Kawachi Fuji Garden Wisterias Blossom : อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย ดินแดนแห่งความฝัน
อุโมงค์ดอกวิสทีเรียในสวน Kawachi Fuji แห่งนี้สวยงามอย่างกับดินแดนในเทพนิยาย ความงดงามปานภาพวาดของดอกวิสทีเรียเหล่านี้ไม่ว่าใครได้ชื่นชมก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในโลกแห่งความฝัน
ดอกวิสทีเรียกว่า 22 สายพันธุ์ที่เบ่งบานไล่เฉดสีห้อยระย้าลงมาจากอุโมงค์ไม้เหล่านี้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่สุดประทับใจของนักท่องเที่ยวหลายคน ลองแวะมาที่จังหวัดฟุกุโอกะ แล้วจะรู้ว่าอุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่นี่สวยงามดั่งโลกแห่งเทพนิยาย
อ่านบทความเที่ยวฟุกุโอกะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจได้ที่นี่
Kawachi Fuji Garden Wisterias Blossom
ที่อยู่ | Japan, 805-0045 Fukuoka Prefecture, Kitakyushu, Yahatahigashi-ku, Kawachi, 2 Chome−2 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ลงรถไฟที่สถานี JR Yahata แล้วขึ้นรถบัส Nishitetsu ลงป้าย Kawachi Elementary School แล้วเดินต่อไปยังสวนอีกประมาณ 10-15 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-18.00 น. (ฤดูชมดอวิสเทอเรียคือช่วงปลายเดือนเมษายน-ปลายเดือนนพฤษภาคม) |
ราคา | ค่าเข้าชม 500-1,000 เยน (ราคาต่างกันตามฤดูกาล) |
โทรศัพท์ | 09-3652-0334 |
Kawachi Fuji Garden |
Happo Pond : พิชิตแอ่งน้ำบนเขา ทิวทัศน์ประทับใจ
Happo Pond คือแอ่งน้ำธรรมชาติบนภูเขาที่สวยงามแห่งจังหวัด Nagano เป็นสถานที่ยอดฮิตของเหล่านักปีนเขาที่ต้องมาพิชิต เพื่อชมความสวยงามจากแอ่งน้ำธรรมชาติในภูเขาแห่งนี้ให้ได้
ภูเขานี้ความสูงถึง 2,060 เมตร แต่ถึงแม้จะอยู่สูงสักแค่ไหน ความสวยงามของต้นไม้ใบหญ้าและแอ่งน้ำที่สะท้อนภาพสุดงดงามของเทือกเขาเอลฟ์ญี่ปุ่นแห่งนี้ก็เป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงามจนต้องไปดูให้ได้สักครั้งหนึ่ง
อ่านบทความเที่ยวนากาโนะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Happo Pond
ที่อยู่ | Happo, Hakuba, Nagano Prefecture 399-9211, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Hakuba แล้วนั่งรถต่อจากสถานีไป Happo Pond ใช้เวลา 7 นาที |
โทรศัพท์ | 02-6172-2715 |
Happo Pond |
Hitachi Seaside Park : ชื่นตาชื่นใจในสวนดอกไม้
สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ในจังหวัด Ibaraki ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว พื้นที่ในสวนแห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่ถึง 1.9 ล้านตารางกิโลเมตร จึงทำให้สามารถมองเห็นดอกไม้ในแต่ละฤดูบานสวยเต็มสวนได้แบบสุดลูกหูลูกตา
พิเศษสุด ๆ กับความสวยงามของทุ่งดอกไม้สีฟ้าหรือ Nemophila ที่หาดูได้ยากแต่จะบานสะพรั่งที่สวนแห่งนี้ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ใครอยากเดินเล่นท่ามกลางดอกไม้มากมายต้องมาที่นี่ให้ได้
อ่านบทความเที่ยวอิบารากิ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Hitachi Seaside Park
ที่อยู่ | Japan, Yubinbango312-0012 Ibaraki Prefecture, Hitachinaka, Oaza Mawatari Onuma 605-4 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟที่สถานี Ueno สาย Joban line มาลงที่สถานี Katsuta แล้วขึ้นรถบัสที่ป้ายเบอร์ 2 (ราคา 400 เยน) รถบัสจะจอดที่หน้าสวน |
เวลาทำการ | เวลา 9.00-17.00 น. ปิดทำการวันจันทร์ ควรมาในช่วงปลายเดือนเมษายน-กลางเดือนนพฤษภาคม |
ราคา | ค่าเข้าชม เด็กเล็ก (ต่ำกว่า 7 ขวบ) ฟรี, เด็ก (7-14 ปี) 80 เยน, ผู้ใหญ่ (15 ปีขึ้นไป) 410 เยน, ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 210 เยน |
โทรศัพท์ | 02-9265-9001 |
Website | Hitachi Seaside Park |
Itsukushima Shrine : ทิวทัศน์อัศจรรย์ ประตูโทริอิตระหง่านกลางทะเล
ไม่ไปดูให้เห็นกับตาคงไม่อยากจะเชื่อว่าที่ญี่ปุ่นมีศาลเจ้าริมทะเลที่สวยงามแห่งนี้อยู่ นอกเหนือไปว่านั้นคือความมหัศจรรย์ของศาลเจ้าแห่งนี้ที่มีประตูโทริอิ (Torii) ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล
เมื่อยามน้ำทะเลหนุนสูงประตูโทริอินี้จะสวยงามเหมือนกับลอยอยู่ในน้ำ นับเป็น 1 ใน 3 ของทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะทิวทัศน์ของประตูโทริอิที่มีเบื้องหลังเป็นดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นประจำปีในช่วงฤดูร้อน
อ่านบทความเที่ยวฮิโรชิม่า พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Itsukushima Shrine
ที่อยู่ | Miyajimacho, Hatsukaichi, Hiroshima Prefecture 739-0588, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี JR Hiroshima ไปลงที่สถานี JR Miyajima-guchi จากนั้นเดินไปยังท่าเรือเพื่อขึ้นเรือเฟอรี่ (มีสองบริษัทคือ JR Miyajima Ferry และ Matsudai) ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 170 เยน เด็ก 80 เยน) เพื่อไปยังศาลเจ้า |
เวลาทำการ | 6.30-18.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชมศาลเจ้า เด็ก (ต่ำกว่า 15 ปี) 100 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 200 เยน, ผู้ใหญ่ 300 เยน |
โทรศัพท์ | 08-2944-2020 |
Website | Itsukushima Shrine |
ภูเขา Daisen : ภูเขายิ่งใหญ่ที่งดงาม
ภูเขาแห่งนี้สูงที่สุดในภูมิภาคชูโกกุ แถมยังติด 1 ใน 100 อันดับของภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นด้วย ความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ของภูเขาแห่งนี้ทำให้ถูกนับถือว่าเป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณ
ในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนสีของเหล่าต้นไม้ใบหญ้า โดยเฉพาะต้นเมเปิ้ลในป่าที่ย้อมสีภูเขาทั้งลูกให้เป็นสีเหลืองอร่ามในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนในฤดูหนาวภูเขาแห่งนี้ก็ขาวโพลนไปด้วยหิมะ
อ่านบทความเที่ยวทตโตริ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
ภูเขา Daisen
ที่อยู่ | 40-33, Daisen-Cho, Shihaku, Tottori, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Yonago จากนั้นนั่งรถบัสจากสถานีไปที่ภูเขา |
เวลาทำการ | 8.30-17.15 น. |
โทรศัพท์ | 08-5952-2502 |
Website | ภูเขา Daisen |
Ini Tanada : ชมทุ่งนาขั้นบันไดที่งดงาม
นาข้าวที่มีลักษณะลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดบนภูเขาเหล่านี้ ถือเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัด Hiroshima ที่ควรค่าแก่การไปชมให้เห็นด้วยตาของตัวเอง เพราะบรรยายกาศของทุ่งนาและธรรมชาติแห่งนี้จะทำให้เราผ่อนคลายและได้สัมผัสวิถีชีวิตของการเกษตรแบบดั้งเดิมที่น่าสนใจ
อ่านบทความเที่ยวฮิโรชิม่า พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Ini Tanada
ที่อยู่ | Japan, Yubinbango 731-3702 Hiroshima Prefecture, Yamagata District Ota-cho |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่ Astramline แล้วนั่งรถต่อไปที่ทุ่งนาอีกประมาณ 46 นาที |
เวลาทำการ | เริ่มเก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนกันยายน |
โทรศัพท์ | 08-2628-1800 |
Website | Ini Tanada |
Lake Kussharo : ความงดงามของทะเลสาบอันกว้างใหญ่
ทะเลสาบในฮอกไกโดแห่งนี้มีเส้นรอบวงถึง 57 กิโลเมตร นับเป็นทะเลสาบที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง ความกว้างใหญ่ของทะเลสาบทำให้เราสามารถมองทิวทัศน์จากธรรมชาติได้อย่างกว้างไกล ทิวทัศน์จากทะเลสาบแห่งนี้พาให้เราสงบนิ่งและตกอยู่ในภวังค์ของความงดงาม
อ่านบทความเที่ยวฮอกไกโด พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Lake Kussharo
ที่อยู่ | Teshikaga, Kawakami District, Hokkaido Prefecture |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย JR Semmo Line มาลงที่สถานี Kawayuonsen แล้วนั่งรถต่ออีกประมาณ 19 นาที |
Website | Lake Kussharo |
Ainokura Gassho Community : หมู่บ้านมรดกโลก
ทิวทัศน์ที่งดงามของหมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้ มีอายุยาวนานถึง 400 ปี ตัวบ้านเป็นสถาปัตย์กรรมแบบ gassho ที่มีความสวยงาม เป็นรูปแบบการก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองที่ควรมาชื่มชมให้เป็นบุญตา และควรมาใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนในหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย
อ่านบทความเที่ยวโทยามะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Ainokura Gassho Community
ที่อยู่ | 855 Suganuma, Nanto, Toyama Prefecture 939-1973, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Johana Line มาลงที่สถานี Johana แล้วนั่งรถต่ออีกประมาณ 25 นาที |
โทรศัพท์ | 07-6366-2468 |
Website | Ainokura Gassho Community |
Tottori Sand Dunes : เนินทรายสุดเซอร์ไพร์
ถ้าไม่เห็นภาพก็คงไม่เชื่อว่าที่ญี่ปุ่นก็มีเนินทรายขนาดใหญ่อย่างกับทะเลทรายด้วยเหมือนกัน เนินทรายแห่งเมือง Tottori แห่งนี้เกิดขึ้นเลียบชายฝั่งของทะเลญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่สวยงามและแปลกตาที่ต้องมาดูให้ได้สักครั้งว่ามีอยู่จริง ๆ หรือเปล่า
แต่นอกจากจะมาพิสูจน์ความจริงแล้วที่เนินทรายแห่งนี้ก็ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะขี่อูฐ นั่งเกวียน เล่นสเก็ตบอร์ดบนทะเลทราย หรือแค่ได้มาเดินเล่นก็ตื่นเต้นจะแย่แล้ว ! บอกเลยว่าที่นี่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง !
อ่านบทความเที่ยวทตโตริ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Tottori Sand Dunes
ที่อยู่ | 2164-661 Fukubecho Yuyama, Tottori, Tottori Prefecture 689-0105, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสจากสถานี Tottori มาลงที่สถานีปลายทาง ใช้เวลาประมาณ 13 นาที (ค่าใช้จ่าย 370 เยน) |
โทรศัพท์ | 08-5722-0581 |
Website | Tottori Sand Dunes |
Lake Toya : ความงามของทะเลสาบทรงกลม
ฮอกไกโดเป็นเกาะที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม หนึ่งในนั้นก็คือทะเลสาบรูปวงกลมขนาดใหญ่ที่เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟแห่งนี้ บรรยากาศของธรรมชาติบริเวณทะเลสาบนั้นสวยงามตามฤดูกาล ยิ่งในหน้าร้อนอากาศกลับเย็นสบายเหมาะกับการเดินเล่นชมทิวทัศน์
บริเวณกลางทะเลสาบยังมีเกาะ Nakajima ที่สามารถลงไปเดินเล่นได้ (ยกเว้นในช่วงฤดูหนาว) และถ้าหากพายเรือเล่นในทะเลสาบก็ได้ชมทิวทัศน์ของทะเลสาบกันอย่างใกล้ชิด
อ่านบทความเที่ยวฮอกไกโด พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Lake Toya
ที่อยู่ | Lake Toya, Hokkaido Prefecture, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสจากสถานี JR Toya ไปยังบริเวณทะเลสาบ (รถจะไปส่งที่ Toyako Onsen) ใช้เวลาประมาณ 26 นาที (ค่าใช้จ่าย 330 เยน) รสบัสออกทุก 1 ชั่วโมง |
โทรศัพท์ | 01-4275-2446 |
Website | Lake Toya |
Lavender Farm : ทุ่งดอกลาเวนเดอร์สวยสดใส
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์แห่งนี้ถือเป็นไฮไลท์สำคัญในการมาท่องเที่ยวที่เมือง Furano บนเกาะฮอกไกโด ดอกลาเวนเดอร์ที่แบ่งบานอยู่ทั่วทุ่งทำให้เราได้เห็น ภาพทิวทัศน์สีม่วงสดใสน่ารักจนเผลออมยิ้มให้บรรยากาศแห่งความงดงามนี้
อากาศที่บริสุทธิ์และเย็นสบายทำให้สามารถเดินเล่นชมความงามของดอกลาเวนเดอร์ได้ไม่รู้เบื่อ ใครอยากแวะชิมขนมท้องถิ่นที่นี่ก็มีขนมที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์อย่างไอศครีมลาเวนเดอร์อยู่ด้วย
อ่านบทความเที่ยวฮอกไกโด พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Lavender Farm
ที่อยู่ | 15 Go Nakafurano Kisen Kita, Hokkaido Prefecture 071-0704, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Furano Line ไปลงที่สถานี Lavender Batake แล้วเดินต่ออีก 9 นาที |
เวลาทำการ | 8.30-17.00 น. ปิดช่วงปลายเดือนสิงหาคม-ปลายเดือนมิถุนายน |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
โทรศัพท์ | 01-6739-3939 |
Website | Lavender Farm |
Senganen Garden : สวนสวยสไตล์ญี่ปุ่น
สวนแห่งนี้จัดขึ้นตามแบบเฉพาะของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นสวนที่สวยงามและมีอากาศบริสุทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง Kagoshima
Cr.senganen.jpภายในสวนนอกจากจะมีต้นไม้ที่สวยงามและร่มรื่นแล้วยังมีสระน้ำเล็ก ๆ และศาลเจ้าอยู่ด้วย สวนแบบญี่ปุ่นแห่งนี้มี้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ที่ทำให้บรรยาการของสวนแห่งนี้สวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาล
อ่านบทความเที่ยวคาโกชิม่า พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Senganen Garden
ที่อยู่ | 9700-1 Yoshino-cho, Kagoshima City, Japan 892-0871 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Kagoshima ลงที่ป้าย Sengan-en Mae ใช้เวลาประมาณ 6 นาที |
เวลาทำการ | 8.30-17.30 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม เด็ก (7-15) 500 เยน , ผู้ใหญ่ 1,000 เยน |
โทรศัพท์ | 09-9247-1551 |
Website | Senganen Garden |
Himeji Castle : ปราสาทเก่าแก่มรดกโลก
ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัด Hyougo มีความยิ่งใหญ่สวยงามจนได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลก เป็นหนึ่งในปราสาทเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น ที่ยังไม่เคยถูกทำลายในยุคสงคราม ทำให้รูปแบบของตัวปราสาทยังคงความงดงามเอาไว้เหมือนในอดีต แล้วยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถชมความงามของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิได้
อ่านบทความเที่ยวเฮียวโงะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Himeji Castle
ที่อยู่ | 68 Honmachi, Himeji, Hyogo Prefecture 670-0012, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Himeji แล้วเดินไปยังปราสาทประมาณ 22 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-16.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม เด็ก 300 เยน ผู้ใหญ่ 1,000 เยน |
โทรศัพท์ | 07-9285-1146 |
Website | Himeji Castle |
Jigokudani Snow Monkey Park : Jigokudani Snow Monkey Park
ที่นี่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัด Nagano ภายในหุบ Jigokudani แห่งนี้ยังมีลิงญี่ปุ่นมากมายอาศัยอยู่ ที่นี่เปรียบเหมือนสวรรค์ในการพักผ่อนแช่น้ำร้อนของพวกมัน ทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาและความน่ารักของพวกลิงที่ออกมาแช่น้ำร้อนนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามและหาดูได้ยากทีเดียว
อ่านบทความเที่ยวนากาโนะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Jigokudani Snow Monkey Park
ที่อยู่ | 6845 Yamanouchi-machi Shimotakai-gun Nagano Japan 381-0401 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัส Nagaden จากสถานี Yutanaka รสบัสจะพาไปลงที่ Kanbayashi Onsen ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 37 นาที ก็จะถึงที่หมาย |
เวลาทำการ | ฤดูร้อน (เมษายนถึงตุลาคม) 8.00-17.00 น. ฤดูหนาว (พฤศจิกายนถึงมีนาคม) 9.00-16.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม เด็ก 250 เยน, ผู้ใหญ่ 500 เยน |
โทรศัพท์ | 02-6933-4379 |
Website | Jigokudani Snow Monkey Park |
Saimyoji Temple : วิวใบไม้เปลี่ยนสีในวัดเก่าแก่
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาในเมือง Shika เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่แบบ Tendai ของพระพุทธศาสนา ที่มักรู้จักกันชื่อ ‘Koto Sanzan’ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ในบริเวณวัดแห่งนี้จะเปลี่ยนสีสันเป็นสีแดงสีเหลืองสวยงาม กลายเป็นทิวทัศน์สดใสท่ามกลางความสงบเงียบ
อ่านบทความเที่ยวชิงะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Saimyoji Temple
ที่อยู่ | 26, Ikedera, Kōra-cho, Inugami-gun, Shiga Prefecture 522-0254 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Omi Tetsudo ลงที่สถานี Toyosato แล้วนั่งรถไปยังศาลเจ้าใช้เวลาประมาณ 18 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 17.00 น. |
ราคา | 500 เยน |
โทรศัพท์ | 07-4938-4008 |
Website | Saimyoji Temple |
Hakuba village : เล่นสกีดูวิว
เมือง Hakuba ตั้งอยู่ในจังหวัด Nagano บริเวณทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ เป็นพื้นที่สำหรับเล่นสกีจึงมีรีสอร์ทหลายแห่งตั้งอยู่ ในช่วงฤดูหนาวเมืองแห่งนี้จะขาวโพลนไปหมดเพราะถูกปกคลุมด้วยหิมะ ส่วนในช่วงฤดูร้อนเมืองแห่งนี้ก็จะเขียวขจีสวยงามและมีอากาศสดชื่น เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์สวยงามเสมอไม่ว่าจะอยู่ในฤดูไหน
อ่านบทความเที่ยวนากาโนะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Hakuba village
ที่อยู่ | Kitaazumi District, Nagano, Japan |
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Hakuba มาเพียงแค่ 4 นาที |
Website | Hakuba village |
Adachi Art Museum : สวนสวยในพิพิธภัณฑ์ศิลป์
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งโดย Adachi Zenko ผู้มีความสนใจในศิลปะการออกแบบสวนของญี่ปุ่น ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงมีสวนที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามตามสไตล์การจัดสวนของญี่ปุ่นจนได้รับการแต่งตั้งว่าเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดมาแล้ว
หากมาเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นอกจากจะได้ชมผลงานภาพวาดอันทรงคุณค่าแล้ว ก็จะได้เพลิดเพลินไปกับความงดงามของสวนแห่งนี้ด้วย
อ่านบทความเที่ยวชิมาเนะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Adachi Art Museum
ที่อยู่ | 320 Furukawacho, Yasugi, Shimane Prefecture 692-0064, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Matsue ลงที่สถานี Yasugi แล้วนั่งรถบัส (บริการฟรี) ไปที่พิพิธภัณฑ์ |
เวลาทำการ | เดือนเมษายนถึงกันยายน 9.00-17.30 น, เดือนตุลาคมถึงมีนาคม 9.00-17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม เด็กเล็ก 500 เยน, นักเรียนมัธยม 1000 เยน, นักศึกษา 1800 เยน, ผู้ใหญ่ 2300 เยน |
โทรศัพท์ | 08-5428-7111 |
Website | Adachi Art Museum |
Sotomo Arch : ซุ้มประตูหินกลางอ่าว Wakasa
ในจังหวัด Fukui บริเวณอ่าว Wakasa ยังมีซุ้มประตูหินที่สวยงามซ่อนอยู่ โดยช่องหินที่เหมือนประตูเหล่านี้ไม่ได้มีใครสร้างขึ้นแต่อย่างใดเพราะมันเกิดขึ้นจากการถูกคลื่นทะเลกัดเซาะจนเว้าแหว่งกลายเป็นช่องประตูอย่างที่เห็น นักท่องเที่ยวที่อยากมาชมความงามในอ่าวแห่งนี้สามารถเช่าเรือประมงออกมาชมซุ้มประตูหินเหล่านี้อย่างใกล้ชิดได้ด้วย
อ่านบทความเที่ยวฟุกุอิ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Sotomo Arch
ที่อยู่ | Tomari, Obama, Fukui Prefecture 917-0117, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Obama Line ลงที่สถานี Obama แล้วนั่งรถต่อไปอีก 29 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-16.00 น. (ปิดในช่วงธันวาคมถึงกุมภาพันธ์) |
ราคา | เด็ก 1000 เยน, ผู้ใหญ่ 2000 เยน |
โทรศัพท์ | 07-7052-3111 |
Website | Sotomo Arch |
Fuji Shibazakura Festival : ชมดอกพิงค์มอสเบ่งบาน
ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมของญี่ปุ่นเป็นช่วงที่ดอกพิงค์มอส หรือดอกชิบะซากุระของญี่ปุ่นกำลังบานสะพรั่งไปทั่วทุ่งดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้
ดอกพิงค์มอสสีต่าง ๆ ไม่ว่าจะสีแดง สีม่วง หรือสีขาวต่างก็ร่วมกันเบ่งบานสร้างทิวทัศน์ที่สวยงามให้แก่ที่นี่ สีสันสดใสของดอกพิงค์มอสเหล่านี้ จะทำให้คุณประทับใจกับทิวทัศน์ที่สวยงามในทุ่งดอกไม้ในจังหวัด Yamanashi แน่นอน
อ่านบทความเที่ยวยามานาชิ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Fuji Shibasakura Festival
ที่อยู่ | 212 Motosu, Fujikawaguchiko, Minamitsuru Yamanashi |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัส Shibazakura Liner จากสถานี Kawaguchiko ไปยังที่จัดงานเทศกาล ใช้เวลาประมาณ 32 นาที |
เวลาทำการ | 8.00-17.00 น. ช่วงประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม |
ราคา | ค่าเข้าชม เด็ก (3 ขวบขึ้นไป) 210 เยน, ผู้ใหญ่ 520 เยน |
โทรศัพท์ | 05-5589-3031 |
Website | Fuji Shibasakura Festival |
Kintetsu Beppu Ropeway : ขึ้นกระเช้าชมเมือง Beppu
สถานที่ชมวิวสวยแบบลิมิเต็ทแห่งนี้ไม่ต้องเหนื่อยแรงปีนขึ้นเขา เพราะที่นี่มีบริการให้นั่งกระเช้าชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ภายใน 10 นาทีกระเช้าจะพาเราชมวิวไปจนถึงจุดที่มีความสูงที่สุดคือ 1,375 เมตร ในช่วงที่ทิวทัศน์งดงามที่สุดของเมืองนี้คือช่วงที่ดอกซากุระเริ่มบานนั่นเอง
อ่านบทความเที่ยวโออิตะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Kintetsu Beppu Ropeway
ที่อยู่ | Minamitateishi, Beppu, Oita Prefecture 874-0000, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย JR Nippou Line แล้วลงที่สถานี Beppu จากนั้นนั่งรถต่อเข้ามาอีกประมาณ 19 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. |
โทรศัพท์ | 09-7722-2278 |
Website | Kintetsu Beppu Ropeway |
Matsumoto Castle : ความสง่าของปราสาทอีกา
ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Matsumoto ของจังหวัด Nagano ถือเป็นศูนย์กลางของเมืองที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ปราสาทอีกา’ เพราะตัวปราสาทมีสีดำ แถมบริเวณรอบ ๆ ยังมีเจ้าอีกาบินไปบินมาอีกต่างหาก
ความเก่าแก่ของปราสาทแห่งนี้ยาวนานถึง 400 ปี จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมบัติของชาติ บริเวณอาคารหลักมีจุดชมวิวที่เป็นระเบียงยื่นออกมา ในยามเย็นสามารถมองเห็นเงาของปราสาทที่สะท้อนอยู่ในน้ำเป็นภาพที่สวยงามน่าชม
อ่านบทความเที่ยวนากาโนะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Matsumoto Castle
ที่อยู่ | 4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano Prefecture 390-0873, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟสาย Oito Line ลงรถไฟที่สถานี Kita-Matsumoto แล้วเดินไปปราสาทใช้เวลา 11 นาที |
เวลาทำการ | 8.30-17.00 น. |
ราคา | เด็ก 300 เยน, ผู้ใหญ่ 610 เยน |
โทรศัพท์ | 02-6332-2902 |
Website | Matsumoto Castle |
Shiratani Unsuikyo Gorge : เดินป่าพาไปชมต้นสนโบราณ
ที่นี่คือเส้นทางเดินป่าที่สามารถเดินเข้าไปในหุบเขาที่เป็นป่าดิบชื้นซึ่งเต็มไปด้วยต้นสนญี่ปุ่นโบราณอายุมากกว่า 100 ปีที่หาดูได้ยาก ด้วยทิวทัศน์ที่เขียวขจี
ด้วยระบบนิเวศน์อันสมบูรณ์ทำให้ที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ใครที่อยากผจญภัยในป่าขจีที่ดูแล้วน่าพิศวงแห่งนี้ ลองมาเดินป่ากันดูได้ เพราะมีเส้นทางที่มีป้ายบอกทางเป็นภาษาอังกฤษอยู่ด้วยนะ
อ่านบทความเที่ยวคาโกชิม่า พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Shiratani Unsuikyo Gorge
ที่อยู่ | Yakushima-cho, Kumage-gun Yakushima-cho 891-4200, Kagoshima Prefecture |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งเรือมาลงที่ท่าเรือ Miyanoura แล้วนั่งรถต่อเข้าไปประมาณ 23 นาที |
เวลาทำการ | ช่วงประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 8.00-17.00 น. |
ราคา | 300 เยน |
โทรศัพท์ | 09-9742-0100 |
Website | Shiratani Unsuikyo Gorge |
Kinkaku-ji Temple : วัดสีทองอร่ามในเกียวโต
วัด Kinkakuji หรือวัดที่มีสีทองแห่งนี้มีชื่อเสียงและโดดเด่นจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเกียวโต เนื่องด้วยอาคารหลักของวัดเป็นสีทองเกือบทั้งหมด ทำให้ยามที่มองภาพเงาสะท้อนของวัดที่ปรากฏอยู่ในสระน้ำแล้วดูเหลืองอร่ามสวยงาม นอกจากนั้นภายในยังมีสวนแบบเซนบรรยากาศร่มรื่นให้เดินเล่นด้วย
อ่านบทความเที่ยวเกียวโต พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Kinkaku-ji Temple
ที่อยู่ | 1 Kinkakujicho, Kita Ward, Kyoto, Kyoto Prefecture 603-8361, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสสาย 204, 205 ไปลงที่ป้าย Kitanohakubaicho ใช้เวลาเดินอีกหน่อยประมาณ 6 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม 400 เยน |
โทรศัพท์ | 07-5461-0013 |
Website | Kinkaku-ji Temple |
Zao Onsen Ski Resort : เล่นสกีในถิ่นปีศาจหิมะ
สกีรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัด Yamagata เป็นหนึ่งในสถานที่เล่นสกีขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ความพิเศษของที่นี่คือจะสามารถพบกับปีศาจหิมะ ที่เกิดจากต้นสนที่ถูกน้ำแข็งเกาะทับถมจนหนา และมีรูปร่างคล้ายปีศาจ เป็นสิ่งที่หาดูได้เพียงไม่กี่ที่ในญี่ปุ่น ในช่วงกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟส่องสว่างไปยังเหล่าปีศาจน้ำแข็งเพื่อเพิ่มความสวยงาม
อ่านบทความเที่ยวยามากาตะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Zao Onsen Ski Resort
ที่อยู่ | 708-1 Zaoonsen, Yamagata, Yamagata Prefecture 990-2301, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ JR-Yamagataekihigashiguchi แล้วเดินต่ออีกประมาณสองนาทีก็จะถึงรีสอร์ท |
เวลาทำการ | 8.15-21.00 น. ช่วงต้นเดือนธันวาคม-ต้นเดือนพฤษภาคม |
ราคา | ค่าเข้าชม ทั้งวัน 8.15-17.00 น. 5000 เยน, 4 ชั่วโมง 4300 เยน, 5 ชั่วโมง 4500 เยน, กลางคืน 17.00-21.00 น. 2000 เยน |
โทรศัพท์ | 02-3694-9617 |
Website | Zao Onsen Ski Resort |
Otaru Snow Light Path : เทศกาลหิมะสุดโรแมนติก
งานเทศกาลหิมะนี้จัดขึ้นในเมือง Otaru เมืองที่มีความโรแมนติกที่สุดในจังหวัด Sapporo เพราะเมื่อเข้าช่วงฤดูหนาวหิมะจะโปรยปรายทำให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นสีขาว และเมื่อถึงเวลายามค่ำคืนบริเวณคลองและในตัวเมืองจะประดับประดาไปด้วยไฟระยิบระยับท่ามกลางหิมะ ทำให้ทั่วทั้งเมืองสว่างไสวและอบอุ่นไปด้วยความสุขสนุกสนานของงานเทศกาลนี้ เป็นบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก
อ่านบทความเที่ยวฮอกไกโด พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Otaru Snow Light Path
ที่อยู่ | 047-0034 Hokkaido Prefecture, Otaru, Midori, 1 Chome−1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ลงรถไฟที่สถานี Otaru Station แล้วเดินประมาณ 11 นาที ก็จะถึงบริเวณที่จัดงาน |
เวลาทำการ | 17.00-21.00 น. ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
โทรศัพท์ | 01-3432-4111 |
Website | Otaru Snow Light Path |
Motsuji Temple Gokusuinoen : ชมสวนหย่อมในยุคเฮอัน
วัด Motsuji แห่งนี้คือวัดขนาดใหญ่ของนิกายเทนได ภายในวัดแห่งนี้มีสวนหย่อมดินบริสุทธิ์ที่นิยมสร้างขึ้นในสมัยเฮอันอยู่
ทุกวันอาทิตย์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคมที่วัดแห่งนี้จะมีงานเทศกาลที่เหล่านักแต่งกลอนของญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันริมธารน้ำเพื่อแต่งกลอนตามประเพณีศักดิ์สิทธิ์ หากได้ไปชมบรรยากาศในงานเทศกาลนี้จะทำให้รู้สึกเหมือนเราได้ย้อนยุคไปอยู่ในสมัยเฮอันเลยทีเดียว
อ่านบทความเที่ยวอิวาเตะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Motsuji Temple Gokusuinoen
ที่อยู่ | 58, Hiraizumi, Nishiiwai District, Iwate Prefecture 029-4102, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Tohoku Line มาลงที่สถานี Hiraizumiเดินต่ออีก 13 นาทีก็จะถึงที่หมาย |
เวลาทำการ | 8.30-17.15 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม เด็ก 100 เยน, เด็กโต 300 เยน, ผู้ใหญ่ 500 เยน |
โทรศัพท์ | 01-9146-2331 |
Website | Motsuji Temple Gokusuinoen |
Sagano : ป่าไผ่แห่งเกียวโต
ป่าไผ่แห่งนี้เป็นป่าไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด Kyoto เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแสนงดงามที่เราสามารถเดินชมต้นไผ่ที่สูงใหญ่ได้ในระยะทาง 500 เมตร ความสูงชะลูดของต้นไผ่ทำให้ขณะที่เราเดินผ่านระหว่างทางจะรู้สึกร่มเย็นและสดชื่น และเมื่อยามลมพัดเราจะได้ยินเสียงไม้ไผ่เสียดสีกันได้บรรยากาศและความงามของธรรมชาติมาแบบเต็ม ๆ
อ่านบทความเที่ยวเกียวโต พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Sagano
ที่อยู่ | Arashiyama, Kyoto, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย San-In Line มาลงที่สถานี Saga-Arashiyama แล้วเดินต่อไปอีก 7 นาทียังที่หมาย |
เวลาทำการ | เปิดตลอดเวลา |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
Koya Pond : บ่อน้ำแห่งฤดูกาล
บ่อน้ำที่สวยงามแห่งนี้อยู่ในเมือง Nigata ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงทิวทัศน์บริเวณสถานที่แห่งนี้จะสวยงามจับใจ เนื่องใจต้นไม้ใบหญ้าในบริเวณนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและสีแดง ส่วนน้ำในทะเลสาปก็จะสะท้อนสีฟ้าสดใสของท้องฟ้ารวมกันกลายเป็นภาพทิวทัศน์ในฝันที่จ้องมองได้ไม่รู้เบื่อ
อ่านบทความเที่ยวนีงาตะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Koya Pond
ที่อยู่ | Myoko, Nigata Prefecture, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Myoko-Haneuma Line มาลงที่สถานี Myokokogen แล้วนั่งรถไปอีกประมาณ 50 นาที |
เวลาทำการ | ปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่บริเวณนี้สวยที่สุด |
โทรศัพท์ | 02-5586-3911 |
Website | Koya Pond |
Nachi Otaki : ความสวยงามของน้ำตกสูงใหญ่
น้ำตกแห่งนี้อยู่บริเวณเมือง Wakayama มีความสูงถึง 133 เมตร ถือเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และน้ำตกแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นอีกด้วย
ในบริเวณนั้นนอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังมีศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ด้านหน้าของน้ำตกจึงทำให้มองดูแล้วสวยงามน่าประทับใจ โดยศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อว่า Kumano Nachi Taishai ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลกของประเทศญี่ปุ่นด้วย
อ่านบทความเที่ยววากายามะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Nachi Otaki
ที่อยู่ | 6-1-1 Tsukiji, Nachi-Katsuura Higashimuro, Wakayama 649-5335 JAPAN |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถจากสถานีรถไฟ Nachi ไปยังน้ำตกใช้เวลา 12 นาที |
เวลาทำการ | 8.00-18.00 น. |
โทรศัพท์ | 07-3552-5311 |
Website | Nachi Otaki |
Motonosumiinari Shrine : ประตูโทริอิเรียงรายริมชายทะเล
ประตูโทริอิที่เรียงรายออกสู่มหาสมุทรเหล่านี้เป็นประตูโทริอิของศาลเจ้า Motonosumi แห่งเมือง Yamaguchi ความงามของประตูโทริอิสีแดงที่เรียงรายตัดกับสีของมหาสมุทรและเขียวขจีของต้นไม้บริเวณนั้นกลายเป็นภาพที่หาดูได้ยาก แต่นอกจากความสวยงามแล้วศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ในการช่วยให้คำอธิษฐานเป็นจริง โดยเชื่อกันว่าหากได้หย่อนเงินบริจาคลงในกล่องรับบริจาคตรงประตูโทริอิบานสุดท้ายความปรารถนาที่ได้อธิษฐานไว้จะเป็นจริง
อ่านบทความเที่ยวยามากุจิ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Motonosumiinari Shrine
ที่อยู่ | Yubinbango759-4712 Yamaguchi Prefecture Nagato Yuya Tsou 498 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย JR San-in มายังสถานี Nagato Furuichi แล้วจึงนั่งรถต่อมาที่ศาลเจ้าอีกประมาณ 17 นาที |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
โทรศัพท์ | 08-3723-1137 |
Usa Shrine : ศาลเจ้าแห่งประวัติศาสตร์
ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติ มีอาณาเขตกว้างขวางและมีอาคารคลังสมบัติที่จัดแสดงโบราณวัตถุและประวัติของศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ด้วย
นอกจากนี้ภายในศาลเจ้ายังมีสระน้ำและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่สวยงามอีกมากมายอย่างเช่น สะพาน Kurehashi ที่มีหลังคามุงตามแบบของสะพานญี่ปุ่นโบราณ ที่นี่จึงเป็นศาลเจ้าแห่งประวัติศาสตร์ที่รวบรวมความงดงามในอดีตเอาไว้
อ่านบทความเที่ยวโออิตะ พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ : คลิ๊กได้ที่นี่
Usa Shrine
ที่อยู่ | 2859 Minamiusa, Usa, Oita Prefecture 872-0102, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Usa ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 20 นาที |
เวลาทำการ | 6.00-21.00 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
โทรศัพท์ | 09-7837-0001 |
Website | Usajingu Shrine |
ข้อสรุป
31 แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเหล่านี้บางคนอาจเคยรู้จัก หรืออาจไม่เคยเห็นมาก่อนจึงอยากชวนให้ทุกคนลองไปดูสักครั้ง แม้จะไปได้ไม่ครบทุกที่ แต่แค่ได้ลองไปสักที่เราก็จะได้ชมทั้งบรรยากาศและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่หาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศญี่ปุ่น รับประกันเลยว่าถ้ามาแล้วจะต้องกลับบ้านไปพร้อมความประทับใจแน่นอน