถึงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้า |
ภูเขา Hachimantai เป็นภูเขาที่มียอดเขาในลักษณะแบนราบ มีความสูง 1,613 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวสามารถชมภูมิทัศน์อันสวยงามได้จากถนนที่มีชื่อว่า Hachimantai Aspite ซึ่งเป็นถนนรอบเขาที่เชื่อมระหว่างจังหวัดอากิตะและจังหวัดอิวาเตะไว้ด้วยกัน ผืนป่าบนภูเขานั้นจะเขียวชอุ่มตลอดปี ซึ่งเราสามารถปีนเขาเพื่อขึ้นไปสู่ยอดอันเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมา ๆ ได้ แต่ถ้าไม่ถนัดผาดโผนแค่ชื่นชมจากด้านล่างก็สวยงามมากแล้วล่ะ
ที่อยู่ | Hachimantai, Iwate 028-7100 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Tazawako Line มาลงสถานี Morioka แล้วนั่งรถบัสที่วิ่งตรงไป Hachimantai-chojo ซึ่งจะมีสายตรงแค่วันละรอบเท่านั้น ถ้าพลาดรอบนี้ก็จะมีอีกแต่ต้องแวะเปลี่ยนรถที่ Higashi Hachimantai Kotsu Center ก่อนไปต่อยังสถานี Hachimantai-chojo |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
Website | Mount Hachimantai |
ทะเลสาบ Towada และลำธาร Oirase สำหรับทะเลสาบนี้เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 12 ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ซึ่งหากลองวัดจากแผนที่แล้วจะพบว่าอยู่กึ่งกลางเกาะพอดี เป็นทะเลสาบที่อยู่กลางป่าเขาอย่างแท้จริงจึงไม่มีทางรถไฟวิ่งผ่าน มีเพียงรถบัสเท่านั้นที่จะพาเรามาถึงที่นี่ได้ แต่แม้การเดินทางจะลำบากไปสักหน่อยแต่บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ โดยเฉพาะใบไม้แดงที่เลอค่าสุด ๆ เห็นแล้วรับประกันว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ส่วนลำธาร Oirase นั้นเป็นจุดที่เราสามารถลงรถแล้วเดินเลียบลำธารชมบรรยากาศได้ แต่อาจจะเดินเหนื่อยสักหน่อยเพื่อให้ไปถึงยังสถานีปลายทางก็คือทะเลสาบ Towada นั่นเอง
ที่อยู่ | Okuse, Towada, Aomori 034-0301 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัส JR Bus Tohoku จากสถานีรถไฟ Aomori มายังป้าย Towadako |
เวลาทำการ | ควรกลับก่อนเวลารถเที่ยวสุดท้ายหมดคือ 16.00 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
สวน Rikugi-en เป็นสวนที่มีความสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น สวยจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติเชียวล่ะ เป็นสวนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ ที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 6 ส่วนที่มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่างกัน เมื่อเราเดินชมไปเรื่อย ๆ ก็จะพบว่าแต่ละส่วนนั้นมีทัศนียภาพที่ต่างกัน และความสวยจะทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเข้าสู่ช่วง ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ทั่วทั้งสวนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยสดงดงามเกินคำบรรยาย
ที่อยู่ | 6 Honkomagome, Tokyo |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Kamagome แล้วเดินอีก 5 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้า 300 เยน |
โทรศัพท์ | 03-3941-2222 |
สวน Koishikawa Korakuen คืออีกหนึ่งสวนที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นสวนที่ได้รับการยกย่องเรื่องความงาม โดยจะมีจุดเด่นอยู่ที่สะพานสีแดงสดที่เรียกว่า Tsuten ซึ่งมีความหมายว่าสะพานข้ามท้องฟ้านั่นเอง สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวเลยล่ะ เรียกได้ว่าพื้นที่ของสวนติดกับรั้วโตเกียวโดม แบบว่าใกล้มาก ๆ ทัศนียภาพของสวนถูกออกแบบมาในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ มีสระน้ำตั้งอยู่กลางสวนที่ถูกรายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลจำนวนมากมายที่รอเปลี่ยนสีอยู่แล้วในช่วงฤดูกาลใบไม้ร่วงนี้
ที่อยู่ | 1-6-6 Koraku, Bunkyo, Tokyo 112-0004, |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Namboku Line มาลงสถานี Korakuen แล้วเดินอีก 7 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม 300 เยน |
Shinjuku Gyoen คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ฮอตที่สุดในกรุงโตเกียว มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อนหนีความวุ่นวายของคนในเมือง เราจะเริ่มเห็นสีแดงสวยสดของใบเมเปิ้ลได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ความสวยงามของที่นี่จะตราตรึงใจนักท่องเที่ยวอย่างเราไปอีกนาน ทัศนียภาพของสวนถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน โดยมีทั้งสวนสไตล์ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอังกฤษ มาที่เดียวก็จะได้ชมหลายบรรยากาศ เดินเล่นในย่านชินจูกุมาเรื่อย ๆ ก็ลองแวะเข้ามาพักผ่อนที่สวนแห่งนี้ได้
ที่อยู่ | 11 Naito, Shinjuku, Tokyo |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Marunouchi Line มาลงสถานี Shinjukugyoen-Mae แล้วเดินอีกประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-16.30 น. |
ราคา | ค่าเข้า 200 เยน |
ภูเขาทาคาโอะ (Takaosan) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ใจกลางโตเกียว ทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับเดินป่าอีกด้วย ใช้ระยะเวลาประมาณ 90 นาทีก็จะถึงจุดหมาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินทางแนวผจญภัย ซึ่งตลอดสองข้างทางจะได้ชื่นชมกับใบไม้แดงไปเรื่อย ๆ อีกด้วย รับรองว่าไม่มีเหนื่อย หรือถ้าไม่ใช่สายลุย เค้าก็มีบริการเคเบิ้ลคาร์ให้เรานั่งสบาย ๆ ขึ้นไปยังจุดชมวิวบริเวณยอดเขาเหมือนกันนะ และด้านล่างของเคเบิ้ลคาร์ก็เป็นเหล่าใบไม้แดงที่เรารอคอยที่จะได้เห็นนั่นเอง หรือถ้าหากอยากสัมผัสอีกบรรยากาศเค้าก็มีบริการรถรางด้วยนะ เหมาะกับใครที่มากับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ จะได้ชมความสวยงามของใบไม้แดงได้อย่างไม่ลำบาก และเมื่อไปถึงยังสถานีสุดท้ายของเคเบิ้ลคาร์ที่ด้านบนภูเขาแล้วก็จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของกรุงโตเกียวได้ทั้งหมด และในวันฟ้าเปิดเรายังสามารถมองเห็นยอดของภูเขาไฟฟูจิซังได้อีกด้วย นับเป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ
ที่อยู่ | 2241 Takaomachi, Hachiōji, Tōkyō 193-0844 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Keio-Takao มาลงสถานี Takaosanguchi แล้วต่อรถรางหรือเคเบิ้ลคาร์เพื่อขึ้นสู่ยอดเขา |
เวลาทำการ | 08.00-17.45 น. |
ราคา | เคเบิ้ลคาร์และรถราง : เที่ยวเดียว 480 เยน, ไป-กลับ : 930 เยน |
ทางด้านตะวันออกของของพระราชวังอิมพีเรียลนั้นเป็นพื้นที่ของสวนที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ ซึ่งในอดีตสวนแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของวงกลมหลักและวงกลมรองซึ่งมีไว้เพื่อป้องกันก่อนถึงตัวปราสาท แต่ปัจจุบันเหลือไว้เพียงผนังกำแพง ประตูทางเข้า และป้อมรักษาความปลอดภัยเท่านั้น พื้นที่สวนฝั่งตะวันออกแห่งนี้มีขนาดกว้างขวาง เป็นสวนหย่อมสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงาม บรรยากาศร่มเย็น และเมื่อถึงช่วงใบไม้ร่วงแล้ว ที่นี่ก็จะมีความสวยงามเป็นพิเศษ ใบไม้เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงสวยสดใสกระจายทั่วพื้นที่ไปหมด สวนที่สวยอยู่แล้วก็สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก บรรยากาศโรแมนติกรอให้เราได้ไปสัมผัส
ที่อยู่ | 100-8111 1-1 East Gardens of the Imperial Palace, Chiyoda, Tokyo |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Tokyo แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-16.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันศุกร์) |
น้ำตก Ryuzu Waterfall แห่งนี้เป็นน้ำตกที่ไหลพาดผ่าน Oku-Nikko Senjogahara ลงสู่ทะเลสาบ Chuzenji ลักษณะหินที่รวมตัวกันเป็นน้ำตกนั้นมีลักษณะคล้ายกับหัวของมังกร จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกนั่นเอง มีความสูง 210 เมตร และถูกล้อมรอบไปด้วยต้นเมเปิ้ลจำนวนมาก ถือเป็นจุดถ่ายรูปใบไม้แดงยอดนิยม
ที่อยู่ | Chugushi, Nikko, Tochigi 321-1661 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Nikko Line มาลงสถานี Nikko แล้วนั่งรถบัส Tobu ที่มุ่งตรงไปยัง Yumoto Onsen เพื่อมาลงที่ป้ายรถบัส Ryuzu no taki |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
Kumoba-ike Pond เป็นสระน้ำที่สร้างจำลองขึ้นให้มีความสวยงามคล้ายกับป่าจริง ๆ ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นในการเดินเล่นรอบสระ พร้อม ๆ ไปกับการชื่นชมความงดงามของใบไม้แดงจากต้นเมเปิ้ลที่เรียงรายกันอย่างสวยงามตรึงใจ เป็นพิกัด ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่น่ามาเยือน
ที่อยู่ | Karuizawa, Kitasaku , Nagano 389-0103 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Shinano Tatsudo Line มาลงสถานี Karuizawa แล้วนั่งรถ Loop Bus ประจำเมือง มาลงที่ป้ายรถบัส Roppontsuji |
เวลาทำการ | เปิดตลอด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
น้ำตกฟุคุโรดะ เป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น น้ำตกจะไหลผ่านหน้าผาหินยักษ์ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ ซึ่งเป็นลักษณะของชั้นหินที่ไล่ระดับลงมา 4 ชั้น จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘น้ำตก 4 ชั้น’ นักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถชมวิวทัศนียภาพและเห็นน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด เป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่เต็มไปด้วยใบไม้แดงนั้นสวยสุด ๆ ไปเลย
ที่อยู่ | 3-19, Fukuroda, Daigo-machi,Ibaraki |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Suigun Line มาลงสถานี Fukuroda แล้วนั่งรถบัสต่อไปอีก 10 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม 300 เยน |
โทรศัพท์ | 0295-72-4036 |
Website | คู่มือการท่องเที่ยวอิบารากิ |
วัด Eikan-do ตั้งอยู่ในจังหวัดเกียวโต เป็นวัดเก่าแก่กว่าพันปีและเป็นสถานที่ที่ชาวเกียวโตนิยมมาชมใบไม้แดงกันมาตั้งแต่ในอดีตกาล มีความสวยงามด้วยต้นเมเปิ้ลที่มีอายุยืนนานจำนวนมากมายที่พร้อมใจกันเปลี่ยนจากสีเขียวชอุ่มเป็นสีแดงสวยงาม เราสามารถเดินเล่นชมบรรยากาศไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อเลยล่ะ รวมทั้งช่วงกลางคืนก็จะมีการประดับไฟตามต้นเมเปิ้ล สวยงามมาก ๆ
ที่อยู่ | 48 Eikandocho, Sakyo, Kyoto, 606-8445 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line มาลงสถานี Keage แล้วเดินอีก 14 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 400 เยน |
Website | Eikan-do Temple |
เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลใบไม้ร่วง Arashiyama ก็ถูกย้อมสีเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสทั่วทั้งพื้นที่ด้วยใบของต้นเมเปิ้ลที่พร้อมใจกันเปลี่ยนสี สลับกับสีเหลืองของต้นไม้อื่น กลายเป็นสีสันแห่งธรรมชาติที่งดงามไม่มีวันลืมเลือน โดยเฉพาะมุมจากสะพาน Togetsu-kyo ยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ ซึ่งเค้ามีบริการล่องเรือในแม่น้ำโฮสึให้เราได้ชมใบไม้แดงไปด้วย ห้ามพลาดเชียวล่ะ
ที่อยู่ | Saganakanoshimacho, Ukyo, Kyoto, Kyoto 616-8383 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Hashidate Line มาลงสถานี Saga-Arashiyama แล้วเดินอีกประมาณ 12 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-15.30 น. |
ราคา | ค่าล่องเรือ : ผู้ใหญ่ 4,100 เยน, เด็ก 2,700 เยน |
วัด Tofukuji เป็นหนึ่งจุดชมใบไม้แดงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก ทุกคนเดินทางมาเพื่อใบไม้แดงโดยเฉพาะ เพราะเป็นจุดที่เรียกได้ว่าพีคสุด ๆ จำนวนนักท่องเที่ยวล้นหลามมาก แต่จำนวนของต้นเมเปิ้ลก็มีมากไม่แพ้กัน ต่างแย่งกันขึ้นมากมายพร้อมเผยโฉมความงามให้ประจักษ์แก่สายตานักท่องเที่ยว จากด้านบนของอาคารวัด เราสามารถขึ้นไปยืนแล้วจะได้มองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก ๆ จากด้านบนลงไปด้านล่างที่เต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลสีแดงชูกิ่งใบมาทักทาย แต่ไม่ใช่แค่วิวจากด้านบนเท่านั้น ที่ด้านล่างในพื้นที่วัดยังมีความสวยงามอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะหันไปทางใดก็แดงสวยไปหมด
ที่อยู่ | 15-778 Honmachi, Higashiyama, Kyoto, 605-0981 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Nara Line มาลงสถานี Tofukuji แล้วเดินอีก 12 นาที |
เวลาทำการ | 08.30-16.30 น. |
ราคา | ค่าเข้า 400 เยน |
Sanzenin เป็นวัดในนิกายเทนไดที่สร้างขึ้นโดยพระคุณเจ้า Saicho ซึ่งเป็นผู้ที่นำนิกายนี้เค้ามาสู่ญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 804 ภายในวัดแบ่งออกเป็นหลานส่วน ซึ่งพื้นที่ในแต่ละส่วนก็จะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ที่เหมือนกันคือความร่มรื่นของต้นไม้ที่ขึ้นเต็มพื้นที่ เหมาะแก่การเดินเล่นพักผ่อนและชมใบไม้แดงเป็นอย่างยิ่ง
ที่อยู่ | 540 Ohararaikoincho, Sakyo, Kyoto, Kyoto 601-1242 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Haruka Line มาลงสถานี Kyoto แล้วนั่งรถบัสหมายเลข 17 ต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง (รถจะออกทุก 20 นาที) |
เวลาทำการ | 8.30-17.30 น. |
Sanzenin |
วัด Kiyomizu หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกว่าวัดน้ำใสนั้นถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก วัดสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 780 วัดแห่งนี้มีแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นเองธรรมชาติ โดยเป็นน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกโอโตวะ และกลายเป็นที่มาของชื่อวัดน้ำใส ความสวยงามของวัดนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO เลยทีเดียว ด้านบนอาคารขนาดใหญ่ของวัดที่มีความสูงถึง 13 เมตรนั้นเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุด สามารถมองเห็นวิวของเมืองเกียวโตในช่วงใบไม้แดงได้สวยงามตรึงใจสุด ๆ
ที่อยู่ | 1-294 Kiyomizu, Higashiyama, Kyoto, 605-0862 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Haruka Line มาลงสถานี Kyoto แล้วนั่งรถบัสสาย 100 หรือ 206 มาลงที่ป้าย Kiyomizu-michi แล้วเดินอีก 15 นาที |
เวลาทำการ | 06.00-17.30 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม 300 เยน |
โทรศัพท์ | 075-551-1234 |
Kiyomizudera Temple |
หุบเขามิโนะ (Minoh Park) เป็นหุบเขาที่มีลักษณะคล้ายภูเขาทาคาโอะที่อยู่ในโตเกียว แต่หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัดโอซาก้า ซึ่งที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ดีที่สุดของภูมิภาคคันไซเลยล่ะ เราสามารถเดินเที่ยวลัดเลาะไปรอบ ๆ เขาได้เพื่อชื่นชมกับธรรมชาติอันสวยงาม ซึ่งเป็นเส้นทางที่จัดทำขึ้นอย่างปลอดภัย สะอาด เดินง่าย ไม่ต้องห่วงเรื่องกลัวลื่นล้มเลย
ที่อยู่ | 1-18 Minookoen, Minoo, Osaka 562-0002 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Hankyu-Mino Line มาลงสถานี Minoo แล้วเริ่มเส้นทางเดินเขาชมธรรมชาติได้เลย |
เวลาทำการ | ควรไปก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกดิน |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
โทรศัพท์ | 072-723-0649 |
ทะเลสาบ Kawaguchiko เป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิเอาไว้ที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายที่สุด มาจากโตเกียวได้โดยรถไฟและรถบัส ซึ่งในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนั้นเราจะชื่นชมความงดงามของ ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ได้ด้วย พร้อมกับวิวฟูจิซังที่โผล่มาทักทายนักท่องเที่ยว นับว่าเป็นอีกสถานที่ชมวิวที่งดงามที่สุด
ที่อยู่ | 3641 Funatsu, Fujikawaguchiko, Minamitsuru District, Yamanashi 401-0301 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Chuo Line มาลงสถานี Otsuki แล้วต่อรถไฟสาย Fujikyu Railway มาลงที่สถานี Kawaguchiko |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
หุบเขา Korankei แห่งนี้เป็นจุดชมใบไม้แดงที่ที่ได้รับความนิยมที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคชูบุจากการอันดับของเว็บไซต์ koyo.walkerplus.com ในทุกปีจะมีผู้คนหลั่งไหลกันมาที่นี่เพื่อชื่นชมความงดงามของใบไม้สีแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง การเดินทางอาจลำบากไปบ้างแต่ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับความงามนี้อย่างแน่นอน เราสามารถมานั่งปิกนิกริมลำธารที่ไหลเอื่อย ๆ สบาย ๆ ท่ามกลางอากาศเย็น วิวสวย ๆ แบบนี้ได้อีกด้วย
ที่อยู่ | 34−1 Miyadaira, Asukechō, Toyota, Aichi 444-2424 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Meitetsu Line มาลงสถานี Higashi Okazaki แล้วนั่งรถบัสต่อไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมง |
เวลาทำการ | 09.00-17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม 300 เยน |
เทือกเขา Kuju นั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัด Oita ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะคิวชู เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Aso Kuju National Park ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เนินเขาที่เกิดจากภูเขาไฟ มีลักษณะเป็นลานหินแบบโล่งกว้าง ซึ่งเเราจะสามารถเห็นควันที่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่อีกด้วย ถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราก็จะได้ชื่นชมบรรยากาศของใบไม้แดงในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งน่าสนใจไม่แพ้ที่ใดเลย
ที่อยู่ | Taketa, Oita |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Nippou Line มาลงสถานี Beppu แล้วนั่งรถบัส Kyushu Odan Bus มาที่ป้าย Kuju-Tozanguchi Bus Stop |
เวลาทำการ | 09.00-16.00 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
เกาะ Miyajima นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของฮิโรชิมา มีทั้งศาลเจ้าลอยน้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและถือเป็นจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่สวยงามมาก ๆ เพราะพื้นที่เกือบทั่วทั้งเกาะนั้นจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงที่สวยสดงดงาม เมื่อเงยหน้ามองก็เห็นใบไม้สีแดงบนต้นไม้ใหญ่ และเมื่อก้มหน้าก็จะเห็นพื้นดินที่ถูกคลุมไปด้วยใบไม้สีแดง ดูราวกับธรรมชาติกำลังปูพรมแดงให้เราเดินผ่านไป
ที่อยู่ | Miyajima, Hatsukaichi, Hiroshima |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย San-yo Line มาลงสถานี Miyajimaguchi แล้วเดินอีก 5 นาทีไปยังท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะมิยาจิมา |
ราคา | ค่าเข้าชมศาลเจ้า : ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 100 เยน |
Welcome to Miyajima |
ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น เป็นช่วงที่สวยงามที่สุดและเหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะสวยงามในเรื่องทัศนียภาพแล้วยังมีสภาพอากาศที่ดีด้วย เพราะเป็นช่วงที่อากาศเริ่มหนาวเย็นที่ประเทศไทยเราไม่เคยพบเจออีกด้วย เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาเข้าสู่ #ทีมใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยกันเถอะ สำหรับใครที่สนใจข้อมูลฤดูอ่ื่น ๆ ลองอ่านบทความนี้นะ
4 ฤดูกาลท่องเที่ยว ญี่ปุ่น ทำความรู้จักสภาพอากาศ และสิ่งที่น่าสนใจในแต่ละฤดู
ประเทศญี่ปุ่น หรือ ดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่ทุกคนรู้จักนั้น มีทั้งหมด 4 ฤดูกาล โดยแต่ละฤดูจะแตกต่างกันออกไป ทั้งสภาพอากาศ อาหารหรือแม้กระทั่งสถานที่ท่องเที่ยว วันนี้เราเลยจะมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจมากยิ่งขึ้น
Blogger : Mytarn
เราเองก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่หลงใหลในประเทศญี่ปุ่น ?? และรู้สึกเหมือนกับหลาย ๆ คนที่ไม่เคยเบื่อการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศแห่งนี้ สิ่งที่ชอบที่สุดคงจะเป็นขนม เบียร์ และการช้อปปิ้ง อิ้ง อิ้ง อิ้ง~ ???
177 Posts
โอคาวาโซ – Ookawaso ไอสึวาคามัตสึ ตามรอยดาบพิฆาตอสูร! โรงแรมหรูสไตล์ญี่ปุ่น
โรงแรมโอคาวาโซ (Okawaso : 大川荘) โรงแรมหรูในฝันที่ใครๆก็คิดว่าจะต้องมาพักสักครั้...
ไป โตเกียวพักย่านไหนดี แนะนำ 15 ย่าน เลือกพักตามสไตล์ที่ใช่
ตอบคำถามให้หายสงสัย ไปโตเกียว พักย่านไหนดี ! แนะนำ 15 ย่านในโตเกียวที่คู่ควรแก...
วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยั...
จากนาริตะไปโตเกียว รวมวิธีเดินทางสุดสะดวก เข้าเมืองชิลๆ
รวมมิตรวิธีการเดินทาง จากนาริตะไปโตเกียว ที่รู้ไว้ก่อนออกเดินทางแล้วรับรองไม่ม...
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น เช็คได้ทั่วประเทศ ใช้สะดวก ไม่มีหลง
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น สุดสะดวก จัดให้แบบเต็มๆ ทุกแอเรีย หาสาย เช็คเวลากันแบบชิล...
จุดชมซากุระได้ตั้งแต่เมษายนถึงพฤษภาคม 16 พิกัดชมซากุระในโทชิงิและมินามิโทโฮคุที่ไม่ควรพลาด
23/02/2023 | Tohoku
แต่งตัวไปญี่ปุ่นเดือนเมษายน เที่ยวสบาย ในฤดูใบไม้ผลิ
05/04/2017 | Japan
สุดยอดสถานที่เที่ยววิวสวยแห่งโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ 16 แห่ง! ทิวทัศน์สวยงามตระการตาจากธรรมชาติที่หาดูได้จากที่นี่ที่เดียว
23/02/2023 | Japan
เที่ยวโอซาก้า เดือนไหนดี อากาศเป็นไง ครบข้อมูลเตรียมเที่ยวเลย
10/03/2021 | Japan
เหล้าบ๊วยญี่ปุ่น 7 อันดับ รสเยี่ยม ที่ต้องห้ามพลาด
23/02/2017 | Japan
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-5285-8088
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
03-5789-2449
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
06-6262-9226-7
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
092-686-8775
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุ๊กกี้ของเราผ่านทาง นโยบายความเป็นส่วนตัว